ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กลุ่มชนเจอร์แมนิก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
SieBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต แก้ไข: ru:Древние германцы
Mattis (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
'''ชนเจอร์มานิค''' ({{lang-en|'''Germanic peoples'''}}) เป็นชนในประวัติศาสตร์ที่เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของยุโรปที่พูด[[ภาษากลุ่มเจอร์เมนิค]]ใน[[ตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน]]ซึ่งแยกมาจาก[[ภาษากลุ่มโปรโต-เจอร์เมนิค]]ระหว่างสมัยก่อน[[ยุคเหล็ก]]ก่อนโรมัน ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชนนี้กลายมาเป็นต้นตระกูลของชาติพันธุ์ต่างๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปที่รวมทั้ง: ชาว[[เดนมาร์ก]], ชาวฟินแลนด์ที่พูดภาษาสวีเดน, ชาว[[สวีเดน]], ชาว[[นอร์เวย์]], [[ชาวอังกฤษ]], ชาว[[ไอซ์แลนด์]] และชาว[[ฟาโรอีส]] (Faroese) ใน[[สแกนดิเนเวีย]], [[ชาวเยอรมัน]], ชาว[[เนเธอร์แลนด์]] และชาว[[เฟล็มมิช]]บนแผ่นดินใหญ่ยุโรป และรวมทั้งชาว[[สเปน]]และชาว[[อิตาลี]]ด้วย
'''ชนเจอร์มานิค''' ({{lang-en|'''Germanic peoples'''}}) เป็นชนในประวัติศาสตร์ที่เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของยุโรปที่พูด[[ภาษากลุ่มเจอร์เมนิค]]ใน[[ตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน]]ซึ่งแยกมาจาก[[ภาษากลุ่มโปรโต-เจอร์เมนิค]]ระหว่างสมัยก่อน[[ยุคเหล็ก]]ก่อนโรมัน ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชนนี้กลายมาเป็นต้นตระกูลของชาติพันธุ์ต่างๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปที่รวมทั้ง: ชาว[[เดนมาร์ก]], ชาวฟินแลนด์ที่พูดภาษาสวีเดน, ชาว[[สวีเดน]], ชาว[[นอร์เวย์]], [[ชาวอังกฤษ]], ชาว[[ไอซ์แลนด์]] และชาว[[ฟาโรอีส]] (Faroese) ใน[[สแกนดิเนเวีย]], [[ชาวเยอรมัน]], ชาว[[เนเธอร์แลนด์]] และชาว[[เฟล็มมิช]]บนแผ่นดินใหญ่ยุโรป และรวมทั้งชาว[[สเปน]]และชาว[[อิตาลี]]ด้วย


ชนเจอร์มานิคย้ายถิ่นฐานไปทั่วยุโรปในปลาย[[ยุคโบราณ]] (Late Antiquity) ระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 600 และในตอนต้นของ[[ยุคกลาง]] [[ภาษากลุ่มเจอร์เมนิค]]กลายเป็นภาษาที่ใช้กันมากตาม “[[เขตแดนโรมัน]]” (limes) ([[ออสเตรีย]], [[เยอรมนี]], [[เนเธอร์แลนด์]], [[เบลเยียม]] และ[[อังกฤษ]] แต่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดในการปกครองของโรมันชนเจอร์มานิครับการใช้[[ภาษาละติน]] ([[ตระกูลภาษาโรมานซ์]]) นอกจากนั้นในที่สุดชนเจอร์มานิคทั้งหมดก็มานับถือ[[คริสต์ศาสนา]]ต่างระดับกันไป ชนเจอร์มานิคมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลง[[จักรวรรดิโรมัน]]ให้กลายเป็น[[ยุคกลาง]] และเป็นผู้ริเริ่มปรัชญาของความมีความรู้สึกร่วมกันในการเป็นชาติ, ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ทำให้เกิดเขตแดนทางภาษาขึ้น
ชนเจอร์มานิคย้ายถิ่นฐานไปทั่วยุโรปในปลาย[[ยุคโบราณตอนปลาย]]ระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 600 และในตอนต้นของ[[ยุคกลาง]] [[ภาษากลุ่มเจอร์เมนิค]]กลายเป็นภาษาที่ใช้กันมากตาม “[[เขตแดนโรมัน]]” (limes) ([[ออสเตรีย]], [[เยอรมนี]], [[เนเธอร์แลนด์]], [[เบลเยียม]] และ[[อังกฤษ]] แต่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดในการปกครองของโรมันชนเจอร์มานิครับการใช้[[ภาษาละติน]] ([[ตระกูลภาษาโรมานซ์]]) นอกจากนั้นในที่สุดชนเจอร์มานิคทั้งหมดก็มานับถือ[[คริสต์ศาสนา]]ต่างระดับกันไป ชนเจอร์มานิคมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลง[[จักรวรรดิโรมัน]]ให้กลายเป็น[[ยุคกลาง]] และเป็นผู้ริเริ่มปรัชญาของความมีความรู้สึกร่วมกันในการเป็นชาติ, ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ทำให้เกิดเขตแดนทางภาษาขึ้น


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:48, 6 มิถุนายน 2553

การประชุมของสภาทิง (Thing) ของชนเจอร์มานิค วาดจากภาพแกะนูนบนคอลัมน์มาร์คัส ออเรลิอัส (Marcus Aurelius) (ค.ศ. 193)

ชนเจอร์มานิค (อังกฤษ: Germanic peoples) เป็นชนในประวัติศาสตร์ที่เดิมตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือของยุโรปที่พูดภาษากลุ่มเจอร์เมนิคในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียนซึ่งแยกมาจากภาษากลุ่มโปรโต-เจอร์เมนิคระหว่างสมัยก่อนยุคเหล็กก่อนโรมัน ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชนนี้กลายมาเป็นต้นตระกูลของชาติพันธุ์ต่างๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปที่รวมทั้ง: ชาวเดนมาร์ก, ชาวฟินแลนด์ที่พูดภาษาสวีเดน, ชาวสวีเดน, ชาวนอร์เวย์, ชาวอังกฤษ, ชาวไอซ์แลนด์ และชาวฟาโรอีส (Faroese) ในสแกนดิเนเวีย, ชาวเยอรมัน, ชาวเนเธอร์แลนด์ และชาวเฟล็มมิชบนแผ่นดินใหญ่ยุโรป และรวมทั้งชาวสเปนและชาวอิตาลีด้วย

ชนเจอร์มานิคย้ายถิ่นฐานไปทั่วยุโรปในปลายยุคโบราณตอนปลายระหว่างปี ค.ศ. 300 ถึงปี ค.ศ. 600 และในตอนต้นของยุคกลาง ภาษากลุ่มเจอร์เมนิคกลายเป็นภาษาที่ใช้กันมากตาม “เขตแดนโรมัน” (limes) (ออสเตรีย, เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม และอังกฤษ แต่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดในการปกครองของโรมันชนเจอร์มานิครับการใช้ภาษาละติน (ตระกูลภาษาโรมานซ์) นอกจากนั้นในที่สุดชนเจอร์มานิคทั้งหมดก็มานับถือคริสต์ศาสนาต่างระดับกันไป ชนเจอร์มานิคมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงจักรวรรดิโรมันให้กลายเป็นยุคกลาง และเป็นผู้ริเริ่มปรัชญาของความมีความรู้สึกร่วมกันในการเป็นชาติ, ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ทำให้เกิดเขตแดนทางภาษาขึ้น

อ้างอิง

ดูเพิ่ม