ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สวนสาธารณะเซนต์เจมส์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Wizard (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: '''สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ (St. James's Park)''' เป็นสวนสาธารณะขนาด 58 เอเคอร์ใน[…
 
Wizard (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
สวนตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่สวนสาธารณะที่กระจุกตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนอื่นๆได้แก่ (เรียงจากตะวันออกไปตะวันตก) [[Green Park]], [[Hyde Park]] และ [[Kensington Gardens]] สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ St. James's Park, Victoria และเวสมินสเตอร์
สวนตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่สวนสาธารณะที่กระจุกตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนอื่นๆได้แก่ (เรียงจากตะวันออกไปตะวันตก) [[Green Park]], [[Hyde Park]] และ [[Kensington Gardens]] สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ St. James's Park, Victoria และเวสมินสเตอร์
==ประวัติ==
==ประวัติ==
เมื่อ พ.ศ. 2075 [[พระเจ้าเฮนรี่ที่แปด]ทรงซื้อที่ดินที่เป็น[[ที่ลุ่มน้ำขัง]] ซึ่งมักจะมีน้ำจาก Tyburn stream ที่ไหลจาก [[Eton College]] เข้าท่วมถึง ที่ดินผื้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของ York Palace ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ทรงยึดมาจาก Cardinal Wolsey เพื่อเป็นพระราชวังของพระองค์ เมื่อ[[พระเจ้าเจมส์ที่หนึ่ง]]เสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2146 พระองค์รับสั่งให้ระบายน้ำออกจากอุทยานและปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งนำสัตว์จากดินแดนอื่นเข้ามาเลี้ยงไว้ในอุทยาน เช่น [[อูฐ]] [[จระเข้]] [[ช้าง]] รวมถึงสร้างกรงนกขนาดใหญ่ตลอดด้านทิศใต้ของอุทยานสำหรับเลี้ยงนกจากต่างดินแดน
เมื่อ พ.ศ. 2075 [[พระเจ้าเฮนรี่ที่แปด]]ทรงซื้อที่ดินที่เป็น[[ที่ลุ่มน้ำขัง]] ซึ่งมักจะมีน้ำจาก Tyburn stream ที่ไหลจาก [[Eton College]] เข้าท่วมถึง ที่ดินผื้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของ York Palace ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ทรงยึดมาจาก Cardinal Wolsey เพื่อเป็นพระราชวังของพระองค์ เมื่อ[[พระเจ้าเจมส์ที่หนึ่ง]]เสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2146 พระองค์รับสั่งให้ระบายน้ำออกจากอุทยานและปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งนำสัตว์จากดินแดนอื่นเข้ามาเลี้ยงไว้ในอุทยาน เช่น [[อูฐ]] [[จระเข้]] [[ช้าง]] รวมถึงสร้างกรงนกขนาดใหญ่ตลอดด้านทิศใต้ของอุทยานสำหรับเลี้ยงนกจากต่างดินแดน


ระหว่างที่[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่สอง]]ประทับอยู่ที่[[ฝรั่งเศส]] ทรงประทับใจอุทยานที่งดงามที่พระราชวังหลวงแห่งฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ออกแบบอุทยานใหม่ให้ดูเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของนักปรับภูมิทัศน์ André Mollet การออกแบบใหม่รวมถึงการสร้างคลองขนาด 775x38 เมตรที่ปรากฏในแผนเดิม พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองทรงเปิดอุทยานให้ประชาชนเข้าชมได้ รวมทั้งทรงใช้เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่พระราชอาคันตุกะและนางสนม อย่างเช่น [[Nell Gwyn]] ในสมัยนั้นอุทยานมีชื่อเสียงอื้นฉาวในด้านเป็นสถานที่พบปะเพื่อกระทำการเสื่อมทางศีลธรรม ดังที่ John Wilmot, 2nd Earl of Rochester เขียนไว้ในบทกวี ''A Ramble in St. James's Park''
ระหว่างที่[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่สอง]]ประทับอยู่ที่[[ฝรั่งเศส]] ทรงประทับใจอุทยานที่งดงามที่พระราชวังหลวงแห่งฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ออกแบบอุทยานใหม่ให้ดูเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของนักปรับภูมิทัศน์ André Mollet การออกแบบใหม่รวมถึงการสร้างคลองขนาด 775x38 เมตรที่ปรากฏในแผนเดิม พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองทรงเปิดอุทยานให้ประชาชนเข้าชมได้ รวมทั้งทรงใช้เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่พระราชอาคันตุกะและนางสนม อย่างเช่น [[Nell Gwyn]] ในสมัยนั้นอุทยานมีชื่อเสียงอื้นฉาวในด้านเป็นสถานที่พบปะเพื่อกระทำการเสื่อมทางศีลธรรม ดังที่ John Wilmot, 2nd Earl of Rochester เขียนไว้ในบทกวี ''A Ramble in St. James's Park''

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:00, 25 พฤษภาคม 2552

สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ (St. James's Park) เป็นสวนสาธารณะขนาด 58 เอเคอร์ในเวสต์มินสเตอร์ ใจกลางกรุงลอนดอน และมีอายุเก่าแก่ที่สุดในบรรดาอุทยานหลวงแห่งลอนดอน ตั้งอยู่ในส่วนทิศใต้สุดของย่านเซนต์เจมส์ ซึ่งตั้งชื่อตามโรงพยาบาลโรคเรื้อนที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ St. James the Less สวนสาธารณะเซนต์เจมส์ล้อมรอบด้วยพระราชวังบักกิงแฮมทางทิศตะวันตก The Mall และพระราชวังเซนต์เจมส์ทางทิศเหนือ Horse Guards ทางทิศตะวันออก และ Birdcage Walk ทางทิศใต้ ภายในสวนมีทะเลสาบขนาดเล็กที่ชื่อว่า St. James's Park Lake มีเกาะอยู่สองเกาะ ได้แก่ เกาะดั๊ก (Duck Island) (ตั้งชื่อตามฝูงนกน้ำในทะเลสาบ) และ West Island จากสะพานที่ทอดข้ามทะเลสาบจะมองเห็นทิวทัศน์ของพระราชวังบักกิงแฮมผ่านแมกไม้และน้ำพุ และทิวทัศน์ของอาคารหลักของ Foreign and Commonwealth Office ทางทิศตะวันออก สวนตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่สวนสาธารณะที่กระจุกตัวอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสวนอื่นๆได้แก่ (เรียงจากตะวันออกไปตะวันตก) Green Park, Hyde Park และ Kensington Gardens สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ St. James's Park, Victoria และเวสมินสเตอร์

ประวัติ

เมื่อ พ.ศ. 2075 พระเจ้าเฮนรี่ที่แปดทรงซื้อที่ดินที่เป็นที่ลุ่มน้ำขัง ซึ่งมักจะมีน้ำจาก Tyburn stream ที่ไหลจาก Eton College เข้าท่วมถึง ที่ดินผื้นนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของ York Palace ซึ่งพระเจ้าเฮนรี่ทรงยึดมาจาก Cardinal Wolsey เพื่อเป็นพระราชวังของพระองค์ เมื่อพระเจ้าเจมส์ที่หนึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 2146 พระองค์รับสั่งให้ระบายน้ำออกจากอุทยานและปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งนำสัตว์จากดินแดนอื่นเข้ามาเลี้ยงไว้ในอุทยาน เช่น อูฐ จระเข้ ช้าง รวมถึงสร้างกรงนกขนาดใหญ่ตลอดด้านทิศใต้ของอุทยานสำหรับเลี้ยงนกจากต่างดินแดน

ระหว่างที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองประทับอยู่ที่ฝรั่งเศส ทรงประทับใจอุทยานที่งดงามที่พระราชวังหลวงแห่งฝรั่งเศส ต่อมาเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงมีรับสั่งให้ออกแบบอุทยานใหม่ให้ดูเป็นทางการมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลงานของนักปรับภูมิทัศน์ André Mollet การออกแบบใหม่รวมถึงการสร้างคลองขนาด 775x38 เมตรที่ปรากฏในแผนเดิม พระเจ้าชาร์ลส์ที่สองทรงเปิดอุทยานให้ประชาชนเข้าชมได้ รวมทั้งทรงใช้เป็นสถานที่ให้ความบันเทิงแก่พระราชอาคันตุกะและนางสนม อย่างเช่น Nell Gwyn ในสมัยนั้นอุทยานมีชื่อเสียงอื้นฉาวในด้านเป็นสถานที่พบปะเพื่อกระทำการเสื่อมทางศีลธรรม ดังที่ John Wilmot, 2nd Earl of Rochester เขียนไว้ในบทกวี A Ramble in St. James's Park

ในศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างภายในสวน ตัวอย่างเช่น การแปรสภาพส่วนหนึ่งของคลองเพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินสวนสนามของ Horse Guards และใน พ.ศ. 2304 พระราชวงศ์ได้ซื้อ Buckingham House ไป (ปัจจุบันคือพระราชวังบักกิงแฮม)

ในระหว่าง พ.ศ.2369-2370 Prince Regent (ต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่สี่) ทรงรับสั่งให้ปรับเปลี่ยนสวนใหม่ ควบคุมงานโดยสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์ John Nash ทำให้คลองที่เป็นเส้นตรงกลายเป็นทะเลสาบที่มีรูปร่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ถนนที่มีรูปแบบเป็นทางการก็กลายเป็นทางเดินวนเวียนที่มีบรรยากาศโรแมนติก ขณะเดียวกันก็มีการขยาย Buckingham House เพื่อสร้างพระราชวังในปัจจุบัน และสร้าง Marble Arch ไว้ที่ทางเข้า ขณะที่ The Mall กลายเป็น grand processional route ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนสัญชนไปมาใน พ.ศ. 2430 หรืออีก 60 ปีถัดมา Marble Arch ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งปัจจุบันที่ทางแยก Oxford Street ตัดกับ Park Lane เมื่อ พ.ศ. 2394 ขณะที่ตำแหน่งเดิมเป็นที่ตั้งของ Victoria Memorial ระหว่าง พ.ศ. 2449-2467