ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดภูเก็ต"

พิกัด: 7°53′N 98°23′E / 7.88°N 98.38°E / 7.88; 98.38
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการก่อกวนของ 58.8.196.19 ไปยังรุ่นโดย Octahedron80 ด้วยสจห.
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ข้อความแก้กำกวม|ภูเก็ต|ภูเก็ต (แก้ความกำกวม) }}
==WELL WELL WELL WELL WELL Do you think that someone has been hiding 'Class A Illicit Heroin Narcotic Drug Shipments in 'St Joseph's Convent'??==
{{กล่องข้อมูล จังหวัด
=I DO and so will His Emminence Pope Benedict XVI=
<!-- ข้อมูลจำเป็น -->
by the time I (Erik Young) have finished my discussion with him ...especially since I thought I saw a wanted WW2 Gestapo Criminal just near St Joseph's Silom Road on Friday 24th August 2009. I think he is one of the king pins behind the HEROIN trade.
| จังหวัด = ภูเก็ต
Evidence suggests that he, Klaus Altmann aka Barbie formerly from south East asia on stolen IDs since about 1933, personally tortured prisoners and is responsible for the deaths of up to 4,000 people and it is him and his comrads who were behind the VICE and HEROIN TRADE.
| seal = Seal Phuket.png
Interesting that one of the 'Butcher Gestapo Torturers of WW2 refered to himself as a Roman Catholic for want of a means to hide his Satanic identity.. I guess last nights thunderous lightening will have placed the fear of God upon him and his associates.
| คำขวัญ = ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม
Do have a very very careful search of St Joseph's Convent and buildings please for the sake of genuine Catholics do this...'Barbie caused sensations on the first days of the trial: he gave his name as Klaus Altmann (the name he had used while in Bolivia) and, claiming that his extradition was technically illegal, made the request to be excused from the trial and return to his cell at St. Joseph's. Perhaps some documented data of Klaus and his genetic 'Barbie Dolls Experiment' can be found in the Soi Convent/Silom Road area.
| ชื่ออังกฤษ = Phuket
Do you think that 'Mr K and Mr H' may have been stiring up trouble in The Middle East for years to allow their HEROIN trade to continue whilst the officials were busy fighting the terrorism funded by wanted Geftapo war criminals?
| ชื่อภาษาจีนกลาง = 普吉
=I DO and so does his Emminence Pope Benedict XVI=
| แผนที่ = [[ไฟล์:Thailand Phuket.png|แผนที่ประเทศไทย เน้นจังหวัดภูเก็ต]]
Would the Prime Minister Of Thailand like to explain why these war criminals are living in Bangkok without arrest or detention?
<!-- ข้อมูลเสริม -->
http://en.wikipedia.org/wiki/Klaus_Barbie isn't the 'Barbie Doll" a product of Formosa?
| ตราลูกเสือ = Prov-scout-Phuket.png
Ku Tsuei-eh, who doesn't speak a lick of English, calls the plastic pop princess by her given Chinese name: Bahbi wa wa. The prim 49-year-old founder of Taiwan's recently opened Taishan Doll Museum gushes girlishly about the "product of her youth"--the Barbie dolls she used to dress during the 1980s as a contractor for the toy maker Mattel.
| ชื่อไทยอื่นๆ =
Do you think that the 'Barbie' doll represents the proceeds of ID theft by some South East Asia Heroin Dealers? http://www.reason.com/news/show/32194.html
| ชื่อผู้ว่า = [[วิชัย ไพรสงบ]]
=I Do=
| ปีที่ว่าราชการ = 2552
Do you think the cash flow streams of 'Barbie' business should be tracked to source Heroin funds etc?
| รหัสiso = TH-83
=I Do=
| สีจังหวัด =
===Erik Young (Henry-Rasmussen-Fogh-Jellinek-Holbock-Einstein-Munch-Da Vinci-Van Gogh- Gauguin-Kennedy-Nesbitt) UN Human Rights Ambassador Bangkok Thailand ===
| รหัสสี =
| ต้นไม้ประจำจังหวัด = [[ประดู่]]
| ดอกไม้ประจำจังหวัด = [[เฟื่องฟ้า]]
| พื้นที่ = 543.0 [[ตารางกิโลเมตร|ตร.กม.]]
| อันดับพื้นที่ = 75
| ประชากร = 327,006 คน<ref>กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [http://www.dopa.go.th/stat/y_stat51.html http://www.dopa.go.th/stat/y_stat51.html] 2552. สืบค้น 30 มกราคม 2552.</ref>
| ปีสำรวจประชากร = 2551<!--ยังไม่สิ้นปี 2552, จำนวนประชากรและบ้านจากฐานข้อมูลยังไม่คงที่ หากนำมาใช้จะทำให้ในแต่ละจังหวัดมีสถิติ ณ จุดเวลาหนึ่งไม่ตรงกัน-->
| อันดับประชากร = 67
| ความหนาแน่น = 602.22 คน/ตร.กม.
| อันดับหนาแน่น = 5
<!-- ข้อมูลศูนย์ราชการ (ข้อมูลเพิ่มเติม) -->
| ศูนย์ราชการ = ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถนนนริศร ตำบลตลาดใหญ่ [[อำเภอเมืองภูเก็ต]] จังหวัดภูเก็ต 83000
| โทรศัพท์ = 0 7635 4875
| โทรสาร = 0 7622 2886
| เว็บไซต์ = http://www.phuket.go.th
}}


'''ภูเก็ต''' หรือที่เคยรู้จักแต่โบราณในนาม '''เมืองถลาง''' เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของ[[ประเทศไทย]] ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นโดยสิ้นเชิง คือเป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดใน[[ประเทศไทย]] ภูเก็ต มีจังหวัดที่ใกล้เคียงทางทิศเหนือ คือ [[จังหวัดพังงา]] ทางทิศตะวันออก คือ จังหวัดพังงาและ[[จังหวัดกระบี่]] ทั้งเกาะล้อมรอบด้วย[[ทะเลอันดามัน]] และยังมีเกาะที่อยู่ในอาณาเขตของจังหวัดภูเก็ตทางทิศใต้และตะวันออก การเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตนอกจากทางเรือแล้ว สามารถเดินทางโดยรถยนต์ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวผ่านทางจังหวัดพังงา ข้าม[[สะพานสารสิน]]และสะพานคู่ขนาน คือ[[สะพานท้าวเทพกระษัตรี]]เข้าสู่ตัวจังหวัด และทางอากาศซึ่งมี[[ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต]]รองรับ ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ ด้านทิศตะวันตก


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:12, 24 สิงหาคม 2552

จังหวัดภูเก็ต
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันChangwat Phuket
คำขวัญ: 
ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม

ข้อผิดพลาด: ต้องระบุภาพในบรรทัดแรก

แผนที่ประเทศไทย จังหวัดภูเก็ตเน้นสีแดง
ประเทศ ไทย
การปกครอง
 • ผู้ว่าราชการ วิชัย ไพรสงบ
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2552)
พื้นที่
 • ทั้งหมด543.0 ตร.กม. ตร.กม. (Formatting error: invalid input when rounding ตร.ไมล์)
อันดับพื้นที่อันดับที่ 75
ประชากร
 (พ.ศ. 2551)
 • ทั้งหมด327,006 คน[1] คน
 • อันดับอันดับที่ 67
 • อันดับความหนาแน่นอันดับที่ 5
รหัส ISO 3166TH-83
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
 • ต้นไม้ประดู่
 • ดอกไม้เฟื่องฟ้า
ศาลากลางจังหวัด
 • โทรศัพท์0 7635 4875
 • โทรสาร0 7622 2886
เว็บไซต์http://www.phuket.go.th
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

ภูเก็ต หรือที่เคยรู้จักแต่โบราณในนาม เมืองถลาง เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ของประเทศไทย ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นโดยสิ้นเชิง คือเป็นเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภูเก็ต มีจังหวัดที่ใกล้เคียงทางทิศเหนือ คือ จังหวัดพังงา ทางทิศตะวันออก คือ จังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ ทั้งเกาะล้อมรอบด้วยทะเลอันดามัน และยังมีเกาะที่อยู่ในอาณาเขตของจังหวัดภูเก็ตทางทิศใต้และตะวันออก การเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตนอกจากทางเรือแล้ว สามารถเดินทางโดยรถยนต์ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวผ่านทางจังหวัดพังงา ข้ามสะพานสารสินและสะพานคู่ขนาน คือสะพานท้าวเทพกระษัตรีเข้าสู่ตัวจังหวัด และทางอากาศซึ่งมีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตรองรับ ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะ ด้านทิศตะวันตก

ประวัติ

เดิมคำว่า ภูเก็ต นั้นใช้คำว่า ภูเก็จ อันแปลว่าเมืองแก้ว ตรงกับความหมายเดิมซึ่งชาวทมิฬเรียก มณีคราม ตามหลักฐาน พ.ศ. 1568 ภูเก็ตเป็นที่รู้จักของนักเดินเรือที่ใช้เส้นทางระหว่างจีนกับอินเดีย โดยผ่านแหลมมลายู หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดก็คือ หนังสือภูมิศาสตร์และแผนที่เดินเรือของทอเลมี เมื่อประมาณ พ.ศ. 700 กล่าวถึงการเดินทางจากแหลมสุวรรณภูมิลงมาจนถึงแหลมมลายู ซึ่งต้องผ่านแหลม จังซีลอน หรือเกาะภูเก็ตนั่นเอง[ต้องการอ้างอิง]

จากประวัติศาสตร์ไทย ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรตามพรลิงก์ ต่อมาจนถึงสมัยอาณาจักรศิริธรรมนคร เรียกเกาะภูเก็ตว่า เมืองตะกั่วถลาง เป็นเมืองที่ 11 ใน 12 เมืองนักษัตร โดยใช้ตราเป็นรูปสุนัข จนถึงสมัยสุโขทัย เมืองถลางไปขึ้นกับเมืองตะกั่วป่า ในสมัยอยุธยา ชาวฮอลันดามาสร้างสถานที่เก็บสินค้าเพื่อรับซื้อแร่ดีบุกจากเมืองภูเก็ต

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้เกิดสงครามเก้าทัพขึ้น พระเจ้าปดุง กษัตริย์ของประเทศพม่าในสมัยนั้น ได้ให้แม่ทัพยกทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ เช่น ไชยา นครศรีธรรมราช และให้ยี่หวุ่นนำกำลังทัพเรือพล 3,000 คนเข้าตีเมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง และเมืองถลาง ซึ่งขณะนั้นเจ้าเมืองถลาง (พญาพิมลอัยาขัน) เพิ่งถึงแก่อนิจกรรม ท่านผู้หญิงจัน ภรรยา และคุณมุก น้องสาว จึงรวบรวมกำลังต่อสู้กับพม่าจนชนะเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงจันเป็น ท้าวเทพกระษัตรี และคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทร

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รวบรวมหัวเมืองชายทะเลตะวันตกตั้งเป็น มณฑลภูเก็จ และเมื่อปี พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกระบบมณฑลเทศาภิบาล เปลี่ยนมาเป็น จังหวัดภูเก็ต จนถึงปัจจุบัน

หน่วยการปกครอง

การปกครองแบ่งออกเป็น 3 อำเภอ 17 ตำบล 103 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (เทศบาลนครภูเก็ต) 2 เทศบาลเมือง (เทศบาลเมืองป่าตอง) (เทศบาลเมืองกะทู้) 6 เทศบาลตำบล 9 องค์การบริหารส่วนตำบล

  1. อำเภอเมืองภูเก็ต
  2. อำเภอกะทู้
  3. อำเภอถลาง
แผนที่

ประชากร

ชาวเลเป็นชาวกลุ่มแรก ๆ ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะภูเก็ต จากนั้นมาจึงกลุ่มชนอื่น ๆ อพยพตามมาอีกจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ชาวไทย ชาวมาเลเซีย ฯลฯ จนมีวัฒนธรรมเฉพาะเป็นของตนเองสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นสีสันอย่างหนึ่งของภูเก็ต ตามบันทึกของฟรานซิส ไลต์ กล่าวถึงชาวภูเก็ตว่าเป็นพวกผสมผสานกันทางด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรมกับชาวมลายู โดยเฉพาะคนไทยจำนวนมากในสมัยนั้นทำตัวเป็นทั้งอิสลามมิกชนและพุทธศาสนิกชน คือ ไม่รับประทานหมูแต่สักการะพระพุทธรูป ขณะที่กัปตันทอมัส ฟอร์เรสต์ ชาวอังกฤษที่เดินเรือมายังภูเก็ต ใน พ.ศ. 2327 ได้รายงานว่า "ชาวเกาะแจนซีลอนพูดภาษาไทย ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใจภาษามลายู พวกเขามีลักษณะหน้าตาคล้ายกับชาวมลายู ท่าทางคล้ายชาวจีนมาก"

ปัจจุบันชาวภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชาวจีนฮกเกี้ยน ชาวจีนช่องแคบ ชาวจีนกวางตุ้ง ฯลฯ รวมไปถึงชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม แถบอำเภอถลาง โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมมีจำนวนถึงร้อยละ 20-36 ของประชากรในภูเก็ต มีมัสยิดแถบอำเภอถลางราว 30 แห่งจาก 42 แห่งทั่วจังหวัด มีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล กลุ่มอูรักลาโว้ยและพวกมอแกน (มาซิง) ซึ่งมอแกนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ มอเกนปูเลา (Moken Pulau) และ มอเกนตาหมับ (Moken Tamub) และยังมีชนกลุ่มต่างชาติอย่างชาวยุโรปที่เข้าลงทุนในภูเก็ต รวมไปถึงชาวอินเดีย มีชาวคริสต์ในภูเก็ต ราว 300 คน ชาวสิกข์ที่มีอยู่ราว 200 คน และชาวฮินดูราว 100 คน และแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว และเขมร ราวหมื่นคน

บุคคลสำคัญ

สถานที่สำคัญ

สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนมากในจังหวัดภูเก็ตจะเป็นชายหาดต่าง ๆ ที่อยู่ในอำเภอถลาง อำเภอกะทู้ และอำเภอเมืองภูเก็ต ได้แก่

เทศกาลสำคัญ

อาหารและขนมพื้นเมือง

  • โลบะ - เป็นเครื่องในหมูปรุงกับเครื่องพะโล้ นำมาทอดรับประทานกับเต้าหู้ทอดราดน้ำจิ้ม
  • หมี่ฮกเกี้ยน - หมี่เหลืองผัดสูตรฮกเกี้ยนซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมพื้นเมืองโดยเฉพาะจะมีเนื้อกุ้ง,ปลา,หอย,หมู,ปลาหมึก โรยหน้าด้วยเจี้ยนผ้างหรือหอมเจียว รัปประทานคู่กับหอมแดงหรือแค็บหมู
  • หมี่หุ้นปาฉ่าง - เป็นเส้นหมี่แห้งรับประทานกับน้ำต้มกระดูก
  • หมี่สั่ว - เป็นอาหารเช้าของชาวภูเก็ต จะขายพร้อมกับข้าวต้ม หรือโจ๊ก
  • เบือทอด - เป็นกุ้งกับหญ้าช้องหรือใบเล็บครุฑชุบแป้งทอด รับประทานกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ
  • โอต๊าว - ลักษณะคล้ายกับหอยทอดภาคกลาง ใช้หอยติบผัดกับแป้ง เผือก และไข่ ทานกับกากหมูทอดและถั่วงอก ปัจจุบันนิยมใช้หอยนางรมแทนหอยติบ เพราะหาได้ง่ายกว่า
  • โอ๊ะเอ๋ว - เป็นของหวานคล้ายวุ้นน้ำเชื่อมใส่น้ำแข็ง ทำมาจากกล้วยน้ำว้าผสมกับสาหร่ายทะเลชนิด
  • สับปะรดภูเก็ต - สับปะรดพันธุ์พื้นเมืองที่มีรสชาติหวานกรอบ อร่อย ต่างกับสับปะรดที่อื่น ซื้อได้ที่ตลาดสดทั่วไป
  • น้ำชุบภูเก็ต - เป็นน้ำพริกกะปิน้ำใส ๆ ใส่กุ้งสด หัวหอม พริก และมะนาว รับประทานกับข้าวหรือขนมจีน
  • บ๊ะจ่าง - เป็นขนมที่นิยมของชาวภูเก็ต ทำจากข้าวเหนียวผัดซีอิ้ว มีไส้หมูอยู่ข้างใน
  • แกงไตปลา - เป็นแกงยอดนิยมของชาวภูเก็ต ทำจาก ไส้ปลาหรือเครื่องในปลา มาหมักไว้และทำเป็นเครื่องแกง รับประทานกับข้าว หรือขนมจีน
  • ขนมจีน - นิยมทานเป็นอาหารเช้าและเย็น ทานกับน้ำแกงหลายรสชาติซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นเมือง ทั้งแกงไตปลา น้ำชุบหยำ น้ำยา น้ำพริก ส่วนใหญ่เป็นเส้นหมัก มีเส้นสดอยู่บ้าง
  • ขนมจีบติ่มซำ - เป็นอาหารเช้าของชาวภูเก็ต มักไม่รับประทานในมื้ออื่น มีอยู่ทั่วไปบนเกาะภูเก็ต สามารถหารับประทานได้ไม่ยาก มีหลากหลายแบบให้เลือกรับประทานทาน น้ำจิ้มแต่ละร้านจะต่างกันไปตามเคล็ดลับ ชาวภูเก็ตนิยมเรียกว่า เสี่ยวโบ๋ย
  • เกลือเคย - คล้ายกับน้ำปลาหวาน ปรุงจากพริกขี้หนู กุ้งแห้ง ตำละเอียด กะปิ ซีอิ้ว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว และน้ำ เวลารับประทาน ใช้ราดบนเลือดหมูต้ม เต้าหู้เหลือง แตงกวา และผลไม้อื่น ๆ

การศึกษา

โรงเรียน

ระดับอุดมศึกษา

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด

เพลงประจำจังหวัด

  • ยอดนารีศรีถลาง - ประพันธ์โดย ประสิทธิ ชิณการณ์ ทำนองโดย ประพันธ์ ทิมเทศ
  • อ้อมกอดอันดามัน
  • ภูเก็ตจ๋า
  • สดุดีย่าจันย่ามุก
  • ไข่มุกอันดามัน
  • ภูเก็ตเมืองงาม
  • หาดราไวย์
  • ของกินภูเก็ต (หรอยๆ)
  • ภูเก็ตราตรี
  • ตะวันรอนที่แหลมพรหมเทพ
  • ภูเก็ตเมืองสวรรค์
  • ภูเก็ต (สะพานรักสารสิน)
  • ยินดีที่มาเยือน
  • หาดสุรินทร์
  • สัญญาหน้าอ๊าม
  • สุดสวาทหาดภูเก็ต
  • ปลื้มภูเก็ต

สถาปัตยกรรมย่านเมืองเก่าภูเก็ต

ไฟล์:DSC00832+1.jpg
ซอยรมณีย์

สถาปัตยกรรมในย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ตบนถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนกระบี่ ถนนพังงา ถนนเยาราช และซอยรมณีย์ รวมทั้งถนนใกล้เคียงเริ่มมีการพัฒนาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงของการล่าอาณานิคมของประเทศตะวันตกแลกะการค้าแร่ดีบุกเฟื่องฟู ในยุคนั้นภูกเตเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติทั้งจีน อินเดีย อาหรับ มาเลย์ และยุโรปเข้ามาทำการค้าและอาศัยอยุ่ เช่นเดียวกับเมืองท่าอื่นๆในแหลมมาลายู เช่น ปีนัง มะละกา และสิงคโปร์ การก่อสร้างและออกแบบอาคารจึงได้รับอิทธิพลจากนานาชาติไปด้วย ลักษณะของสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าในเมืองภูเก็ต อาจแบ่งได้ 3 ยุค คือ ยุคแรกประมาณช่วงพ.ศ. 2411-2443 เป็นช่วงของการเริ่มพัฒนาเมือง ยุคที่สองพ.ศ. 2444-2475 เป็นช่วงของการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมเอเชียกับยุโรป และยุคที่สามยุคนี้ได้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ตซึ่งชาวภูเก็ตทุกคนภาคภูมิใจ และตั้งใจจะรักษาให้คงอยู่สืบไป

ห้างสรรพสินค้า

ป่าตอง

ถลาง

อ้างอิง

  1. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/stat/y_stat51.html 2552. สืบค้น 30 มกราคม 2552.

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

7°53′N 98°23′E / 7.88°N 98.38°E / 7.88; 98.38