ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าซองจงแห่งโครยอ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
NewFrontierHistoryThai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 17: บรรทัด 17:
ในค.ศ. 983 ฮ่องเต้[[จักรพรรดิเหลียวเซิ่งจง|เหลียวเซิ่งจง]] (遼聖宗) มีพระราชโองการให้ทัพคิตันบุกยึดลุ่ม[[แม่น้ำยาลู]] ทำให้ต้องทำสงครามกับ[[ราชวงศ์ซ้อง]] ฮ่องเต้เซิ่งจงสร้างป้อมปราการขึ้นตามลุ่มแม่น้ำยาลูเพื่อกันไม่ให้พวก[[นูร์เชน]]ให้ความช่วยเหลือราชวงศ์ซ้อง แต่พระเจ้าซองจงทรงเห็นว่าพวกคิตันอาจจะมาบุกโครยอจึงสร้างป้อมปราการขึ้นบ้างตามแม่น้ำยาลู ฮ่องเต้เซิ่งจงเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่าโครยอจะเป็นปฏิปักษ์ต่อตน จึงส่งทัพคิตันมาบุกภายใต้การนำของเสี้ยวซุนหนิง (蕭遜寧) ทัพคิต้นบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เผาทำลายบ้านเมือง แต่ถูกทัพโครยอหยุดไว้ได้ที่แม่น้ำชองชอน เซี่ยวซุนหนิงจึงมาเจรจาสงบศึกกับพระเจ้าซองจง
ในค.ศ. 983 ฮ่องเต้[[จักรพรรดิเหลียวเซิ่งจง|เหลียวเซิ่งจง]] (遼聖宗) มีพระราชโองการให้ทัพคิตันบุกยึดลุ่ม[[แม่น้ำยาลู]] ทำให้ต้องทำสงครามกับ[[ราชวงศ์ซ้อง]] ฮ่องเต้เซิ่งจงสร้างป้อมปราการขึ้นตามลุ่มแม่น้ำยาลูเพื่อกันไม่ให้พวก[[นูร์เชน]]ให้ความช่วยเหลือราชวงศ์ซ้อง แต่พระเจ้าซองจงทรงเห็นว่าพวกคิตันอาจจะมาบุกโครยอจึงสร้างป้อมปราการขึ้นบ้างตามแม่น้ำยาลู ฮ่องเต้เซิ่งจงเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่าโครยอจะเป็นปฏิปักษ์ต่อตน จึงส่งทัพคิตันมาบุกภายใต้การนำของเสี้ยวซุนหนิง (蕭遜寧) ทัพคิต้นบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เผาทำลายบ้านเมือง แต่ถูกทัพโครยอหยุดไว้ได้ที่แม่น้ำชองชอน เซี่ยวซุนหนิงจึงมาเจรจาสงบศึกกับพระเจ้าซองจง


แต่ข้อเรียกร้องของเซี่ยวซุนหนิงนั้นรุนแรง คือต้องการให้โครยอยกดินแดนตอนเหนือให้เหลียว ตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้อง และมาเป็นประเทศราชของเหลียว ทำให้ราชสำนักโครยอแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่เห็นว่าควรยอมจำนนกับฝ่ายที่เห็นว่าควรสู้ต่อไป นำโดยแม่ทัพซอ ฮี แม่ทัพโครยอในศึกครั้งนี้ ระหว่างที่ราชสำนักกำลังถกเถียงกันอยู่เซี่ยวซุนหนิงก็ยกทัพบุกเข้ามาอีกทำให้ราชสำนักตกใจแทบสิ้นสติ แม่ทัพซอ ฮี จึงของอาสาเป็นผู้แทนเจรจากับพวกคิตัน แม่ทัพซอฮี (서희) หลอกเซี่ยวซุนหนิงว่า ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลทางตอนเหนือรวมทั้ง[[คาบสมุทรเหลียวตง]]เป็นของอาณาจักรโคกูรยอ ดังนั้นจึงควรจะเป็นของโครยอด้วย และบอกอีกว่าโครยอจะยอมเป็นข้าของราชวงศ์เหลียวต่อเมื่อราชวงศ์เหลียวกำจัดพวกนูร์เชนที่อยู่ตามแม่น้ำยาลูออกไป เซี่ยวซุนหนิงเห็นว่า เหลียวก็ทำสงครามกับซ้องหนักอยู่แล้ว จะต้องมาปราบพวกนูร์เชนอีกคงไม่ไหว<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C04/E0406.htm</ref> จึงยกดินแดนทางตอนเหนือจรดแม่น้ำยาลูที่พวกนูร์เชนอาศัยอยู่ ให้โครยอไปเลยดีกว่า
แต่ข้อเรียกร้องของเสี้ยวซุนหนิงนั้นรุนแรง คือต้องการให้โครยอยกดินแดนตอนเหนือให้เหลียว ตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้อง และมาเป็นประเทศราชของเหลียว ทำให้ราชสำนักโครยอแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่เห็นว่าควรยอมจำนนกับฝ่ายที่เห็นว่าควรสู้ต่อไป นำโดยแม่ทัพซอ ฮี แม่ทัพโครยอในศึกครั้งนี้ ระหว่างที่ราชสำนักกำลังถกเถียงกันอยู่เสี้ยวซุนหนิงก็ยกทัพบุกเข้ามาอีกทำให้ราชสำนักตกใจแทบสิ้นสติ แม่ทัพซอ ฮี จึงของอาสาเป็นผู้แทนเจรจากับพวกคิตัน แม่ทัพซอฮี (서희) หลอกเสี้ยวซุนหนิงว่า ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลทางตอนเหนือรวมทั้ง[[คาบสมุทรเหลียวตง]]เป็นของอาณาจักรโคกูรยอ ดังนั้นจึงควรจะเป็นของโครยอด้วย และบอกอีกว่าโครยอจะยอมเป็นข้าของราชวงศ์เหลียวต่อเมื่อราชวงศ์เหลียวกำจัดพวกนูร์เชนที่อยู่ตามแม่น้ำยาลูออกไป เสี้ยวซุนหนิงเห็นว่า เหลียวก็ทำสงครามกับซ้องหนักอยู่แล้ว จะต้องมาปราบพวกนูร์เชนอีกคงไม่ไหว<ref>http://www.koreanhistoryproject.org/Ket/C04/E0406.htm</ref> จึงยกดินแดนทางตอนเหนือจรดแม่น้ำยาลูที่พวกนูร์เชนอาศัยอยู่ ให้โครยอไปเลยดีกว่า


สิ้นสุดสงครามราชสำนักโครยอเริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับราชวงศ์เหลียว และตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้องไปชั่วคราว แม่ทัพซอ ฮี นำทัพเข้าปราบปรามชาวนูร์เชน ได้ดินแดนเพิ่มขึ้นไปจรดแม่น้ำยาลู พระเจ้าซองจงมีพระราชโองการให้สะสมกำลังกองทัพและสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ขึ้นหกแห่งที่ชายแดน
สิ้นสุดสงครามราชสำนักโครยอเริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับราชวงศ์เหลียว และตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้องไปชั่วคราว แม่ทัพซอ ฮี นำทัพเข้าปราบปรามชาวนูร์เชน ได้ดินแดนเพิ่มขึ้นไปจรดแม่น้ำยาลู พระเจ้าซองจงมีพระราชโองการให้สะสมกำลังกองทัพและสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ขึ้นหกแห่งที่ชายแดน

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:02, 11 สิงหาคม 2553

พระเจ้าซองจง
ฮันกึล성종
ฮันจา成宗
อักษรโรมันฉบับปรับปรุงSeongjong

พระเจ้าซองจงแห่งโครยอ (เกาหลี성종; ฮันจา成宗; อาร์อาร์Seongjong; เอ็มอาร์Sŏngchong ค.ศ. 960 - ค.ศ. 997) กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์โครยอ (ค.ศ. 981 - ค.ศ. 997) ในรัชสมัยของพระองค์มีการปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่เพื่อกำจัดอำนาจขุนนางท้องถิ่น และมีสงครามกับพวกคิตันราชวงศ์เหลียว

องค์ชายวัง ชี (왕치, 王治) เป็นพระโอรสขององค์ชายวัง อก (왕욱, 王旭) พระราชโอรสของพระเจ้าแทโจ ในค.ศ. 981 พระเจ้าคยองจงสวรรคตแต่พระเยาว์ พระราชโอรสองค์ชายวัง ซง (왕송, 王訟 ภายหลังขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ามกจง) ก็พระชนมายุเพียง 2 พรรษา ไม่อาจขึ้นครองบ้านเมืองได้ บัลลังก์จึงตกมาสู่องค์ชายวัง ชี ซึ่งเป็นพระโอรสขององค์ชายวังอก และเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าแทโจ เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระเจ้าซองจงก็ทรงสถาปนาพระราชบิดาองค์ชายวัง อกเป็นพระเจ้าแทจง (대종, 戴宗)

ในค.ศ. 982 พระเจ้าซองจงทรงปฏิรูปการปกครองท้องถิ่นเสียใหม่ตามแบบจีน เดิมที่การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นของขุนนางที่ยึดครองดินแดนเหล่านั้นมาตั้งแต่ปลายสมัยชิลลา และตำแหน่งผู้ครองนครนั้นก็สามารถตกไปให้ลูกหลานได้[1] แต่พระเจ้าซองจงทรงเปลี่ยนใหม่ ทรงแบ่งอาณาจักรออกเป็น 12 ส่วน แต่ละส่วนมีเจ้าครองนครให้มีวาระการดำรงตำแหน่ง และสืบทอดไปยังลูกหลานไม่ได้ต้องได้รับการแต่งตั้งจากส่วนกลางเท่านั้น เป็นการล้มล้างอำนาจของขุนนางท้องถิ่นที่มีมานานตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักร พระเจ้าซองจงยังทรงตั้งโรงเรียนขึ้นตามท้องถิ่นต่างๆเพื่อให้บุคคลที่มีความสามารถสอบจอหงวนเข้ารับราชการมาแทนที่กลุ่มขุนนางเดิม

ในค.ศ. 983 ฮ่องเต้เหลียวเซิ่งจง (遼聖宗) มีพระราชโองการให้ทัพคิตันบุกยึดลุ่มแม่น้ำยาลู ทำให้ต้องทำสงครามกับราชวงศ์ซ้อง ฮ่องเต้เซิ่งจงสร้างป้อมปราการขึ้นตามลุ่มแม่น้ำยาลูเพื่อกันไม่ให้พวกนูร์เชนให้ความช่วยเหลือราชวงศ์ซ้อง แต่พระเจ้าซองจงทรงเห็นว่าพวกคิตันอาจจะมาบุกโครยอจึงสร้างป้อมปราการขึ้นบ้างตามแม่น้ำยาลู ฮ่องเต้เซิ่งจงเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่าโครยอจะเป็นปฏิปักษ์ต่อตน จึงส่งทัพคิตันมาบุกภายใต้การนำของเสี้ยวซุนหนิง (蕭遜寧) ทัพคิต้นบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เผาทำลายบ้านเมือง แต่ถูกทัพโครยอหยุดไว้ได้ที่แม่น้ำชองชอน เซี่ยวซุนหนิงจึงมาเจรจาสงบศึกกับพระเจ้าซองจง

แต่ข้อเรียกร้องของเสี้ยวซุนหนิงนั้นรุนแรง คือต้องการให้โครยอยกดินแดนตอนเหนือให้เหลียว ตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้อง และมาเป็นประเทศราชของเหลียว ทำให้ราชสำนักโครยอแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่เห็นว่าควรยอมจำนนกับฝ่ายที่เห็นว่าควรสู้ต่อไป นำโดยแม่ทัพซอ ฮี แม่ทัพโครยอในศึกครั้งนี้ ระหว่างที่ราชสำนักกำลังถกเถียงกันอยู่เสี้ยวซุนหนิงก็ยกทัพบุกเข้ามาอีกทำให้ราชสำนักตกใจแทบสิ้นสติ แม่ทัพซอ ฮี จึงของอาสาเป็นผู้แทนเจรจากับพวกคิตัน แม่ทัพซอฮี (서희) หลอกเสี้ยวซุนหนิงว่า ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลทางตอนเหนือรวมทั้งคาบสมุทรเหลียวตงเป็นของอาณาจักรโคกูรยอ ดังนั้นจึงควรจะเป็นของโครยอด้วย และบอกอีกว่าโครยอจะยอมเป็นข้าของราชวงศ์เหลียวต่อเมื่อราชวงศ์เหลียวกำจัดพวกนูร์เชนที่อยู่ตามแม่น้ำยาลูออกไป เสี้ยวซุนหนิงเห็นว่า เหลียวก็ทำสงครามกับซ้องหนักอยู่แล้ว จะต้องมาปราบพวกนูร์เชนอีกคงไม่ไหว[2] จึงยกดินแดนทางตอนเหนือจรดแม่น้ำยาลูที่พวกนูร์เชนอาศัยอยู่ ให้โครยอไปเลยดีกว่า

สิ้นสุดสงครามราชสำนักโครยอเริ่มความสัมพันธ์ทางการทูตกับราชวงศ์เหลียว และตัดความสัมพันธ์กับราชวงศ์ซ้องไปชั่วคราว แม่ทัพซอ ฮี นำทัพเข้าปราบปรามชาวนูร์เชน ได้ดินแดนเพิ่มขึ้นไปจรดแม่น้ำยาลู พระเจ้าซองจงมีพระราชโองการให้สะสมกำลังกองทัพและสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่ขึ้นหกแห่งที่ชายแดน

ค.ศ. 997 พระเจ้าซองจงสวรรคตไม่มีพระราชโอรสสืบบัลลังก์ องค์ชายวังซงพระราชโอรสของพระเจ้าคยองจงจึงขึ้นครองราชย์ต่อเป็นพระเจ้ามกจง


พระราชวงศ์

  • พระราชบิดา องค์ชายวัง อก (왕욱, 王旭) ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็น พระเจ้าแทจง (대종, 戴宗)
  • พระราชมารดา พระมเหสีซอนอี ตระกูลยู (선의왕후 유씨, 宣義王后 劉氏) พระธิดาของพระเจ้าแทโจ

พระมเหสี

  • พระมเหสีมุนด๊อก ตระกูลยู (문덕왕후 유씨, 文德王后) พระธิดาของพระเจ้าควางจง
  • พระมเหสีมุนฮวา ตระกูลคิม (문화왕후 김씨, 文和王后)

พระสนม

  • องค์หญิงนังนัง ตระกูลชเว (낙랑군대부인 최씨, 樂浪郡大夫人)

พระขนิษฐา

ก่อนหน้า พระเจ้าซองจงแห่งโครยอ ถัดไป
พระเจ้าคยองจง กษัตริย์แห่งโครยอ
(พ.ศ. 1524 - พ.ศ. 1540)
พระเจ้ามกจง|}