ผู้ใช้:AsmakDeen

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ตำบล ริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

แบ่งเขตการปกครอง เป็น 6 หมู่บ้าน
ประกอบด้วยหมู่บ้าน หมู่1 บ้านโคกตา , หมู่1 บ้านจือแร , หมู่2 บ้านตะโล๊ะบูเก๊ะ , หมู่3 บ้านดอเฮะ , หมู่4 บ้านบาลูกา , หมู่5 บ้านกูวา

ที่ตั้ง


ตำบลริโก๋ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส 70%ของหมู่บ้านที่อยู่ในตำบลริโก๋ จะอยู่ในภูเขา อาทิ...-หมู่บ้านกำปงบือแน-หมู่บ้านตะโล๊ะบูเก๊ะ- หมู่บ้านจือแร- บ้านบาลูกา- บ้านกูวา ประชากรที่นั้นมีอาชีพเป็นเกษตรกรเป็นสัดส่วนใหญ่  ทำนา/ทำไร่ และรับจ้างทั่วไปความเป็นมาของตำบลริโก๋ด คำว่า "ริโก๋" เป็นภาษาท้องถิ่น ซึ่งมาจากคำว่า "ตูโก" หมายถึง น้ำไหลเซาะใต้ทำนบ สาเหตุที่เรียกว่า ริโก๋ ก็สืบเนื่องมาจากตำบลแห่งนี้มีคลองสำคัญสายหนึ่ง เป็นคลองประจำตำบล ซึ่งต้นน้ำเกิดจากเทืออกเขาแห่งหนึ่งในเขตบ้านตะโละบูเก๊ะ หมู่ที่ 2 ตำบลริโก๋ คลองสายนี้ผ่านหมู่บ้านทุกหมู่บ้านในเขตตำบลริโก๋ ซึ่งมีทั้งหมด 5 หมู่บ้าน และได้ไหลผ่านอำเภออำเภอแว้งออกสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก มีตำนานเล่าว่า ราษฎรในหมู่บ้านได้ช่วยกันสร้างทำนบเพื่อกั้นน้ำ นำไปใช้ทางการเกษตร แต่สายน้ำได้ไหลเวาะพื้นใต้ทำนบเป็นช่องโหว่ขึ้น ลักษณะที่เกิดขุ้นเช่นนี้ ชาวบ้านเรียกว่า "ตูโก" ต่อมาสำเนียงเรียกก็ได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็นริโก๋

จำนวนประชากรใน ตำบลริโก๋
จำนวนหลังคาเรือน : 1,315 หลังคาเรือน
จำนวนประชากร : 7,636 คน จำนวนผู้สูงอายุ : 425 คน
จำนวนเด็กแรกเกิด ถึง 6 ปี : 366 คน จำนวนผู้สูงอายุ ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง : 205 คน
จำนวนสตรีตั้งครรภ์ : 167 คน จำนวนผู้สูงอายุ ที่ช่วยตนเองไม่ได้ : 27 คน
จำนวนสตรีอายุ 35 ปี ขึ้นไป : 337 คน จำนวนผู้พิการ : 200 คน


ศาสนสถาน

มัสยิดอัลอีญตีมาอียะห์... เป็นมัสยิดใหญ่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านกำปงบือแน หมู่ที่6 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

เมื่อก่อนที่นี้เป็นหมู่บ้านตะโละบูเก๊ะ ในความทรงจำของดิฉันที่เป็นหนึ่งในผู้ที่อาศัยหมู่บ้านที่มาตั้งแต่เด็กๆ ดิฉันจำได้ว่า สมัยเด็กๆ ที่หมู่บ้านนี้ เขาเรียกว่า บ้านตะโละบูเก๊ะ แต่ต่อมา บ้านตะโละบูเก๊ะแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ หมู่บ้านตะโละบูเก๊ะกลาง หมู่บ้านบือแนลูวะห์ หมู่บ้านกำปงบือแนหรือที่รู้จักกันในชื่อถิ่นที่นี้คือ หมู่บ้านกำปง

มัสยิดอัลอีญตีมาอียะห์...ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านกำปงบือแน

เป็นศูนย์กลางของทุกอย่างของคนที่นี้ เพราะเป็นทั้งที่ละหมาด เป็นที่ประชุมหารือ เป็นที่เรียนรู้ด้านศาสนาอิสลาม เป็นที่ร่วมตัวและเป็นสถานทีที่มีแต่รอยยิ้ม เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางของสถานที่ที่มีแสงสว่างให้ชีวิตของคนที่นี้

สถานที่ท่องเที่ยว

หากพูดถึงสามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทยคือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เกือบทุกคนจะนึกถึงเรื่องความรุ่นแรง การฆ่าคน ระเบิด การยิ่งกัน และอื่นๆมากมาย มีหลายคำถามที่เด็กหรือนักศึกษาจากสามจังหวัดชายแดนใต้เมื่อไปเรียนในจังหวัดอื่นๆ อย่างกรุงเทพฯ มักจะต้องพบเจอกับคำถามที่ถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุ่นแรงในสามจังหวัด แต่หารู้ไหมว่า สามจังหวัดชายแดนใต้ ไม่ได้เพียงเรื่องความรุ่นเเรงที่โดดเด่นแต่มีสถานทีท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาสนสถาน น้ำตก ทะเล ภูเขา และอื่นๆอีกมากมาย น้ำตกวาแง บ้านตะโล๊ะบูเก๊ะ หมู่ที่2 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าเที่ยวอย่างยิ่ง เพราะสภาพของน้ำตกอย่างคงอุดมสมบูรณ์ดั่งสภาพเดิม และเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเที่ยวจากคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ น้ำตกวาแงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ และเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย น้ำตกวาแง มีลักษณะเป็นน้ำตกหลายชั้น อยู่ติดกับพนังภูเขา ชั้นบนสุด ดิฉันไม่ทราบหรอกค่ะว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยไปถึงขั้นบนสุดเลย แม้ จะไปถึงได้อย่างไร อยู่บนยอดภูเขา แต่สำหรับผู้ที่ชอบปีนเขา เหมาะมากเลยค่ะสำหรับท่องเที่ยวที่นี้ ชั้นที่สองเป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่ชอบธรรมชาติ เพราะล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ร่มชมชื้น ชั้นที่สาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบ การปิงย่างหรือปิกนิค เพราะมีน้ำตกไหลลงมาด้านหนึ่งทำให้เกิดลำธาร ส่วนอีกด้านก็เป็นก้อนหินและพื้นหญ้า ส่วนรองลงมา ก็เป็นน้ำตก เป็นเสมือนแม่น้ำ มีก้อนหินล้อมรอบ เหมาะสำหรับ ผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นเล่นน้ำ ตรงหน้า มีสะพานข้ามไปยังภูเขาอีกลูก สำหรับใครที่ชอบเที่ยวภูเขา ก็สามารถข้ามสะพานตัวนั้นได้ ตรงสะพานเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพธรรมชาติหรือวิวภูเขาและน้ำตกมาก (วิวตรงนั้นสวยมาก) และห่างออกไปสักกิโลหนึ่ง ก็จะมีน้ำตกเป็นชั้นสุดท้าย น้ำไม่ลึกมาก มีพื้นที่สำหรับการนั่งเล่น และการปิงย่างหรือปิกนิค  เหมาะสำหรับการพาเด็กๆเที่ยว ชั้นนี้ปลอดภัย แถมมีคนขายของที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรืออุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็น  การที่เราจะไปเที่ยวน้ำตกวาแง เราต้องมีความพร้อมทั้งกายและใจ (ถ้าจะไปชั้นบนนะคะ) แต่ชั้นล่างที่เหมาะสำหรับเด็ก ไปเที่ยวแบบชิวๆได้ เพราะทางที่จะขึ้นไปชั้นบนนั้น เราต้องผ่านผ่าภูเขาที่สูงมาก ถึงจะมีความสะดวกทางเส้นทาง แต่ก็มีความเสี่ยงสำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญด้านการขับรถขึ้นภูเขาแนวตรงที่เป็นหน้าผ่า (ใครที่จะเดินขึ้นไปก็ได้นะคะ แค่ไกลก็เท่านั้นแหละค่ะ) หลังจากขึ้นไปถึงสะพาน เราจะต้องลงเดินเท้า เราจะสามารถเลือกเที่ยวสองสถานที ระหว่าง ภูเขากับน้ำตก ส่วนใหญ่จะมีการเที่ยวน้ำตกมากกว่า แต่เส้นทางทั้งสองทาง ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวภูเขาหรือนน้ำตกวาแงก็ท้าท่ายไม่แพ้กัน

การเดินไปยังน้ำตกชั้นสาม เดินทางไม่ค่อยยากเท่าไร เพียงระวังความลื่นจากดินเหนี่ยวสีแดงก็พอ (หากกลีงลงไป ไอซียู คงไม่รองรับนะคะ) เพราะด้านล่างมีแต่ก้องอิดก้อนหินก่อนที่จะเจอพื้นน้ำ เส้นทางนี้สบายมากหากระวัง เส้นทางนี้ไม่ไกลแต่ก็แคบมาก รองรับแค่คนเดียวในการเดินขึ้นไป เพราะเหตุนั้นต้องเดินกันเป็นแถวเลยค่ะ พอเราเดินถึงปลายทางได้ ก็จะเจอลำธาร น้ำตกชั้นสาม อย่างที่กล่าวก่อนหน้านี้ สามารถ ปิงย่างและปิกนิคกันได้ หากจะขึ้นไปชั้นบนกว่า คือน้ำตกชั้นสอง เราจะต้องปีนก้อนหินไป เพราะไม่มีเส้นทางที่ให้ความสะดวก การปีน ต้องปีนอย่างระมัดระวังมาก เพราะถ้าพลาดมันอันตรายมาก จะต้องมีสมาธิและสติตลอดเวลาในการก้าวไปแต่ละจุด และเส้นทางขึ้น-ลง มีแค่ สองทางเท่านั้น ขึ้นทางก้อนหิน ลงทางหน้าผ่า คนที่ตัดสินใจปีนก้อนหิน ไม่สามารถยกเลิกความตั้งใจนั้นกลางขั้นได้ เพราะมันไม่มีทางให้เราถ้อยหลัง ถ้าเราขึ้นไปยังจุดได้แล้ว สิ่งที่เราจะได้ คือรางวัลที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ธรรมชาติที่สวยงาม จะมีน้ำตกลอมรอบทั้งสีทิศ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ (รับรอง ใครที่ขึ้นมาชั้นนี้ได้ ไม่ผิดหวัง เพราะสวยมาก) จากจุดที่เรายื่น จะมีเส้นทางแบ่งเป็นสองเส้นทาง คือ ทางลง เป็นหน้าผ่าภูเขา และทางที่จะไปตกปลา ซึ่งทางที่จะไปตกปลา ดิฉันไม่แน่ใจว่า มีความท้าทายมากน้อยเพียงใด ดิฉันไม่เคยเข้าไป ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายกัน และหากใครที่อยากท้าความกล้าของตัวเองต่อ ด้วยการปีนก้อนหินไปยังชั้นบนสุด ก็สามารถปีนต่อได้ เพราะด้านบนคือยอดภูเขา จะมีน้ำตกที่เป็นชั้นบน ซึ่งจะให้บรรยายมากกว่านี้ ดิฉันคงบรรยายไม่ได้ สูงสุดความกล้าของดิฉัน เป็นแค่ชั้นสองที่เคยเหยียบ การขึ้นชั้นสุด ขึ้นทางก้อนหิน (ปีนก้อนหินขึ้นไป) และลงทางก้อนหิน อันตรายมากสำหรับคนที่ไม่ชำนาญการปีน ก้อนหินทั้งลื่นและมีน้ำไหลลงมาตลอดเวลา สำหรับดิฉันแล้ว ขอบายล่ะกันนะคะ (ทางขึ้นพอไหว กลัวทางที่จะลง) จากน้ำตกชั้นสองจะลงมาชั้นสาม จะต้องลงทางหน้าผ่า ต้องลงอย่างระมัดระวัง ทางค่อนข้างแคบ เหมาะสำหรับลงที่ละคนค่ะ

           น้ำตกวาแง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมาก ตอบโจทย์ทุกๆคนที่ชอบธรรมชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบการปิกนิค จะพาลูก-หลานๆเที่ยว คนที่ชอบถ่ายวิว หรือแม้แต่ชอบความท้าทาย เป็นสถานที่ครบทุกรสชาติ มีความสะดวกในระดับหนึ่ง และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าสถานที่ด้วยค่ะ ที่สำคัญ ถึงจะมีความท้าทายอยู่ แต่ไม่เคยมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ เพราะคนที่ไป พวกเขาเตรียมพร้อมทั้งใจและกายไว้แล้ว เพื่อตามล่าความงดงามของธรรมชาติ