ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สวนสาธารณะเซนต์เจมส์"

พิกัด: 51°30′6″N 0°7′55″W / 51.50167°N 0.13194°W / 51.50167; -0.13194
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ (St. James's Park)''' เป็นสวนสาธารณะขนาด 58 เอเคอร์ใน[[เวสต์มินสเตอร์]] ใจกลาง[[กรุงลอนดอน]] และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในบรรดา[[อุทยานหลวงแห่งลอนดอน]] ตั้งอยู่ในส่วนทิศใต้สุดของย่านเซนต์เจมส์ ซึ่งตั้งชื่อตาม[[โรงพยาบาล]][[โรคเรื้อน]]ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ [[St. James the Less]]
'''สวนสาธารณะเซนต์เจมส์''' ({{lang-en|'''St. James's Park'''}}) เป็นสวนสาธารณะขนาด 58 เอเคอร์ใน[[เวสต์มินสเตอร์]] ใจกลาง[[กรุงลอนดอน]] และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในบรรดา[[อุทยานหลวงแห่งลอนดอน]] ตั้งอยู่ในส่วนทิศใต้สุดของย่านเซนต์เจมส์ ซึ่งตั้งชื่อตาม[[โรงพยาบาล]][[โรคเรื้อน]]ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ [[St. James the Less]]
สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ล้อมรอบด้วย[[พระราชวังบักกิงแฮม]]ทางทิศตะวันตก [[The Mall]] และ[[พระราชวังเซนต์เจมส์]]ทางทิศเหนือ [[Horse Guards]] ทางทิศตะวันออก และ [[Birdcage Walk]] ทางทิศใต้ ภายในสวนมีทะเลสาบขนาดเล็กที่ชื่อว่า St. James's Park Lake มีเกาะอยู่สองเกาะ ได้แก่ เกาะดั๊ก (Duck Island) (ตั้งชื่อตามฝูง[[นกน้ำ]]ในทะเลสาบ) และ West Island จากสะพานที่ทอดข้ามทะเลสาบจะมองเห็นทิวทัศน์ของพระราชวังบักกิงแฮมผ่านแมกไม้และน้ำพุ และทิวทัศน์ของอาคารหลักของ [[Foreign and Commonwealth Office]] ทางทิศตะวันออก
สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ล้อมรอบด้วย [[พระราชวังบัคกิงแฮม]]ทางทิศตะวันตก [[เดอะ มอลล์]]และ[[พระราชวังเซนต์เจมส์]]ทางทิศเหนือ [[Horse Guards]]ทางทิศตะวันออก และ [[Birdcage Walk]]ทางทิศใต้ ภายในสวนมีทะเลสาบขนาดเล็กที่ชื่อว่า[[ทะเลสาบสวนเซนต์เจมส์]] มีเกาะอยู่สองเกาะ ได้แก่ เกาะดั๊ก (Duck Island) (ตั้งชื่อตามฝูง[[นกน้ำ]]ในทะเลสาบ) และเกาะตะวันตก จากสะพานที่ทอดข้ามทะเลสาบจะมองเห็นทิวทัศน์ของพระราชวังบัคกิงแฮมผ่านแมกไม้และน้ำพุและทิวทัศน์ของอาคารหลักของ [[Foreign and Commonwealth Office]] ทางทิศตะวันออก

สวนตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่สวนสาธารณะที่กระจุกตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนอื่นๆได้แก่ (เรียงจากตะวันออกไปตะวันตก) [[Green Park]], [[Hyde Park]] และ [[Kensington Gardens]] สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ St. James's Park, Victoria และเวสมินสเตอร์
สวนตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่สวนสาธารณะที่กระจุกตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนอื่นๆ ได้แก่ (เรียงจากตะวันออกไปตะวันตก) [[สวนสาธารณะกรีนพาร์ค]], [[สวนสาธารณะไฮด์พาร์ค]] และ [[สวนเคนชิงตันการเดนส์]] สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ สถานีเซนต์เจมส์พาร์ค, สถานีวิกตอเรียและสถานีเวสมินสเตอร์
==ประวัติ==
==ประวัติ==
[[ไฟล์:St James's Park (original layout).jpg|250px|thumb|right|แบบแปลนสวนสาธารณะของ [[อังเดร์ มอร์เลต]] ในช่วงก่อนการเปลี่ยนแบบแปลนก่อสร้างที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า]]
[[ไฟล์:St James's Park (original layout).jpg|thumb|right|[[André Mollet]]'s design for the park in [[Charles II of England|Charles II]]'s time, before 18th and 19th century remodelling, which shaped a more natural-looking lake from the straight canal visible here, the eastern part of which was filled in to create [[Horse Guards Parade]].]]
[[ไฟล์:Green Park and St. James's Park London from 1833 Schmollinger map.jpg|250px|thumb|right|[[สวนสาธารณะกรีนพาร์ค]] และ สวนเซนต์เจมส์พาร์ค ใน [[พ.ศ. 2376]]]]


เมื่อ พ.ศ. 2075 [[พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 8]] ทรงซื้อที่ดินที่เป็น[[ที่ลุ่มน้ำขัง]] ซึ่งมักจะมีน้ำจาก Tyburn stream ที่ไหลจาก [[Eton College]] เข้าท่วมถึง ที่ดินผื้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของ York Palace ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ทรงยึดมาจาก Cardinal Wolsey เพื่อเป็นพระราชวังของพระองค์ เมื่อ[[พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเจมส์ที่ 1]]เสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2146 พระองค์รับสั่งให้ระบายน้ำออกจากอุทยานและปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งนำสัตว์จากดินแดนอื่นเข้ามาเลี้ยงไว้ในอุทยาน เช่น [[อูฐ]] [[จระเข้]] [[ช้าง]] รวมถึงสร้างกรงนกขนาดใหญ่ตลอดด้านทิศใต้ของอุทยานสำหรับเลี้ยงนกจากต่างดินแดน
เมื่อ พ.ศ. 2075 [[พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 8]] ทรงซื้อที่ดินที่เป็น[[ที่ลุ่มน้ำขัง]] ซึ่งมักจะมีน้ำจาก Tyburn stream ที่ไหลจาก[[วิทยาลัยเอตัน]] เข้าท่วมถึง ที่ดินผื้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของ[[พระราชวังยอร์ค]] ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ทรงยึดมาจากพระคาร์ดินัล วอลส์ซี่ เพื่อเป็นพระราชวังของพระองค์ เมื่อ[[พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเจมส์ที่ 1]]เสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2146 พระองค์รับสั่งให้ระบายน้ำออกจากอุทยานและปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งนำสัตว์จากดินแดนอื่นเข้ามาเลี้ยงไว้ในอุทยาน เช่น [[อูฐ]] [[จระเข้]] [[ช้าง]] รวมถึงสร้างกรงนกขนาดใหญ่ตลอดด้านทิศใต้ของอุทยานสำหรับเลี้ยงนกจากต่างดินแดน


ระหว่างที่[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2]] ประทับอยู่ที่[[ฝรั่งเศส]] ทรงประทับใจอุทยานที่งดงามที่พระราชวังหลวงแห่งฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ออกแบบอุทยานใหม่ให้ดูเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของนักปรับภูมิทัศน์ André Mollet การออกแบบใหม่รวมถึงการสร้างคลองขนาด 775x38 เมตรที่ปรากฏในแผนเดิม พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองทรงเปิดอุทยานให้ประชาชนเข้าชมได้ รวมทั้งทรงใช้เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่พระราชอาคันตุกะและนางสนม อย่างเช่น [[Nell Gwyn]] ในสมัยนั้นอุทยานมีชื่อเสียงอื้นฉาวในด้านเป็นสถานที่พบปะเพื่อกระทำการเสื่อมทางศีลธรรม ดังที่ John Wilmot, 2nd Earl of Rochester เขียนไว้ในบทกวี ''A Ramble in St. James's Park''
ระหว่างที่[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2]] ประทับอยู่ใน[[ฝรั่งเศส]] ทรงประทับใจอุทยานที่งดงามที่พระราชวังหลวงแห่งฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ออกแบบอุทยานใหม่ให้ดูเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของนักปรับภูมิทัศน์ [[อังเดร์ มอร์เลต]] การออกแบบใหม่รวมถึงการสร้างคลองขนาด 775 คูณ 38 เมตรที่ปรากฏในแผนเดิม พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองทรงเปิดอุทยานให้ประชาชนเข้าชมได้ รวมทั้งทรงใช้เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่พระราชอาคันตุกะและนางสนม อย่างเช่น [[Nell Gwyn]] ในสมัยนั้นอุทยานมีชื่อเสียงอื้นฉาวในด้านเป็นสถานที่พบปะเพื่อกระทำการเสื่อมทางศีลธรรม ดังที่ [[จอห์น วิลมอต เอิร์ลแห่งโรเชสเตอร์ที่ 2]] เขียนไว้ในบทกวี ''A Ramble in St. James's Park''


ในศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างภายในสวน ตัวอย่างเช่น การแปรสภาพส่วนหนึ่งของคลองเพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินสวนสนามของ Horse Guards และใน พ.ศ. 2304 พระราชวงศ์ได้ซื้อ Buckingham House ไป (ปัจจุบันคือพระราชวังบักกิงแฮม)
ในศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างภายในสวน ตัวอย่างเช่น การแปรสภาพส่วนหนึ่งของคลองเพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินสวนสนามของเหล่า[[ทหารม้ารักษาพระองค์]] และใน พ.ศ. 2304 พระราชวงศ์ได้ซื้อบ้านบัคกิงแฮมไป (ปัจจุบันคือพระราชวังบักกิงแฮม)
ในระหว่าง พ.ศ. 2369 - 2370 Prince Regent (ต่อมาคือ[[พระเจ้าจอร์จที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร|พระเจ้าจอร์จที่ 4]]) ทรงรับสั่งให้ปรับเปลี่ยนสวนใหม่ ควบคุมงานโดยสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์ [[จอห์น แนช]] ทำให้คลองที่เป็นเส้นตรงกลายเป็นทะเลสาบที่มีรูปร่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถนนที่มีรูปแบบเป็นทางการก็กลายเป็นทางเดินวนเวียนที่มีบรรยากาศโรแมนติก ขณะเดียวกันก็มีการขยายบ้านบัคกิงแฮม เพื่อสร้างพระราชวังในปัจจุบัน และสร้าง Marble Arch ไว้ที่ทางเข้า ขณะที่ The Mall กลายเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินหลัก ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสัญจรไปมาใน พ.ศ. 2430 หรืออีก 60 ปีถัดมา Marble Arch ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันที่ทางแยก [[ถนนออกฟอร์ด]] ตัดกับ [[พาร์คเลน]] เมื่อ พ.ศ. 2394 ขณะที่ตำแหน่งเดิมเป็นที่ตั้งของ[[อนุสาวรีย์สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย]] ระหว่าง พ.ศ. 2449 - 2467
[[ไฟล์:Green Park and St. James's Park London from 1833 Schmollinger map.jpg|thumb|right|[[Green Park]] and [[St. James's Park]] ''c.''1833]]
ในระหว่าง พ.ศ. 2369-2370 Prince Regent (ต่อมาคือ[[พระเจ้าจอร์จที่ 4 แห่งสหราชอาณาจักร|พระเจ้าจอร์จที่ 4]]) ทรงรับสั่งให้ปรับเปลี่ยนสวนใหม่ ควบคุมงานโดยสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์ [[John Nash]] ทำให้คลองที่เป็นเส้นตรงกลายเป็นทะเลสาบที่มีรูปร่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถนนที่มีรูปแบบเป็นทางการก็กลายเป็นทางเดินวนเวียนที่มีบรรยากาศโรแมนติก ขณะเดียวกันก็มีการขยาย Buckingham House เพื่อสร้างพระราชวังในปัจจุบัน และสร้าง Marble Arch ไว้ที่ทางเข้า ขณะที่ The Mall กลายเป็น grand processional route ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสัญชนไปมาใน พ.ศ. 2430 หรืออีก 60 ปีถัดมา Marble Arch ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันที่ทางแยก [[Oxford Street]] ตัดกับ [[Park Lane]] เมื่อ พ.ศ. 2394 ขณะที่ตำแหน่งเดิมเป็นที่ตั้งของ Victoria Memorial ระหว่าง พ.ศ. 2449-2467


==สมุดภาพ==
==สมุดภาพ==
<gallery widths="360px" heights="240px" perrow="2">
<gallery widths="360px" heights="240px" perrow="2">
ไฟล์:St James's Park Panorama - Sept 2006.jpg|ทิวทัศน์ของทะเลสาบเซนต์เจมส์พาร์คมทางทิศตะวันออกของสะพาน มองเห็น [[Shell Tower]] และ [[ลอนดอนอาย]] อยู่ด้านหลังอาคารหลักของ [[Foreign and Commonwealth Office]]
ไฟล์:St James's Park Panorama - Sept 2006.jpg|ทิวทัศน์ของทะเลสาบสวนเซนต์เจมส์ทางทิศตะวันออกของสะพาน มองเห็น [[Shell Tower]] และ [[ลอนดอนอาย]] อยู่ด้านหลังอาคารหลักของ [[Foreign and Commonwealth Office]]
ไฟล์:Buckingham Palace viewed from St. James's park.jpg|ทะเลสาบเซนต์เจมส์พาร์คมองเห็น[[พระราชวังบัคกิงแฮม]]ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ไฟล์:Buckingham Palace viewed from St. James's park.jpg|ทะเลสาบสวนเซนต์เจมส์มองเห็น[[พระราชวังบัคกิงแฮม]]ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ไฟล์:Yotam 1 217.jpg|ภายในสวนเต็มไปด้วยไม้ดอกหลากสี
ไฟล์:Yotam 1 217.jpg|ภายในสวนเต็มไปด้วยไม้ดอกหลากสี
ไฟล์:St James's Park Pelicans.jpg|ภายในสวนมีฝูง[[นกกระทุง]]ที่จะได้รับอาหารเวลา 2.30 pm ทุกวัน
ไฟล์:St James's Park Pelicans.jpg|ภายในสวนมีฝูง[[นกกระทุง]]ที่จะได้รับอาหารเวลา 2.30 pm ทุกวัน

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:17, 26 พฤษภาคม 2552

สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ (อังกฤษ: St. James's Park) เป็นสวนสาธารณะขนาด 58 เอเคอร์ในเวสต์มินสเตอร์ ใจกลางกรุงลอนดอน และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในบรรดาอุทยานหลวงแห่งลอนดอน ตั้งอยู่ในส่วนทิศใต้สุดของย่านเซนต์เจมส์ ซึ่งตั้งชื่อตามโรงพยาบาลโรคเรื้อนที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ St. James the Less สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ล้อมรอบด้วย พระราชวังบัคกิงแฮมทางทิศตะวันตก เดอะ มอลล์และพระราชวังเซนต์เจมส์ทางทิศเหนือ Horse Guardsทางทิศตะวันออก และ Birdcage Walkทางทิศใต้ ภายในสวนมีทะเลสาบขนาดเล็กที่ชื่อว่าทะเลสาบสวนเซนต์เจมส์ มีเกาะอยู่สองเกาะ ได้แก่ เกาะดั๊ก (Duck Island) (ตั้งชื่อตามฝูงนกน้ำในทะเลสาบ) และเกาะตะวันตก จากสะพานที่ทอดข้ามทะเลสาบจะมองเห็นทิวทัศน์ของพระราชวังบัคกิงแฮมผ่านแมกไม้และน้ำพุและทิวทัศน์ของอาคารหลักของ Foreign and Commonwealth Office ทางทิศตะวันออก

สวนตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่สวนสาธารณะที่กระจุกตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนอื่นๆ ได้แก่ (เรียงจากตะวันออกไปตะวันตก) สวนสาธารณะกรีนพาร์ค, สวนสาธารณะไฮด์พาร์ค และ สวนเคนชิงตันการเดนส์ สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ สถานีเซนต์เจมส์พาร์ค, สถานีวิกตอเรียและสถานีเวสมินสเตอร์

ประวัติ

แบบแปลนสวนสาธารณะของ อังเดร์ มอร์เลต ในช่วงก่อนการเปลี่ยนแบบแปลนก่อสร้างที่ดูเป็นธรรมชาติกว่า
สวนสาธารณะกรีนพาร์ค และ สวนเซนต์เจมส์พาร์ค ใน พ.ศ. 2376

เมื่อ พ.ศ. 2075 พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงซื้อที่ดินที่เป็นที่ลุ่มน้ำขัง ซึ่งมักจะมีน้ำจาก Tyburn stream ที่ไหลจากวิทยาลัยเอตัน เข้าท่วมถึง ที่ดินผื้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวังยอร์ค ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ทรงยึดมาจากพระคาร์ดินัล วอลส์ซี่ เพื่อเป็นพระราชวังของพระองค์ เมื่อพระเจ้าเจมส์ที่ 1เสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2146 พระองค์รับสั่งให้ระบายน้ำออกจากอุทยานและปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งนำสัตว์จากดินแดนอื่นเข้ามาเลี้ยงไว้ในอุทยาน เช่น อูฐ จระเข้ ช้าง รวมถึงสร้างกรงนกขนาดใหญ่ตลอดด้านทิศใต้ของอุทยานสำหรับเลี้ยงนกจากต่างดินแดน

ระหว่างที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ประทับอยู่ในฝรั่งเศส ทรงประทับใจอุทยานที่งดงามที่พระราชวังหลวงแห่งฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ออกแบบอุทยานใหม่ให้ดูเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของนักปรับภูมิทัศน์ อังเดร์ มอร์เลต การออกแบบใหม่รวมถึงการสร้างคลองขนาด 775 คูณ 38 เมตรที่ปรากฏในแผนเดิม พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองทรงเปิดอุทยานให้ประชาชนเข้าชมได้ รวมทั้งทรงใช้เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่พระราชอาคันตุกะและนางสนม อย่างเช่น Nell Gwyn ในสมัยนั้นอุทยานมีชื่อเสียงอื้นฉาวในด้านเป็นสถานที่พบปะเพื่อกระทำการเสื่อมทางศีลธรรม ดังที่ จอห์น วิลมอต เอิร์ลแห่งโรเชสเตอร์ที่ 2 เขียนไว้ในบทกวี A Ramble in St. James's Park

ในศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างภายในสวน ตัวอย่างเช่น การแปรสภาพส่วนหนึ่งของคลองเพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินสวนสนามของเหล่าทหารม้ารักษาพระองค์ และใน พ.ศ. 2304 พระราชวงศ์ได้ซื้อบ้านบัคกิงแฮมไป (ปัจจุบันคือพระราชวังบักกิงแฮม) ในระหว่าง พ.ศ. 2369 - 2370 Prince Regent (ต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 4) ทรงรับสั่งให้ปรับเปลี่ยนสวนใหม่ ควบคุมงานโดยสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์ จอห์น แนช ทำให้คลองที่เป็นเส้นตรงกลายเป็นทะเลสาบที่มีรูปร่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถนนที่มีรูปแบบเป็นทางการก็กลายเป็นทางเดินวนเวียนที่มีบรรยากาศโรแมนติก ขณะเดียวกันก็มีการขยายบ้านบัคกิงแฮม เพื่อสร้างพระราชวังในปัจจุบัน และสร้าง Marble Arch ไว้ที่ทางเข้า ขณะที่ The Mall กลายเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินหลัก ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสัญจรไปมาใน พ.ศ. 2430 หรืออีก 60 ปีถัดมา Marble Arch ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันที่ทางแยก ถนนออกฟอร์ด ตัดกับ พาร์คเลน เมื่อ พ.ศ. 2394 ขณะที่ตำแหน่งเดิมเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ระหว่าง พ.ศ. 2449 - 2467

สมุดภาพ

External links and references

51°30′6″N 0°7′55″W / 51.50167°N 0.13194°W / 51.50167; -0.13194