ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ออร์สัน สก็อต การ์ด"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
YurikBot (คุย | ส่วนร่วม)
robot Adding: da, pt
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
การ์ดเริ่มอาชีพนักเขียนของเขาด้วยการเขียน[[นิยายวิทยาศาสตร์]] (เช่น ''Hot Sleep'' และ ''Capitol'') หลังจากนั้นมักเป็นนิยาย[[แฟนตาซี]] (''Songmaster'') เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากผลงานเรื่อง ''[[เกมของเอ็นเดอร์]]'' (''Ender's Game'') ที่เป็นหนึ่งในนิยายวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนับตั้งแต่การพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี [[พ.ศ. 2528]] ทั้ง ''เกมของเอ็นเดอร์'' และนิยายภาคต่อ ''Speaker for the Dead'' ได้รับทั้ง[[รางวัลฮิวโก]]และ[[รางวัลเนบิวลา]] ทำให้การ์ดเป็นนักเขียนคนเดียว (เท่าที่ทราบจนถึงปี [[พ.ศ. 2547]]) ที่ชนะรางวัลสูงสุดของนิยายวิทยาศาสตร์สองรางวัลพร้อมกันในปีติดกัน การ์ดได้เขียนเรื่องราวต่อเนื่องกันเป็นลำดับ ด้วยเรื่อง ''Xenocide'', ''Children of the Mind'', ''Ender's Shadow'', ''Shadow of the Hegemon'', ''Shadow Puppets'', และในปี [[พ.ศ. 2548]] เรื่อง ''Shadow of the Giant'' การ์ดได้ประกาศว่า ''เกมของเอ็นเดอร์'' จะได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ (''ดู [[เกมของเอ็นเดอร์ (ภาพยนตร์)]]'').
การ์ดเริ่มอาชีพนักเขียนของเขาด้วยการเขียน[[นิยายวิทยาศาสตร์]] (เช่น ''Hot Sleep'' และ ''Capitol'') หลังจากนั้นมักเป็นนิยาย[[แฟนตาซี]] (''Songmaster'') เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากผลงานเรื่อง ''[[เกมของเอ็นเดอร์]]'' (''Ender's Game'') ที่เป็นหนึ่งในนิยายวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนับตั้งแต่การพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี [[พ.ศ. 2528]] ทั้ง ''เกมของเอ็นเดอร์'' และนิยายภาคต่อ ''Speaker for the Dead'' ได้รับทั้ง[[รางวัลฮิวโก]]และ[[รางวัลเนบิวลา]] ทำให้การ์ดเป็นนักเขียนคนเดียว (เท่าที่ทราบจนถึงปี [[พ.ศ. 2547]]) ที่ชนะรางวัลสูงสุดของนิยายวิทยาศาสตร์สองรางวัลพร้อมกันในปีติดกัน การ์ดได้เขียนเรื่องราวต่อเนื่องกันเป็นลำดับ ด้วยเรื่อง ''Xenocide'', ''Children of the Mind'', ''Ender's Shadow'', ''Shadow of the Hegemon'', ''Shadow Puppets'', และในปี [[พ.ศ. 2548]] เรื่อง ''Shadow of the Giant'' การ์ดได้ประกาศว่า ''เกมของเอ็นเดอร์'' จะได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ (''ดู [[เกมของเอ็นเดอร์ (ภาพยนตร์)]]'').


เขาได้ฉีกตัวเองไปเขียนนิยายร่วมสมัยเช่น Lost Boys, Treasure Box และ Enchantment รวมถึงได้แสดงความสามารถรอบตัวโดยดัดแปลงภาพยนตร์เรื่อง The Abyss ของผู้กำกับชื่อดัง James Cameron ให้เป็นนวนิยาย แต่งประวัติศาสตร์ทางเลือกชุด The Tales of Alvin Maker (เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาที่มีเวทมนต์คาถาจริง) และ Pastwatch อีกทั้งร่วมเขียนหนังสือการ์ตูนแนวนิยายวิทยาศาสตร์
เขาได้ฉีกตัวเองและได้เขียนนิยายร่วมสมัย รวมถึงได้ร่วมทำงานกับผู้กำกับ และนักวาดการ์ตูนที่มีชื่อเสียง

<!---He has since branched out into contemporary fiction, such as ''[[Lost Boys]]'', ''[[Treasure Box]]'' and ''[[Enchantment (novel)|Enchantment]]''. Other works demonstrating his versatility include the novelization of the [[James Cameron]] film ''[[The Abyss]]'', the alternate histories ''[[The Tales of Alvin Maker]]'' and ''[[Pastwatch: The Redemption of Christopher Columbus]]'', ''[[Robota]]'', a collaboration with ''[[Star Wars]]'' artist [[Doug Chiang]], and the comic book ''[[Ultimate Iron Man]]'' for [[Marvel Comics]]' [[Ultimate Marvel Universe]] series.-->
<!---He has since branched out into contemporary fiction, such as ''[[Lost Boys]]'', ''[[Treasure Box]]'' and ''[[Enchantment (novel)|Enchantment]]''. Other works demonstrating his versatility include the novelization of the [[James Cameron]] film ''[[The Abyss]]'', the alternate histories ''[[The Tales of Alvin Maker]]'' and ''[[Pastwatch: The Redemption of Christopher Columbus]]'', ''[[Robota]]'', a collaboration with ''[[Star Wars]]'' artist [[Doug Chiang]], and the comic book ''[[Ultimate Iron Man]]'' for [[Marvel Comics]]' [[Ultimate Marvel Universe]] series.-->


การเขียนของเขาเต็มไปด้วย[[การสร้างตัวละคร]]อย่างละเอียด และประเด็นด้านศีลธรรม ดังที่การ์ดได้กลาวไว้ว่า "เราแคร์ในเรื่องประเด็นด้านศีลธรรม ความยิ่งใหญ่<!--nobility--> ความถูกต้อง ความสุข และความดี&mdash;ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลในโลกของความเป็นจริง แต่เป็นสิ่งที่สามารถกล่าวถึงได้ในระดับแก่นแท้ แค่ในนิยายเท่านั้น"
การเขียนของเขาเต็มไปด้วย[[การสร้างตัวละคร]]อย่างละเอียด และประเด็นด้านศีลธรรม ดังที่การ์ดได้กล่าวไว้ว่า "เราแคร์ในเรื่องประเด็นด้านศีลธรรม ความสูงส่งทางจริยธรรม <!--nobility--> ความถูกต้อง ความสุข และความดี&mdash;ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลในโลกของความเป็นจริง แต่เป็นสิ่งที่สามารถกล่าวถึงได้ในระดับแก่นแท้ แค่ในนิยายเท่านั้น"


{{โครงนักเขียน}}
{{โครงนักเขียน}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:46, 8 มีนาคม 2549

ออร์สัน สก็อต การ์ด (Orson Scott Card) นักเขียนที่มีผลงานสม่ำเสมอ ในหลาย ๆ ประเภท รวมถึงนิยายวิทยาศาสตร์

การ์ดเริ่มอาชีพนักเขียนของเขาด้วยการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ (เช่น Hot Sleep และ Capitol) หลังจากนั้นมักเป็นนิยายแฟนตาซี (Songmaster) เขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากผลงานเรื่อง เกมของเอ็นเดอร์ (Ender's Game) ที่เป็นหนึ่งในนิยายวิทยาศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนับตั้งแต่การพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2528 ทั้ง เกมของเอ็นเดอร์ และนิยายภาคต่อ Speaker for the Dead ได้รับทั้งรางวัลฮิวโกและรางวัลเนบิวลา ทำให้การ์ดเป็นนักเขียนคนเดียว (เท่าที่ทราบจนถึงปี พ.ศ. 2547) ที่ชนะรางวัลสูงสุดของนิยายวิทยาศาสตร์สองรางวัลพร้อมกันในปีติดกัน การ์ดได้เขียนเรื่องราวต่อเนื่องกันเป็นลำดับ ด้วยเรื่อง Xenocide, Children of the Mind, Ender's Shadow, Shadow of the Hegemon, Shadow Puppets, และในปี พ.ศ. 2548 เรื่อง Shadow of the Giant การ์ดได้ประกาศว่า เกมของเอ็นเดอร์ จะได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ (ดู เกมของเอ็นเดอร์ (ภาพยนตร์)).

เขาได้ฉีกตัวเองไปเขียนนิยายร่วมสมัยเช่น Lost Boys, Treasure Box และ Enchantment รวมถึงได้แสดงความสามารถรอบตัวโดยดัดแปลงภาพยนตร์เรื่อง The Abyss ของผู้กำกับชื่อดัง James Cameron ให้เป็นนวนิยาย แต่งประวัติศาสตร์ทางเลือกชุด The Tales of Alvin Maker (เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาที่มีเวทมนต์คาถาจริง) และ Pastwatch อีกทั้งร่วมเขียนหนังสือการ์ตูนแนวนิยายวิทยาศาสตร์


การเขียนของเขาเต็มไปด้วยการสร้างตัวละครอย่างละเอียด และประเด็นด้านศีลธรรม ดังที่การ์ดได้กล่าวไว้ว่า "เราแคร์ในเรื่องประเด็นด้านศีลธรรม ความสูงส่งทางจริยธรรม ความถูกต้อง ความสุข และความดี—ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลในโลกของความเป็นจริง แต่เป็นสิ่งที่สามารถกล่าวถึงได้ในระดับแก่นแท้ แค่ในนิยายเท่านั้น"