นักเก็ตไก่
![]() | |
แหล่งกำเนิด | สหรัฐ |
---|---|
ผู้สร้างสรรค์ | โรเบิร์ต ซี. เบเกอร์ |
คิดค้น | คริสต์ศตวรรษที่ 1950 |
อุณหภูมิเสิร์ฟ | ร้อน |
ส่วนผสมหลัก | เนื้อไก่ หรือเนื้อไก่เทียม |
ส่วนผสมที่มักใช้ | เกล็ดขนมปังหรือแบตเตอร์ |
จานอื่นที่คล้ายกัน | |
นักเก็ตไก่ เป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยส่วนชิ้นเนื้อไก่ขนาดเล็กที่เลาะกระดูกออก ชุบด้วยเกล็ดขนมปัง หรือแบตเตอร์ จากนั้นจึงนำไปทอดด้วยน้ำมัน หรืออบ ได้รับการพัฒนาขึ้นในคริสต์ทศวรรษที่ 1950 เพื่อแก้ปัญหาในการชุบเนื้อสัตว์ หลังจากนั้น นักเก็ตไก่ ได้กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมของร้านอาหารจานด่วน และยังวางขายเป็นสินค้าแช่แข็งสำหรับการนำไปประกอบอาหารที่บ้าน อีกด้วย[1]
ประวัติ
[แก้]นักเก็ตไก่ ได้รับการคิดค้นขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1950 โดยโรเบิร์ต ซี. เบเกอร์ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยคอร์เนล และเผยแพร่เป็นผลงานวิชาการที่ไม่ได้รับการจดสิทธิบัตร[2][3] ซึ่งมีองค์ประกอบคือ เนื้อไก่ขนาดพอดีคำ ชุบด้วยแบตเตอร์แล้วนำไปทอดในน้ำมัน ได้รับการตั้งชื่อว่า "ไก่กรอบ" โดยเบเกอร์ และคณะทำงานของเขา การคิดค้นนี้ช้วยแก้ปัญหาสองประการที่อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์กำลังเผชิญในเวลานั้น คือการทำให้เนื้อสัตว์บดจับตัวเป็นก้อนได้โดยไม่มีหนัง และการผลิตแบตเตอร์สำหรับชุบเนื้อสัตว์ที่ไม่หลุดลอกไม่ว่าจะอยู่ในน้ำมันร้อนหรือการแช่แข็ง นวัตกรรมของเบเกอร์ ทำให้สามารถขึ้นรูปนักเก็ตไก่ได้ทุกรูปทรง โดยชุบเนื้อไก่ด้วยน้ำส้มสายชู เกลือ ธัญพืช และนมผงก่อนเพื่อให้เนื้อติดกัน จากนั้นจึงใช้แบตเตอร์ที่ทำจากไข่และธัญพืชที่สามารถทอดได้และแช่แข็งได้[4]
นักเก็ตไก่รูปไดโนเสาร์ (หรือเรียกสั้น ๆ ว่าไดโน) ได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นครั้งแรกโดย เพอร์ดูฟาร์ม ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งได้รับความนิยมด้วยผลมาจากความนิยมของภาพยนตร์ จูราสสิค พาร์ค[5][6]
ข้อมูลทางโภชนาการ
[แก้]โดยทั่วไป นักเก็ตไก่ ถือเป็นอาหารที่มีไขมันและไม่ดีต่อสุขภาพ[7][8] งานวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวารสารการแพทย์อเมริกัน วิเคราะห์นักเก็ตไก่ของเครือร้านอาหารจานด่วนสัญชาติอเมริกันสองรายใหญ่ พบชิ้นกล้ามเนื้อไก่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของส่วนประกอบ โดยมีไขมันเกิดขึ้นในสัดส่วนที่เท่ากันหรือมากกว่า ส่วนประกอบอื่น ๆ ได้แก่ เนื้อเยื่อบุผิว กระดูก เนื้อเยื่อประสาท และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ผู้จัดทำสรุปผลวิจัยว่า "นักเก็ตไก่เป็นไขมันโดยส่วนใหญ่ และการเรียกมันว่า นักเก็ตไก่ เป็นการใช้คำผิด"[9]
การผลิต
[แก้]
การประกอบอาหารเป็นนักเก็ตไก่ เริ่มต้นด้วยการเลาะกระดูกไก่ออก และหั่นให้เป็นรูปทรงที่ต้องการ ซึ่งทำได้ด้วยมือ หรือด้วยใบมีดอัตโนมัติ หรือด้วยการบด (การบด คือกระบวนการเลาะกระดูก โดยนำส่วนที่นิ่มกว่าของเนื้อไก่มาผ่านที่เลาะเนื้อ ทิ้งส่วนที่แข็งกว่าไว้ ทำให้ได้เนื้อไก่บดละเอียด ซึ่งหากใช้เนื้อไก่บดละเอียดนี้ จะต้องนำไปขึ้นรูปก่อนนำไปชุบด้วยแบตเตอร์) เมื่อชิ้นส่วนของไก่ถูกชุบด้วยแบตเตอร์และเกล็ดขนมปังในถังทรงกระบอกขนาดใหญ่ที่หมุนได้ นำไปปรุงรสด้วยเครื่องเทศและเกล็ดขนมปังตามต้องการ จากนั้นทอดในน้ำมันจนแป้งสุกและด้านนอกมีสีตามต้องการ จึงนำไปบรรจุ แช่แข็ง หรือจัดเก็บเพื่อขนส่ง[10][11] วิธีการข้างต้นมักพบในอุตสาหกรรมโดยส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบที่เฉพาะเจาะจงและวิธีการผลิตอาจแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต
นักเก็ตจากพืช
[แก้]
นักเก็ตจากพืช ประกอบขึ้นจากเนื้อสัตว์เทียม ซึ่งเป็นส่วนผสมของโปรตีนถั่วลันเตา โปรตีนถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร กลูเตนข้าวสาลี บริษัทรายใหญ่ในสหรัฐหลายราย ได้นำมาออกจำหน่าย เช่น บียอนด์มีท อิมพอสซิเบิลฟู้ดส์ มอร์นิงสตาร์ฟาร์มส และซิมูเลท เป็นต้น[12][13] ในปี ค.ศ. 2019 แมคโดนัลด์ในประเทศนอร์เวย์ ได้วางจำหน่าย แมคนักเก็ตไก่จากพืช ซึ่งผ่านการวิจัยแล้วด้วยส่วนประกอบจากถั่วหัวช้าง และมันฝรั่ง[14] แม็กซ์แฮมเบอเกอร์ เครือร้านอาหารจานด่วนสัญชาติสวีเดน ได้จำหน่ายเมนูนักเก็ต ซึ่งประกอบขึ้นจากฟาลาเฟล ขณะที่ ควอร์น บริษัทจำหน่ายเนื้อสัตว์สัญชาติสหราชอาณาจักร ยังได้จัดจำหน่ายนักเก็ตไก่เทียม ซึ่งประกอบขึ้นจากเห็ดรา[15][16] ในปี ค.ศ. 2022 เคเอฟซี ได้เริ่มจำหน่ายนักเก็ตไก่จากพืช ใน 4,000 สาขาทั่วสหรัฐ[17]
ในปี ค.ศ. 2022 มิเชล ไซมอน เขียนในนิตยสารฟอบส์ ว่ามีมากกว่า 20 เครื่องหมายการค้าที่จำหน่ายนักเก็ต[18] ในปี ค.ศ. 2022, เอเวอรี เยล คามิลา กล่าวในหนังสือพิมพ์พอร์ตแลนด์เพรสส์เฮรัลด์ว่า "เพราะเยาวชนกำลังสนใจในอาหารจากพืช จึงไม่น่าแปลกใจที่อาหารจากพืชที่เชื่อมโยงกับเด็ก เช่น ฮอตดอกและนักเก็ตไก่ จะเป็นผู้สนับสนุนรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่เน้นกลุ่มวัยรุ่น"[19] นักเก็ตไก่จากพืช ยังได้รับการทดสอบรสชาติ เช่น ในปี ค.ศ. 2021 โดย คัลเชอร์แมปแดลลัส[20] และในปี 2022 โดยบงนับปาติด.[21]
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
[แก้]นักเก็ตไก่ เป็นหัวข้อของความท้าทายด้านอาหาร ปรากฏการณ์ทางโซเชียลมีเดีย และอีกหลายรูปแบบที่ทำให้เกิดชื่อเสียงต่อสาธารณะ เมนูนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับร้านอาหารชั้นเลิศ[22] กิจวัตรการออกกำลังกาย[23] และแม้กระทั่งภาพยนตร์ขนาดยาว รวมถึง คุณครูฮะ พวกผมเป็นซอมบี้ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็กนักเรียนชั้นประถมที่กินนักเก็ตไก่ที่ติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เด็กก่อนวัยแรกรุ่นกลายเป็นซอมบี้ ในด้านสถิติโลก โทมัส เวลบอร์น เป็นเจ้าของสถิติกินนักเก็ตไก่ได้มากที่สุดในสามนาที ด้วยปริมาณ 746 กรัม หรือประมาณ 42 ชิ้น[1]
ในทวิตเตอร์ ทวิตที่ได้รับการรีทวิตสูงสุดในปี ค.ศ. 2017 ถูกเขียนโดย คาร์ตเอร์ วิลเคอร์สัน ที่ถามถึง เวนดีส์ ว่าเขาต้องทำอย่างไรร้านจึงจะให้เขากินนักเก็ตไก่ฟรีตลอดทั้งปี ทวีตดังกล่าวได้รับการรีทวีตมากกว่า 3.5 ล้านครั้ง[24][25]
นักเก็ตไก่ขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยบันทึกไว้มีน้ำหนัก 51.1 ปอนด์ (23.2 กิโลกรัม) ยาว 3.25 ฟุต (0.99 เมตร) และกว้าง 2 ฟุต (0.61 เมตร) และสร้างโดย เอมไพร์คอสเชอร์ บริษัทขายอาหารจากสัตว์ปีกสัญชาติสหรัฐ โดยเปิดตัวที่งาน คอสเชอร์เฟรส ในรัฐนิวเจอร์ซี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2013[26]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "What's Really In That Chicken Nugget?". The National Chicken Council. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 6, 2017.
- ↑ "Robert C. Baker obituary". Cornell University. July 11, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 11, 2006.
- ↑ Baker, R. C.; Darrah, L. B.; Darfler, J. M. (September 1, 1966). "The Use of Fowl for Convenience Items". Poultry Science. 45 (5): 1017–1025.
- ↑ Rude, Emelyn (2016). Tastes like Chicken. Pegasus Books Ltd. pp. 149–165. ISBN 978-1-68177-163-2.
- ↑ Hammon, Dawn (2024-03-19). "The Origin Story Of Iconic Dino Chicken Nuggets - The Daily Meal". Daily Meal (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-04-04.
The story of how dino chicken nuggets got their start is a bit hazy, but one thing we know for sure is they firmly launched onto the scene around the same time the original 'Jurassic Park' movie hit theaters. Coincidence? Maybe. But then again, probably not.
- ↑ "Land Before Noms: How Dinosaur-Shaped Chicken Nuggets Came to Walk the Earth". MEL Magazine (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2021-09-21. สืบค้นเมื่อ 2024-04-05.
...Perdue almost definitely invented dinosaur nuggets and Jurassic Park undoubtedly popularized them[.]
- ↑ Collins, R.D., Karen (March 24, 2006). "Chicken nuggets -- good idea gone bad?". Nutrition Notes. NBC News. สืบค้นเมื่อ October 29, 2017.
- ↑ Amidor, R.D. C.D.N., Toby. "Chick nuggets: Are they healthy?". Healthy Eats. Food Network. สืบค้นเมื่อ October 29, 2017.
- ↑ deShazo, Richard D.; Bigler, Steven; Skipworth, Leigh Baldwin (November 1, 2013). "The autopsy of chicken nuggets reads "chicken little"". The American Journal of Medicine. 126 (11): 1018–1019. doi:10.1016/j.amjmed.2013.05.005. ISSN 1555-7162. PMID 24035124.
- ↑ Smith, Douglas P. (2014). "Poultry Processing and Products" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ March 10, 2016.
- ↑ "Poultry processing". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ February 6, 2018.
- ↑ Rauwerda, Annie (October 6, 2021). "What is a vegan chicken nugget?". The Michigan Daily (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ September 22, 2022.
- ↑ "Developing alt-chicken from the Hatchery, Next Gen Foods becomes latest entrant to Chicago's growing plant-based protein market". Chicago Tribune. September 21, 2022. สืบค้นเมื่อ September 22, 2022.
- ↑ Hampson, Laura; Amis, Saffron (March 20, 2019). "McDonald's has just launched vegan chicken nuggets". Evening Standard (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ September 22, 2022.
- ↑ What's in Those Nuggets? Meat Substitute Stirs Debate
- ↑ Quorn Meat Free Chicken Nuggets
- ↑ Torrella, Kenny (January 4, 2022). "The biggest fast food rollout of meatless fried chicken is happening in January". Vox (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ September 23, 2022.
- ↑ Simon, Michele (April 19, 2022). "Have We Reached Peak Vegan Chicken Nugget?". Forbes (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ September 23, 2022.
- ↑ Kamila, Avery Yale (August 7, 2022). "Vegan Kitchen: More plant-based foods partner with pop culture icons". Press Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 7, 2022. สืบค้นเมื่อ September 23, 2022.(ต้องรับบริการ)
- ↑ "Dallas taste-off: Vegan chicken tenders and nuggets in the supermarket". CultureMap Dallas (ภาษาอังกฤษ). November 15, 2021. สืบค้นเมื่อ September 23, 2022.
- ↑ Sinha, Antara (August 5, 2022). "A Blind Taste Test of Mostly Bad (but 1 Excellent) Vegan Chicken Nuggets". Bon Appétit (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ September 22, 2022.
- ↑ Carman, Tim (September 22, 2017). "You can order a flight of chicken nuggets at the world's first nugget tasting room". The Washington Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ February 7, 2018.
- ↑ Konecky, Perri (July 18, 2017). "Chicken Nugget Yoga Actually Exists and We Think We'll Namaste". PopSugar. สืบค้นเมื่อ March 12, 2021.
- ↑ "These Are the 10 Most Widely Shared Tweets of 2017". Time (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ February 7, 2018.
- ↑ Judkis, Maura (December 28, 2017). "2017 was the year of chicken nuggets". The Washington Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ February 7, 2018.
- ↑ "Photos: World's largest chicken nugget on display in Secaucus". New Jersey On-Line. October 29, 2013. สืบค้นเมื่อ October 31, 2013.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- "Why Chicken Nugget Demand Is Flat". YouTube. CNBC. March 20, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2021.