ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หมากรุกไทย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ล ย้อนการแก้ไขของ 49.228.161.173 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย นคเรศ ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{เพิ่มอ้างอิง}} |
|||
'''หมากรุกไทย''' เป็นที่พัฒนามาจากของอินเดียที่ชื่อเกมว่า ลักษณะการเล่นเกมใกล้เคียงกับหมากรุกสากล นอกจากนี้ในประเทศกัมพูชามีเกมหมากรุก ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับหมากรุกไทยนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย |
|||
{{ตารางหมากรุก|= |
|||
| tright |
|||
| |
|||
| = |
|||
| rd|nd|bd|qd|kd|bd|nd|rd|= |
|||
| | | | | | | | |= |
|||
| pd|pd|pd|pd|pd|pd|pd|pd|= |
|||
| | | | | | | | |= |
|||
| | | | | | | | |= |
|||
| pl|pl|pl|pl|pl|pl|pl|pl|= |
|||
| | | | | | | | |= |
|||
| rl|nl|bl|kl|ql|bl|nl|rl|= |
|||
| ตารางหมากรุกไทย ตอนเริ่มเล่น (ใช้สัญลักษณ์ของหมากรุกสากล) |
|||
}} |
|||
[[ไฟล์:Makruk Thai 1.JPG|thumb|การแข่งขันหมากรุกไทย]] |
|||
[[ไฟล์:Makruk Thai 2.JPG|thumb|ชุดหมากรุกไทยสมัย 100 ปีก่อน พ.ศ. 2555]] |
|||
[[ไฟล์:Makruk Thai 3.JPG|thumb|ชุดหมากรุกไทยสมัย 200 ปีก่อน พ.ศ. 2555 โดยตัวเบี้ยเป็น[[เปลือกหอย]]]] |
|||
[[ไฟล์:Makruk Thai 4.JPG|thumb|ชุดหมากรุกไทย[[อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราช)|สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น]] ที่ตัวหมากรุกทำจากเขาควายเผือก และเขาควายดำ]] |
|||
'''หมากรุกไทย''' เป็น[[เกมกระดาน]]ที่พัฒนามาจาก[[หมากรุก]]ของอินเดียที่ชื่อเกมว่า[[จตุรงค์]] ลักษณะการเล่นเกมใกล้เคียงกับ[[หมากรุกสากล]] นอกจากนี้ในประเทศกัมพูชามีเกมหมากรุก ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับหมากรุกไทยนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย |
|||
หมากรุกไทย มีประวัติเริ่มในอินเดีย โดยมาจากตำนานของรามเกียรติ์ ตามตำนานกล่าวว่า ฝ่ายทศกัณฐ์นั้น เมื่อมีศึกเข้าประชิด นางมณโฑ มเหสีของทศกัณฐ์ เห็นทศกัณฐ์เครียดกับการศึกจึงคิดหาเกมให้สวามีได้ผ่อนคลาย โดยคิดเป็นเกมหมากรุกขึ้น โดยแต่เดิมใช้คนเล่น 4 คน เรียกว่า จตุรังกา แต่ในภายหลังได้รับการปรับปรุงจนสามารถใช้ผู้เล่นเพียง 2 คนได้ |
|||
หมากรุกไทย มีประวัติเริ่มในอินเดีย โดยมาจากตำนานของ[[รามเกียรติ์]] ตามตำนานกล่าวว่า ฝ่าย[[ทศกัณฐ์]]นั้น เมื่อมีศึกเข้าประชิด [[นางมณโฑ]] มเหสีของ[[ทศกัณฐ์]] เห็นทศกัณฐ์เครียดกับการศึกจึงคิดหาเกมให้สวามีได้ผ่อนคลาย โดยคิดเป็นเกมหมากรุกขึ้น โดยแต่เดิมใช้คนเล่น 4 คน เรียกว่า จตุรังกา แต่ในภายหลังได้รับการปรับปรุงจนสามารถใช้ผู้เล่นเพียง 2 คนได้ |
|||
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหมากรุกแพร่หลายมาตามเส้นทางสายไหมจากอินเดียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นรูปแบบหมากรุกก่อนที่จะพัฒนาเหมือนหมากรุกต่างๆในปัจจุบัน ทำให้มีกฎเกณฑ์และรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละประเทศ |
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหมากรุกแพร่หลายมาตามเส้นทางสายไหมจากอินเดียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นรูปแบบหมากรุกก่อนที่จะพัฒนาเหมือนหมากรุกต่างๆในปัจจุบัน ทำให้มีกฎเกณฑ์และรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละประเทศ |
||
แชมป์หมากรุกโลก วลาดีมีร์ ครัมนิค ระบุว่าหมากรุกไทย เป็นเกมที่ต้องใช้กลยุทธ์มากกว่าหมากรุกสากล ที่ต้องมีการวางแผนอย่างระมัดระวังในช่วงท้ายเกม |
แชมป์หมากรุกโลก [[วลาดีมีร์ ครัมนิค]] ระบุว่าหมากรุกไทย เป็นเกมที่ต้องใช้กลยุทธ์มากกว่าหมากรุกสากล ที่ต้องมีการวางแผนอย่างระมัดระวังในช่วงท้ายเกม<ref>[http://www.chessvariants.org/oriental.dir/thaikramnik.html Kramnik plays Makruk Thai] by Dr. René Gralla.</ref> |
||
== ตัวหมากรุก == |
== ตัวหมากรุก == |
||
* ขุน เป็นตัวหมากรุกที่สำคัญที่สุด มีการเดินและกินไปในทิศทางรอบตัวได้ แต่ไม่สามารถเดินเข้าไปในตากินของฝ่ายตรงข้ามได้ |
* [[ขุน (หมากรุก)|ขุน]] เป็นตัวหมากรุกที่สำคัญที่สุด มีการเดินและกินไปในทิศทางรอบตัวได้ แต่ไม่สามารถเดินเข้าไปในตากินของฝ่ายตรงข้ามได้ |
||
{| border="1" class="wikitable" style="width:107px; font-size:95%;" |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#E0E0E0;" | ข || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || || || |
|||
|} |
|||
* เม็ด มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้าน |
* [[ควีน (หมากรุก)#หมากรุกไทย|เม็ด]] มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้าน |
||
{| border="1" class="wikitable" style="width:107px; font-size:95%;" |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#E0E0E0;" | ม็ || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || || || |
|||
|} |
|||
* เบี้ยหงาย มีการเดินและกินเหมือนกับเม็ด |
* เบี้ยหงาย มีการเดินและกินเหมือนกับเม็ด |
||
* มีการเดินและกินข้างหน้าแนวตรงและแนวแทยง และข้างหลังในแนวแทยงเท่านั้น(ห้ามถอยแนวตรงหรือเดินออกข้าง) |
* [[บิชอป (หมากรุก)#หมากรุกไทย|โคน]] มีการเดินและกินข้างหน้าแนวตรงและแนวแทยง และข้างหลังในแนวแทยงเท่านั้น(ห้ามถอยแนวตรงหรือเดินออกข้าง) |
||
{| border="1" class="wikitable" style="width:107px; font-size:95%;" |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#E0E0E0;" | ค || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || || || |
|||
|} |
|||
* เป็นหมากตัวเดียวที่สามารถข้ามหมากตัวได้ และมีลักษณะการเดินเป็นรูปตัว L(เดินไปข้างหน้าสองช่องแล้วเดินออกข้างอีกหนึ่งช่องหรือเดินออกข้างหนึ่งช่องแล้วเดินไปข้างหน้าอีกสองช่อง) |
* [[ม้า (หมากรุก)|ม้า]] เป็นหมากตัวเดียวที่สามารถข้ามหมากตัวได้ และมีลักษณะการเดินเป็นรูปตัว L(เดินไปข้างหน้าสองช่องแล้วเดินออกข้างอีกหนึ่งช่องหรือเดินออกข้างหนึ่งช่องแล้วเดินไปข้างหน้าอีกสองช่อง) |
||
{| border="1" class="wikitable" style="width:107px; font-size:95%;" |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| width="20" | || width="20" style="background:#D0D0F0;" | ● || width="20" | || width="20" style="background:#D0D0F0;" | ● || width="20" | |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| style="background:#D0D0F0;" | ● || || || || style="background:#D0D0F0;" | ● |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#E0E0E0;" | ม || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| style="background:#D0D0F0;" | ● || || || || style="background:#D0D0F0;" | ● |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ● || || style="background:#D0D0F0;" | ● || |
|||
|} |
|||
* เดินเหมือนเรือของหมากรุกชาติอื่น |
* [[เรือ (หมากรุก)|เรือ]] เดินเหมือนเรือของหมากรุกชาติอื่น |
||
{| border="1" class="wikitable" style="width:107px; font-size:95%;" |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| width="20" | || width="20" | || width="20" style="background:#F0C0C0;" | │ || width="20" | || width="20" | |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#F0C0C0;" | │ || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| style="background:#F0C0C0;" | ─ || style="background:#F0C0C0;" | ─ || style="background:#E0E0E0;" | ร || style="background:#F0C0C0;" | ─ || style="background:#F0C0C0;" | ─ |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#F0C0C0;" | │ || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#F0C0C0;" | │ || || |
|||
|} |
|||
* [[เบี้ย (หมากรุก)|เบี้ย]] มีการเดินไปทางข้างหน้าและกินในแนวทแยงด้านหน้า เมื่อเบี้ยไปถึงแนววางเบี้ยของฝ่ายตรงข้ามจะกลายเป็นเบี้ยหงาย และมีการเดินและกินเช่นเดียวกับเม็ดทุกประการ |
|||
{| border="1" class="wikitable" style="width:107px; font-size:95%;" |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | || width="20" | |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || style="background:#D0D0F0;" | ○ || style="background:#D0D0F0;" | ● || style="background:#D0D0F0;" | ○ || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || style="background:#E0E0E0;" | บ || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || || || |
|||
|- style="text-align:center;" |
|||
| || || || || |
|||
|} |
|||
* มีการเดินไปทางข้างหน้าและกินในแนวทแยงด้านหน้า เมื่อเบี้ยไปถึงแนววางเบี้ยของฝ่ายตรงข้ามจะกลายเป็นเบี้ยหงาย และมีการเดินและกินเช่นเดียวกับเม็ดทุกประการ |
|||
== กติกาการเล่น == |
== กติกาการเล่น == |
||
* ผู้เล่นแต่ละคนผลัดกันเดินหมากของฝ่ายตนเองครั้งละ 1 ตัว |
* ผู้เล่นแต่ละคนผลัดกันเดินหมากของฝ่ายตนเองครั้งละ 1 ตัว |
||
บรรทัด 68: | บรรทัด 161: | ||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
* {{facebook|MakrukthaiAssociation|สมาคมกีฬาหมากรุกไทย}} |
|||
* |
|||
{{มรดกภูมิปัญญาชาติ/ภูมิปัญญาไทย}} |
|||
[[หมวดหมู่:หมากรุกไทย| ]] |
[[หมวดหมู่:หมากรุกไทย| ]] |
||
[[หมวดหมู่:หมากรุก|ไทย]] |
[[หมวดหมู่:หมากรุก|ไทย]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:18, 21 ตุลาคม 2565
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
หมากรุกไทย เป็นเกมกระดานที่พัฒนามาจากหมากรุกของอินเดียที่ชื่อเกมว่าจตุรงค์ ลักษณะการเล่นเกมใกล้เคียงกับหมากรุกสากล นอกจากนี้ในประเทศกัมพูชามีเกมหมากรุก ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับหมากรุกไทยนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย
หมากรุกไทย มีประวัติเริ่มในอินเดีย โดยมาจากตำนานของรามเกียรติ์ ตามตำนานกล่าวว่า ฝ่ายทศกัณฐ์นั้น เมื่อมีศึกเข้าประชิด นางมณโฑ มเหสีของทศกัณฐ์ เห็นทศกัณฐ์เครียดกับการศึกจึงคิดหาเกมให้สวามีได้ผ่อนคลาย โดยคิดเป็นเกมหมากรุกขึ้น โดยแต่เดิมใช้คนเล่น 4 คน เรียกว่า จตุรังกา แต่ในภายหลังได้รับการปรับปรุงจนสามารถใช้ผู้เล่นเพียง 2 คนได้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหมากรุกแพร่หลายมาตามเส้นทางสายไหมจากอินเดียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นรูปแบบหมากรุกก่อนที่จะพัฒนาเหมือนหมากรุกต่างๆในปัจจุบัน ทำให้มีกฎเกณฑ์และรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละประเทศ
แชมป์หมากรุกโลก วลาดีมีร์ ครัมนิค ระบุว่าหมากรุกไทย เป็นเกมที่ต้องใช้กลยุทธ์มากกว่าหมากรุกสากล ที่ต้องมีการวางแผนอย่างระมัดระวังในช่วงท้ายเกม[1]
ตัวหมากรุก
- ขุน เป็นตัวหมากรุกที่สำคัญที่สุด มีการเดินและกินไปในทิศทางรอบตัวได้ แต่ไม่สามารถเดินเข้าไปในตากินของฝ่ายตรงข้ามได้
● | ● | ● | ||
● | ข | ● | ||
● | ● | ● | ||
- เม็ด มีการเดินและกินไปในแนวทแยงทั้ง 4 ด้าน
● | ● | |||
ม็ | ||||
● | ● | |||
- เบี้ยหงาย มีการเดินและกินเหมือนกับเม็ด
- โคน มีการเดินและกินข้างหน้าแนวตรงและแนวแทยง และข้างหลังในแนวแทยงเท่านั้น(ห้ามถอยแนวตรงหรือเดินออกข้าง)
● | ● | ● | ||
ค | ||||
● | ● | |||
- ม้า เป็นหมากตัวเดียวที่สามารถข้ามหมากตัวได้ และมีลักษณะการเดินเป็นรูปตัว L(เดินไปข้างหน้าสองช่องแล้วเดินออกข้างอีกหนึ่งช่องหรือเดินออกข้างหนึ่งช่องแล้วเดินไปข้างหน้าอีกสองช่อง)
● | ● | |||
● | ● | |||
ม | ||||
● | ● | |||
● | ● |
- เรือ เดินเหมือนเรือของหมากรุกชาติอื่น
│ | ||||
│ | ||||
─ | ─ | ร | ─ | ─ |
│ | ||||
│ |
- เบี้ย มีการเดินไปทางข้างหน้าและกินในแนวทแยงด้านหน้า เมื่อเบี้ยไปถึงแนววางเบี้ยของฝ่ายตรงข้ามจะกลายเป็นเบี้ยหงาย และมีการเดินและกินเช่นเดียวกับเม็ดทุกประการ
○ | ● | ○ | ||
บ | ||||
กติกาการเล่น
- ผู้เล่นแต่ละคนผลัดกันเดินหมากของฝ่ายตนเองครั้งละ 1 ตัว
- ถ้าเดินหมากของฝ่ายตัวเองไปในตำแหน่งที่หมากของฝ่ายตรงข้ามตั้งอยู่ หมากของฝ่ายตรงข้ามจะโดนกินและเอาออกนอกกระดาน ยกเว้นขุนจะโดนกินไม่ได้
- ถ้าเดินหมากไปในตำแหน่งที่ตาต่อไปกินขุนของฝ่ายตรงข้ามได้ จะต้องพูดว่า"รุก" โดยตาต่อไปฝ่ายตรงข้ามต้องป้องกันหรือเดินหนีไม่ให้ขุนอยู่ในตำแหน่งที่จะโดนกิน
- ถ้าขุนโดนรุกอยู่และเดินหนีหรือป้องกันการรุกไม่ได้ จะถือว่ารุกจนและเป็นฝ่ายแพ้
- ถ้าขุนไม่โดนรุก แต่ในตาต่อไปเดินหมากตัวไหนไม่ได้เลย จะเรียกว่าอับ และจะเสมอกัน
การนับศักดิ์
การนับศักดิ์ หรือบางครั้งเรียกว่า การนับเพื่อขอเสมอ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายกระดาน มีเฉพาะในหมากรุกไทยเท่านั้น โดยเมื่อมีการนับจนครบตามเงื่อนไข จะถือว่าทั้งสองฝ่ายเสมอกัน ไม่มีการแพ้-ชนะเกิดขึ้น
การนับศักดิ์ จะนับโดยฝ่ายที่เป็นรองฝ่ายเดียวเท่านั้น โดยนับในขณะที่ตนเป็นฝ่ายเดินหมาก หากลืมนับในตาใด ให้ถือว่าเป็นความผิดของฝ่ายเป็นรอง ดังนั้นเมื่อถึงตาถัดไปหรือเมื่อนึกได้ ให้นับเลขต่อจากที่นับตัวสุดท้าย ห้ามมิให้มีการนับข้ามเด็ดขาด (เว้นแต่ฝ่ายเป็นต่อจะอนุญาต) เช่น หากนับถึง 10 แล้วลืมนับไป 3 ตา จึงนึกขึ้นได้ ตาต่อไปที่เดินก็ให้นับ 11 (ไม่ให้นับ 14)
การนับศักดิ์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ การนับศักดิ์กระดาน และการนับศักดิ์หมาก
การนับศักดิ์กระดาน
การนับโดยวิธีนี้จะเริ่มนับเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีเบี้ยคว่ำ และฝ่ายเป็นรองเหลือหมากตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป โดยให้เริ่มต้นนับตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 64 (ฝ่ายเป็นรองเป็นผู้นับฝ่ายเดียว) โดยเมื่อฝ่ายเป็นรองนับเลข 64 ฝ่ายเป็นต่อจะมีโอกาสเดินอีก 1 ตา ถ้ารุกจน จะถือว่าชนะ (ต้องนับ 65 ถึงจะเสมอ)
ถ้าระหว่างนับศักดิ์กระดานฝ่ายเป็นต่อถูกกินหมากจนกลับเป็นรอง ก็มีสิทธิขอนับศักดิ์กระดานได้ โดยให้นับใหม่ตั้งแต่ 1 และหากฝ่ายเป็นต่อกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง (ได้เปรียบ>เสียเปรียบ>กลับมาได้เปรียบ) ฝ่ายเป็นรองก็มีสิทธิขอนับศักดิ์กระดานได้ใหม่ แต่ต้องเริ่มนับใหม่ตั้งแต่ 1 ห้ามนับต่อจากเดิมเด็ดขาด
ถ้าระหว่างนับศักดิ์กระดานฝ่ายเป็นรองถูกกินหมากจนเหลือขุนเพียงตัวเดียว จะต้องนับศักดิ์หมากที่มีบนกระดานเท่านั้น
การนับศักดิ์หมาก
การนับโดยวิธีนี้จะเริ่มนับก็ต่อเมื่อฝ่ายเป็นรองเหลือขุนเพียงตัวเดียว และบนกระดานไม่มีเบี้ยคว่ำเหลืออยู่ โดยเริ่มนับตัวหมากของทั้งสองฝ่ายที่อยู่บนกระดานก่อน ได้จำนวนเท่าใดก็ให้เริ่มนับศักดิ์หมากต่อจากนั้น เช่น ฝ่ายเป็นต่อมีหมาก 4 ตัว (ขุน โคน และเบี้ยหงายอีก 2 ตัว) ฝ่ายเป็นรองมีหมาก 1 ตัว (เหลือขุนเพียงตัวเดียว ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการนับศักดิ์หมากด้วย) เท่ากับว่ามีตัวหมากอยู่บนกระดาน 5 ตัว ในการนับศักดิ์หมากก็ให้เริ่มนับต่อที่ 6 โดยฝ่ายเป็นรองเป็นผู้นับฝ่ายเดียว เมื่อฝ่ายเป็นต่อมีศักดิ์ของหมากดังนี้
- เรือสองลำต้องรุกให้ฝ่ายเป็นรองนับถึง 8
- เรือลำเดียวต้องรุกให้ฝ่ายเป็นรองนับถึง 16
- โคนสองตัวต้องรุกให้ฝ่ายเป็นรองนับถึง 22
- โคนตัวเดียวต้องรุกให้ฝ่ายเป็นรองนับถึง 44
- ม้าสองตัวต้องรุกให้ฝ่ายเป็นรองนับถึง 32
- ม้าตัวเดียวต้องรุกให้ฝ่ายเป็นรองนับถึง 64
- สำหรับเม็ดและเบี้ยหงายนับถึง 64
การนับศักดิ์หมากให้ไล่นับจากศักดิ์ใหญ่ก่อนเสมอ (เรียงจากบนลงล่าง) เช่น (หากเหลือ เรือ 1 ตัว, โคน 1 ตัว, ม้า 2 ตัว ให้นับ 16) (ถ้าหากเลือก โคน 1 ตัว, เบี้ยหงาย 3 ตัว ให้นับ 44) (ถ้าหากเหลือ โคน 1 ตัว, ม้า 2 ตัว ให้นับ 44 ไม่ใช่ 32 เพราะโคนมีศักดิ์สูงกว่าม้า) แต่บางแห่งก็บอกว่าให้ฝ่ายเสียเปรียบสามารถเลือกนับศักดิ์น้อยสุดได้
การนับศักดิ์หมากจะมีเงื่อนไขการเสมอเหมือนกับจากการนับศักดิ์กระดาน คือ เมื่อฝ่ายเป็นรองนับจนครบแล้ว ฝ่ายเป็นต่อมีสิทธิเดินได้อีก 1 ตา หากสามารถรุกจนได้ ให้ถือว่าฝ่ายเป็นต่อชนะ เช่น ถ้ามีเรือ 2 ตัว (นับ 8) พอนับถึง 8 แล้ว ฝ่ายเป็นต่อจะมีสิทธิเดินอีก 1 ครั้ง โดยที่ยังไม่เสมอ (จะเสมอเมื่อฝ่ายเป็นรองนับ 9 ได้)
ถ้าเริ่มนับศักดิ์หมากแล้วถ้าฝ่ายเป็นรองกินหมากตัวใดตัวหนึ่งของฝ่ายเป็นต่อก็มิให้เปลี่ยนแปลงการนับเป็นอย่างอื่น (มีเรือ 2 ลำ นับ 8 หากถูกกินไป 1 ลำ ก็ยังคงนับถึงแค่ 8 ไม่เปลี่ยนเป็น 16 แต่อย่างใด) แต่ถ้าคิดว่าตัวเองพลิกสถานการณ์ได้แล้ว ฝ่ายเป็นรองสามารถจะหยุดนับเมื่อใดก็ได้
นอกจากนี้การนับศักดิ์ยังช่วยเพิ่มความสนุกให้กับการแข่งขัน คือ เมื่อการแข่งขันดำเนินมาจนถึงช่วงปลายกระดาน แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง หากปล่อยไว้ก็จะใช้เวลามากและน่าเบื่อ เมื่อมีการนับศักดิ์จะทำให้การแข่งขันไม่ยืดเยื้อ และยังช่วยให้ทั้งสองฝ่ายตั้งใจเดินหมากมากขึ้น เพราะฝ่ายเป็นต่อต้องการที่จะชนะ แต่หากคิดไม่รอบคอบ โดนนับจนครบ แทนที่ตัวเองจะชนะกลับกลายเป็นได้แค่เสมอ ในขณะเดียวกัน ฝ่ายเป็นรอง ถ้าปล่อยให้เล่นยืดเยื้อไม่สิ้นสุด ย่อมมีโอกาสแพ้สูง แต่เมื่อมีการนับศักดิ์ ทำให้ฝ่ายเป็นรองเห็นจุดหมายที่จะเสมอ ทำให้ต้องคิดให้รอบคอบเพื่อที่จะได้ไม่ต้องแพ้ในกระดานนั้น ๆ
อ้างอิง
- ↑ Kramnik plays Makruk Thai by Dr. René Gralla.