ทาร์เซียร์
ทาร์เซียร์ ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 45–0Ma ปลายยุคอีโอซีนถึงปัจจุบัน | |
---|---|
![]() | |
ทาร์เซียร์ฟิลิปปิน (Tarsius syrichta) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Primates |
อันดับย่อย: | Haplorrhini |
อันดับฐาน: | Tarsiiformes |
วงศ์: | Tarsiidae Gray, 1825 |
สกุล: | Tarsius Storr, 1780 |
ชนิดต้นแบบ | |
Lemur tarsier Erxleben, 1777 | |
ชนิด | |
| |
ชื่อพ้อง | |
แมวเซียร์ (อังกฤษ: tarsier) หรือ มามัก (ตากาล็อก: mamag) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กในอันดับไพรเมตที่วิวัฒนาการมาจากยุคไอโอซีนจนมาถึงยุคปัจจุบัน ที่มีรูปร่างลักษณะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก
มีเพียงวงศ์เดียว คือ Tarsiidae และสกุลเดียวเท่านั้น คือ Tarsius[1]
ถิ่นที่พบ[แก้]
ทาร์เซียร์จัดเป็นไพรเมตที่มีจมูกแห้ง เป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ที่ปัจจุบันเหลืออยู่จำนวนน้อยพบกระจายอยู่เฉพาะที่เกาะบอร์เนียว, สุมาตรา, ซูลาเวซี ในประเทศอินโดนีเซีย และหมู่เกาะฟิลิปปิน
ลักษณะ[แก้]
ทาร์เซียร์มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากไพรเมตจำพวกอื่นคือมีขนาดเล็กมากโดยมีน้ำหนักตัวเพียง 80-150 กรัม ขนาดความยาวลำตัวไม่นับหางราว 5 นิ้วเท่านั้น นับเป็นสัตว์ในอันดับไพรเมตที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกจำพวกหนึ่ง แต่มีหางที่เรียวยาวเป็น 2 เท่าของความยาวลำตัว มีเบ้าตาขนาดใหญ่มาก มีกระดูกข้อเท้าหลังที่ยาวใช้ในการกระโดดและกระโดดได้ไกลและว่องไวเหมือนกบ[2] มีนิ้วมือเรียวยาวมาก และมีเล็บแบน เว้นแต่นิ้วที่ 2-3 จะมีกรงเล็บ และสามารถหมุนคอได้ 180 องศา คล้ายกับนกเค้าแมว อันเป็นการวิวัฒนาการแบบเข้าหากัน มีพฤติกรรมอาศัยโดยเกาะอยู่ตามต้นไม้ กินแมลงเป็นอาหาร และหากินในเวลากลางคืน[3]
ทาร์เซียร์หากินในเวลากลางคืน ในเวลากลางวันจะเซื่องซึม จะอาศัยหลับนอนตามโพรงหรือรอยแตกแยกของต้นไม้ใหญ่ เช่น กร่าง ที่ขึ้นเป็นกาฝากของต้นไม้ใหญ่ ทาร์เซียร์จะปล่อยกลิ่นที่ฉุนเพื่อประกาศอาณาเขตตามโคนต้นไม้ที่อาศัยอยู่ ซึ่งชาวพื้นเมืองของเกาะซูลาเวซีที่รับประทานทาร์เซียร์เป็นอาหาร เนื่องจากอาหารที่หายากบนเกาะ จะตามรอยทาร์เซียร์ได้จากการดมกลิ่นนี้ตามต้นไม้ ทาร์เซียร์เมื่อแรกเกิดมีขนาดใหญ่กว่าสัตว์ในอันดับไพรเมตทั่วไป เทียบเท่ากับมนุษย์คลอดลูกที่มีความสูงถึง 80 เซนติเมตร แม้ลูกทาร์เซียร์จะเกาะหลังแม่เหมือนไพรเมตทั่วไป แต่ลูกทาร์เซียร์จะอาศัยพึ่งพิงแม่ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น [2]
ความคล้ายคลึง[แก้]
ทาร์เซียร์แม้ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกจะคล้ายกับลีเมอร์และกาลาโกหรือลิงลมมากกว่าลิงทั่วไป แต่จากการศึกษาทางสัณฐานวิทยาพบว่า ทาร์เซียร์มีความใกล้เคียงกับลิงและเอปมากกว่า เนื่องจากกระดูกเบ้าตาของทาร์เซียร์เหมือนกับลิงและเอปมากกว่า เพราะเป็นกระดูกเบ้าตาทั้งหมด ไม่เหมือนกับของลีเมอร์และกาลาโก รวมทั้งมีฟันที่เหมือนกับลิงและเอป มีฟันที่แหลมคม โดยเฉพาะฟันหน้า ซึ่งสามารถเขียนเป็นสูตรได้ว่า [2]
ตา[แก้]
ตาของทาร์เซียร์มีขนาดใหญ่ อันเป็นการวิวัฒนาการเพื่อสำหรับการหากินในเวลากลางคืน แต่ทาร์เซียร์สูญเสียทาพีตัม ลูซิเดี่ยมในดวงตาที่สำหรับใช้เก็บแสงได้เป็นอย่างดี ซึ่งจำเป็นในการหากินในเวลากลางคืน อันเป็นข้อสันนิษฐานว่าทาร์เซียร์ดั้งเดิมเคยเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางวัน และเมื่อทาร์เซียร์ต้องปรับตัวมาหากินในเวลากลางคืน เลยชดเชยด้วยการวิวัฒนการดวงตาให้มีขนาดใหญ่ แต่ทาร์เซียร์ไม่สามารถกลอกลูกตาไปมาได้ ซึ่งขนาดตาของทาร์เซียร์นั้นใหญ่กว่าสมองเสียอีก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร และนับว่าเป็นตาของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เทียบเท่ากับมนุษย์มีตาขนาดเท่าลูกมะพร้าว [2]
หู[แก้]
ใบหูของทาร์เซียร์มีขนาดใหญ่ ใช้สำหรับการฟังเสียง เนื่องจากทาร์เซียร์ติดต่อสื่อสารกันด้วยเสียงร้องที่มีความถี่ 70 เฮิรตซ์ และสามารถรับฟังเสียงที่มีความถี่สูง 90 เฮิร์ตซ์ ซึ่งทาร์เซียร์แต่ละชนิดจะส่งเสียงร้องที่แตกต่างกัน และเสียงร้องของทาร์เซียร์แต่ละชนิดที่แตกต่างกัน จะไม่ได้รับการตอบสนองจากทาร์เซียร์ต่างชนิดกัน[4]
อาหาร[แก้]
ทาร์เซียร์กินแมลงเป็นอาหารหลัก สามารถกระโดดได้ไกลถึง 290 เซนติเมตร ในแนวราบ เทียบกับมนุษย์ที่มีความสูง 175 เซนติเมตร กระโดดได้ไกลถึง 19 เมตร ในวัน ๆ หนึ่งทาร์เซียร์จะกินอาหารได้มากถึงร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว เมื่อจะหากินทาร์เซียร์จะขยับใบหูไปมาเพื่อรับฟังเสียง ก่อนที่สายตาจะมองหา และกระโดดเข้าไปจับกินด้วยการกัดก่อนอย่างรวดเร็ว[2]
ชาวพื้นเมืองของเกาะซูลาเวซีเรียกทาร์เซียร์ว่า "แฮม" หมายถึง "วิญญาณบรรพบุรุษ" หรือ "ผี"[2]
การจำแนก[แก้]
ทาร์เซียร์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้สูญพันธุ์ไปแล้วมีทั้งหมด 3 ชนิด โดยมี 2 ชนิดที่สามารถพบได้ในประเทศไทย[5] ได้แก่
- Tarsius eocaenus (มีชีวิตอยู่ในสมัยอีโอซีนตอนกลาง พบที่ประเทศจีน)
- Tarsius thailandicus (มีชีวิตอยู่ในสมัยไอโอซีนตอนปลาย พบที่แอ่งลี้ จังหวัดลำปาง ภาคเหนือของไทย)[6]
- Tarsius sirindhornae (มีชีวิตอยู่ในสมัยไมโอซีนตอนปลาย พบที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง)[7]
ส่วนทาร์เซียร์ที่ยังสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 9 ชนิด ได้แก่
- Tarsius bancanus พบได้ที่เกาะบอร์เนียวและสุมาตราของอินโดนีเซีย
- Tarsius dentatus พบได้ที่ตอนกลางของเกาะซูลาเวซี
- Tarsius lariang พบได้ที่ตอนกลางของเกาะซูลาเวซี[8]
- Tarsius pelengensis พบได้ที่เกาะเปเลง ของอินโดนีเซีย
- Tarsius pumilus เป็นขนาดเล็กที่สุด พบได้ที่ตอนกลางของเกาะซูลาเวซี[9]
- Tarsius sangirensis พบได้ที่เกาะซังไก อยู่ห่างไปประมาณ 200 กิโลเมตร ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะซูลาเวซี
- Tarsius syrichta พบได้อย่างกว้างขวางที่เกาะลูซอนและมินดาเนาของฟิลิปปินส์
- Tarsius tarsier ถือเป็นต้นแบบของทาร์เซียร์ทั้งหมด พบได้ทางใต้ของเกาะซูลาเวซี
- Tarsius tumpara เป็นชนิดที่ค้นพบใหม่ พบได้ที่เกาะเซียว
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: Tarsius |
อ้างอิง[แก้]
- ↑ จาก ITIS.gov
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 The Real Gremlin, "Nick Baker's Weird Creatures". สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต ทางทรูวิชั่นส์: ศุกร์ที่ 25 มกราคม 2556
- ↑ พบฟอสซิล ลิง“ทาร์เซียร์ สิรินธร” 13 ล้านปี จากกรุงเทพธุรกิจ
- ↑ Ramsier, Marissa A. (2012). "Primate communication in the pure ultrasound". Biology Letters. doi:10.1098/rsbl.2011.1149.
{{cite journal}}
: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า :|month=
(help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ ชัยมณี, เยาวลักษณ์ (2546). ฟอสซิลไพรเมตชั้นสูงในประเทศไทย (PDF). กรมทรัพยากรธรณี.
{{cite book}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|year=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ Nowak, R.M. (1999). Walker's Mammals of the World (6th ed.). Johns Hopkins University Press. pp. 94–97. ISBN 0801857899.
- ↑ Chiamanee, Y., Lebrun, R., Yamee, C., and Jaeger, J.-J. (2010). "A new Middle Miocene tarsier from Thailand and the reconstruction of its orbital morphology using a geometric–morphometric method". Proceedings of the Royal Society B: Biological Sciences: –. doi:10.1098/rspb.2010.2062.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Tarsius lariang จากIUCN
- ↑ "Tarsius pumilus จาก IUCN". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-28. สืบค้นเมื่อ 2011-07-13.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
วิกิสปีชีส์มีข้อมูลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Tarsiidae |
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Tarsius ที่วิกิสปีชีส์