นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 30

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

นิสสัคคิยปาจิตตีย์คือประเภทของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภท ลหุกาบัติที่เรียกว่า อาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ จัดเป็นอาบัติโทษเบา มีทั้งหมด 30 ประการดังนี้

  1. เก็บจีวรที่เกินความจำเป็นไว้เกิน 10 วัน
  2. อยู่โดยปราศจากจีวรแม้แต่คืนเดียว
  3. เก็บผ้าที่จะทำจีวรไว้เกินกำหนด 1 เดือน
  4. ใช้ให้ภิกษุณีซักผ้า
  5. รับจีวรจากมือของภิกษุณี
  6. ขอจีวรจากคฤหัสถ์ที่ไม่ใช่ญาติ เว้นแต่จีวรหายหรือถูกขโมย
  7. รับจีวรเกินกว่าที่ใช้นุ่ง เมื่อจีวรถูกชิงหรือหายไป
  8. พูดทำนองขอจีวรดีๆ กว่าที่เขากำหนดจะถวายไว้แต่เดิม
  9. พูดให้เขารวมกันซื้อจีวรดีๆ มาถวาย
  10. ทวงจีวรจากคนที่รับอาสาเพื่อซื้อจีวรถวายเกินกว่า 3 ครั้ง
  11. หล่อเครื่องปูนั่งที่เจือด้วยไหม
  12. หล่อเครื่องปูนั่งด้วยขนเจียม (ขนแพะ แกะ) ดำล้วน
  13. ใช้ขนเจียมดำเกิน 2 ส่วนใน 4 ส่วน หล่อเครื่องปูนั่ง
  14. หล่อเครื่องปูนั่งใหม่ เมื่อของเดิมยังใช้ไม่ถึง 6 ปี
  15. เมื่อหล่อเครื่องปูนั่งใหม่ ให้เอาของเก่าเจือปนลงไปด้วย
  16. นำขนเจียมไปด้วยตนเองเกิน 3 โยชน์ เว้นแต่มีผู้นำไปให้
  17. ใช้ภิกษุณีที่ไม่ใช้ญาติทำความสะอาดขนเจียม
  18. รับเงินทองที่ได้จากการถวายของคฤหัสถ์
  19. ซื้อ-ขายด้วยเงินทอง
  20. ซื้อขายโดยใช้ของแลก
  21. เก็บบาตรที่มีใช้เกินความจำเป็นไว้เกิน 10 วัน
  22. ขอบาตรเมื่อบาตรเป็นแผลไม่เกิน 5 แห่ง
  23. เก็บเภสัช 5 (เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย) ไว้เกิน 7 วัน
  24. แสวงหาและทำผ้าอาบน้ำฝนไว้เกินกำหนด ๑ เดือนก่อนหน้าฝน
  25. ให้จีวรภิกษุอื่นแล้วแต่กลับชิงคืนในภายหลัง
  26. ขอด้ายเอามาทอเป็นจีวร
  27. กำหนดให้ช่างทอทำให้ดีขึ้น
  28. เก็บผ้าจำนำพรรษา (ผ้าที่ถวายภิกษุเพื่ออยู่พรรษา) เกินกำหนด
  29. อยู่ป่าแล้วเก็บจีวรไว้ในบ้านเกิน 6 คืน
  30. น้อมลาภสงฆ์มาเพื่อให้เขาถวายตน

คำว่า สัคคิยปาจิตตีย์ แปลว่า อาบัติประเภทที่พระภิกษุผู้กระทำผิดโดยการรับหรือได้ของอย่างหนึ่งมา จะต้องทำการสละของนั้นก่อนจึงจะแสดงอาบัติได้ กล่าวคือเมื่อพระภิกษุได้ทำการครองครอบสิ่งของจตุปัจจัย เช่น เงินทอง จีวร บาตร เป็นต้นอย่างมากเกินความจำเป็นจึงถือว่ามีโทษอาบัติ การจะปลงอาบัติสัคคิยปาจิตตีย์ได้นั้นจะต้องทำการสละสิ่งของที่มีอยู่ แล้วทำการปลงอาบัติได้

อ้างอิง[แก้]