พญาคันคาก

พญาคันคาก บางสำนวนใช้ชื่อว่า ท้าวคันคาก เป็นวรรณกรรมท้องถิ่นที่นิยมและแพร่หลายในภาคอีสานประเทศไทย เป็นนิทานเรื่องคางคกยกรบขอฝน
ฉบับตีพิมพ์ได้แก่ พญาคันคาก (จักรพรรดิคันคากน้อยเล็กพญาแถนหลวง) ชำระและรวบรวมโดย พระอริยานุวัตร (อารีย์ เขมจารี ป.5) จัดพิมพ์โดยศูนย์อนุรักษ์วรรณคดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วัดมหาชัย จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. 2513, พิมพ์อยู่ใน รวบรวมวรรณคดีอีสาน (เล่ม 2) โดย ปรีชา พิณทอง (อดีตพระศรีธรรมโสภณ-ปรีชา ป.ธ.9) อุบลราชธานี พ.ศ. 2522 และ พญาคันคาก ปริวัตรและชำระจากหนังสือผูกใบลาน โดย ผ่าน วงษ์อ้วน เอกสารโรเนียว พ.ศ. 2525[1]
ความเชื่อของคนอีสานนิยมวรรณกรรมเรื่องนี้มาใช้เทศน์กันตลอดมา โดยเฉพาะพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขอฝนเพื่อให้ฝนตกตามฤดูกาลเช่นเดียวกับการแห่บั้งไฟ การเทศน์เรื่องพญาคันคาก ชาวบ้านจะจัดเป็นพิธีใหญ่เช่นเดียวกับเทศน์ในบุญผะเหวด[2]
เนื้อหา
[แก้]สำนวนที่ 1
[แก้]ครั้งหนึ่งพญาแถนโกรธมนุษย์จึงไม่ให้ฝนตกถึง 7 เดือน ทำให้คนและสัตว์ล้มตาย พญานาคและพญาต่อแตนพยายามขึ้นไปสู้แต่แพ้ พญาคางคกจึงอาสารบ โดยใช้ปลวกสร้างเส้นทางขึ้นเมืองฟ้า มอดกัดด้ามอาวุธ และแมลงป่อง–ตะขาบซ่อนกัดทหารพญาแถนจนแตกพ่าย สุดท้ายพญาแถนยอมทำสัญญา 3 ข้อ คือ (1) จุดบั้งไฟเมื่อใด ฝนจะตก (2) กบเขียดร้องเป็นสัญญาณว่าฝนมาแล้ว (3) เสียงโหวดหรือธนูว่าวคือสัญญาณให้หยุดฝน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฝนจึงตกต้องตามฤดูกาล
สำนวนที่ 2
[แก้]เมืองอินทปัตถ์นครมีพญาเอกราชและพระโอรสชื่อพญาคันคาก รูปร่างอัปลักษณ์แต่เป็นผู้ทรงธรรม เมื่อได้ครองราชย์ก็เป็นที่เคารพของประชาชนจนลืมบูชาพญาแถน ขณะเดียวกันเกิดเรื่องผาแดงนางไอ่ ที่นำไปสู่ความขัดแย้งกับพญานาค ทำให้เมืองล่มและฝนฟ้าแห้งแล้ง พญาคันคากจึงยกทัพไปบังคับพญาแถนให้ปล่อยฝนตามฤดูกาล โดยมีเงื่อนไขว่าต้องส่งบั้งไฟขึ้นฟ้าเพื่อเป็นสัญญาณ บุญบั้งไฟจึงกลายเป็นประเพณีใหญ่ของชาวอีสาน โดยเฉพาะที่ยโสธร ซึ่งเชื่อว่าบั้งไฟช่วยเรียกฝน และยังเป็นการแสดงศิลปะ ฝีมือ และความสามัคคีของชุมชน
สำนวนที่ 3
[แก้]พญาคันคากเป็นโอรสของพญาเอกราช เกิดมามีผิวเหมือนคางคก แต่เป็นผู้มีบุญ วันประสูติฟ้าแลบฝนตกเป็นอัศจรรย์ เมื่อเติบใหญ่ได้อธิษฐานจนพระอินทร์สร้างปราสาทและประทานนางแก้วมาเป็นคู่ครอง จากนั้นได้ครองราชย์อย่างทรงธรรม สัตว์และผู้คนทั่วชมพูทวีปมาสวามิภักดิ์ ทำให้พญาแถนไม่พอใจ กักฝนไว้จนเกิดภัยแล้ง พญาคันคากจึงรวบรวมกองทัพมนุษย์และสัตว์ขึ้นไปต่อสู้ สุดท้ายชนะพญาแถนและบังคับให้ทำสัญญาปล่อยฝนตามฤดูกาล แต่ต่อมามนุษย์ไม่รักษาศีลธรรม และเกียจคร้านการเพาะปลูก พญาแถนจึงตัดเส้นทางไม่ให้มนุษย์ขึ้นไปเมืองฟ้าอีก
อ้างอิง
[แก้]- ↑ สุจิตต์ วงษ์เทศ. "พญาคันคาก นิทานชาวบ้านลาว-ไทย เรื่องคางคกยกรบขอฝน". มติชนสุดสัปดาห์.
- ↑ "พญาคันคาก : การต่อสู้ของผู้มีอำนาจแห่งเมืองฟ้า-เมืองลุ่ม".