ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แอนนา ลีโอโนเวนส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
M-Bot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำอัตโนมัติ (-[[ภาพ: +[[ไฟล์:) ด้วยบอต
บรรทัด 70: บรรทัด 70:


== แอนนา ในบทประพันธ์และภาพยนตร์ ==
== แอนนา ในบทประพันธ์และภาพยนตร์ ==
[[ภาพ:Thekingandi.jpg|thumb|150px|จากภาพยนตร์เรื่อง เดอะคิงแอนด์ไอ ปี พ.ศ. 2499 ได้รับรางวัลออสการ์ 5 สาขา]]
[[ไฟล์:Thekingandi.jpg|thumb|150px|จากภาพยนตร์เรื่อง เดอะคิงแอนด์ไอ ปี พ.ศ. 2499 ได้รับรางวัลออสการ์ 5 สาขา]]
ปี [[พ.ศ. 2487]] มากาเร็ต แลนดอนได้ประพันธ์ บทประพันธ์เรื่อง "'''[[แอนนาและพระเจ้าแห่งกรุงสยาม]]'''" (Anna and the King of Siam) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือที่แอนนาแต่ง และได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี [[พ.ศ. 2489]] กำกับโดย [[จอห์น ครอมเวลล์]] นำแสดงโดย เร็กซ์ แฮร์ริสัน<ref name="ราชบัณฑิตยสถาน">[http://www.royin.go.th/upload/61/FileUpload/22_4627.pdf แอนนากับพระเจ้าแผ่นดินของไทย] ราชบัณฑิตยสถาน</ref>
ปี [[พ.ศ. 2487]] มากาเร็ต แลนดอนได้ประพันธ์ บทประพันธ์เรื่อง "'''[[แอนนาและพระเจ้าแห่งกรุงสยาม]]'''" (Anna and the King of Siam) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือที่แอนนาแต่ง และได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี [[พ.ศ. 2489]] กำกับโดย [[จอห์น ครอมเวลล์]] นำแสดงโดย เร็กซ์ แฮร์ริสัน<ref name="ราชบัณฑิตยสถาน">[http://www.royin.go.th/upload/61/FileUpload/22_4627.pdf แอนนากับพระเจ้าแผ่นดินของไทย] ราชบัณฑิตยสถาน</ref>



รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:28, 29 เมษายน 2553

แอนนา ลีโอโนเวนส์
Anna Leonowens
แอนนา ลีโอโนเวนส์
เกิด26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2374
อะห์มัดนาการ์ (อาหมัดนคร) ประเทศอินเดีย (ปัจจุบันอยู่ในประเทศปากีสถาน)
เสียชีวิต19 มกราคม พ.ศ. 2458
แคนาดา มอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา
มีชื่อเสียงจากพระอาจารย์ฝรั่งในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
คู่สมรสโทมัส ลีออน โอเวนส์
บุตรเอวิส ฟิช
หลุยส์ ลีโอโนเวนส์
บุพการีโทมัส เอ็ดเวิร์ด
แมรี อานน์ กลาสส์คอตต์

แอนนา ลีโอโนเวนส์ (อังกฤษ: Anna Leonowens) หรือ แหม่มแอนนา มีชื่อจริงว่าแอน แฮเรียต เอ็มม่า เอ็ดเวิร์ด (26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2374 - 19 มกราคม พ.ศ. 2458) นามสกุลเดิม ครอว์ฟอร์ด แหม่มแอนนาเป็นที่รู้จักในฐานะเป็น "พระอาจารย์ฝรั่ง" ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่สำหรับชาวต่างชาติทั่วไปแหม่มแอนนาคือตัวละครเอกของนวนิยายและละครบรอดเวย์ชื่อดัง เรื่อง "เดอะคิงแอนด์ไอ" รวมทั้งภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องล่าสุด "แอนนาแอนด์เดอะคิง" ซึ่งสวมบทบาทโดยนักแสดงชั้นนำ คือโจดี้ ฟอสเตอร์

ประวัติ

แอนนาเป็นเด็กกำพร้าพ่อตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เมื่อแม่แต่งงานใหม่ไปอยู่อินเดีย ทิ้งแอนนาไว้กับลุงให้เรียนหนังสือในอังกฤษ พออายุ 15 ปี ได้ตามไปอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงที่อินเดีย พอมีอายุได้ 18 ปีแอนนาแต่งงานกับเจ้าหน้าที่เสมียนชาวอังกฤษ นามว่าโธมัส ลีออน โอเวนส์ (ภายหลังแอนนาได้รวบชื่อกลางและนามสกุลของสามีเข้าด้วยกัน กลายเป็น "ลีโอโนเวนส์") ทั้งคู่มีบุตรธิดารวม 4 คน สองคนแรกเสียชีวิตตั้งแต่เล็ก คนที่ 3 เป็นหญิงชื่อเอวิส และคนสุดท้องเป็นชายชื่อหลุยส์ (ซึ่งต่อมาได้ตั้งบริษัท หลุยส์ ลีโอโนเวนส์ ในเมืองไทย)

แอนนาได้รับการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ต่อมาได้ย้ายตามสามีไปอยู่ที่เกาะปีนังในมาเลเซีย ซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษเช่นกัน เมื่อสามีของนางเสียชีวิตแอนนาจึงเดินทางต่อไปที่สิงคโปร์ และได้มาเปิดโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งที่สิงคโปร์ ประกอบอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ รับสอนพวกลูกหลานนายทหาร

รัชกาลที่ 4 กำลังทรงเสาะหาครูสอนภาษาอังกฤษแก่พระราชโอรส และ ธิดา มร.อดัมซัน ผู้จัดการบริษัทบอร์เนียวที่สิงคโปร์ ได้แจ้งให้ทรงทราบว่า มีแหม่มสอนภาษาอังกฤษที่มีความสามารถเหมาะสม จึงได้ทรงทาบทามให้เข้ามาสอน ตัวนางกับหลุยส์ ลูกชายวัย 7 ขวบ ตัดสินใจเดินทางมายังประเทศสยาม เพื่อถวายการสอนหนังสือแก่พระราชโอรสธิดาและเจ้าจอมหม่อม

ข้อตกลงในการว่าจ้าง มีดังนี้

  • แอนนา จะต้องสอนภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์เบื้องต้น วรรณคดีอังกฤษ ขนบธรรมเนียมอังกฤษ แต่ไม่ต้องสอนศาสนาคริสต์
  • พระราชทานบ้าน สร้างด้วยอิฐแบบฝรั่งให้แอนนาอยู่นอกพระบรมมหาราชวัง
  • พระราชทานเงินเดือนให้ เดือนละ 100 เหรียญสิงคโปร์
  • การสอน แบ่งเป็น 2 ผลัด ผลัดเช้า สอนพระราชโอรสและพระราชธิดา ผลัดบ่าย สอนเจ้าจอมมารดา และเจ้าจอมที่ยังสาว

แหม่มแอนนา รับราชการอยู่ 4 ปี 6 เดือน ก็กลับถวายบังคมลาออกจากหน้าที่เนื่องจากสุขภาพทรุดโทรม ได้เขียนหนังสือ 2 เล่ม คือ "The English Governess at the Siamese Court" และ "The Romance of the Harem" ซึ่งในเวลาต่อมากลายเป็นหนังสือขายดีและสร้างชื่อเสียงให้กับนางเป็นอย่างมาก จนเป็นที่มาของนวนิยายและละครเพลงชื่อดังในที่สุด

สู่ตะวันตก

ปี พ.ศ. 2410 แอนนาในวัย 36 ปีได้ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปสหรัฐอเมริกา โดยระหว่างทางแวะพักที่อังกฤษและไอร์แลนด์ แอนนาใช้ชีวิตอยู่ที่รัฐนิวยอร์กรวมเป็นเวลา 11 ปี ซึ่งที่นี่เองนางได้เริ่มต้นชีวิตของการเป็นนักเขียนด้วยการส่งต้นฉบับไปลงเป็นตอนๆ ในนิตยสารชื่อ Atlantic Monthly จนผลสุดท้ายได้รับการตีพิมพ์ กลายเป็นหนังสือรวมเล่มเกี่ยวกับชีวิตแอนนาในพระราชสำนักสยาม

เมื่อมีอายุได้ 47 ปี แอนนาย้ายถิ่นฐานจากสหรัฐอเมริกา ตามลูกสาวคือเอวิสและลูกเขย โธมัส ฟิช ไปยังเมืองฮาลิแฟกซ์ ประเทศแคนาดา ซึ่งในเวลาต่อมานางมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งสถาบันการศึกษา Victoria School of Art and Design (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Nova Scotia College of Art and Design) เพื่อเฉลิมฉลองพระราชวโรกาสเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ 50 ปีของสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียแห่งอังกฤษ นอกจากนี้นางยังมีบทบาทด้านสตรีภายในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก

ช่วงเวลานั้นเองแอนนามีโอกาสได้เดินทางไปยังประเทศรัสเซีย เพื่อบันทึกเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นบนแผ่นดินของพระเจ้าซาร์ ในฐานะนักเขียนบทความสารคดีให้กับนิตยสาร Youth"s Companion หลังจากนั้นนางยังเดินทางต่อไปที่ยุโรปและพำนักอาศัยอยู่ประเทศเยอรมนีเป็นเวลาช่วงหนึ่งด้วย

ในวัย 53 ปี แอนนาเขียนหนังสือเล่มที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของตนเอง โดยเฉพาะชีวิตในวัยเด็ก ชื่อว่า "Life and Travel in India" ก่อนจะเขียนเล่มที่ 4 ซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายในอีก 5 ปีต่อมา เรื่อง "Our Asiatic Cousins" ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับชาวจีนที่อพยพไปอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ อย่างไรก็ดี หนังสือ 2 เล่มสุดท้ายดังกล่าวนี้ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จมากนัก หากเทียบกับผลงานเกี่ยวกับราชอาณาจักรสยาม

รัชกาลที่ 5 พบแอนนาอีกครั้ง

ในปี พ.ศ. 2427 แอนนามีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงตำแหน่งเป็นราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์หรือพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร" พระราชโอรสองค์ที่ 17 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และทรงเคยเรียนหนังสือกับแอนนาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์

แอนนามีความปลาบปลื้มใจที่ได้มีโอกาสพบกับกรมพระนเรศร์วรฤทธิ์อีกครั้ง ซึ่งนอกจากพระองค์จะเคยเป็นศิษย์แล้ว ดูเหมือนว่าแอนนาจะสนิทสนมกับเจ้าจอมมารดากลิ่น พระมารดาของกรมพระนเรศร์ฯ มากเป็นพิเศษอีกด้วย

ต่อมา พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป แอนนาซึ่งขณะนั้นมีอายุได้ 66 ปี ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินจากกรุงสยาม ณ นครลอนดอน ประเทศอังกฤษ นับเป็นระยะเวลา 30 ปีพอดี หลังจากที่นางได้เดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร

แอนนาเสียชีวิตที่เมืองมอนทรีออล ในรัฐควิเบก ประเทศแคนาดา เมื่อปี พ.ศ. 2458 รวมมีอายุ 84 ปี

ผลงานการประพันธ์

  • The English Governess at the Siamese Court (ครูหญิงอังกฤษในราชสำนักแห่งสยาม)
  • The Romance of the Harem (ชีวิตในฮาเร็มสยาม)
  • Life and Travel in India
  • Our Asiatic Cousins

แอนนา ในบทประพันธ์และภาพยนตร์

จากภาพยนตร์เรื่อง เดอะคิงแอนด์ไอ ปี พ.ศ. 2499 ได้รับรางวัลออสการ์ 5 สาขา

ปี พ.ศ. 2487 มากาเร็ต แลนดอนได้ประพันธ์ บทประพันธ์เรื่อง "แอนนาและพระเจ้าแห่งกรุงสยาม" (Anna and the King of Siam) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือที่แอนนาแต่ง และได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2489 กำกับโดย จอห์น ครอมเวลล์ นำแสดงโดย เร็กซ์ แฮร์ริสัน[1]

ต่อจากนั้นได้มีละครเพลง "เดอะคิง แอนด์ ไอ หรือ พระเจ้าแผ่นดินกับตัวฉัน "ที่สร้างโดย ริชาร์ด ร็อดเจอร์ และ ออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ที่ 2 เปิดแสดงเป็นครั้งแรกในโรงละครเซนท์ เจมส์ ในปี พ.ศ. 2494 ที่โดยมี ยูล เบรียนเนอร์ รับบทบาทเป็นพระบาทสมเด็จจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) และเกอทรูด ลอว์เรนซ์ แสดงเป็นแอนนา ต่อมาภาพยนตร์เรื่อง เดอะคิงแอนด์ไอ ออกฉายในปี พ.ศ. 2499 โดยยึดมาจากละครบรอดเวย์ของ ริชาร์ด ร็อดเจอร์ กำกับโดย วอลเตอร์ แลง ได้รับรางวัลออสการ์ 5 สาขา

ในปี พ.ศ. 2515 ได้ถูกสร้างเป็นละครชุดทางโทรทัศน์ โดยซามานธา เอ็ดการ์รับบทเป็นแอนนา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2542 บริษัทฟอกซ์ คอร์ปอเรชันได้สร้างภาพยนตร์ขึ้นมาใช้ชื่อเรื่องว่า "แอนนาแอนด์เดอะคิง" แสดงนำโดย โจดี้ ฟอสเตอร์ และโจว เหวินฟะ แต่ก็ถูกห้ามฉายในประเทศไทยหลังเป็นข้อถกเถียงกันอย่างหนักกรณีเนื้อหาของเรื่องบิดเบือนประวัติศาสตร์

การถูกวิพากษ์วิจารณ์

จากละครและภาพยนตร์นั้น ทำให้แหม่มแอนนาถูกโจมตี ผู้ที่โจมตี แอนนาในเรื่องนี้อย่างชัดเจนที่สุดคือ W.S. Bristowe ในหนังสือเรื่อง "ลูกผู้ชายชื่อนายหลุยส์" (แปลจาก Louis and the king of Siam) รวมถึงมัลคอล์ม สมิธ (Malcolm Smith) และ เอ.บี. กริสโวลด์ (A.B. Griswold)

บทบาทในราชสำนัก

ภาพลักษณ์ของแอนนาในฐานะ "ครูฝรั่งวังหลวง" มีหน้าที่ในการถวายพระอักษรภาษาอังกฤษให้กับพระราชโอรส พระราชธิดา และเจ้าจอมหม่อมห้าม ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมาย แต่ยังมีงานรองอีกอย่างหนึ่งคือเป็นเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว [2]

โดยมีข้อสงสัยในหมู่นักวิชาการว่า แอนนามีบทบาทอย่างไรในราชสำนักสยาม แอนนาผลักดันหรือชี้แนะอะไรบ้าง และทำจริงตามที่เขียนไว้ในหนังสือหรือไม่ เมื่อมีการสอบสวนเรื่องนี้โดยนักวิชาการ ก็ได้บทสรุปที่เชื่อกันว่าแอนนาแท้จริงแล้วไม่ได้มีบทบาทอะไรมากไปกว่าครูสอนภาษาอังกฤษ [2]

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีความเห็นเกี่ยวกับหนังสือ 2 เล่มนี้ว่า

แหม่มแอนนาอาจมีความจำเป็นต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก จึงปรุงแต่งเรื่องราวขึ้นให้มีรสชาติพอที่จะขายสำนักพิมพ์ได้ ตอนที่นางสอนหนังสืออยู่ในราชสำนักก็มิได้มีอิทธิพลมากมายถึงขนาดที่พระเจ้าอยู่หัวจะต้องไปใส่พระทัยรับฟัง เป็นไปได้ว่าสิ่งที่นางเขียนออกมานั้น ก็คือเรื่องที่ต้องการถวายความเห็นเป็นการย้อนหลัง เพราะจริงๆ แล้วไม่เคยมีโอกาสได้พูดออกมาเลย

[3]

เรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ

แอนนาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าโป้ปดมดเท็จ บิดเบือนเรื่องที่เขียนในหนังสือทั้ง 2 เล่ม นักวิชาการหลายท่านได้ตรวจสอบความจริงหลักฐาน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงหนังสือ 2 เล่มเท่านั้น ยังลุกลามไปถึงสิ่งที่แอนนาไม่ได้เขียน จากนิยายที่มาร์กาเร็ตแต่งขึ้นเพิ่มเติมภายหลัง ทำให้แหม่มแอนนาถูกโจมตีอย่างหนักว่าปั้นแต่งเรื่องราวโกหกเกี่ยวกับราชสำนักสยาม หมิ่นพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทย รวมทั้งสร้างประวัติเท็จให้ตนเองทั้งทางด้าน สถานที่เกิด สีผิว และอื่นๆ

ชีวประวัติของแหม่มแอนนาที่ W.S. Bristowe กล่าวหาว่าโป้ปดขึ้นนั้น ปรากฏอยู่ในนวนิยายเรื่อง The King and I ซึ่งเป็น "นิยาย" ที่มาร์กาเร็ตแต่งขึ้นเพิ่มเติมภายหลัง ดังที่ Bristowe เขียนไว้ว่า "ประวัติแหม่มแอนนาที่เล่ามา ล้วนได้จากบันทึกของเธอเอง ซึ่งมาร์กาเร็ต แลนดอน นำมาเรียบเรียงขึ้นใหม่" มิได้มีอยู่ในหนังสือทั้ง 2 เล่มของแหม่มแอนนาแต่อย่างใด ในหนังสือของแหม่มแอนนาเองแทบจะไม่มีข้อความที่กล่าวถึงชีวประวัติของตนเองเลย [4]

หากย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของหนังสือ "The English Governess at the Siamese Court" ซึ่งแอนนาเขียนเป็นบทความลงในนิตยสาร "The Atlantic Montly" ตั้งแต่ปี 2411 ก็จะพบว่าสิ่งที่แอนนารู้เห็นในราชสำนักสยามนั้นอยู่ในระดับ "หลักฐานทางประวัติศาสตร์" ได้ [2]

อ้างอิง

  1. แอนนากับพระเจ้าแผ่นดินของไทย ราชบัณฑิตยสถาน
  2. 2.0 2.1 2.2 ศิลปวัฒนธรรม: แอนนา เลียวโนเวนส์ ใครว่าหล่อนตอแหล?
  3. จีระนันท์ พิตรปรีชา. ลูกผู้ชายชื่อนายหลุยส์. ประพันธ์สาส์น, 2542
  4. ศิลปวัฒนธรรม: ปอกเปลือกชีวิต แอนนา เลียวโนเวนส์ ใครว่าหล่อนตอแหล

อ้างอิงทั่วไป

แหล่งข้อมูลอื่น