ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรงเรียนสิรินธร"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 28: | บรรทัด 28: | ||
* [[อรอุมา เกษตรพืชผล]] : ผู้ประกาศข่าว พิธีกร |
* [[อรอุมา เกษตรพืชผล]] : ผู้ประกาศข่าว พิธีกร |
||
== ประวัติความเป็นมา == |
|||
*'''พ.ศ.2482''' ได้ย้ายที่เรียนไปเรียน ณ บริเวณหลังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ( บริเวณสโมสรข้าราชการปัจจุบัน ) |
|||
*'''พ.ศ.2486''' ได้งดรับนักเรียนในชั้นประถมศึกษา งดรับนักเรียนชาย คงรับเฉพาะนักเรียนหญิง ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เปิดสอนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3( ป.6 ในปัจจุบัน ) |
|||
*'''พ.ศ.2486''' การศึกษาของทางโรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ( ม. 3ในปัจจุบัน ) |
|||
*'''พ.ศ.2487''' ได้ย้ายที่เรียนไปเรียนที่โรงเรียนชลประชาบาล ( โรงเรียนเทศบาล 1ในปัจจุบัน ) |
|||
*'''พ.ศ.2502''' ทางจังหวัดมีนโยบายย้ายโรงเรียนให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ บริเวณหนองยาว โดยจัดหาที่ดินให้ประมาณ ๒๖ ไร่เศษ และทางจังหวัดได้จัดสร้างอาคารไม้ 2ชั้น ขนาด 6ห้องเรียนให้ 1หลัง โดยใช้งบประมาณ 120,000 บาท |
|||
*'''พ.ศ.2503''' ได้รับงบประมาณจากกรมสามัญศึกษาเป็นเงิน 100,000 บาท และได้รับเงินบริจาคสมทบจากผู้ปกครองนักเรียนอีก 70,000 บาท นำมาสร้างอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น ขนาด 6 ห้อง เรียน ( ณ บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ปัจจุบัน ) ในปีนี้ทางโรงเรียนได้เปิดสอนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นปีแรก โดยเปิดเฉพาะแผนกอักษรศาสตร์จำนวน 1 ห้อง |
|||
ใน วันที่ 4-5 ตุลาคม 2503 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำภาพยนตร์ส่วนพระองค์มาฉาย ได้เงินโดยเสด็จพระราชกุศลฯ ฝากจังหวัดเก็บไว้ 80,007 บาท |
|||
*'''พ.ศ.2504''' ใน วันที่ 5-6 สิงหาคม 2504 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำภาพยนตร์ส่วนพระองค์มาฉายเป็นครั้งที่ 2 ได้เงินโดยเสด็จพระราชกุศลฯ มาสมทบกับครั้งแรกเป็นเงิน 128,529 บาท |
|||
*'''พ.ศ.2505''' ได้รับงบประมาณให้สร้างอาคารไม้เพิ่มเติมจากอาคารเดิมซึ่งสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2503 ให้มีขนาดเป็น 10 ห้องเรียน ห้องพักครูและห้องอื่นๆ อีก 4 ห้องเรียน มีความยาว 63 เมตร ซึ่งพวกเราเรียกว่า " อาคารยาว " |
|||
ในปีนี้เองทางโรงเรียนได้สร้างบ้านพักครูขึ้นเป็นหลังแรก ซึ่งใช้เป็นบ้านพักอาจารย์ใหญ่ |
|||
*'''พ.ศ.2506''' ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศึกษาธิการจังหวัด อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสตรีสุรินทร์ พ่อค้าและประชาชน ได้นำเงินที่ได้จากการนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์มาจัดฉาย เมื่อปี พ.ศ. 2503 - 2504 ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อเสด็จพระราชกุศลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระราชทานคืนมาเพื่อสร้างหอประชุมโรงเรียน เราได้วางศิลาฤกษ์สร้างหอประชุม เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2506 โดยหลวงสวัสดิ์ศาสตรพุทธิ ( หอประชุมธารน้ำใจในปัจจุบัน ) และในปีนี้ได้ก่อสร้างอาคารเรียนไม้ ขนาด 6 ห้องเรียน 1 หลัง ( อาคาร 8 ในปัจจุบัน ) |
|||
*'''วันที่ 1 สิงหาคม 2506''' พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระราชทานนามใหม่ให้โรงเรียนว่า " สิรินธร " ซึ่งนามพระราชทานนี้ให้ไว้ตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดากิติวัฒนากุลโสภาคย์ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงเท่ากับเป็นนิมิตและสิริมงคลนามอันดียิ่งของโรงเรียนแห่งนี้ |
|||
*'''วันที่ 1 กันยายน 2506''' ได้ย้ายนักเรียนจากโรงเรียนประชาบาล มาเรียนรวมกันที่โรงเรียนสิรินธร และยกอาคารเรียนนั้นให้แก่เทศบาลเมืองสุรินทร์ |
|||
*'''พ.ศ.2507''' ได้มีพิธีเปิดหอประชุมธารน้ำใจ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2507 โดย ม.ล.ปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ |
|||
*'''พ.ศ.2508''' เริ่มสร้างอาคารโรงอาหาร ( ปัจจุบันรื้อและสร้างเป็นหอประชุมรวมฤทัยธำรง ) |
|||
*'''พ.ศ.2509''' เริ่มมีการติดตั้งการประปาในโรงเรียน |
|||
*'''พ.ศ.2510''' ผู้ปกครอง-นักเรียน-ศิษย์เก่า ร่วมกันแสดงละครในรายการ " ธารน้ำใจ " นำเงินรายได้จัดซื้อเครื่องอัดสำเนา ต่อเติมโรงอาหาร และจัดซื้อจักรเย็บผ้าเพื่อให้นักเรียนใช้ปฏิบัติในวิชาตัดเย็บ |
|||
*'''พ.ศ.2511''' สร้างโรงเก็บรถจักรยาน |
|||
*'''พ.ศ.2513''' จัดทำห้องปฏิบัติการภาษาอังกฤษ |
|||
*'''พ.ศ.2514''' เริ่มสร้างอาคาร 1 |
|||
*'''พ.ศ.2516''' จัดสร้างสะพานข้ามคลองด้านหน้าโรงเรียน โดยใช้เงินบริจาคจากผู้ปกครอง |
|||
*'''พ.ศ.2517''' จัดรายการ " ปัญจลีลา " นำรายได้สมทบจัดสร้างรั้วของโรงเรียน |
|||
*'''พ.ศ.2518''' สร้างอาคาร 9 ( อาคารร่วมเนรมิต ) |
|||
*'''พ.ศ.2519''' สร้างศาลาร่วมเนรมิต |
|||
*'''พ.ศ.2522''' เริ่มก่อตั้งมูลนิธิโรงเรียนสิริธร |
|||
*'''พ.ศ.2523''' สร้างอาคาร 2 ,อาคาร 3 และอาคาร 4 |
|||
*'''พ.ศ.2524''' สร้างศาลาสองศรีศตวรรษ |
|||
*'''พ.ศ.2527''' สร้างเวทีบันเทิงเชิงวิชา |
|||
*'''พ.ศ.2528''' จัดโครงการ " ทุกตารางเมตรเพื่อเธอ " เพื่อนำรายได้จัดทำถนนคอนกรีตภายในโรงเรียน |
|||
*'''พ.ศ.2532''' สร้างอาคารประชาสมพันธ์โดยให้ชื่อว่า " อาคารรักสิรินธร " โดยใช้เงินบริจาคซึ่งมีมูลนิธิปลั่งศรี ศิษย์และญาติมิตรเป็นแกนนำ |
|||
*'''พ.ศ.2534''' เริ่มสร้างอาคาร 5 และได้ขอพระราชทานนามว่า " อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ " ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาประกอบพิธีเปิดอาคารในวันที่ 15 กรกฎาคม 2537 |
|||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:39, 9 เมษายน 2552
โรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์ Sirindhon School | |
---|---|
ที่ตั้ง | |
ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ | |
ข้อมูล | |
ชื่ออื่น | ส.ธ. |
ประเภท | โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ |
คำขวัญ | เลิศวิทยา พลานามัยสมบูรณ์ เกื้อกูลชุมชน ประพฤติตนเป็นคนดี |
สถาปนา | พ.ศ.2484 |
หน่วยงานกำกับ | กระทรวงศึกษาธิการ |
ผู้อำนวยการ | นางภัทิรา เสงี่ยมศักดิ์ |
สี | ขาว แดง |
เว็บไซต์ | [1] |
โรงเรียนสิรินธร (อักษรย่อ: ส.ธ.) เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษประเภทสหศึกษา และเป็นส่วนราชการสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เดิมชื่อ "โรงเรียนสตรีสุรินทร์" โรงเรียนสิรินธร ก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ. 2487 ต่อมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามโรงเรียนใหม่ว่า " โรงเรียนสิรินธร " ซึ่งเป็นพระนามของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีในขณะนั้น
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
- อรอุมา เกษตรพืชผล : ผู้ประกาศข่าว พิธีกร
ประวัติความเป็นมา
- พ.ศ.2482 ได้ย้ายที่เรียนไปเรียน ณ บริเวณหลังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ( บริเวณสโมสรข้าราชการปัจจุบัน )
- พ.ศ.2486 ได้งดรับนักเรียนในชั้นประถมศึกษา งดรับนักเรียนชาย คงรับเฉพาะนักเรียนหญิง ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เปิดสอนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3( ป.6 ในปัจจุบัน )
- พ.ศ.2486 การศึกษาของทางโรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ( ม. 3ในปัจจุบัน )
- พ.ศ.2487 ได้ย้ายที่เรียนไปเรียนที่โรงเรียนชลประชาบาล ( โรงเรียนเทศบาล 1ในปัจจุบัน )
- พ.ศ.2502 ทางจังหวัดมีนโยบายย้ายโรงเรียนให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ บริเวณหนองยาว โดยจัดหาที่ดินให้ประมาณ ๒๖ ไร่เศษ และทางจังหวัดได้จัดสร้างอาคารไม้ 2ชั้น ขนาด 6ห้องเรียนให้ 1หลัง โดยใช้งบประมาณ 120,000 บาท
- พ.ศ.2503 ได้รับงบประมาณจากกรมสามัญศึกษาเป็นเงิน 100,000 บาท และได้รับเงินบริจาคสมทบจากผู้ปกครองนักเรียนอีก 70,000 บาท นำมาสร้างอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น ขนาด 6 ห้อง เรียน ( ณ บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ปัจจุบัน ) ในปีนี้ทางโรงเรียนได้เปิดสอนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นปีแรก โดยเปิดเฉพาะแผนกอักษรศาสตร์จำนวน 1 ห้อง
ใน วันที่ 4-5 ตุลาคม 2503 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำภาพยนตร์ส่วนพระองค์มาฉาย ได้เงินโดยเสด็จพระราชกุศลฯ ฝากจังหวัดเก็บไว้ 80,007 บาท
- พ.ศ.2504 ใน วันที่ 5-6 สิงหาคม 2504 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำภาพยนตร์ส่วนพระองค์มาฉายเป็นครั้งที่ 2 ได้เงินโดยเสด็จพระราชกุศลฯ มาสมทบกับครั้งแรกเป็นเงิน 128,529 บาท
- พ.ศ.2505 ได้รับงบประมาณให้สร้างอาคารไม้เพิ่มเติมจากอาคารเดิมซึ่งสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2503 ให้มีขนาดเป็น 10 ห้องเรียน ห้องพักครูและห้องอื่นๆ อีก 4 ห้องเรียน มีความยาว 63 เมตร ซึ่งพวกเราเรียกว่า " อาคารยาว "
ในปีนี้เองทางโรงเรียนได้สร้างบ้านพักครูขึ้นเป็นหลังแรก ซึ่งใช้เป็นบ้านพักอาจารย์ใหญ่
- พ.ศ.2506 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศึกษาธิการจังหวัด อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสตรีสุรินทร์ พ่อค้าและประชาชน ได้นำเงินที่ได้จากการนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์มาจัดฉาย เมื่อปี พ.ศ. 2503 - 2504 ขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อเสด็จพระราชกุศลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระราชทานคืนมาเพื่อสร้างหอประชุมโรงเรียน เราได้วางศิลาฤกษ์สร้างหอประชุม เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2506 โดยหลวงสวัสดิ์ศาสตรพุทธิ ( หอประชุมธารน้ำใจในปัจจุบัน ) และในปีนี้ได้ก่อสร้างอาคารเรียนไม้ ขนาด 6 ห้องเรียน 1 หลัง ( อาคาร 8 ในปัจจุบัน )
- วันที่ 1 สิงหาคม 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงพระราชทานนามใหม่ให้โรงเรียนว่า " สิรินธร " ซึ่งนามพระราชทานนี้ให้ไว้ตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดากิติวัฒนากุลโสภาคย์ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงเท่ากับเป็นนิมิตและสิริมงคลนามอันดียิ่งของโรงเรียนแห่งนี้
- วันที่ 1 กันยายน 2506 ได้ย้ายนักเรียนจากโรงเรียนประชาบาล มาเรียนรวมกันที่โรงเรียนสิรินธร และยกอาคารเรียนนั้นให้แก่เทศบาลเมืองสุรินทร์
- พ.ศ.2507 ได้มีพิธีเปิดหอประชุมธารน้ำใจ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2507 โดย ม.ล.ปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- พ.ศ.2508 เริ่มสร้างอาคารโรงอาหาร ( ปัจจุบันรื้อและสร้างเป็นหอประชุมรวมฤทัยธำรง )
- พ.ศ.2509 เริ่มมีการติดตั้งการประปาในโรงเรียน
- พ.ศ.2510 ผู้ปกครอง-นักเรียน-ศิษย์เก่า ร่วมกันแสดงละครในรายการ " ธารน้ำใจ " นำเงินรายได้จัดซื้อเครื่องอัดสำเนา ต่อเติมโรงอาหาร และจัดซื้อจักรเย็บผ้าเพื่อให้นักเรียนใช้ปฏิบัติในวิชาตัดเย็บ
- พ.ศ.2511 สร้างโรงเก็บรถจักรยาน
- พ.ศ.2513 จัดทำห้องปฏิบัติการภาษาอังกฤษ
- พ.ศ.2514 เริ่มสร้างอาคาร 1
- พ.ศ.2516 จัดสร้างสะพานข้ามคลองด้านหน้าโรงเรียน โดยใช้เงินบริจาคจากผู้ปกครอง
- พ.ศ.2517 จัดรายการ " ปัญจลีลา " นำรายได้สมทบจัดสร้างรั้วของโรงเรียน
- พ.ศ.2518 สร้างอาคาร 9 ( อาคารร่วมเนรมิต )
- พ.ศ.2519 สร้างศาลาร่วมเนรมิต
- พ.ศ.2522 เริ่มก่อตั้งมูลนิธิโรงเรียนสิริธร
- พ.ศ.2523 สร้างอาคาร 2 ,อาคาร 3 และอาคาร 4
- พ.ศ.2524 สร้างศาลาสองศรีศตวรรษ
- พ.ศ.2527 สร้างเวทีบันเทิงเชิงวิชา
- พ.ศ.2528 จัดโครงการ " ทุกตารางเมตรเพื่อเธอ " เพื่อนำรายได้จัดทำถนนคอนกรีตภายในโรงเรียน
- พ.ศ.2532 สร้างอาคารประชาสมพันธ์โดยให้ชื่อว่า " อาคารรักสิรินธร " โดยใช้เงินบริจาคซึ่งมีมูลนิธิปลั่งศรี ศิษย์และญาติมิตรเป็นแกนนำ
- พ.ศ.2534 เริ่มสร้างอาคาร 5 และได้ขอพระราชทานนามว่า " อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ " ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาประกอบพิธีเปิดอาคารในวันที่ 15 กรกฎาคม 2537