บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร
Graduate School, Silpakorn University | |
สถาปนา | 28 กันยายน พ.ศ. 2515 |
---|---|
คณบดี | รองศาสตราจารย์ ดร. จุไรรัตน์ นันทานิช |
ที่อยู่ | บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สำนักงานอธิการบดี ตลิ่งชัน เลขที่ 22 ถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ เลขที่ 31 ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ เลขที่ 6 ถนนราชมรรคาใน ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 73000 |
วารสาร | วารสาร Viridian E–Journal |
สี | ██ สีเขียวตั้งแช[1] |
มาสคอต | พระคเณศ |
เว็บไซต์ | www.graduate.su.ac.th |
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร (อังกฤษ: Graduate School, Silpakorn University) มีฐานะเป็นคณะวิชาของ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2515 ทำหน้าที่ดำเนินการจัดการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรีของทุกคณะวิชาในมหาวิทยาลัย
ประวัติ[แก้]
"บัณฑิตวิทยาลัย" ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2515 โดยมีกำเนิดมาจากโครงการจัดตั้งสถาบันโบราณคดี และโครงการจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งได้แสดงเหตุผลความจำเป็นว่าให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารสภาการศึกษาแห่งชาติในการประชุม ครั้งที่ 7/2512 ที่เสนอแนะ คณะโบราณคดี ทำการสอนในขั้นบัณฑิตศึกษา และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศิลปากรในขณะนั้นได้กำหนดว่า มหาวิทยาลัย อาจจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยได้ในเมื่อมีการเปิดการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยได้พิจารณาแล้วเห็นสมควรจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ให้บัณฑิตวิทยาลัยเป็นหน่วยงานกลางที่จะรับผิดชอบดำเนินงานการศึกษาระดับนี้ โดยเฉพาะจะทำหน้าที่บริหาร วางแผน วางนโยบาย จัดการศึกษา ควบคุมมาตรฐานการศึกษาและการวิจัย ทำการประสานงานและสนับสนุนให้ความสะดวกในการจัดการศึกษา การวิจัย แก่คณะที่เปิดทำการสอน อีกทั้งยังจะทำหน้าที่ประเมินและสรุปผลการศึกษาวิจัยอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระงานของคณะที่จะทำการสอน อันจะทำให้งานสอนมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานเท่าเทียมกันทุกสาขาวิชาที่เปิดทำการสอน
ต่อมาใน พ.ศ. 2537 มหาวิทยาลัยได้ออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยศิลปากรว่าด้วยการจัดระบบบริหารงานในบัณฑิตวิทยาลัยและการจัดให้มีคณะกรรมการประจำบัณฑิตวิทยาลัย พ.ศ. 2537 เพื่อกำหนดหน้าที่และระบบบริหารงานในบัณฑิตวิทยาลัย โดยได้กำหนดหน้าที่ของบัณฑิตวิทยาลัย ดังนี้ ให้บัณฑิตวิทยาลัยมีหน้าที่บริการการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัย จัดวางแผน กำหนดควบคุมมาตรฐานการศึกษาและหลักสูตร ประเมินผลการศึกษา ประสานงานและดำเนินการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการบัณฑิตศึกษาร่วมกับคณะวิชาหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะวิชาที่เปิดสอนระดับบัณฑิตศึกษา
บัณฑิตวิทยาลัย ได้เปิดรับนักศึกษารุ่นแรกตั้งแต่ปีการศึกษา 2516 โดยเปิดรับนักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต 1 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาสถาปัตยกรรมไทย และระดับปริญญาโท 2 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาโบราณคดี และสาขาวิชาจารึกภาษาโบราณ (ปัจจุบันคือสาขาวิชาจารึกภาษาไทยและภาษาตะวันออก) มีนักศึกษาทั้งสิ้น 18 คน
ต่อมาที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 มีข้อเสนอแนะในการนำเสนอหลักสูตรเพื่อให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาว่า "เนื่องจากการเปิดหลักสูตรใหม่มีผลกระทบต่อการจัดสรรทรัพยากรของมหาวิทยาลัย ดังนั้น ภายใต้สภาวะของข้อจำกัดในเรื่องทรัพยากร ทั้งเรื่องสถานที่ งบประมาณ บุคลากร และสภาวะการแข่งขันของสถาบันการศึกษา จึงควรจัดทำหลักสูตรในลักษณะหลักสูตรบูรณาการ โดยการนำศักยภาพของแต่ละคณะวิชามาเป็นจุดแข็งในการสร้างหลักสูตรที่สนองความต้องการของสังคมแทนการเปิดหลักสูตรในลักษณะเดี่ยว ๆ ที่สามารถหาได้ทั่วไปในมหาวิทยาลัยอื่น หรือการจัดทำหลักสูตรที่สนองกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการเฉพาะ"
บัณฑิตวิทยาลัยในฐานะที่เป็นหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา โดยประสานความร่วมมือทางวิชาการจากคณะวิชาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดหลักสูตรใหม่ที่มีความสร้างสรรค์ และมีลักษณะพหุวิทยาการ (Multidisciplinary) คือ หลักสูตรที่นำเอาความรู้หลายศาสตร์หรือหลายอนุศาสตร์ที่เข้ามาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และวิจัย จนกระทั่งผู้เรียนสามารถพัฒนาความรู้ องค์ความรู้ เป็นศาสตร์ใหม่ขึ้นหรือเกิดอนุศาสตร์ใหม่ขึ้น
ดังนั้น ใน พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา บัณฑิตวิทยาลัยจึงได้ริเริ่มจัดทำหลักสูตรพหุวิทยาการของ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขึ้น เพื่อตอบสนองตามความต้องการของสังคม โดยความร่วมมือระหว่างบัณฑิตวิทยาลัยกับคณะวิชาต่าง ๆ และได้รับการอนุมัติหลักสูตรแรก คือ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษา (Master of Arts Program in Educational Informatics) ให้เปิดสอนครั้งแรกได้ในปีการศึกษา 2555 โดยความร่วมมือระหว่างบัณฑิตวิทยาลัย ร่วมกับ คณะอักษรศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ และ คณะวิทยาศาสตร์ โดยการจัดการเรียนการสอนและการบริหารงานอยู่ภายใต้การดูแลของบัณฑิตวิทยาลัย การดำเนินการจัดการเรียนการสอนดังกล่าวไม่มีอาจารย์ประจำ ผู้สอนเป็นอาจารย์ประจำมาจากคณะวิชาต่าง ๆ และต่อมาในปีการศึกษา 2557 ได้รับอนุมัติให้เปิดสอนหลักสูตรพหุวิทยาการเพิ่มอีก 1 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการจดหมายเหตุและสารสนเทศมรดกทางวัฒนธรรม (หลักสูตรพหุวิทยาการ/หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2557)
ปัจจุบันบัณฑิตวิทยาลัย มีที่ทำการตั้งอยู่ที่ ชั้น 7 อาคาร 50 ปี มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ และชั้น 2 อาคารสำนักงานอธิการบดี ตลิ่งชัน ต่อมาใน พ.ศ. 2556 ได้ขยายพื้นที่ทำการเพื่อบริการคณาจารย์และนักศึกษาเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารหอประชุม และบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร เพชรบุรี ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารสำนักงานอธิการบดี เพชรบุรี
หน่วยงานภายในของสำนักงานคณบดี[แก้]
- งานบริหารและธุรการ
- งานคลังและพัสดุ
- งานบริการการศึกษา
- งานแผนและพัฒนาระบบ
- งานส่งเสริมและพัฒนาทางวิชาการ
หลักสูตร[แก้]
บัณฑิตวิทยาลัย ร่วมกับคณะวิชาต่าง ๆ
หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.)
หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.)
หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต (ศล.ม.)
|
ทำเนียบคณบดี[แก้]
รายพระนามและรายนามคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย | ||
---|---|---|
ลำดับ | คณบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง |
รองศาสตราจารย์ พันตรี หม่อมราชวงศ์ทองใหญ่ ทองใหญ่ | 22 มีนาคม พ.ศ. 2516 – พ.ศ. 2518[2] | |
ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล | 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 – 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 | |
รองศาสตราจารย์ ไขศรี ศรีอรุณ | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2529[3] | |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. มณีปิ่น พรหมสุทธิรักษ์ | 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 – 6 มิถุนายน พ.ศ. 2532[4] | |
อาจารย์ ดร. สมเจตน์ ไวยาการณ์ | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2532 – 6 มิถุนายน พ.ศ. 2536[5] 5 ตุลาคม พ.ศ. 2537 – 4 ตุลาคม พ.ศ. 2541[6] | |
ศาสตราจารย์ ดร. สันติ เล็กสุขุม | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2536 – 4 ตุลาคม พ.ศ. 2537 | |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิราวรรณ คงคล้าย | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2541 – 4 ตุลาคม พ.ศ. 2545[7] 5 ตุลาคม พ.ศ. 2545 – 8 มีนาคม พ.ศ. 2549[8] | |
รองศาสตราจารย์ ดร. วิสาข์ จัติวัตร์ | รักษาราชการแทนคณบดี 9 มีนาคม พ.ศ. 2549 – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2549[9] | |
รองศาสตราจารย์ ดร. ศิริชัย ชินะตังกูร | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553[10] | |
รองศาสตราจารย์ ดร. ปานใจ ธารทัศนวงศ์ | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557[11] 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561[12] | |
รองศาสตราจารย์ ดร. จุไรรัตน์ นันทานิช | 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 – ปัจจุบัน |
- หมายเหตุ ตำแหน่งทางวิชาการในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
อ้างอิง[แก้]
- ↑ สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยศิลปากร ครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560
- ↑ คำสั่ง มศก.ที่ 80/2516 ลงวันที่ 5 เมษายน 2516
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 22/2526 ลงวันที่ 10 มกราคม 2526
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 687/2529 ลงวันที่ 14 กันยายน 2529
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 528/2532 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2532
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 1038/2537 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2537
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 740/2541 ลงวันที่ 16 กันยายน 2541
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 1006/2545 ลงวันที่ 4 กันยายน 2545
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 407/2549 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2549
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 1099/2549 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2549
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 516/2553 ลงวันที่ 22 เมษายน 2553
- ↑ คำสั่ง มศก. ที่ 886/2557 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2557