ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซิมโฟนีหมายเลข 5 (เบทโฮเฟิน)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
JAnDbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: sk:Symfónia č. 5 (Beethoven) แก้ไข: nl:Symfonie nr. 5 (Van Beethoven)
Voraprachw (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ภาพ:Beethoven wiki.jpg|250px|thumb|right|[[ลุดวิก ฟาน เบโทเฟน]]]]
[[ภาพ:Beethoven wiki.jpg|250px|thumb|right|[[ลุดวิก ฟาน เบโทเฟน]]]]


'''ซิมโฟนีหมายเลข 5 ในบันไดเสียง ซี ไมเนอร์''' (Symphony No. 5 in C Minor) ของ[[บีโทเฟน]] เป็นผลงานที่เขาประพันธ์ขึ้นในช่วง [[ค.ศ. 1804]]-[[ค.ศ. 1808|1808]] ในแคตาลอกผลงานของบีโทเฟนระบุเลข[[โอปุส]] 67 (Opus 67) [[ซิมโฟนี]]บทนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงาน[[ดนตรีคลาสสิก]]ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และรู้จักกันแพร่หลายที่สุด รวมทั้งถูกนำออกแสดงและได้รับการบันทึกเสียงมากที่สุด
'''ซิมโฟนีหมายเลข 5 ในบันไดเสียง ซี ไมเนอร์''' (Symphony No. 5 in C Minor) ของ[[เบโทเฟน]] เป็นผลงานที่เขาประพันธ์ขึ้นในช่วง [[ค.ศ. 1804]]-[[ค.ศ. 1808|1808]] ในแคตาลอกผลงานของบีโทเฟนระบุเลข[[โอปุส]] 67 (Opus 67) [[ซิมโฟนี]]บทนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงาน[[ดนตรีคลาสสิก]]ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และรู้จักกันแพร่หลายที่สุด รวมทั้งถูกนำออกแสดงและได้รับการบันทึกเสียงมากที่สุด


ซิมโฟนีบทนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว หลังจากนำออกแสดงครั้งแรกเมื่อ [[ค.ศ. 1808]] ในเวลานั้น แอนสท์ เทโอดอร์ อะมาดอยส์ ฮอฟฟ์มันน์ (Ernst Theodor Amadeus Hoffmann) ได้บรรยายเอาไว้ว่า "นับเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญที่สุดแห่งยุค"
ซิมโฟนีบทนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว หลังจากนำออกแสดงครั้งแรกเมื่อ [[ค.ศ. 1808]] ในเวลานั้น แอนสท์ เทโอดอร์ อะมาดอยส์ ฮอฟฟ์มันน์ (Ernst Theodor Amadeus Hoffmann) ได้บรรยายเอาไว้ว่า "นับเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญที่สุดแห่งยุค"

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:49, 2 มิถุนายน 2551

ลุดวิก ฟาน เบโทเฟน

ซิมโฟนีหมายเลข 5 ในบันไดเสียง ซี ไมเนอร์ (Symphony No. 5 in C Minor) ของเบโทเฟน เป็นผลงานที่เขาประพันธ์ขึ้นในช่วง ค.ศ. 1804-1808 ในแคตาลอกผลงานของบีโทเฟนระบุเลขโอปุส 67 (Opus 67) ซิมโฟนีบทนี้นับว่าเป็นหนึ่งในงานดนตรีคลาสสิกที่ได้รับความนิยมสูงสุด และรู้จักกันแพร่หลายที่สุด รวมทั้งถูกนำออกแสดงและได้รับการบันทึกเสียงมากที่สุด

ซิมโฟนีบทนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว หลังจากนำออกแสดงครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1808 ในเวลานั้น แอนสท์ เทโอดอร์ อะมาดอยส์ ฮอฟฟ์มันน์ (Ernst Theodor Amadeus Hoffmann) ได้บรรยายเอาไว้ว่า "นับเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญที่สุดแห่งยุค"

บทเพลงนี้ขึ้นต้นด้วยตัวโน้ตหลักที่รู้จักกันอย่างดี 4 ตัว "แท้น แท้น แท้น แถ่น..."

เนื่องจากโน้ตหลัก 4 ตัวของเพลงคล้ายกับรหัสมอร์ส (คือ จุด จุด จุด ขีด) ที่ตรงกับอักษรโรมัน V โน้ตหลักนี้จึงใช้เป็นเครื่องหมายของคำว่า "victory" (ชัยชนะ) ในพิธีเปิดการออกอากาศสถานีวิทยุบีบีซี (BBC) ของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นความคิดของวิลเลียม สตีเฟนสัน (William Stephenson)


การบรรเลงรอบปฐมฤกษ์

ซิมโฟนีบทที่ 5 นี้ถูกนำออกบรรเลงเป็นรอบแรก เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1808 โดยที่บีโทเฟนเป็นผู้ควบคุมวงด้วยตนเองปฐมทัศน์ โอกาสดังกล่าวถือว่าเป็นคอนเสิร์ตยักษ์ใหญ่ ประกอบด้วยผลงานใหม่ทั้งหมดของบีโทเฟน โดยได้แสดงที่โรงละคร Theater an der Wien ในกรุงเวียนนา และมีรายการแสดงดังนี้

  • ซิมโฟนีหมายเลข 6 (Symphony No. 6)
  • Aria: "Ah, perfido", Op. 65
  • The Gloria movement of the Mass in C Major
  • Piano Concerto No. 4
  • -- พักการแสดง --
  • ซิมโฟนีหมายเลข 5
  • Sanctus and Benedictus movements of the C Major Mass
  • Choral Fantasy

การแสดงดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว

สำหรับซิมโฟนีหมายเลข 5 และหมายเลข 6 ซึ่งประพันธ์ขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันนั้น ปรากฏในโปรแกรมคอนเสิร์ตเป็นหมายเลข 6 และ 5 ตามลำดับ แต่ในปัจจุบันมีการลำดับหมายเลขสลับกันตามลำดับการพิมพ์

บีโทเฟนนั้นอุทิศซิมโฟนีบทนี้ให้แก่ผู้อุปถัมภ์สองท่าน ได้แก่ เจ้าชาย F.J. von Lobkowitz และ เคาน์ Andreas Razumovsky คำอุทิศนั้นปรากฏในการพิมพ์ครั้งแรก เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1809

การตอบรับและอิทธิพล


รายละเอียดของแต่ละท่อน

ซิมโฟนีบทนี้มีด้วยกัน 4 ท่อน หรือมูฟเมนต์ ดังนี้

I. Allegro con brio
II. Andante con moto
III. Scherzo, Allegro
IV. Allegro

สามท่อนแรกนั้นเรียงเรียงสำหรับเครื่องดนตรีต่างๆ ได้แก่ ฟลุต 2 ตัว, โอโบ 2 ตัว, บีแฟลต คลาริเน็ต 2 ตัว , บาสซูน 2 ตัว, ฮอร์น 2 ตัว, ทรัมเป็ต 2 ตัว, กลองทิมปะนี และเครื่องสายตามปกติ ได้แก่ ไวโอลิน 1 และไวโอลิน 2, วิโอลา, เชลโล และดับเบิลเบส ส่วนท่อนสุดท้ายได้เพิ่มปิคโคโล, คอนทราบาสซูนอย่างละตัว และทรอมโบน 3 ตัว (อัลโต, เทเนอร์ และเบส)

การแสดงดนตรีทั้งหมด ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

การเลือกบันไดเสียง

คีย์ของซิมโฟนีหมายเลข 5 เป็นบันไดเสียง ซีไมเนอร์ (C minor) นับว่าเป็นคีย์พิเศษของบีโทเฟนเลยทีเดียว มีนักวิจารณ์ให้ความเห็นว่าสำหรับบีโทเฟนแล้วคีย์นี้เป็นตัวแทนของ “น้ำเสียงแบบวีรบุรุษ และมีความเกรี้ยวกราด” และเขาใช้คีย์นี้สำหรับงานที่มีความเข้มข้นเป็นพิเศษ หรือ “สงวนไว้สำหรับดนตรีที่แสดงออกทางอารมณ์สูงสุดของเขา”

ผลงานอื่นๆ ของบีโทเฟนในบันไดเสียง ซี ไมเนอร์ ที่ให้ภาพในลักษณะดังกล่าว มีดังต่อนี้ไป

  • "Piano Sonata No. 5", Opus 10 no. 1 (1795-8)
  • "Piano Sonata No. 8", Opus 13, "Pathetique" (1798)
  • "Piano Concerto No. 3" no. 3 (1800)
  • "String Quartet No. 4", Opus 18, no. 4 (1800)
  • "Sonata in C minor for Violin and Piano", Op. 30, no. 2 (1802)
  • "Symphony No. 3"; second "Funeral March" movement (1803)
  • "Coriolanus" overture, Opus 62 (1807)
  • "Piano Sonata No. 32", Op. 111 (1822)

ซิมโฟนีหมายเลข 5 กับผลงานในรูปแบบอื่นๆ

เสียงโน้ต ..มีมีมีโด..เรเรเรที.. จากมูฟเมนต์ที่ 1 ของซิมโฟนีหมายเลข 5 ถูกนำมาใช้ซ้ำหลายครั้งในดนตรียุคหลัง เช่น

  • ถูกนำมาใช้เป็นเพลงเปิดของสถานีวิทยุบีบีซี ของอังกฤษ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
  • เพลง A Fifth of Beethoven เป็นซิมโฟนีหมายเลข 5 ในจังหวะดิสโก โดย Walter Murphy เมื่อ ค.ศ. 1976 และเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ Saturday Night Fever (1977)
  • เพลง Roll Over Beethoven โดย Chucker Berry เมื่อ ค.ศ. 1956 และนำมาขับร้องใหม่โดยวง Beatles, Status Quo และวง ELO - Electic Light Oechestra (ค.ศ. 1973))
  • นักกีตาร์ Yngwie Malsteen โซโล่กีตาร์ ซิมโฟนีหมายเลข 5 แบบเฮฟวี่เมตัล
  • ภาพยนตร์ Beethoven (1992) หนังครอบครัวเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ต ตั้งชื่อสุนัขว่า บีโธเฟน โดยใช้เสียงโน้ตท่อนนี้ แทนตัวบีโธเฟน
  • ภาพยนตร์ V for Vendetta (2005) หนังและหนังสือเกี่ยวกับการต่อสู้ขับไล่ทรราช ใช้เสียงโน้ตท่อนนี้ สื่อถึงการต่อสู้และชัยชนะ โดย V (มาจากเลข 5 และหมายถึง Victory) เป็นชื่อตัวละครเอก


แหล่งข้อมูลอื่น

แม่แบบ:Link FA