ข้ามไปเนื้อหา

นอร์ทอเมริกัน F-86D เซเบอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
F-86D/K/L เซเบอร์
F-86D กองทัพอากาศสหรัฐ
ข้อมูลทั่วไป
ชาติกำเนิด สหรัฐ
บริษัทผู้ผลิตNorth American Aviation
ผู้ใช้งานหลักกองทัพอากาศสหรัฐ
กองทัพอากาศอิตาลี
กองทัพอากาศยูโกสลาเวีย
กองกำลังญี่ปุ่น
จำนวนที่ผลิต2,847 ลำ
ประวัติ
เริ่มใช้งาน1951[1]
เที่ยวบินแรก22 ธันวาคม 1949,
76 ปีที่แล้ว[2]
ปลดประจำการ1974 (ยูโกสลาเวีย)
พัฒนาจากF-86 เซเบอร์

นอร์ทอเมริกัน F-86D เซเบอร์ (North American F-86D Sabre) หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า เซเบอร์ด็อก (Sabre Dog) เป็นหนึ่งในพัฒนาการสำคัญของตระกูล F-86 เซเบอร์ เครื่องบินขับไล่ไอพ่นชื่อดังของสหรัฐอเมริกาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เดิมที F-86 รุ่นแรกถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินขับไล่เวลากลางวัน แต่เมื่อเข้าสู่ยุคสงครามเย็น ความต้องการเครื่องบินสกัดกั้นที่สามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืนรวมถึงในทุกสภาพอากาศ จึงนำไปสู่การพัฒนา F-86D ซึ่งกลายเป็นเครื่องบินสกัดกั้นทุกสภาพอากาศลำแรกๆของกองทัพอากาศสหรัฐ แม้ใช้ชื่อรหัส F-86 แต่ในความเป็นจริงแล้ว F-86D มีความแตกต่างจาก F-86 รุ่นดั้งเดิมอย่างมาก โดยใช้ชิ้นส่วนร่วมกันเพียง 25% ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ขึ้น ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตพร้อมสันดาปท้าย ให้แรงขับมากกว่าเดิม และที่โดดเด่นคือจมูกเครื่องที่ติดตั้งโดนครอบขนาดใหญ่ สำหรับบรรจุเรดาร์ตรวจจับเป้าหมาย ซึ่งทำให้มันทำหน้าที่สกัดกั้นอากาศยานศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาวุธประจำเครื่องก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ รุ่น F-86D และ F-86G ไม่มีปืนกลขนาด .50 นิ้วแบบรุ่นก่อนหน้า แต่เลือกติดตั้งจรวดอากาศชนิดหางพับ (FFAR) เพื่อใช้โจมตีฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิด ขณะที่รุ่น F-86K และ F-86L ถูกออกแบบให้ติดตั้ง ปืนใหญ่อัตโนมัติ M24A1 ขนาด 20 มม. จำนวน 4 กระบอก[3] เพื่อตอบสนองความต้องการของพันธมิตร NATO ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีเรดาร์ ระบบอาวุธใหม่ และขีดความสามารถในการปฏิบัติการทุกสภาพอากาศ ทำให้เซเบอร์ด็อกกลายเป็นเครื่องบินสกัดกั้นที่ทรงพลังในยุคทศวรรษ 1950 และเป็นสะพานเชื่อมสู่การพัฒนาเครื่องบินสกัดกั้นรุ่นถัดมา

รุ่นย่อย

[แก้]
  • YF-95A/YF-86D ต้นแบบทดสอบที่พัฒนามาจาก F-86
  • F-86D รุ่นเดินสายการผลิต ติดเรดาร์และระบบควบคุมการยิง ใช้จรวดไม่นำวิถีแทนปืนกล
  • F-86G รุ่นอัปเกรดระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบควบคุมการยิง
  • F-86K รุ่นส่งออกให้ NATO แทนจรวดด้วยปืนใหญ่อากาศ M24A1 ขนาด 20 มม. จำนวน 4 กระบอก
  • F-86L รุ่นปรับปรุงจาก F-86D เพื่อติดตั้งระบบเชื่อมต่อ SAGE สำหรับการควบคุมสกัดกั้นโดยศูนย์ควบคุมภาคพื้น

คุณลักษณะ (F-86D)

[แก้]
  • นักบิน: 1 นาย
  • ความยาว: 12.29 เมตร
  • ความสูง: 4.57 เมตร
  • ความกว้างปีก: 11.30 เมตร
  • พื้นที่ปีก: 29.1 ตารางเมตร
  • น้ำหนักตัวเปล่า: 6,204 กิโลกรัม
  • น้ำหนักพร้อมรบ: 7,390 กิโลกรัม
  • น้ำหนักสูงสุดในการขึ้นบิน: 9,063 กิโลกรัม
  • เครื่องยนต์: General Electric J47-GE-17B เทอร์โบเจ็ตพร้อมสันดาปท้าย จำนวนหนึ่งหน่วย
    • แรงขับปกติ: 24.1 กิโลนิวตัน
    • แรงขับพร้อมสันดาปท้าย: 33.4 กิโลนิวตัน
  • ความเร็วสูงสุด: 1,114 กิโลเมตร/ชั่วโมง (มัค 0.92)
  • ความเร็วปฏิบัติการ: 885 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • เพดานบินสูงสุด: 15,160 เมตร (49,750 ฟุต)
  • อัตราไต่: 61.7 เมตร/วินาที
  • พิสัยปฏิบัติการ: 1,010 กิโลเมตร
  • เรดาร์: AN/APG-36

อ้างอิง

[แก้]
  1. North American F-86L “Sabre Dog” - Maps Air Museum
  2. North American F-86D Sabre - National Museum of the United States Air Force
  3. "North American F-86A Sabre". National Air and Space Museum (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-07-10.