ผู้หญิงบานฉ่ำ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ผู้หญิงบานฉ่ำ
โปสเตอร์ภาพยนตร์
กำกับแกร์รี มาร์แชล
เขียนบทเจ.เอฟ. ลอว์ตัน
อำนวยการสร้างLaura Ziskin
นักแสดงนำริชาร์ด เกียร์
จูเลีย โรเบิตส์
เอกตอร์ เอลิซอนโด
กำกับภาพชาลส์ มินสกี
ตัดต่อRaja Gosnell
Priscilla Nedd
ดนตรีประกอบJames Newton Howard
รอย ออร์บิสัน
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายบัวนา วิสตา พิกเจอส์
(วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ ​)​
วันฉาย23 มีนาคม 1990
ความยาวฉบับภาพยนตร์
119 นาที
ฉบับผู้กำกับ
125 นาที
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน463 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลจาก All Movie Guide
ข้อมูลจาก IMDb

ผู้หญิงบานฉ่ำ (อังกฤษ: Pretty Woman) เป็นภาพยนตร์อเมริกัน​ แนวโรแมนติกคอเมดี กำกับการแสดงโดยแกร์รี มาร์แชล เขียนบทภาพยนตร์โดย เจ.เอฟ. ลอว์ตัน นำแสดงโดยริชาร์ด เกียร์, จูเลีย โรเบิตส์ และเอกตอร์ เอลิซอนโด[1] สร้างโดยทัชสโตนพิกเจอส์ซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายหนังของเดอะวอลต์ดิสนีย์​และเผยแพร่จัดจำหน่ายโดยบัวนา วิสตา พิกเจอส์ ออกฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1990

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เจ.เอฟ. ลอว์ตัน ผู้เขียนบทได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตที่น่าเศร้าของโสเภณีที่เดินเตร็ดเตร่​ในเบเวอร์ลีฮิลส์ลอสแอนเจลิส​ ​จึงได้เขียนบทภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกี่ยวกับด้านมืดของโสเภณีในลอสแอนเจลิส ซึ่งมีทั้งเรื่องของยาเสพติด และความรักที่ยากจะสมหวัง แต่ทางค่ายหนังต้องการให้ปรับเปลี่ยนบทรวมถึงเนื้อหาบางส่วนเนื่องจากบทเดิมนั้นนางเอกมีพฤติกรรมติดโคเคนและมีตอนจบที่เศร้าจนเกินไป จึงได้มีการปรับเปลี่ยนบทให้เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี​และได้รับงบประมาณในการสร้างมากขึ้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากหลังออกฉายเมื่อได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกมากมายและสามารถทำเงินได้มากถึง 464 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินได้สูงสุดมากเป็นอันดับที่ 3 ในปี ค.ศ.1990 เป็นรองเพียงแค่ภาพยนตร์เรื่อง Ghost - วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก​ และ Home Alone -​โดดเดี่ยวผู้น่ารัก​ นอกจากนี้บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจยังจัดให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น​ภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดีอันดับ 1 ที่ทำรายได้มากที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ประเภทเดียวกัน[2]

จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้จูเลีย โรเบิตส์ ที่ก่อนหน้านี้เป็นนักแสดงวัยรุ่นที่ยังไม่มีชื่อเสียงมากนักได้รับรางวัลลูกโลกทองคำจากบทบาทนี้ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม​ ส่วนผู้เขียนบท เจ.เอฟ. ลอว์ตัน ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกาและรางวัลแบฟตาของสหราชอาณาจักร​ นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังเป็นผลทำให้เกิดภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดีคล้ายๆ กันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่อง ​Runaway Bride - ​สาวกลัวฝน อลวนทุกวิวาห์​ ที่เป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของเกียร์และโรเบิตส์ ภายใต้การกำกับของผู้กำกับคนเดิม แกร์รี มาร์แชล อีกทั้งอัลบั้มรวมเพลงประกอบภาพยนตร์​เรื่องนี้ยังถือเป็นอัลบั้มรวมเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางยอดขายอีกด้วย โดยเพลง ​It Must Have Been Love ของวงร็อกเซ็ตต์​ ที่บรรเลงไว้ในปี ค.ศ. 1987 เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์ โดยเดิมทีเพลงดังกล่าวเป็นที่รู้จักแค่ในประเทศสวีเดน แต่จากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 บิลบอร์ดฮอต 100​ ในเดือนมิถุนายน ปี 1990 [3]และเมื่อสิ้นปีเพลงนี้ถูกจัดให้เป็นเพลงฮิตอันดับ 2 ของปี 1990 ในบิลบอร์ด​ รองจากเพลงHold On​ของวงวิลสันฟิลลิปส์​ และได้รับการรับรองระดับทองคำจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา

ในประเทศไทย ตัวเอกของเรื่องคือวิเวียน วอร์ด ที่นำแสดงโดยจูเลีย โรเบิตส์​ ให้เสียงพากย์ภาษาไทยโดย กรณิการ์ ประภัสภักดี และเอ็ดเวิร์ด ลูอีส ที่นำแสดงโดยริชาร์ด เกียร์​ ให้เสียงพากย์ภาษาไทยโดย จักรกฤษณ์ หาญวิชัย จากความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องผู้หญิงบานฉ่ำ ทำให้คนไทยเริ่มรู้จักจูเลีย โรเบิตส์ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องต่อๆมาของจูเลีย โรเบิตส์ ที่ฉายในประเทศไทยจึงมักจะมีชื่อในภาษาไทยที่มีคำว่า ​บานฉ่ำ​ อยู่เสมอๆ เช่น ​Dying Young -​ หากหัวใจจะไม่บานฉ่ำ​ , Notting Hill - รักบานฉ่ำที่น็อตติ้งฮิลล์​​ , ​Larry Crowne -​ รักกันไว้หัวใจบานฉ่ำ​ ฯ

เนื้อเรื่อง[แก้]

มีเรื่องราวเกี่ยวกับ วิเวียน วาร์ด ที่ได้รับการจ้างจากเศรษฐีที่ชื่อ เอ็ดเวิร์ด ลูอิส เพื่อเข้างานสังคม และทั้งคู่พัฒนาความสัมพันธ์

นักแสดง[แก้]

  • ริชาร์ด เกียร์​ แสดงเป็น เอ็ดเวิร์ด ลูอีซ มหาเศรษฐีจากนิวยอร์ก​ ที่มีรายได้จากการลงทุนซื้อบริษัทที่ประสบปัญหาทางการเงินเพื่อนำมาขายต่อ
  • จูเลีย โรเบิตส์​ แสดงเป็น วิเวียน วอร์ด โสเภณีข้างถนน ที่ยึดอาชีพการค้าประเวณี​ในฮอลลีวูด
  • เจสัน อเล็กซานเดอร์ แสดงเป็น ฟิลลิป สตัคกีย์ ทนายความประจำตัวของเอ็ดเวิร์ด ลูอีซ
  • เอกตอร์ เอลิซอนโด แสดงเป็น บาร์นีย์ ทอมป์สัน ผู้จัดการโรงแรมที่มีบุคลิคภายนอกดูภูมิฐานและเคร่งขรึม แต่มีจิตใจที่อ่อนโยน
  • ลอรา ซาน จาโกโม แสดงเป็น คิต เดอ ลูกา สาวอเมริกันเชื้อสายกรีก​ เป็นเพื่อนสาวคนสนิทและเพื่อนร่วมห้องของวิเวียน วอร์ด มีนิสัยปากร้ายชอบกระแนะกระแหนผู้อื่น เป็นคนคอยสอนเทคนิคในการค้าประเวณีให้วิเวียน

เพลงประกอบภาพยนตร์[แก้]

อัลบั้มรวมเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องผู้หญิงบานฉ่ำ จัดเป็นอัลบั้มรวมเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางยอดขายอย่างมาก และทำให้เพลงดังในอดีตอย่างเพลง Oh,Pretty Woman ของรอย ออร์บิสัน​ กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง รวมถึงทำให้เพลงที่ในอดีตเป็นที่รู้จักแค่ในประเทศอย่าง ​It Must Have Been Love ของวงร็อกเซ็ตต์​ กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมากจนสามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ในบิลบอร์ดฮอต 100 ​และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังใช้เพลงของศิลปินที่มีชื่อเสียงรายอื่นๆผสมผสานประกอบเนื้อเรื่องอย่างลงตัว เช่นเพลง ​Show Me Your Soul​ ของเรด ฮอต ชิลี เพปเปอส์, ​Wild Women Do​ ของนาตาลี โคล​ โดยอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการรับรองระดับแพลตตินัมจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา[4]

รายชื่อเพลง[แก้]

ลำดับชื่อเพลงยาว
1."Wild Women Do" (โดย นาตาลี โคล)4:06
2."Fame '90" (โดย เดวิด โบอี)3:36
3."King of Wishful Thinking" (โดย โก เวสต์)4:00
4."Tangled" (โดย เจน เวียดลิน)4:18
5."It Must Have Been Love" (โดย ร็อกเซ็ตต์)4:17
6."Life in Detail" (โดย โรเบิร์ต พัลเมอร์)4:07
7."No Explanation" (โดย ปีเตอร์ เซเตรา)4:19
8."Real Wild Child (Wild One)​" (โดย คริสโตเฟอร์ ออตคาเสค)3:39
9."Fallen" (โดย ลอเรน วูด)3:59
10."Oh, Pretty Woman" (โดย รอย ออร์บิสัน)2:55
11."Show Me Your Soul" (โดย เรดฮอตชิลีเพปเปอส์)4:20
ความยาวทั้งหมด:43:36

อ้างอิง[แก้]

  1. "Pretty Woman". Turner Classic Movies. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 16, 2016. สืบค้นเมื่อ June 17, 2016.
  2. "Box Office Mojo". สืบค้นเมื่อ 2007-07-12.
  3. https://people.com/celebrity/roxettes-it-must-have-been-love-25-years-later/
  4. "Pretty Woman's Soundtrack RIAA Multi Platinum Award". Recording Industry Association of America. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2015. สืบค้นเมื่อ October 12, 2009.