ผู้ใช้:ธนาวัฒน์ ศรีสวัสดิ์/ทดลองเขียน
พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์ (ยอย ธมฺมธโร) | |
---|---|
ชื่ออื่น | หลวงตายอย |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 23 สิงหาคม พ.ศ. 2484 (77 ปี 129 วัน ปี) |
มรณภาพ | 30 ธันวาคม พ.ศ. 2561 |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดป่าโนนนิเวศน์ อุดรธานี |
อุปสมบท | 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 |
พรรษา | 56 |
ตำแหน่ง | อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ ทผจล.ชอ.พระครูปลัดของพระราชาคณะชั้นธรรม |
พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์ หรือ หลวงตายอย ธมฺมธโร เป็นพระภิกษุฝ่ายวิปัสสนาธุระสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่มีชื่อเสียง
ชาติกำเนิด[แก้]
หลวงตายอย ธมฺมธโร(พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์) กำเนิดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2484 (ปีมะเส็ง)ณ บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี บิดาชื่อ พ่อมั่น สิทธิโชติ มารดาชื่อ แม่เหง้า สิทธิโชติ โดยมีพี่น้อมกันร่วมบิดา-มารดาร่วมกัน 4 คน ดังนี้ 1.หลวงพ่อหัตตา ปภาโส (มรณภาพแล้ว) 2.พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์ 3.นายคำพลู สิทธิโชติ (ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่) 4.นายโฮม สิทธิโชติ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
ช่วงบรรพชาอุปสมบท[แก้]
เมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี องค์หลวงตาได้อุปสมบทที่พัทธสิมา ณ วัดป่ามัชฌิวงศ์รัตนาราม ณ หมู่บ้านเหล่า อันเป็นบ้านเกิดของหลวงตาเอง
โดยมี พระครูประภัสสรศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระใบฎีกาชาลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระมหาทองศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์
อุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี วันที่ 26 พฤษภาคม 2505 เวลา 14.00 น.
องค์หลวงตาครั้นได้อุปสมบทเข้ามาใต้ร่มกาสาวพักตร์ แล้วได้ประพฤติ-ปฏิบัติธรรม ตามคำอบรมสั่งสอนของพระอาจารย์อย่างเคร่งครัด และรักษาพระวินัยเป็นอย่างดีด้วยอุปนิสัยเด็ดเดี่ยวเรื่อยมาในปีแรกนั้นหลวงตาท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่า มัชฌิวงศ์รัตนาราม ร่วมกับพระอุปัชฌาย์ของท่านจนกระทั่งออกพรรษา องค์หลวงตาท่านก็ได้ล่ำลาหลวงพ่ออุปัชฌาย์ เพื่อเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง(ธ) เมื่อปี 2506 เรื่อยมาตลอดเวลาที่ได้เข้ามาศึกษาปริยัติธรรมที่วัดโพธิสมภรณ์นั้นท่านก็ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนควบคู่ไปกับการ ประพฤติ ปฏิบัติความพากเพียรในการฝึกสมาธิ-ภาวนา ด้วยความวิริยะอุตสาหะด้วยดีตลอดมา
จนกระทั่งองค์หลวงตาสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก และก็ได้ประพฤติ ปฏิบัติ อยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดด้วยดีตลอดมา และได้รักษาข้อวัตรปฏิบัติของพระป่ากรรมฐาน ฝ่ายธรรมยุต ตามแนวทางของแม่ทัพธรรมฝ่ายกรรมฐานที่ยิ่งใหญ่คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นั่นเอง องค์หลวงตาได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ เเละในสมัยนั้นองค์หลวงตาท่านได้เป็นพระครูฐานานุกรมกับหลวงปู่บุญจันทร์ สีลคุโณในหลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป อีกด้วย
ปลีกวิเวกเเสวงหาธรรม[แก้]
ต่อมาสักพักองค์หลวงตาได้ออกปลีกวิเวก ฝึกวิปัสสนากรรมฐานตามสถานที่ต่างๆที่เงียบสงบ แสวงหาโมกขธรรมตามรอยธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงสั่งสอนธรรม การประพฤติปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นเเห่งความทุกข์ทั้งปวง
องค์หลวงตาได้ศึกษาหลักธรรมอย่างจริงจังเเละได้ไปขอความรู้ในการปฏิบัติโดยได้ไปพบสนทนาธรรมกับพ่อเเม่ครูบาอาจารย์ที่ได้ยินกิตติศัพท์ ทั้งภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคเหนือ อย่างเช่น หลวงปู่เเหวน สุจินโณ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ หลวงปู่ชา สุภัทโท หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
ชาวบ้านขอนิมนต์ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์[แก้]
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2543 ทางวัดป่าโนนนิเวศน์ในขณะนั้นกำลังอยู่ในขั้นระส่ำระส่าย ขาดแคลนพระผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบ ปกครองญาติโยมในละแวกใกล้เคียง และชุมชนต่างได้เข้าไปนิมนต์ พระคุณเจ้าที่วัดโพธิสมภรณ์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่าโนนนิเวศน์ด้วยเหตุนี้ทางคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่วัดโพธิสมภรณ์ได้พิจารณากลั่นกรองดีแล้วจึงมีคำสั่งให้หลวงตา ซึ่งในขณะนั้นหลวงตาท่านมีศักดิ์เป็นพระครูฐานา ที่พระครูปลัดเมธาวัฒน์ ซึ่งหลวงตาท่านเป็นพระสุปฏิปันโน คงไว้ซึ่งวัตร-ปฏิบัติของพระกรรมฐานอย่างเคร่งครัด เป็นที่ไว้วางใจของพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีความเห็นพ้องต้องกันให้หลวงตามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่าโนนนิเวศน์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
มรณภาพ[แก้]
จนกระทั่งในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2561 เมื่อเวลา 08.25 นาฬิกา องค์หลวงตาได้ละสังขาร ด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี สิริรวมอายุได้77ปี 5เดือน 7วัน 56พรรษา