ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหตุรถไฟตกรางในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. 2552"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 14: บรรทัด 14:


== สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ==
== สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ==
วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11.30 น. นาย[[ยุทธนา ทัพเจริญ]] ผู้ว่าการ[[การรถไฟแห่งประเทศไทย]] (รฟท.) แถลงสถานการณ์หลังเกิดเหตุรถไฟตกรางบริเวณ[[สถานีรถไฟเขาเต่า|สถานีเขาเต่า]] อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกราง เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากพนักงานขับรถไฟ (พขร.) หลับใน เพราะมีหลักฐานว่า พนักงานขับรถไฟซึ่งจะต้องแวะจอดเพื่อรอรับเอกสารใบสับหลีกขบวนรถที่บริเวณ [[สถานีรถไฟวังก์พง|สถานีวังก์พง]] แต่ปรากฎว่าขบวนรถคันดังกล่าวได้ขับขบวนรถฝ่าไฟแดงตรงไปยังสถานีเขาเต่า ซึ่งมีขบวนรถสินค้าขาล่องจอดรอสับหลีก แต่เมื่อได้รับการติดต่อว่าขบวนรถดังกล่าววิ่งฝ่ามาด้วยความเร็วสูงถึง 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พนักงานที่สถานีเขาเต่าจึงได้สับหลีกรางเพื่อไม่ให้ขบวนรถไปชนกับขบวนรถสินค้าที่จอดอยู่

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11.30 น. นาย[[ยุทธนา ทัพเจริญ]] ผู้ว่าการ[[การรถไฟแห่งประเทศไทย]] (รฟท.) แถลงสถานการณ์หลังเกิดเหตุรถไฟตกรางบริเวณ[[สถานีรถไฟเขาเต่า|สถานีเขาเต่า]] อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกราง เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากพนักงานขับรถไฟ (พขร.) หลับใน เพราะมีหลักฐานว่า พนักงานขับรถไฟซึ่งจะต้องแวะจอดเพื่อรอรับเอกสารใบสับหลีกขบวนรถที่บริเวณ [[สถานีรถไฟวังก์พง|สถานีวังก์พง]] แต่ปรากฎว่าขบวนรถคันดังกล่าวได้ขับขบวนรถฝ่าไฟแดงตรงไปยังสถานีเขาเต่า ซึ่งมีขบวนรถสินค้าขาล่องจอดรอสับหลีก แต่เมื่อได้รับการติดต่อว่าขบวนรถดังกล่าววิ่งฝ่ามาด้วยความเร็วสูงถึง 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พนักงานที่สถานีเขาเต่าจึงได้สับหลีกรางเพื่อไม่ให้ขบวนรถไปชนกับขบวนรถสินค้าที่จอดอยู่


ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวถึงความเสียหายเบื้องต้นว่าประมาณ 129 ล้าน จากขบวนรถไฟตู้โดยสารทั้งหมด 14 ตู้ ได้รับความเสียหาย 9 ตู้ และความเสียหายของราง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท และความเสียหายจากการสั่งระงับการให้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้ 28 เที่ยว และขบวนรถสินค้า 5 เที่ยว เป็นเงิน 9 ล้านบาท <ref>[http://www.thairath.co.th/content/pol/37774 สรุปสาเหตุตกราง พขร.หลับใน]</ref>
ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวถึงความเสียหายเบื้องต้นว่าประมาณ 129 ล้าน จากขบวนรถไฟตู้โดยสารทั้งหมด 14 ตู้ ได้รับความเสียหาย 9 ตู้ และความเสียหายของราง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท และความเสียหายจากการสั่งระงับการให้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้ 28 เที่ยว และขบวนรถสินค้า 5 เที่ยว เป็นเงิน 9 ล้านบาท <ref>[http://www.thairath.co.th/content/pol/37774 สรุปสาเหตุตกราง พขร.หลับใน]</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:37, 7 ตุลาคม 2552

ไฟล์:Abhisit visit train accident.jpg
ภาพจากหน้าจอช่อง 9 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เกิดเหตุ

เหตุการณ์รถไฟตกรางที่หัวหิน พ.ศ. 2552 เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.20 น. เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถด่วนขบวนที่ 84 วิ่งจากสถานีตรังปลายทางสถานีกรุงเทพ เกิดตกรางที่สถานีเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ตู้โดยสารทั้งหมด 15 ตู้ พลิกคว่ำเสีย 6 ตู้ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย เป็นผู้หญิงทั้งหมด บาดเจ็บ 88 ราย ซึ่งส่วนใหญ่กำลังนอนหลับเมื่อเกิดเหตุขึ้น

เหตุการณ์เกิดจากความผิดพลาดของพนักงานขับรถ ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงกว่า 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ยอมรับวิทยุสื่อสาร ที่บอกให้ชะลอความเร็วลง นายสถานีเขาเต่าจึงตัดสินใจสับรางเพื่อไม่ให้ต้องไปชนกับขบวนรถไฟสินค้าที่อยู่อีกขบวนนึง ทำให้รถไฟตกราง และทำให้วันนั้นทั้งวัน รถไฟสายใต้ทุกขบวนต้องหยุดให้บริการทั้งหมด เบื้องต้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประเมินค่าเสียหายทั้งหมดนับ 100 ล้านบาท

หลังเกิดเหตุ ได้มีการระดมทีมกู้ภัยลงไปช่วย นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ได้ลงพื้นที่ไปดูเหตุการณ์จริงและเยี่ยมเยียนผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ส่วนใหญ่รักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน

ต่อมา ทางสหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศ ได้มีแถลงการณ์ออกมาว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุทั้งนี้เกิดขึ้นมาจากมติของคณะรัฐมนตรี ที่ปรับพนักงานออกทำให้เหลือพนักงานทำงานไม่มาก และต้องทำงานตลอดทั้ง 7 วัน ไม่มีเวลาได้พักผ่อน

การกู้ซากรถไฟและการซ่อมแซมรางแล้วเสร็จในเวลาใกล้เที่ยงของอีกวัน พร้อมกับเปิดให้บริการรถไฟสายใต้ทุกขบวนได้อีกครั้งตามปกติ

เหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้นับว่า เป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุร้ายแรงครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับรถไฟไทยและนับว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีอุบัติเหตุรถไฟตกรางเช่นนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีความสูญเสียมากเช่นนี้ และสาเหตุเพราะความเสื่อมของอุปกรณ์ไม่ใช่ความผิดพลาดของพนักงาน[1]


สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ

วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11.30 น. นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แถลงสถานการณ์หลังเกิดเหตุรถไฟตกรางบริเวณสถานีเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกราง เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากพนักงานขับรถไฟ (พขร.) หลับใน เพราะมีหลักฐานว่า พนักงานขับรถไฟซึ่งจะต้องแวะจอดเพื่อรอรับเอกสารใบสับหลีกขบวนรถที่บริเวณ สถานีวังก์พง แต่ปรากฎว่าขบวนรถคันดังกล่าวได้ขับขบวนรถฝ่าไฟแดงตรงไปยังสถานีเขาเต่า ซึ่งมีขบวนรถสินค้าขาล่องจอดรอสับหลีก แต่เมื่อได้รับการติดต่อว่าขบวนรถดังกล่าววิ่งฝ่ามาด้วยความเร็วสูงถึง 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พนักงานที่สถานีเขาเต่าจึงได้สับหลีกรางเพื่อไม่ให้ขบวนรถไปชนกับขบวนรถสินค้าที่จอดอยู่

ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวถึงความเสียหายเบื้องต้นว่าประมาณ 129 ล้าน จากขบวนรถไฟตู้โดยสารทั้งหมด 14 ตู้ ได้รับความเสียหาย 9 ตู้ และความเสียหายของราง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท และความเสียหายจากการสั่งระงับการให้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้ 28 เที่ยว และขบวนรถสินค้า 5 เที่ยว เป็นเงิน 9 ล้านบาท [2]

อ้างอิง