ทุนนิยมยุคปลาย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ทุนนิยมยุคปลาย[1] (อังกฤษ: late capitalism หรือ late-stage capitalism) เป็นคำที่ปรากฏช้ในงานพิมพ์ครั้งแรกโดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมัน เวอร์เนอร์ ซอมบาร์ต[2] ในสหรัฐและแคนาดาปัจจุบันนิยมใช้คำนี้เพื่อเรึยกความไร้สาระ, ความย้อนแย้ง, วิกฤต, ความอยุติธรรม และความไม่เท่าเทียมที่สามารถรับรู้ได้ อันเกิดจากการพัฒนาธุรกิจในยุคใหม่[3][4]

ทุนนิยมยุคปลายเป็นคำใช้เรียกยุคสมัยทางประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ปี 1940 ซึ่งรวมถึงการเติบโตขอบธุรกิจยุคหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองที่เรียกว่า "ยุคทองของทุนนิยม" คำนี้ปรากฏใช้ในยุโรปภาคพื้นทวีปมาก่อน และเป็นที่รู้จักในโลกภาษาอังกฤษจากการแปลของเออร์เนสต์ แมนเดล ในหนังสือเรื่อง Late Capitalism ตีพิมพ์ในปี 1975 ที่ซึ่งแมนเดลพยายามจะให้คำอธิบายแบบมาร์กซิสต์ดั้งเดิมเกี่ยวกับ "ยุคทองของทุนนิยม"

เออร์เนสต์ แมนเดล[แก้]

นักเศรษฐศาสตร์สายมาร์กซิสตฺ เออร์เนสต์ แมนเดล ระบุว่า "ทุนนิยมยุคปลาย" จะเต็มไปด้วยเล่ห์กล (machinations) หรือ ความไม่แน่นอน (fluidities) ของทุนทางเศรษฐกิจ[5] และผ่านการการกลายเป็นสินค้า (commodification) และ การกลายเป็นอุตสาหกรรมที่สูงชึ้นมาก ที่ครอบคลุมไปถึงแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตมนุษย์มากขึ้น แมนเดลเชื่อว่า "ภาพของ[ทุนนิยมยุคปลาย]นั้นไม่ใกล้เคียงกับการเป็นภาพแทนของ 'สังคมยุคหลังอุตสาหกรรม' เลย" และทุนนิยมยุคปลาย "ประกอบสร้างการกลายเป็นอุตสาหกรรมไปทั่ว (generalized universal industrialization) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์"[6]

แมนเดลเลือกใช้คำว่า "neo-capitalism" มากกว่าจนถึงปลายทศวรรษ 1960s คำนี้ปรากฏใช้โดยนักวิชาการชาวเบลเยียมและฝรั่งเศสมากในเวลานั้น[7]

เฟรดดริก เจมซัน[แก้]

เฟรดดริก เจมซัน หยิบยืมมุมมองแบบแมนเดลมาเป็นพื้นฐานในงานเขียนชิ้นสำคัญของเขา Postmodernism, or, the Cultural Logic of Late Capitalism[8] ความเป็นหลังสมัยใหม่ของเจมซันรวมถึงรูปแบบ (mode) ใหม่ของการผลิตวัฒนธรรม (การพัฒนาของวรรณกรรม, ภาพยนตร์, วิจิตรศิลป์, วิดีโอ, ทฤษฎีทางสังคม ฯลฯ) ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากยุคสมัยใหม่

เจมซันระบุว่ายุคของทุนนิยมยุคปลายเป็นยุคใหม่และเป็นการพัฒนาที่เคยไม่คู่ขนานไปกับความต้องการของโลกมาก่อน อย่างไรก็ตาม ทุนนิยมยุคปลายแตกต่างจากการทำนายของมาร์กซ์เกี่ยวกับระยะทชนุดท้ายของทุนนิยมึงระยะนุดท้ายขอบทุนนิยม[9]

การใช้ในบริบทสมัยใหม่[แก้]

บทความปี 2017 บน The Atlantic ระบุว่า "ทุนนิยมยุคปลาย" เป็นคำกว้าง ๆ ใช้เรียกวัฒนธรรมธุรกิจยุคใหม่[2] และกลายเป็นคำที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ของทุนนิยมที่มีผลบิดเบือนชีวิตมนุษย์ มักใช้เป็นคำประชดประชันหรือวิจารณ์ นอกจากนี้ยังใบ้ในแง่ที่ว่า ทุนนิยมลักษณะนี้จะไม่คงอยู่ตลอดไป อะนเป็นผลจากปัญหาที่สร้างขึ้นโดยธุรกิจนั้นเริ่มมีมากขึ้นและควบคุมยากขึ้น[10]

อ้างอิง[แก้]

  1. สรวิศ ชัยนาม. เมื่อโลกซึมเศร้า : Mark Fisher, โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์. กรุงเทพมหานคร: Illuminations Edition; 2021.
  2. 2.0 2.1 Lowrey, Annie (May 1, 2017). "Why the Phrase 'Late Capitalism' Is Suddenly Everywhere: An investigation into a term that seems to perfectly capture the indignities and absurdities of the modern economy". The Atlantic. สืบค้นเมื่อ November 29, 2019.
  3. Desmond, Matthew (2019-08-14). "American Capitalism Is Brutal. You Can Trace That to the Plantation". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2020-06-24.
  4. "Late capitalism isn't killing us". theweek.com (ภาษาอังกฤษ). 2020-01-31. สืบค้นเมื่อ 2020-06-24.
  5. The Jameson Reader p. 268–269
  6. Ernest Mandel, Late Capitalism (London: Humanities Press, 1975) p. 387
  7. Ernest Mandel, The economics of neocapitalism. Socialist Register 1964, pp. 56–67.
  8. Postmodernism, or, the Cultural Logic of Late Capitalism. Durham, NC: Duke University Press. 1991. pp. 438. ISBN 8190340328. OCLC 948832273.
  9. The Jameson Reader p. 164–171
  10. Kimberley Amadeo, “Late Stage Capitalism, Its Characteristics, and Why the Term's Trending”. The Balance, 24 August 2018.[1]; Youtube late capitalism video [2].

บรรณานุกรม[แก้]