พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระยาอุปกิตศิลปสาร
(นิ่ม กาญจนาชีวะ)
เกิด10 พฤษภาคม พ.ศ. 2422
เสียชีวิต19 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 (62 ปี)
สัญชาติไทย
ชื่ออื่นอ.น.ก. , อุนิกา , อนึก คำชูชีพ
อาชีพนักเขียน , ผู้เชี่ยวชาญทางภาษา
มีชื่อเสียงจากผู้ริเริ่มการใช้คำว่า “สวัสดี” สำหรับทักทาย , อาจารย์ใหญ่คนแรกของประเทศไทย , เป็นคนแต่งตำราเรียนภาษาไทยหลายเล่ม , เป็นคนแปลบทกลอนของกวีอังกฤษ โทมัส เกรย์ เป็นกลอนดอกสร้อย รำพึงในป่าช้า

พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) (10 พฤษภาคม พ.ศ. 2422 - 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2484) เป็นนักเขียน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษาไทย ท่านใช้นามปากกาหลายนาม ที่รู้จักกันแพร่หลาย คือ "ในอีกชื่อคือ “นิม

", "อนึก คำชูชีพ" และเป็นผู้ริเริ่มคำทักทายคำว่า "สวัสดี" และยังเป็นผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาทางการแพทย์หรือที่เรียกว่าอาจารย์ใหญ่ เป็นท่านแรกของประเทศไทย โดยกล่าวว่า "ฉันเป็นครู ตายแล้วขอเป็นครูต่อไป"[1]

ประวัติ[แก้]

พระยาอุปกิตศิลปสารมีนามเดิมว่า นิ่ม กาญจนาชีวะ เป็นบุตรของ นายหว่าง และ นางปลั่ง เกิดวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2422 ศึกษาหาความรู้ภาษาไทยเบื้องต้นที่วัดบางประทุนนอก อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันคือจังหวัดกรุงเทพมหานคร) และที่วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ต่อมาได้บวชเป็นสามเณรและเป็นพระภิกษุที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ ระหว่างที่บวชได้ศึกษาพระธรรมวินัย จนสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค และศึกษาวิชาครู

พระยาอุปกิตศิลปสารได้เริ่มเข้ารับราชการเป็นครูฝึกสอน ที่โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์สายสวลี ต่อมาได้ย้ายไปสอนที่โรงเรียนสวนกุหลาบ วัดมหาธาตุ และ โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์บ้านสมเด็จเจ้าพระยา นอกจากเป็นครูแล้ว พระยาอุปกิตศิลปสารยังเคยดำรงตำแหน่งข้าหลวงตรวจการ พนักงานกรมราชบัณฑิต หัวหน้าการพิมพ์แบบเรียน หัวหน้าแผนกอภิธานสยาม ปลัดกรมตำราและอาจารย์ประจำกรมศึกษาธิการ และได้เลื่อนยศบรรดาศักดิ์มาตามลำดับ จนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2467 จึงได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยาอุปกิตศิลปสาร มีตำแหน่งในกระทรวงศึกษาธิการ ถือศักดินา 1,000[2] และมียศเป็นอำมาตย์เอก

พระยาอุปกิตศิลปสารเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญทางภาษาไทย ภาษาบาลี และวรรณคดีไทย อีกทั้งท่านยังเป็น อาจารย์พิเศษแผนกภาษาไทยและภาษาโบราณตะวันออกในคณะอักษรศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์พิเศษสอนภาษาไทยในชุดครูมัธยม และเป็นกรรมการชำระปทานุกรม ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2484

ผลงาน[แก้]

  • ตำราไวยากรณ์ไทย 4 เล่ม ได้แก่ อักขรวิธี วจีวิภาค วากยสัมพันธ์ และ ฉันทลักษณ์
  • สงครามภารตะคำกลอน
  • คำประพันธ์บางเรื่อง
  • ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี"
  • กลอนสุภาพ พ่อแม่รังแกฉัน
  • กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า (ปรับจาก Elegy Written in a Country Churchyard)
    • ได้รับการบรรจุเป็นแบบเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษามานานนับ 10 ปี [3]

สยามไวยากรณ์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "อาจารย์ใหญ่คนแรกของเมืองไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-04-24.
  2. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานบรรดาศักดิ์, เล่ม 41, ตอน ง, 1 มกราคม 2467, หน้า 3447
  3. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. กรุงเทพฯ: สกสค. ลาดพร้าว, 2550, หน้า 127
  4. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์[ลิงก์เสีย], เล่ม ๓๔ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๐๖๖, ๒๐ มกราคม ๒๔๖๐
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-08-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๓๗๘, ๑๐ มกราคม ๒๔๕๗
  6. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เก็บถาวร 2022-06-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๔๔ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๔๐๘๗, ๑๘ มีนาคม ๒๔๗๐
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ส่งเหรียญจักรพรรดิมาลาไปพระราชทาน เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๕๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๔๑๗, ๒ ธันวาคม ๒๔๗๗