พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระพรหมมุนี

(ผิน สุวโจ)
ส่วนบุคคล
เกิด21 กันยายน พ.ศ. 2437 (66 ปี 123 วัน ปี)
มรณภาพ22 มกราคม พ.ศ. 2504
นิกายธรรมยุติกนิกาย
การศึกษานักธรรมชั้นเอก
เปรียญธรรม 6 ประโยค
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร
อุปสมบทพ.ศ. 2456
ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร

พระพรหมมุนี นามฉายา สุวโจ (นามเดิม: ผิน ธรรมประทีป) เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 5 ของวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และอดีตสังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การเผยแผ่

ประวัติ[แก้]

วัยเยาว์[แก้]

พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) มีนามเดิมว่า ผิน ธรรมประทีป เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนบุตรธิดา 7 คน ของนายห้อยกับนางฮวด ธรรมประทีป เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2437 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเมีย เวลา 15.30 น. ณ ตำบลบ้านแหลมใหญ่ อำเภอบ้านปรก (ปัจจุบันเป็นตำบลบ้านปรก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม)

เมื่อโตขึ้นได้ศึกษาภาษาไทยในสำนักขุนวิทยานุกูลกวี (ทองดี เครือชะเอม ป.7 อดีตครูโรงเรียนราชกุมารราชกุมารี ในพระบรมมหาราชวัง) ณ วัดเกตุการาม จังหวัดสมุทรสงคราม ญาติของท่านฝ่ายมารดาและฝ่ายบิดา เป็นคริสต์ศาสนิกชนที่เคร่งครัด และมีญาติบางคนได้บวชเป็นบาทหลวงและภคินีในศาสนาคริสต์ด้วย เมื่อยังเยาว์ ท่านเคยไปภาวนาในโบสถ์คริสต์กับญาติบ้างกับผู้ปกครองบ้าง และได้เคยรับศีลล้างบาปตามประเพณีของศาสนาคริสต์ แต่ด้วยเหตุที่ศาสนาคริสต์ไม่ต้องด้วยอัธยาศัยของท่าน เพราะได้เคยได้รับความสลดใจหลายอย่างเกี่ยวกับการกระทำของพวกเด็กชาวคริสต์ที่กระทำต่อพระภิกษุสามเณร เช่น เมื่อเห็นพระภิกษุสามเณรเดินบิณฑบาต ก็มักจะพากันกล่าววาจาหยาบคายต่าง ๆ ซึ่งท่านเองก็พลอยทำตามเขาด้วยในบางครั้ง ท่านเล่าว่า เคยฝันเห็นอุโบสถลอยมาในอากาศบ้าง ฝันเห็นอุบาสก อุบาสิกา นุ่งขาวห่มขาวนั่งสวดมนต์กันบ้าง ฝันเห็นตนเองปีนกำแพงเข้าไปในโบสถ์บ้าง ปกติเป็นคนมีนิสัยกลัวบาปตกนรก เมื่อศาสนาคริสต์สอนว่าฆ่าสัตว์ไม่บาป เพราะพระเจ้าสร้างมาให้เป็นอาหารของมนุษย์ ท่านเห็นว่าสอนเช่นนี้ ไม่ยุติธรรม[1]

อุปสมบท[แก้]

เมื่ออุปนิสัยน้อมเข้ามาทางพระพุทธศาสนาเช่นนี้ ครั้นอายุได้ 16 ปี (พ.ศ. 2453) จึงได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร กับพระครูธรรมธรแก้ว พฺรหฺมสาโร วัดพวงมาลัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม แล้วเล่าเรียนอยู่ในวัดนั้นเป็นเวลาปีเศษ ก็ลาสิกขาออกไปเรียนภาษาไทยที่วัดเกตุการามต่ออีก ครั้นอายุได้ 19 ปี (พ.ศ. 2456) ก็ได้กลับเข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรอีกครั้งหนึ่งกับพระมหาสมณวงศ์ (แท่น โสมทตฺโต) วัดเกตุการาม และอยู่มาจนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเกตุการามนั้น โดยมีพระพุทธวิริยากร (จิตต ฉนฺโน) วัดสัตตนารถปริวัตร เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอุดมธีรคุณ (เพิ่ม อุชุโก) และพระครูธรรมธรอินทร์ ภาสกโร วัดเกตุการาม เป็นพระกรรมวาจาจารย์[1]

การศึกษา[แก้]

เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้อยู่ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติที่วัดเกตุการามนั้น 4 พรรษา ในพรรษาที่ 3 สอบได้นักธรรมชั้นตรี

ตำแหน่งงานปกครองคณะสงฆ์[แก้]

  • พ.ศ. 2467 เป็นกรรมการวัดบวรนิเวศวิหาร และเป็นกรรมการจัดการศึกษาของสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
  • พ.ศ. 2476 เป็นกรรมการสนามหลวง ทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลี
  • พ.ศ. 2477 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และเป็นประธานกรรมการวัดบวรนิเวศวิหาร
  • พ.ศ. 2478 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระคณาจารย์เอกทางคันถธุระ ซึ่งเป็นตำแหน่งทางฝ่ายปริยัติ (เทียบฝ่ายบริหารเท่ากับเจ้าคณะมณฑล)
  • พ.ศ. 2481 เป็นหัวหน้ากองบัญชาการมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นกรรมการคณะธรรมยุต
  • พ.ศ. 2493 เป็นสังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การเผยแผ่ ซึ่งมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นสังฆนายก[4]
  • พ.ศ. 2494 เป็นสังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การเผยแผ่ ซึ่งมีพระศาสนโศภน (จวน อุฏฺฐายี) เป็นสังฆนายก[5]
  • พ.ศ. 2494 เป็นสังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การเผยแผ่ ซึ่งมีสมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ) เป็นสังฆนายก[6]
  • พ.ศ. 2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร

สมณศักดิ์[แก้]

มรณภาพ[แก้]

พระพรหมมุนี มรณภาพเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2504 สิริอายุได้ 66 ปี 123 วัน มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2504 ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)". วัดบวรนิเวศวิหาร. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  2. ราชกิจจานุเบกษา, รายนามพระสงฆ์ที่สอบไล่พระปริยัติธรรมได้ และได้รับพระราชทานพัดยศเปรียญชั้นมีนิตยภัต, เล่ม ๔๐, ตอน ง, ๑ เมษายน ๒๔๖๖, หน้า ๔
  3. ราชกิจจานุเบกษา, รายนามพระสงฆ์สามเณรที่สอบไล่พระปริยัติธรรมได้ ใน พ.ศ. ๒๔๖๗ และ ๒๔๖๘, เล่ม ๔๔, ตอน ง, ๒๙ พฤษภาคม ๒๔๗๐, หน้า ๖๑๕
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งและแต่งตั้งสังฆมนตรี, เล่ม ๖๗, ตอน ๔๓, ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๓, หน้า ๓๓๗๔-๖
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งและแต่งตั้งสังฆมนตรี, เล่ม ๖๘, ตอนที่ ๓๘, ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๔, หน้า ๒๕๙๓-๕
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งและแต่งตั้งสังฆมนตรี, เล่ม ๗๒, ตอนที่ ๖๑ ฉบับพิเศษ, ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๘, หน้า ๑๘-๒๐
  7. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความพระราชทานสมณศักดิ์, เล่ม ๕๑ ตอน ๐ ง ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ หน้า ๑๓๔๑
  8. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรสมณศักดิ์, เล่ม ๖๓ ตอน ๑๕ ง ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ หน้า ๓๕๓
  9. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม ๖๔ ตอน ๒๗ ง ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๐ หน้า ๑๕๒๖
  10. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์, เล่ม ๖๖ ตอน ๖๖ ก ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ หน้า ๘๗๒