ปาวน
ปาวน | |
---|---|
ชื่อในภาษาท้องถิ่น ꦥꦮꦺꦴꦤ꧀ (ชวา) | |
![]() มุมมองทิศตะวันจกเฉียงเหนือของจันดีปาวน | |
ที่ตั้ง | อำเภอมาเกอลัง จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย |
พิกัด | 7°36′22″S 110°13′10″E / 7.60616°S 110.219522°E |
สร้างเมื่อ | ศตวรรษที่ 9 สมัยราชวงศ์ไศเลนทร์ |
บูรณะ | 1835 |
บูรณะโดย | เซอร์ทอมัส สแตมเฟิร์ด รัฟเฟิลส์ |
สถาปนิก | คุณธรรมะ |
ประเภท | วัฒนธรรม |
เกณฑ์ | i, ii, vi |
ขึ้นเมื่อ | 1991 (คณะที่ 15) |
เป็นส่วนหนึ่งของ | หมู่วัดโบโรบูดูร์ |
เลขอ้างอิง | 592 |
ภูมิภาค | เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
ปาวน หรือ จันดีปาวน (อินโดนีเซีย: Candi Pawon) เป็นพุทธศาสนสถานในอำเภอมาเกอลัง จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 ในสมัยราชวงศ์ไศเลนทร์ ส่วนหนึ่งของสามวัดในหมู่วัดโบโรบูดูร์ ซึ่งประกอบด้วยสามพุทธศาสนสถานที่ตั้งอยู่บนเส้นแกนเดียวกัน คือ โบโรบูดูร์, ปาวน และ เมินดุต ทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก
ประวัติศาสตร์
[แก้]
ปาวนตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างอีกสองพุทธศาสนสถานที่ตั้งอยู่บนเส้นแกนเดียวกัน คือ โบโรบูดูร์ (1.75 กิโลเมตร ทางตะวันตก) และ เมินดุต (1.15 กิโลเมตร ทางตะวันออก) ทั้งหมดล้วนสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ไศเลนทร์ (ศตวรรษที่ 8-9)[1]
นักวิชาการยาซีร์ มาร์ซูกี (Yazir Marzuki) และ ตูตี เฮอราตี (Toeti Heraty) ระบุว่า "ระหว่างเมินดุตและโบโรบูดูร์คือวัดปาวน ซึ่งเป็นเพชรเม็ดเอกของสถาปัตยกรรมวัดแบบชวา เป็นไปได้สูงว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อชำระล้างจิตใจก่อนการเดินทางขึ้นสู่โบโรบูดูร์" [2]
ชื่อแรกเริ่มเดิมทีของวัดปาวนนั้นไม่เป็นที่ทราบชัดเจน คำว่า ปาวน เป็นภาษาชวาแปลว่า "ครัว" มีที่มาจากรากคำว่า อาวู (awu) แปลว่าฝุ่นผง จากความสัมพันธ์กับคำว่าฝุ่นผงนี้ทำให้เชื่อว่าวัดปาวนอาจสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ไว้ศพหรืออัฐิของกษัตริย์ในอดีต[3] กระนั้น ข้อมูลว่าเป็นอัฐิหรือร่างของใครที่เก็บรักษาที่ปาวนนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ชื่อท้องถิ่นของปาวนคือ "บัจรานาลัน" (Bajranalan) ซึ่งเป็นชื่อของหมู่บ้าน ชื่อนี้มีที่มาจากคำสันสกฤตว่า วัชรานล ซึ่งประกอบจากคำว่า วัชระ และ อนละ (ไฟ)
สถาปัตยกรรม
[แก้]
ตัววัดหันหน้าออกทางตะวันตก เฉียงเหนือเล็กน้อย ตั้งบนฐานแปลนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส บันไดประดับสองข้ามด้วยรูปสลักมกร-กาลา ซึ่งพบทั่วไปในจันดีแบบชวา ผนังภายนอกเป็นรูปแกะสลักนูนต่ำแสดงพระโพธิสัตว์และพระนางตารา รวมถึงรูปกัลปพฤกษ์ซึ่งขนาบข้างด้วยกินนร-กินรี ภายในเป็นห้องที่ว่างเปล่าและมีหน้าต่าล
หลังคาประดับยอดด้วยสถูปห้างองค์ และรัตนะสี่องค์ ด้วยลักษณะที่เรียบง่ายนี้ทำให้นักประวัติศาสตร์บางคนเรียกขานปาวนให้เป็น "เพชรเม็ดงามของสถาปัตยกรรมวัดแบบชวา" ซึ่งต่างกันกับรูปแบบสถาปัตยกรรมวัดทรงสูงชะลูกแบบชวาตะวันออกที่สร้างขึ้นในสมัยถัด ๆ มา เช่นสมัยสิงหะส่าหรี และ มัชปาหิต
พิธีกรรม
[แก้]ในเดือนพระจันทร์เต็มดวง (พฤษภาคมหรือมิถุนายน) ระหว่างเทศกาลวิสาขบูชา พุทธศาสนิกชนในแถบนี้จะประกอบพิธีเดินจาริกจากวัดเมินดุต ผ่านวัดปาวน และสิ้นสุดที่โบโรบูดูร์[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ J. L. Moens (1951). "Barabudur, Mendut en Pawon en hun onderlinge samenhang (Barabudur, Mendut and Pawon and their mutual relationship)" (PDF). Tijdschrift voor de Indische Taai-, Land- en Volkenkunde. Het Bataviaasch Genootschap van Kunsten en Wetenschappen: 326–386. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ August 10, 2007.
trans. by Mark Long
- ↑ Yazir Marzuki, Toeti Heraty (1982). "Borobudur", pp. 6, Penerbit Djambatan. Jakarta. ISBN 979-428-078-X.
- ↑ Soetarno, Drs. R. second edition (2002). "Aneka Candi Kuno di Indonesia" (Ancient Temples in Indonesia), pp. 103. Dahara Prize. Semarang. ISBN 979-501-098-0.
- ↑ "The Meaning of Procession". Waisak. Walubi (Buddhist Council of Indonesia). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-11. สืบค้นเมื่อ 2006-12-13.