ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลำดับเรขาคณิต"
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม) |
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 61: | บรรทัด 61: | ||
[[ผลคูณ]]ของการก้าวหน้าเรขาคณิตก็คือผลคูณของทุกพจน์ในลำดับ และถ้าหากพจน์ทั้งหมดเป็นจำนวนบวก เราจะสามารถคำนวณผลคูณได้ด้วยการหาค่า[[มัชฌิมเรขาคณิต]]ของพจน์แรกกับพจน์สุดท้าย แล้ว[[ยกกำลัง]]ด้วยจำนวนพจน์ทั้งหมด ดังนี้ |
[[ผลคูณ]]ของการก้าวหน้าเรขาคณิตก็คือผลคูณของทุกพจน์ในลำดับ และถ้าหากพจน์ทั้งหมดเป็นจำนวนบวก เราจะสามารถคำนวณผลคูณได้ด้วยการหาค่า[[มัชฌิมเรขาคณิต]]ของพจน์แรกกับพจน์สุดท้าย แล้ว[[ยกกำลัง]]ด้วยจำนวนพจน์ทั้งหมด ดังนี้ |
||
::<math>\prod_{i=0}^{n} ar^i = \left( \sqrt{a_1 \cdot a_{n+1}}\right)^{n+1}</math> เมื่อ <math>a, r > 0</math> |
::<math>\prod_{i=0}^{n} ar^i = \left( \sqrt{a_1 \cdot a_{n+1}}\right)^{n+1}</math> เมื่อ <math>a, r > 0</math> |
||
;พิสูจน์ |
|||
กำหนดให้ผลคูณของการก้าวหน้าเลขคณิตแทนด้วย ''P'' |
|||
::<math>P=a \cdot ar \cdot ar^2 \cdots ar^{n-1} \cdot ar^{n}</math> |
|||
รวมผลจากการคูณเข้าด้วยกัน จะได้ |
|||
::<math>P=a^{n+1} r^{1+2+3+ \cdots +(n-1)+n}</math> |
|||
นำสูตรผลรวมของอนุกรมเลขคณิตมาใช้กับเลขชี้กำลังของ ''r'' |
|||
::<math>P=a^{n+1} r^{\frac{n(n+1)}{2}}</math> |
|||
::<math>P=(ar^{\frac{n}{2}})^{n+1}</math> |
|||
ยกกำลังสองทั้งสองข้าง |
|||
::<math>P^2=(a^2 r^{n})^{n+1}=(a\cdot ar^n)^{n+1}</math> |
|||
และในที่สุดก็จะได้ |
|||
::<math>P^2=(a_1 \cdot a_{n+1})^{n+1}</math> |
|||
::<math>P=(a_1 \cdot a_{n+1})^{\frac{n+1}{2}}</math> |
|||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:11, 13 มกราคม 2552
ในทางคณิตศาสตร์ การก้าวหน้าเรขาคณิต (อังกฤษ: geometric progression) หรือ ลำดับเรขาคณิต (อังกฤษ: geometric sequence) คือลำดับของจำนวนซึ่งอัตราส่วนของสมาชิกสองตัวที่อยู่ติดกันในลำดับเป็นค่าคงตัวที่ไม่เป็นศูนย์ ซึ่งอัตราส่วนนั้นเรียกว่า อัตราส่วนทั่วไป (common ratio) ตัวอย่างเช่น ลำดับ 2, 6, 18, 54, ... เป็นการก้าวหน้าเรขาคณิตซึ่งมีอัตราส่วนทั่วไปเท่ากับ 3 และลำดับ 10, 5, 2.5, 1.25, ... มีอัตราส่วนเท่ากับ 0.5 เป็นต้น
ถ้าหากพจน์เริ่มต้นของการก้าวหน้าเรขาคณิตลำดับหนึ่งคือ a1 และมีอัตราส่วนทั่วไป r ≠ 0 ดังนั้นพจน์ที่ n ของลำดับนี้คือ
หรือในกรณีทั่วไป จะได้
หรือเขียนได้ด้วยรูปแบบความสัมพันธ์เวียนเกิด
สมบัติเบื้องต้น
การที่จะทำให้ทราบได้ว่าลำดับที่กำหนดให้เป็นการก้าวหน้าเรขาคณิตหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จากอัตราส่วนของพจน์ที่อยู่ติดกัน ซึ่งจะมีค่าเท่ากันทั้งลำดับ อัตราส่วนทั่วไปอาจเป็นค่าติดลบก็ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดลำดับสลับเครื่องหมาย หมายความว่าจำนวนจะสลับเครื่องหมายบวกลบตลอดทั้งลำดับ เช่น 1, −3, 9, −27, 81, −243, ... เป็นการก้าวหน้าเรขาคณิตซึ่งมีอัตราส่วนทั่วไปเท่ากับ −3
พฤติกรรมของจำนวนในการก้าวหน้าเรขาคณิตขึ้นอยู่กับค่าของอัตราส่วนทั่วไป
- ถ้าเป็นจำนวนบวก ทุกพจน์จะมีเครื่องหมายเหมือนกับพจน์แรก
- ถ้าเป็นจำนวนลบ ทุกพจน์จะมีเครื่องหมายบวกลบสลับกัน
- ถ้ามากกว่า 1 ลำดับนั้นจะเพิ่มแบบชี้กำลัง (exponential growth) ไปยังอนันต์
- ถ้าเท่ากับ 1 ลำดับนั้นจะคงที่ทุกพจน์
- ถ้ามีค่าอยู่ระหว่าง −1 ถึง 1 แต่ไม่เป็น 0 ลำดับนั้นจะลดแบบชี้กำลัง (exponential decay) ไปยังศูนย์
- ถ้าเท่ากับ −1 ลำดับนั้นจะมีเครื่องหมายบวกลบสลับกัน แต่ค่าตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลง
- ถ้าน้อยกว่า −1 ค่าสัมบูรณ์ของพจน์ต่างๆ จะเพิ่มแบบชี้กำลังไปยังอนันต์
จะเห็นว่าการก้าวหน้าเรขาคณิต (ที่มีอัตราส่วนไม่ใช่ −1, 1 หรือ 0) แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มหรือการลดแบบชี้กำลัง ต่างกับการเพิ่ม (หรือลด) แบบเชิงเส้นของการก้าวหน้าเลขคณิต แต่การก้าวหน้าทั้งสองชนิดก็มีความเกี่ยวข้องกัน นั่นคือ ถ้าหากใส่ฟังก์ชันเลขชี้กำลังลงในทุกพจน์ของการก้าวหน้าเลขคณิตก็จะได้การก้าวหน้าเรขาคณิต และหากใส่ฟังก์ชันลอการิทึมลงในทุกพจน์ของการก้าวหน้าเรขาคณิตก็จะได้การก้าวหน้าเลขคณิต
ผลรวม
ผลรวมของสมาชิกในการก้าวหน้าเรขาคณิต เรียกว่า อนุกรมเรขาคณิต (อังกฤษ: geometric series)
เราสามารถทำสูตรให้ง่ายขึ้นโดยการคูณทั้งสองข้างของสมการด้วย แล้วเราจะได้
ซึ่งพจน์อื่นๆ จะตัดกันหายไปหมด จัดรูปแบบใหม่ จะได้สูตรสำหรับคำนวณผลรวม โดยที่ r ≠ 1
ดังนั้นกรณีทั่วไปของสูตรนี้คือ
สำหรับอนุกรมเรขาคณิตที่มีแต่เลขชี้กำลังของ r เป็นจำนวนคู่ คูณทั้งสองข้างด้วย
จะได้สูตร
ส่วนเลขชี้กำลังของ r ที่มีแต่จำนวนคี่
จะได้สูตร
อนุกรมเรขาคณิตไม่จำกัด
อนุกรมเรขาคณิตไม่จำกัด คืออนุกรมเรขาคณิตที่มีจำนวนพจน์ไม่จำกัดหรือเป็นจำนวนอนันต์ อนุกรมนี้จะลู่เข้าค่าใดค่าหนึ่งก็ต่อเมื่อ ค่าสัมบูรณ์ของอัตราส่วนทั่วไปมีค่าน้อยกว่าหนึ่ง () ค่าของอนุกรมเรขาคณิตไม่จำกัดสามารถคำนวณได้จากสูตรของผลรวมจำกัด
ซึ่ง จะมีค่าเข้าใกล้ 0 เมื่อ k มีค่าเข้าใกล้อนันต์และ ดังนั้น
สำหรับอนุกรมเรขาคณิตที่มีแต่เลขชี้กำลังของ r เป็นจำนวนคู่ จะได้สูตร
ส่วนเลขชี้กำลังของ r ที่มีแต่จำนวนคี่ จะได้สูตร
โดยที่สูตรทั้งหมดด้านบนจะใช้ได้เมื่อ เท่านั้น นอกเหนือจากนี้จะเป็นอนุกรมลู่ออก
ผลคูณ
ผลคูณของการก้าวหน้าเรขาคณิตก็คือผลคูณของทุกพจน์ในลำดับ และถ้าหากพจน์ทั้งหมดเป็นจำนวนบวก เราจะสามารถคำนวณผลคูณได้ด้วยการหาค่ามัชฌิมเรขาคณิตของพจน์แรกกับพจน์สุดท้าย แล้วยกกำลังด้วยจำนวนพจน์ทั้งหมด ดังนี้
- เมื่อ
- พิสูจน์
กำหนดให้ผลคูณของการก้าวหน้าเลขคณิตแทนด้วย P
รวมผลจากการคูณเข้าด้วยกัน จะได้
นำสูตรผลรวมของอนุกรมเลขคณิตมาใช้กับเลขชี้กำลังของ r
ยกกำลังสองทั้งสองข้าง
และในที่สุดก็จะได้