ท่าโจมตีมวยปล้ำอาชีพ
ท่าการโจมตี เป็นท่าแสดงความเสียหายให้แก่คู่ต่อสู้ใน มวยปล้ำอาชีพ ด้วย ท่าจับยอมแพ้ หรือ ท่าทุ่ม ทั้งยังมีการโจมตีที่หลากหลายในมวยปล้ำอาชีพ และหลายชื่อมากมาย บางครั้งนักมวยปล้ำก็จะตั้งชื่อให้กับท่าที่ตัวเองใช้อย่าง ท่าไม้ตาย บางครั้งชื่อใหม่เหล่านั้นกลายเป็นที่นิยมก็อาจจะนำมาใช้แทนศัพท์เทคนิคแทน
มวยปล้ำอาชีพมีความหลากหลายในรูปแบบการชกการเตะที่สามารถพบเจอได้ใน ศิลปะการต่อสู้ และกีฬาการต่อสู้อื่น ๆ ส่วนท่าต่าง ๆ ที่อยู่ในรายการข้างล่างนี้ หลาย ๆ ท่าสามารถทำได้จากพื้นที่ที่สูงกว่าได้ เช่น บทเชือกเส้นที่ 3, บทขอบเวที ฯลฯ เหล่านั้นจะเรียกว่า ท่าเหินหาว หรือ ท่าเหินเวหา และท่าทั้งหมดจะนำมาใส่ในรายการหมวดหมู่ข้างล่างนี้ตราบเท่าที่จะทำได้
บอดีเพลส
[แก้]รูปแบบของบอดีเพลสเป็นการกระแทกหรือพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู่ด้วยร่างกายของเราทั้งตัว สามารถทำได้จากวิ่งใส่ หรือยืนกระแทกให้คู่ต่อสู้ล้มหรือเจ็บได้
บอดี แอวาลันช์
[แก้]นักมวยปล้ำวิ่งเข้ากระแทกคู่ต่อสู้โดยใช้หน้าอกและร่างกายกระแทก หรือ วิ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้ที่มุมเทิร์นบักเคิลโดยใช้หน้าอกและร่างกายกระแทก ส่วนใหญ่ท่านี้จะใช้กับคนตัวใหญ่รุ่นเฮฟวี่เวท
สติงเกอร์ สแปลช
[แก้]ท่านี้ถูกคิดค้นและโด่งดังขึ้นโดย สติง เป็นท่าที่กระโดดเอาหน้าอกกระแทกคู่ต่อสู้ที่มุมเทิร์นบักเคิล

เทสซ์ เพลส
[แก้]ท่านี้ถูกคิดค้นและโด่งดังขึ้นโดย ลู เทสซ์ ท่านี้เป็นการกระโดดใส่คู่ต่อสู้ที่กำลังยืนอยู่หรือกำลังวิ่งมาหาตัวเรา ทำให้เรานั่งทับบนตัวคู่ต่อสู้ และอีกรูปแบบหนึ่งที่โด่งดังของ สตีฟ ออสติน คือ ใช้ท่าเทสซ์เพลสใส่คู่ต่อสู้ที่วิ่งมาแล้วรัวหมัดใส่หน้า
เวอร์ติคัล เพลส
[แก้]Also known as vertical splash body press, this variation is made by a charging wrestler (usually standing on the second or top rope) against a standing opponent, landing on his/her chest and shoulders while remaining upright, the wrestler employs the momentum to bring his/her opponent down to the mat into a seated senton.[1]
ช็อป
[แก้]รูปแบบการโจมตีนี้เป็นการใช้มือตี, ตบ หรือสับ ไปที่หน้าอก หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
แบ็คแฮนด์ ช็อป
[แก้]
รู้จักกันในชื่อ ไนฟ์เอดจ์ช็อป ท่านี้เป็นตบไปที่หน้าอกคู่ต่อสู้ด้วยรูปแบบแบ็กแฮนด์ นักมวยปล้ำหลายคนที่ใช้ท่านี้ตบคู่ต่อสู้ ส่วนใหญ่คนดูตะร้อง วู้ !! ตอบกลับมา ซึ่งเป็นเสียง วู้ !! ของ ริก แฟลร์ ที่ทำให้ท่านี้โด่งดังขึ้น
ครอสช็อป
[แก้]A double variation of the aforementioned chop, the wrestler lunges forward or jumps forward in a pressing fashion while crossing arms forming a "X", hitting both sides of the opponent's neck.
สปินนิง ไนฟ์เอดจ์ช็อป
[แก้]ท่านี้เป็นการหมุนตัว 180 หรือ 360 องศา แล้วตบหน้าอกคู่ต่อสู้ด้วยรูปแบบแบ็คแฮนด์ช็อป
เคะสะงิริช็อป
[แก้]เป็นการใช้สันมือสับแบบคาราเต้ ไปที่ไหล่ หรือ คอ คำว่า เคะสะงิริ เป็น ภาษาญี่ปุ่น ที่แปลว่า ฟัน ตัด
มองโกเลียนช็อป
[แก้]เป็นการใช้สันมือสับไปที่ไหล่คู่ต่อสู้พร้อมกันทั้งสองมือ
โอเวอร์เฮด ช็อป
[แก้]ใช้สันมือสับไปที่กลางหัว ส่วนใหญ่ท่านี้มักจะใช้โดยนักมวยปล้ำที่ตัวสูงอย่างเช่น เดอะเกรทคาลี หรือ อ็องเดรเดอะไจแอนท์
โทรท ทรัสท์
[แก้]หรือรู้จักกันในชื่อ โทรท สไตรก์ หรือ ซอร์ด สแต็บ การโจมตีจะคล้ายการ อัพเพอร์คัท แต่จะเปลี่ยนจากกำมือเป็นการแบบมือออกทำมือแข็งแล้วเสียบเข้าที่คอ
โคลทส์ไลน์
[แก้]
ท่าเป็นท่ากางแขนขนานกับพื้นแล้วใช้แขนวิ่งไปกระแทกคอหรือหน้าอกคู่ต่อสู้ให้ล้มลงไป[2] ท่านี้มักจะสับสนกับท่า ลาเรียท.[3]

แค็คทัส โคลทส์ไลน์
[แก้]ท่านี้โด่งดังมาจาก มิค โฟลีย์ ตอนที่ยังใช้ชื่อว่า "แค็คทัส แจ็ค" [4] ท่านี้เป็นการโคลทส์ไลน์ใส่คู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงเชือกเวทีทำให้ตัวเราและคู่ต่อสู้ตรงเวทีข้ามเชือกเส้นบนมาด้วยกัน[4]
คอร์เนอร์ โคลทส์ไลน์
[แก้]เป็นการโคลทส์ไลน์อัดคู่ต่อสู้ที่มุมเทิร์นบักเกิล
ลีพพิง โคลทส์ไลน์
[แก้]หรือที่รู้จักกันในชื่อ กระโดดโคลทส์ไลน์ หรือ ฟลายอิง โคลทส์ลาย ท่านี้เป็นการวิ่งแล้วกระโดดโคลทส์ไลน์ใส่คู่ต่อสู้ ท่านี้มักจะเห็น ดิอันเดอร์เทคเกอร์ และ โรแมน เรนส์ ใช้อยู่บ่อย ๆ ส่วนในรูปแบบอื่นก็จะมีกระโดดโคลทส์ลายอัดคู่ต่อสู้ที่มุมเทิร์นบักเคิล

รีบาวดน์โคลทส์ไลน์
[แก้]เป็นรูปแบบการโคลทส์ไลน์อย่างหนึ่ง คือ เมื่อคู่ต่อสู้เด้งเชือกแล้วเรารีบไปเด้งเชือกเส้นเดียวกันกับฝั่งคู่ต่อสู้ โดยจะทำให้เราอยู่ข้างหลังคู่ต่อสู้ แล้วเมื่อคู่ต่อสู้หันกลับมาก็จะโดนโคลทส์ลาย
ชอร์ทอาร์ม โคลทส์ไลน์
[แก้]จับแขนคู่ต่อสู้ในรูปแบบ ช็อร์ทอาร์ม หลังจากนั้นดึงตัวคู่ต่อสู้เข้ามาใส่โคลทส์ลาย[1]
ทรีพอยท์สแตนซ์ โคลทส์ไลน์
[แก้]มือจรดพื้นยืนท่าเตรียมยิงสามคะแนน แบบอเมริกันฟุตบอลแล้ววิ่งไปโคลทส์ไลน์คู่ต่อสู้ นักมวยปล้ำที่ใช้ท่านี้เป็นท่าไม้ตายคือ "แฮคซอว์" จิม ดักแกน
ดับเบิลแอ็กซ์แฮนเดิล
[แก้]หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดับเบิลสเลดจ์ หรือ โพลิชแฮมเมอร์ เป็นชื่อที่ตั้งโดย อีวาน ปูสกี ท่านี้เป็นการใช้สองมือประสานเข้าด้วยกันแล้วทำท่าเหวี่ยงสเลดจ์แฮมเมอร์หรือขวานทุบไปที่ หลัง หน้า หน้าอก หรือ หัว ของคู่ต่อสู้ ท่านี้ยังสามารถใช้บนเชือกเส้นบนได้อีกด้วย
ดร็อป
[แก้]เป็นการโจมตีที่ตัวเรากระโดดลงมาอัด กระแทก หรือ ทับ คู่ต่อสู้บนพื้น และอาจจะเน้นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นพิเศษ
ช็อปดร็อป
[แก้]The wrestler either falls forward, or jumps up and drops down, hitting a lying opponent with a kesagiri chop on the way down, usually landing in a kneeling position.
เอลโบว์ ดร็อป
[แก้]
ท่านี้เป็นการทิ้งศอกลงคู่ต่อสู้โดยการยกแขนขึ้นทำท่าเหมือนเบ่งกล้ามแล้วทิ้งศอกลงไป สามารถกระโดดหรือทิ้งตัวลงมาเฉย ๆ ก็ได้ [1] นักมวยปล้ำหลายคนใช้ท่านี้ เช่น เดอะร็อก ที่เป็นการทิ้งศอกแบบรุนแรง และได้ตั้งชื่อว่า "เดอะพีเพิลส์เอลโบว์" หรือในชื่อภาษาไทยที่น้าติงตั้งคือ "ศอกมหาชน"
ส่วนรูปแบบอื่น ๆ จะเป็นการเล็งแล้วทิ้งศอก หรือนักมวยปล้ำบางคนก็ทิ้งศอกสองข้างเลย
คอร์กสครูวเอลโบว์ดร็อป
[แก้]ความแตกต่างของการทิ้งศอกแบบนี้คือการกระโดดหมุนตัวแบบเกลียวน็อตหรือคอร์กสครูวแล้วทิ้งศอกใส่คู่ต่อสู้ คนที่คิดค้นท่านี้คือ "เนเจอร์บอย" บัดดี แลนเดล ในปี ค.ศ.1984.
สปินนิงเฮดล็อกเอลโบว์ดร็อป
[แก้]ท่านี้เป็นการทิ้งศอกขณะที่กำลังเฮดล็อกคู่ต่อสู้อยู่ ส่วนใหญ่จะรู้จักกันในวงกว้างว่าเป็น อินเวิร์ทเท็ดเฟซล็อกเอลโบว์ดร็อป หรือ เฟซล็อกกลับด้านเอลโบว์ดร็อป ซึ่งท่านี้จะจับคู่ต่อสู้ล็อกด้วยเฟซล็อกแบบกลับด้านโดยหน้าจะหันมาทางรักแร้แล้วใช้แขนอีกข้างทิ้งศอกใส่หน้าอกหรือแขนคู่ต่อสู้กระแทกลงพื้น
ในรูปแบบอื่นก็จะมีแบบไม่ทิ้งศอกแทนแต่ใช้เป็นท่า ลาเรียท ทิ้งใส่หน้าอกหรือคอแทน

ฟิสท์ดร็อป
[แก้]A wrestler performs a series of theatrics before jumping or falling down, driving a fist usually to the opponent's forehead. There is a variation called karate fist drop that can be performed in a series, setting the wrestler besides a fallen opponent in a front stance known as Zenkutsu dachi. Then the wrestler drops to his/her rear leg's knee delivering a karate punch at the opponent's stomach, to rise up back again.[1]
External links
[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "Professional Wrestling Moves: Part 1". Death Valley Driver.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-06. สืบค้นเมื่อ 2007-11-29.
- ↑ Laurer, Joanie (2001). If They Only Knew. ReaganBooks. p. 96. ISBN 0-06-109895-7.
- ↑ Foley, Mick. Have A Nice Day: A Tale of Blood and Sweatsocks (p.189)
- ↑ 4.0 4.1 Foley, Mick. Have A Nice Day: A Tale of Blood and Sweatsocks (p.4)