พิธีสารนาโงยะ
พิธีสารนาโงยะว่าด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมเพื่ออนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ | |
---|---|
ประเทศที่ลงนาม
ประเทศที่ลงนามโดยไม่มีเจตนาให้สัตยาบัน
ประเทศที่ไม่ได้ลงนามแต่เป็นสมาชิกของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
ประเทศที่ไม่ได้ลงนามและไม่ได้เป็นสมาชิกของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
นอกจากสมาชิกรัฐที่หลากหลาย สหภาพยุโรปยังเป็นสมาชิกของพิธีสารด้วย (ไม่ได้อยู่ในแผนภาพ) | |
ประเภท | สิ่งแวดล้อม |
วันลงนาม | 29 ตุลาคม ค.ศ. 2010 |
ที่ลงนาม | นาโงยะ, ประเทศญี่ปุ่น |
วันมีผล | 12 ตุลาคม ค.ศ. 2014 |
เงื่อนไข | 50 รัฐให้สัตยาบันต่ออนุสัญญา |
ผู้ลงนาม | 92 |
ภาคี | 128 |
ผู้เก็บรักษา | เลขาธิการสหประชาชาติ |
ภาษา | อาหรับ, จีนแมนดาริน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, รัสเซีย และสเปน |
พิธีสารนาโงยะว่าด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมเพื่ออนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ หรือที่รู้จักกันในชื่อ พิธีสารนาโงยะว่าด้วยการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรและการแบ่งปันผลประโยชน์ (อังกฤษ: Nagoya Protocol on Access and Benefit Sharing) เป็นความตกลงเพิ่มเติมใน ค.ศ. 2010 ต่ออนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity; CBD) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการทำให้วัตถุประสงค์หนึ่งจากสามของอนุสัญญาดังกล่าวนั้นเป็นผลสำเร็จ กล่าวคือการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมและเสมอภาคอันเกิดจากการใช้แหล่งทรัพยากรพันธุกรรมโดยการอนุรักษ์และใช้ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน พิธีสารนาโงยะกำหนดพันธะสภาพของประเทศที่ลงนามในการวางมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรม การแบ่งปันผลประโยชน์ และการร่วมมือต่อพิธีสาร
พิธีสารนาโงยะมีมติเห็นชอบในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2010 ในนาโงยะ ประเทศญี่ปุ่น และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2014 จนถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 มี 128 กว่าภาคีรวมถึงรัฐสมาชิกสหประชาชาติ 127 รัฐ และสหภาพยุโรปที่ให้สัตยาบันต่อพิธีสารฯ
มีการแสดงข้อกังวลว่าการเพิ่มความเป็นอำมาตยาธิปไตย และการตรากฎหมายอาจสร้างความเสียหายในการควบคุมดูแล การอนุรักษ์และการรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพ, ในการตอบโต้ต่อโรคติดเชื้ออย่างเป็นสากล และการวิจัย[1][2]
เป้าหมายและขอบเขต
[แก้]พิธีสารนาโงยะมีผลต่อแหล่งทรัพยากรพันธุกรรมที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้แหล่งทรัพยากรนั้น พิธีสารฯ ยังครอบคลุมถึงความรู้ตามธรรมเนียมประเพณีซึ่งเกี่ยวเนื่องกับแหล่งทรัพยากรพันธุกรรมที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและผลประโยชน์ที่ได้จากความรู้ดังกล่าวด้วย
เป้าหมายของพิธีสารฯ คือการริเริ่มทำให้วัตถุประสงค์หนึ่งจากสามของอนุสัญญาดังกล่าวนั้นเป็นผลสำเร็จ กล่าวคือการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมและเสมอภาคอันเกิดจากการใช้แหล่งทรัพยากรพันธุกรรมโดยการอนุรักษ์และใช้ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน[3]
การเห็นชอบและการให้สัตยาบัน
[แก้]พิธีสารนาโงยะมีมติเห็นชอบในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2010 ในนาโงยะ, ประเทศญี่ปุ่น ที่การประชุมภาคีครั้งที่ 10 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 29 ตุลาคม ค.ศ. 2010[4] และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2014
จนถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 มี 128 กว่าภาคีรวมถึงรัฐสมาชิกสหประชาชาติ 127 รัฐ และสหภาพยุโรปที่ให้สัตยาบันต่อพิธีสารฯ[5]
พันธสภาพ
[แก้]พิธีสารนาโงยะสร้างข้อผูกมัดต่อประเทศที่ลงนามในการวางมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรม การแบ่งปันผลประโยชน์ และการร่วมมือต่อพิธีสาร
ข้อผูกมัดด้านการเข้าถึงแหล่งทรัพยากร
[แก้]มาตรการระดับภายในประเทศมีจุดมุ่งหมายใน:
- การสร้างความแน่นอน, ความชัดเจน, และความโปร่งใส
- การกำหนดกฎเกณฑ์และระเบียบวิธีการที่ยุติธรรมและไม่ถือพลการ ในการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรม
- การวางกฎและขั้นตอนที่ชัดเจนสำหรับคำยินยอมที่แจ้งล่วงหน้าและข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันไว้
- การออกเอกสารอนุญาตหรือเอกสารเทียบเท่าในเวลาเข้าถึง
- การมอบการประกันใบอนุญาตหรือสิ่งอื่นที่เทียบ
- การสร้างเงื่อนไขเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นงานวิจัยที่เกื้อกูลต่อการอนุรักษ์และการใช้ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน
- การให้ความสนใจต่อข้อเท็จจริงทั้งปวงแก่ กรณีของเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือที่ใกล้จะเกิดขึ้นซึ่งคุกคามหรือทำลายสุขภาพมนุษย์ สัตว์ หรือพืช
- การพิจารณาความสำคัญของทรัพยากรพันธุกรรมเพื่ออาหารและการเกษตรเพื่อความปลอดภัยทางอาหาร
ข้อผูกมัดด้านการแบ่งปันผลประโยชน์
[แก้]มาตรการระดับภายในประเทศด้านการแบ่งปันผลประโยชน์มีจุดมุ่งหมายในการมอบการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ยุติธรรมและเท่าเทียมเพื่ออนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพกับภาคีที่ลงนามซึ่งมอบทรัพยากรพันธุกรรมดังกล่าว การใช้ทรัพยากรนั้นรวมถึงการวิจัยและการพัฒนาองค์ประกอบทางพันธุกรรมหรือทางชีวเคมีของทรัพยากรพันธุกรรม, การประยุกต์ใช้ในภายหลัง และการทำให้เป็นธุรกิจ (commercialization) การแบ่งปันนั้นเป็นเรื่องของข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันไว้แล้ว และผลประโยชน์นั้นอาจเกี่ยวข้องกับเงินหรือไม่ก็ได้ เช่น ค่าสิทธิ (royalties) และการแบ่งปันผลการวิจัย
ข้อผูกมัดด้านการร่วมมือ
[แก้]ข้อผูกมัดจำเพาะในการพัฒนาด้านการร่วมมือผ่านการตรากฎหมายในระดับประเทศหรือการออกข้อบังคับควบคุมของภาคีในการมอบทรัพยากรพันธุกรรม และข้อผูกมัดด้านสัญญาที่สะท้อนในข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันไว้นั้นเป็นสาระสำคัญของพิธีสารนาโงยะ
สมาชิกภาคีจะต้อง:
- วางมาตรการว่าทรัพยากรพันธุกรรมจะต้องใช้และเข้าถึงภายในขอบเขตอำนาจศาลโดยสอดคล้องกับคำยินยอมที่แจ้งล่วงหน้าและข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันไว้ได้ถูกกำหนดซึ่งถูกร้องขอโดยสมาชิกภาคีอื่น
- ร่วมมือในคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อกำหนดของสมาชิกภาคีอื่น
- ส่งเสริมข้อบังคับในสัญญาว่าด้วยการยุติข้อพิพาทในข้อกำหนดที่ตกลงร่วมกันไว้
- ให้ความมั่นใจในโอกาสอันเปิดรับการขอความช่วยเหลือภายใต้กลไกกฎหมายเมื่อเกิดข้อพิพาทจากข้อตกลงร่วม (Mutually Agreed Terms; MAT)
- วางมาตรการเกี่ยวกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
- ควบคุมการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมหลังจากที่ออกจากประเทศโดยการกำหนดจุดตรวจปฏิบัติงานในทุก ๆ ห่วงโซ: การวิจัย, การพัฒนา, การคิดค้น, การก่อนการทำให้เป็นธุรกิจ (pre-commercialization) หรือ การทำให้เป็นธุรกิจ
ข้อวิจารณ์
[แก้]อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลว่าการเพิ่มความเป็นอำมาตยาธิปไตย และการตรากฎหมายอาจสร้างความเสียหายในการควบคุมดูแลโดยภาพรวม การอนุรักษ์และการรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพ, ในการตอบโต้ต่อโรคติดเชื้ออย่างเป็นสากล และการวิจัย[6][2][7]
นักวิทยาศาสตร์หลายคนได้แสดงข้อกังวลต่อพิธีสารถึงการเพิ่มขึ้นของข้อบังคับที่เข้มงวดและการมีขั้นตอนมากเกินไปจะขัดขวางการป้องกันโรคและการอนุรักษ์[1] อีกทั้งการคุกคามนักวิทยาศาสตร์ด้วยการกักขังจะส่งผลอย่างมากต่อการวิจัยต่อไป[6][7] นักวิจัยและสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพไม่ใช่เชิงพาณิชย์อย่างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Natural History Museum) กังวลว่าการเปิดกิจการพิพิธภัณฑ์สัตว์และพืชทะเลต่อไปและการแลกเปลี่ยนระหว่างสถาบันจะทำได้ยากขึ้น[2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Prathapan, K. Divakaran; Pethiyagoda, Rohan; Bawa, Kamaljit S.; Raven, Peter H.; Rajan, Priyadarsanan Dharma (2018). "When the cure kills—CBD limits biodiversity research". Science. 360 (6396): 1405–1406. Bibcode:2018Sci...360.1405P. doi:10.1126/science.aat9844. PMID 29954970. S2CID 206667464. สืบค้นเมื่อ 2018-11-28.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 Watanabe, Myrna E. (June 2015). "The Nagoya Protocol on Access and Benefit Sharing—International treaty poses challenges for biological collections". BioScience. pp. 543–550. doi:10.1093/biosci/biv056.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Nagoya Protocol". 9 June 2015.
- ↑ "Strategic Plan for Biodiversity 2011-2020, including Aichi Biodiversity Targets". Convention on Biological Diversity. 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 17 September 2020.
- ↑ "Parties to the Nagoya Protocol". Convention on Biological Diversity. 1 January 1970. สืบค้นเมื่อ 10 December 2020.
- ↑ 6.0 6.1 Cressey, Daniel (2014). "Biopiracy ban stirs red-tape fears". Nature. 514 (7520): 14–15. Bibcode:2014Natur.514...14C. doi:10.1038/514014a. PMID 25279894. S2CID 4457904.
- ↑ 7.0 7.1 "A plea for open science on Zika". www.sciencemag.org. สืบค้นเมื่อ 2016-04-02.
หนังสืออ่านเพิ่ม
[แก้]- Smith, David; da Silva, Manuela; Jackson, Julian; Lyal, Christopher (1 March 2017). "Explanation of the Nagoya Protocol on Access and Benefit Sharing and its implication for microbiology". Microbiology. Microbiology Society. 163 (3): 289–296. doi:10.1099/mic.0.000425. ISSN 1350-0872. PMID 28086069.
- Golan, Jacob; Athayde, Simone; Olson, Elizabeth; McAlvay, Alex (3 April 2019). "Intellectual Property Rights and Ethnobiology: An Update to Posey's Call to Action". Journal of Ethnobiology. Society of Ethnobiology. 39 (1): 90–109. doi:10.2993/0278-0771-39.1.90. ISSN 0278-0771. S2CID 198150482.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- About the Nagoya Protocol (เว็บไซต์ของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ)
- "Nagoya Protocol on Access to Genetic Resources and the Fair and Equitable Sharing of Benefits Arising from their Utilization to the Convention on Biological Diversity: Nagoya, 29 October 2010". United Nations Treaty Collection. Chapter XXVII: Environment.
- บรรพพงศ์, สิริกุล. "พิธีสารนาโงยาว่าด้วยการเข้าถึงทรัพยากรพันธุกรรมและการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมเพื่ออนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ" (PDF). สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่May 2021
- พิธีสาร
- สนธิสัญญาในคริสต์ศตวรรษที่ 21
- สนธิสัญญาด้านสิ่งแวดล้อม
- สนธิสัญญาสหประชาชาติ
- พันธุศาสตร์
- นาโงยะ
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเบลเยียม
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับบัลแกเรีย
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับพม่า
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับกัมพูชา
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับจีน
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเดนมาร์ก
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับอียิปต์
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับฟินแลนด์
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศส
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเยอรมนี
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับฮังการี
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับอินเดีย
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับอินโดนีเซีย
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับลาว
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับมาเลเซีย
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเม็กซิโก
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับนอร์เวย์
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเนเธอร์แลนด์
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับฟิลิปปินส์
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเซอร์เบีย
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับแอฟริกาใต้
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสวิตเซอร์แลนด์
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักร
- สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับเวียดนาม