ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บอลเชวิค"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด +แจ้งรอตรวจสอบด้วยบอต
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{รอการตรวจสอบ}}
'''บอลเชวิค''' (Bolshevik) ในภาษารัสเซียเขียนว่า Большеви́к อ่านว่า "บัลเชวิค" แผลงมาจากคำว่า อ่านว่า "บัลชินสะทะวา" แปลว่า ส่วนใหญ่ หรือ หมู่มาก บอลเชวิค หมายถึงสมาชิกของมุ้งๆหนึ่งภายใน[[พรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย ]]หรือ [[RSDLP]] (Russian Social Democratic Labour Party) ซึ่งนิยมลัทธิมาร์กซิสต์ กลุ่มนี้นำโดย[[เลนิน]]
'''บอลเชวิค''' (Bolshevik) ในภาษารัสเซียเขียนว่า Большеви́к อ่านว่า "บัลเชวิค" แผลงมาจากคำว่า อ่านว่า "บัลชินสะทะวา" แปลว่า ส่วนใหญ่ หรือ หมู่มาก บอลเชวิค หมายถึงสมาชิกของมุ้งๆหนึ่งภายใน[[พรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย ]]หรือ [[RSDLP]] (Russian Social Democratic Labour Party) ซึ่งนิยมลัทธิมาร์กซิสต์ กลุ่มนี้นำโดย[[เลนิน]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:11, 12 มิถุนายน 2551

บอลเชวิค (Bolshevik) ในภาษารัสเซียเขียนว่า Большеви́к อ่านว่า "บัลเชวิค" แผลงมาจากคำว่า อ่านว่า "บัลชินสะทะวา" แปลว่า ส่วนใหญ่ หรือ หมู่มาก บอลเชวิค หมายถึงสมาชิกของมุ้งๆหนึ่งภายในพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยรัสเซีย หรือ RSDLP (Russian Social Democratic Labour Party) ซึ่งนิยมลัทธิมาร์กซิสต์ กลุ่มนี้นำโดยเลนิน

ในพรรคนี้ ยังมีอีกมุ้งหนึ่ง เรียกกันว่า เมนเชวิค ซึ่งแผลงมาจากคำในภาษารัสเซีย Меньшевик อ่านว่า "เมนชินสะทะวา" แปลว่า ส่วนน้อย กลุ่มเมนชิวิค นำโดย จูเลียส มาร์ตอฟ เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดคนหนึ่งของเลนิน

การแตกคอกัน มีขึ้นในการประชุมใหญ่ของพรรคครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ และ ลอนดอน เมื่อปี 1903 และท้ายที่สุดแล้ว กลุ่มบอลเชวิค ก็กลายมาเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต

พวกบอลเชวิค มองเศรษฐกิจในแนวสัมคมนิยมสุดขั้ว และเชื่อในความเป็นสากลของชนชั้นกรรมาชีพ พวกเขายึดหลักอำนาจเผด็จการพรรคเดียว และเป้าหมายสูงสุดเรื่องการปฏิวัติโลก พวกเขาปฏิเสธความ เป็นชาติรัฐของรัสเซีย ความเชื่อและแนวทางปฏิบัติของพวกเขามักถูกเรียกรวมๆว่าบอลเชวิซึ่ม หรือBolshevism


จุดเริ่มของการแตกคอ

การแตกคอกันของเลนิน และมาร์ตอฟ มีขึ้นหลังจากที่เลนินเสนอว่า ควรจำกัดสมาชิกพรรคให้เป็นเฉพาะนักปฏิวัติมืออาชีพเท่านั้น แต่มาร์ตอฟไม่เห็นด้วย เบื้องแรก กลุ่มของเลนิน ถูกเรียกว่ากลุ่มแข็ง ซึ่งหมายถึงมีท่าทีที่แข็งกร้าวในเรื่องนี้ และกลุ่มของมาร์ตอฟ เรียกกันว่า กลุ่มอ่อน จากท่าทีที่อ่อนโอนมากกว่ากลุ่มของเล นิน แต่ต่อมา ก็เรียกกันว่า บอลเชวิค และ เมนเชวิค เนื่องจากเลนินมีผู้สนับสนุนมากกว่าเล็กน้อย และการที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนอย่างเด็ดขาดได้ ในที่สุดในการประชุมครั้งนั้น ก็มีการแยกกันเป็น 2 มุ้งชัดเจน

เดือนเมษายน 1905 บอลเชวิคจัดการประชุมสมาชิกกลุ่มที่ลอนดอน โดยเรียกว่าการประชุมใหญ่พรรค ครั้งที่ 3ด้านเมนเชวิค ก็จัดการประชุมขึ้นโต้ตอบมาบ้าง และนั่นก็เป็นการแบ่งแยกกลุ่มกันอย่างเป็นทางการ

การตั้งพรรคใหม่

หลังการปฏิวัติรัสเซีย ปี 1905 พรรค RSDLP ได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองในรัฐสภารัสเซีย และทั้งสองมุ้งในพรรคมีความพยายามที่จะกลับมารวมกลุ่มกันหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ และได้แยกตัวกันอย่างถาวรในเดือนมกราคม 1912 เมื่อบอลเชวิค จัดการประชุมใหญ่เฉพาะกลุ่มที่ ปราก และประกาศขับ เมนเชวิคออกจากพรรค การแบ่งเป็นมุ้งภายในพรรค RSDLP จึงไม่มีอีกต่อไป และพวกบอลเชวิคก็ประกาศตัว เป็นพรรคอิสระ ที่มีชื่อว่า RSDLP ( บอลเชวิค )

พลพรรคบอลเชวิค ภายใต้การนำของเลนิน ได้นำกำลังเข้ายึดอำนาจการปกครองในรัสเซียระหว่างการ ปฏิวัติเดือนตุลาคม 1917 สถาปนารัสเซียเป็นประเทศสังคมนิยมประเทศแรกของโลก และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น สหภาพโซเวียต

มีนาคม 1918 ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของพรรค RSDLP ( บอลเชวิค )มีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น พรรคคอมมิวนิสต์ทั่วรัสเซีย (บอลเชวิค )เพื่อให้แตกต่างชัดเจนจากพรรคอดีตมุ้งในพรรค RSDLP ที่ยังเหลืออยู่ หลังการเปลี่ยนชื่อ พรรคก็ถูกเรียกติดปากแค่พรรคคอมมิวนิสต์ และต่อมาเมื่อประเทศกลายมา เป็นสหภาพโซเวียต และพรรคไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะคนรัสเซียเท่านั้น ในการประชุมใหญ่พรรคครั้งที่ 19 ปี 1952 พรรคจึงเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต และใช้ต่อมาจนสหภาพโซเวียตล่มสลาย