ผู้ใช้:ธนาวัฒน์ ศรีสวัสดิ์/ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์

(ยอย ธมฺมธโร)
ชื่ออื่นหลวงตายอย
ส่วนบุคคล
เกิด23 สิงหาคม พ.ศ. 2484 (77 ปี 129 วัน ปี)
มรณภาพ30 ธันวาคม พ.ศ. 2561
นิกายธรรมยุติกนิกาย
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดป่าโนนนิเวศน์ อุดรธานี
อุปสมบท26 พฤษภาคม พ.ศ. 2505
พรรษา56
ตำแหน่งอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ ทผจล.ชอ.พระครูปลัดของพระราชาคณะชั้นธรรม

พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์ หรือ หลวงตายอย ธมฺมธโร เป็นพระภิกษุฝ่ายวิปัสสนาธุระสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่มีชื่อเสียง

ชาติกำเนิด[แก้]

หลวงตายอย ธมฺมธโร(พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์) กำเนิดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2484 (ปีมะเส็ง)ณ บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี บิดาชื่อ พ่อมั่น สิทธิโชติ มารดาชื่อ แม่เหง้า สิทธิโชติ โดยมีพี่น้อมกันร่วมบิดา-มารดาร่วมกัน 4 คน ดังนี้ 1.หลวงพ่อหัตตา ปภาโส (มรณภาพแล้ว) 2.พระครูวิสุทธิเมธาวัฒน์ 3.นายคำพลู สิทธิโชติ (ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่) 4.นายโฮม สิทธิโชติ (ถึงแก่กรรมแล้ว)

ช่วงบรรพชาอุปสมบท[แก้]

เมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี องค์หลวงตาได้อุปสมบทที่พัทธสิมา ณ วัดป่ามัชฌิวงศ์รัตนาราม ณ หมู่บ้านเหล่า อันเป็นบ้านเกิดของหลวงตาเอง

โดยมี พระครูประภัสสรศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์

พระใบฎีกาชาลี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระมหาทองศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

อุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี วันที่ 26 พฤษภาคม 2505 เวลา 14.00 น.

องค์หลวงตาครั้นได้อุปสมบทเข้ามาใต้ร่มกาสาวพักตร์ แล้วได้ประพฤติ-ปฏิบัติธรรม ตามคำอบรมสั่งสอนของพระอาจารย์อย่างเคร่งครัด และรักษาพระวินัยเป็นอย่างดีด้วยอุปนิสัยเด็ดเดี่ยวเรื่อยมาในปีแรกนั้นหลวงตาท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่า มัชฌิวงศ์รัตนาราม ร่วมกับพระอุปัชฌาย์ของท่านจนกระทั่งออกพรรษา องค์หลวงตาท่านก็ได้ล่ำลาหลวงพ่ออุปัชฌาย์ เพื่อเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง(ธ) เมื่อปี 2506 เรื่อยมาตลอดเวลาที่ได้เข้ามาศึกษาปริยัติธรรมที่วัดโพธิสมภรณ์นั้นท่านก็ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนควบคู่ไปกับการ ประพฤติ ปฏิบัติความพากเพียรในการฝึกสมาธิ-ภาวนา ด้วยความวิริยะอุตสาหะด้วยดีตลอดมา

  จนกระทั่งองค์หลวงตาสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก และก็ได้ประพฤติ ปฏิบัติ อยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดด้วยดีตลอดมา และได้รักษาข้อวัตรปฏิบัติของพระป่ากรรมฐาน ฝ่ายธรรมยุต ตามแนวทางของแม่ทัพธรรมฝ่ายกรรมฐานที่ยิ่งใหญ่คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นั่นเอง องค์หลวงตาได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ เเละในสมัยนั้นองค์หลวงตาท่านได้เป็นพระครูฐานานุกรมกับหลวงปู่บุญจันทร์ สีลคุโณในหลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป อีกด้วย

ปลีกวิเวกเเสวงหาธรรม[แก้]

ต่อมาสักพักองค์หลวงตาได้ออกปลีกวิเวก ฝึกวิปัสสนากรรมฐานตามสถานที่ต่างๆที่เงียบสงบ แสวงหาโมกขธรรมตามรอยธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงสั่งสอนธรรม การประพฤติปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นเเห่งความทุกข์ทั้งปวง

องค์หลวงตาได้ศึกษาหลักธรรมอย่างจริงจังเเละได้ไปขอความรู้ในการปฏิบัติโดยได้ไปพบสนทนาธรรมกับพ่อเเม่ครูบาอาจารย์ที่ได้ยินกิตติศัพท์ ทั้งภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคเหนือ อย่างเช่น หลวงปู่เเหวน สุจินโณ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ หลวงปู่ชา สุภัทโท หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

ชาวบ้านขอนิมนต์ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์[แก้]

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2543 ทางวัดป่าโนนนิเวศน์ในขณะนั้นกำลังอยู่ในขั้นระส่ำระส่าย ขาดแคลนพระผู้ใหญ่ที่ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบ ปกครองญาติโยมในละแวกใกล้เคียง และชุมชนต่างได้เข้าไปนิมนต์ พระคุณเจ้าที่วัดโพธิสมภรณ์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่าโนนนิเวศน์ด้วยเหตุนี้ทางคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่วัดโพธิสมภรณ์ได้พิจารณากลั่นกรองดีแล้วจึงมีคำสั่งให้หลวงตา ซึ่งในขณะนั้นหลวงตาท่านมีศักดิ์เป็นพระครูฐานา ที่พระครูปลัดเมธาวัฒน์ ซึ่งหลวงตาท่านเป็นพระสุปฏิปันโน คงไว้ซึ่งวัตร-ปฏิบัติของพระกรรมฐานอย่างเคร่งครัด เป็นที่ไว้วางใจของพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีความเห็นพ้องต้องกันให้หลวงตามาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดป่าโนนนิเวศน์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

มรณภาพ[แก้]

จนกระทั่งในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2561 เมื่อเวลา 08.25 นาฬิกา องค์หลวงตาได้ละสังขาร ด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี สิริรวมอายุได้77ปี 5เดือน 7วัน 56พรรษา