บาลด์วินที่ 1 เคานต์แห่งฟลานเดอส์
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |

บาลด์วินที่ 1 หรือ บาลด์วินแขนเหล็ก (อังกฤษ: Baldwin Iron Arm, ฝรั่งเศส: Bras de Fer) เป็นขุนนางฝรั่งเศสและเป็นเคานต์แห่งฟลานเดอส์คนแรกในปี ค.ศ. 863
หน้าที่การงาน
[แก้]บิดาของบาลด์วินมีชื่อว่าออดาเซอร์ แต่ไม่มีใครรู้ข้อมูลของเขา[1] ครอบครัวของเขามีความเกี่ยวข้องกับเคานต์แห่งล็อง[1] ก่อนจะครองฟลานเดอส์ บาลด์วินเป็นเคานต์อยู่แล้ว อาจจะที่เกนต์[1]
บาลด์วินอยู่ในซ็องลีส์ในปี ค.ศ. 862 ที่เขาตัดสินใจรับจูดิธ พระธิดาของชาร์ลส์ผู้ศีรษะล้าน เป็นภรรยา[2] จูดิธเคยเป็นพระมเหสีของกษัตริย์อังกฤษสองคน เอเธลวูล์ฟกับเอเธลบาลด์[3] ตอนที่กลับมาฝรั่งเศสและยังคงอยู่ในช่วงวัยรุ่น พระองค์ถูกพระบิดากักบริเวณไว้ที่ปราสาทซ็องลีส์[4] บาลด์วินพาจูดิธหนีไปอยู่ที่ราชสำนักของโลแธร์ที่ 2 กษัตริย์แห่งโลร์แรน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของจูดิธ[2] เมื่อทั้งคู่ปลอดภัยจากเงื้อมมือของพระบิดาของจูดิธ บาลด์วินแต่งงานกับพระองค์ในราวปี ค.ศ. 863[3]
พระเจ้าชาร์ลส์ให้บิชอปของพระองค์ตัดขาดสองสามีภรรยาออกจากศาสนา พระองค์ยังเรียกร้องให้พระนัดดา (ลูกของพี่น้อง) คืนตัวบาลด์วินกับพระธิดา จูดิธ มาให้พระองค์ บาลด์วินกับจูดิธจึงหนีไปโรม เพื่อขอร้องพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 1 ให้ช่วยเกลี่ยกล่อมชาร์ลส์และทำให้การแต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย[2] บาลด์วินตั้งใจจะไปเข้าร่วมกับชาวไวกิงหากการแต่งงานไม่ได้รับอนุญาต ในขณะนั้นชาวไวกิงเป็นภัยคุกคามในฝรั่งเศสเหนือ พระสันตะปาปาจึงตัดสินให้การแต่งงานของทั้งคู่ถูกต้องตามกฎหมายและให้บิชอปถอนการตัดขาดทั้งคู่ออกจากศาสนา
ชาร์ลส์ผู้ศีรษะล้านถูกบีบบังคับให้ยอมรับบาลด์วินเป็นราชบุตรเขย[2] สองสามีภรรยาแต่งงานกันครั้งที่สองต่อหน้าสาธารณชน พระบิดาของจูดิธไม่ได้เข้าร่วมแต่ส่งคนของพระองค์ไปเป็นสักขีพยานในการแต่งงาน[5] พระองค์ให้เกียรติบาลด์วินตามที่พระสันตะปาปาแนะนำ[5]
บาลด์วินได้ปกครองฟลานเดอส์ในตำแหน่งมาร์เกรฟ (เคานต์ของพื้นที่ชายแดน) แห่งฟลานเดอส์[6] เขาปกป้องฟลานเดอส์จากชาวไวกิงตลอดสิบห้าปีต่อมา และเป็นที่รู้จักจากการปฏิบัติอย่างรุนแรงต่อใครก็ตามก็โจมตีฟลานเดอส์จนทำให้ได้รับฉายาว่า "บาลด์วินแขนเหล็ก"[6]
ในปี ค.ศ. 867 บาลด์วินสร้างปราสาทที่เกนต์เพื่อป้องกันการรุกรานของชาวไวกิง[7] เมืองถูกสร้างขึ้นรอบๆ ปราสาท เกนต์กลายเป็นที่อยู่ของเคานต์[7] บาลด์วินยังสร้างปราสาทที่บรูช เมืองท่าติดทะเลเหนือ เพื่อหยุดการปล้นชิงทรัพย์ของชาวไวกิง[8]
เมื่อชาร์ลส์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 877 บาลด์วินสนับสนุนพระโอรสของพระองค์ หลุยส์ผู้ติดอ่าง ด้วยความซื่อสัตย์ ช่วยให้พระองค์ได้เป็นกษัตริย์ของชาวแฟรงก์[6]
บาลด์วินตายในปี ค.ศ. 879[6]
ครอบครัว
[แก้]บาลด์วินแต่งงานกับจูดิธ พระธิดาของชาร์ลส์ผู้ศีรษะล้าน กษัตริย์ของชาวแฟรงก์และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์[9] ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน คือ
- บาลด์วินที่ 2 (ค.ศ. 865 – 918) สืบทอดตำแหน่งเคานต์ต่อจากบิดา[9]
- ราอูล (หรือรูดอล์ฟ) (ตาย ค.ศ. 896) เคานต์แห่งค็อมเบร[9]
- กีนิดิลดา แต่งงานกับวิเฟรโดที่ 1 เคานต์แห่งบาร์เซโลนา[10]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 David Nicholas, Medieval Flanders, (New York: Longman, 1992), p. 16
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 Patricia Carson, The Fair Face of Flanders (Tielt, Belgium: Drukkerij Lannoo NV, 2001), p. 29
- ↑ 3.0 3.1 Philip Grierson, 'The Relations between England and Flanders before the Norman Conquest', Transactions of the Royal Historical Society, Fourth Series, Vol. 23 (1941), p. 84
- ↑ Eleanor Shipley Duckett, Carolingian Portraits; A Study in the Ninth Century (Ann Arbor: The University of Michigan Press, 1988), p. 220
- ↑ 5.0 5.1 Eleanor Shipley Duckett, Carolingian Portraits; A Study in the Ninth Century (Ann Arbor: The University of Michigan Press, 1988), p. 222
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 The Oxford Encyclopedia of Medieval Warfare and Military Technology, Vol. 1, ed. Clifford Rogers (New York: Oxford University Press, 2010), p. 105
- ↑ 7.0 7.1 Randall Fegley, The Golden Spurs of Kortrijk: How the Knights of France Fell to the Foot Soldiers of Flanders in 1302 (Jefferson, NC; London: McFarland, 2002), p. 78
- ↑ Randall Fegley, The Golden Spurs of Kortrijk: How the Knights of France Fell to the Foot Soldiers of Flanders in 1302 (Jefferson, NC; London: McFarland, 2002), pp. 5-6
- ↑ 9.0 9.1 9.2 Detlev Schwennicke, Europäische Stammtafeln: Stammtafeln zur Geschichte der Europäischen Staaten, Neue Folge, Band II (Marburg, Germany: J. A., Stargardt, 1984) Tafel 82
- ↑ Detlev Schwennicke, Europäische Stammtafeln: Stammtafeln zur Geschichte der Europäischen Staaten, Neue Folge, Band II (Marburg, Germany: J. A., Stargardt, 1984) Tafel 68