ทาทา ยัง
ทาทา ยัง | |
---|---|
![]() | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อจริง | อมิตา มารี ยัง |
ชื่อเล่น | ทาทา |
ชื่ออื่น | อมิตา ทาทา ยัง อมิตา ยัง สีณพงศ์ภิภิธ |
เกิด | 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523 (38 ปี) |
ที่เกิด | กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
แนวเพลง | แดนซ์ป็อป, ป็อปร็อก, อาร์แอนด์บี |
อาชีพ | นักร้อง, นักแสดง, นางแบบ, ผู้จัดการศิลปิน |
ช่วงปี | พ.ศ. 2533–ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | พ.ศ. 2538 – จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พ.ศ. 2544 – เทโรเรคคอร์ด พ.ศ. 2547 – โคลัมเบีย-โซนี่บีเอ็มจี พ.ศ. 2552 – โซนี่ มิวสิก |
เว็บไซต์ | TataYoung.com |
คู่สมรส | ฉัตรอดุลย์ สีนะพงษ์พิพิธ (2557–ปัจจุบัน) |
บุตร | 1 |
อมิตา มารี ยัง (อักษรโรมัน: Amita Marie Young; เกิด 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523) หรือทาทา ยัง หรือ อมิตา ทาทา ยัง หรือ อมิตา ยัง สีณพงศ์ภิภิธ เป็นนักร้องหญิง Diva แนวหน้าของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นนักแสดง และนางแบบลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ทาทาเข้าสู่วงการดนตรีภายหลังชนะเลิศการประกวดร้องเพลงระดับชาติเมื่ออายุ 11 ปี และได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องอาชีพเมื่ออายุ 14 ปี กับสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีผลงานอัลบั้มอัลบั้มแรกคือ อมิตาทาทายัง เมื่อปี พ.ศ. 2538[1] อัลบั้มดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1.3 ล้านชุด ภายในเวลา 5 เดือน[2] อัลบั้ม ทาทาวันมิลเลียนกอปปีส์เซเลอเบรชัน เป็นอัลบั้มซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จดังกล่าว ซึ่งอัลบั้มนี้ก็มียอดขายเกิน 1 ล้านชุดอีกเช่นกัน ส่งผลให้เป็นนักร้องที่มีอายุน้อยที่สุดที่มีอัลบั้มทะลุล้านตลับถึง 2 อัลบั้มติดต่อกัน[3]
นอกจากผลงานเพลงแล้ว ทาทายังมีผลงานด้านการแสดงทั้งภาพยนตร์ในเรื่อง จักรยานสีแดง และ รัก-ออกแบบไม่ได้ และผลงานละครเรื่อง ปลายเทียน ต่อมาทาทาได้เซ็นสัญญากับค่ายโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ในสังกัดโซนีมิวสิก และได้มีผลงานอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรกในชื่อ ไอบีลีฟ (อังกฤษ: I Believe) เมื่อปี พ.ศ. 2547 อัลบั้มดังกล่าวมีการเผยแพร่ไปยังประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และบางส่วนของเอเชียตะวันออก
ทาทาเป็นศิลปินที่ขับร้องเพลงในหลากหลายแนวเพลงทั้งป๊อป บัลลาด ร็อก และมีทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนผลงานและต่อต้านผลงานของเธอ มิวสิกวิดีโอและผลงานด้านอื่น ๆ ของเธอได้รับการต่อต้านจากกลุ่มบุคคลในบางครั้ง อย่างไรก็ดีทาทาได้รับรางวัลจากสื่อบันเทิงหลากหลายแขนงและเธอเป็นนักร้องหญิงที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยกว่า 800 ล้านบาท[4]
เนื้อหา
ประวัติ[แก้]
ปฐมวัยและก้าวแรกในวงการดนตรี (2523–2538)[แก้]
ทาทา ยัง เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นธิดาคนแรกและคนเดียวของทิโมที ไมเคิล "ทิม" ยัง (มีชื่อไทยว่า วันชัย)[5][6] กับบัญชร ยัง[7][8] บิดาเป็นชาวอเมริกัน และมารดาเป็นชาวไทย มีพี่สาวบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อเล่นว่า แก้ม[9][10] ซึ่งเป็นบุตรของน้า (น้องสาวของบัญชร) ที่บัญชรนำมาเลี้ยงดูก่อนทาทาเกิด[11]
ทาทาเริ่มต้นการศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนแมรีปอปปินส์ สำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนบางกอกพัฒนา และศึกษาต่อระดับอนุปริญญาจากมหาวิทยาลัยเนแบรสกาแห่งลินคอล์น (Nebraska University of Lincoln)
เมื่ออายุได้ 11 ปี เธอชนะการประกวดจากเวที "นิสสันมิวสิก" ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยขับร้องเพลง "วันไนต์ออนลี" การแข่งขันดังกล่าวทำให้เธอได้เช็นสัญญากับยามาฮ่ามิวสิก ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นทางวงการดนตรีของเธอ ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 เธอได้เซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่[1] ค่ายเพลงใหญ่ของไทยและนำเธอเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีอย่างเป็นทางการ
ในปี พ.ศ. 2538 ทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อว่า อมิตาทาทายัง นับเป็นอัลบั้มแรกและเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเวลานั้น โดยมีเพลง "โอ๊ะโอ้ย" เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้ม อัลบั้มดังกล่าวมียอดจำหน่ายมากกว่า 1.3 ล้านชุดภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือนหลังออกจำหน่าย [12] ทำให้เธอออกอัลบั้ม ทาทาวันมิลเลียนกอปปีส์เซเลอเบรชัน เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนเพลง โดยในอัลบั้มนี้เธอได้ขับร้องเพลง "ฉันรักเธอ" ซึ่งอัลบั้มนี้ก็มียอดขายเกิน 1 ล้านชุดอีกเช่นกัน ส่งผลให้เป็นนักร้องที่มีอายุน้อยที่สุดที่มีอัลบั้มทะลุล้านตลับถึง 2 อัลบั้มติดต่อกัน[13] นอกจากนี้เธอยังได้จัดคอนเสิร์ต นานาทาทา 2 รอบการแสดงและคอนเสิร์ตตอนพิเศษ "ไอเลิฟยู" ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้เธอได้รับรางวัล "นักร้องแห่งปี" จากนิตยสารบางกอก และรางวัล "ศิลปินยอดเยี่ยม" ประจำปี พ.ศ. 2538, "มิวสิกวิดีโอแห่งปี" และรางวัล "อัลบั้มแห่งปี" จากเรดิโอโวต[14]
โลกดารา (2539–2540)[แก้]
ในปี พ.ศ. 2539 ทาทาได้รับเลือกจากจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ให้เป็น 1 ใน 6 ศิลปินอาทิ คริสติน่า อากีล่าร์,มอส,เจ เจตริน ฯลฯ ออกอัลบั้มร่วมกันในชื่อ 6.2.12[15] และจัดคอนเสิร์ต 6.2.12 เฟสติวัล ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 5 หมื่นคน นอกจากนี้เธอยังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการออกรายการโทรทัศน์ออสเตรเลียในชื่อ "เวิลด์เทลลีบอร์ดแคสต์" เป็นรายการที่นำเยาวชนเอเชียมาร่วมกันร้องเพลงและออกอากาศในเดือนกุมภาพันธ์ แพร่ภาพไปทั้งทวีปออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2539 ทาทาได้จัดคอนเสิร์ต ทาทาไลฟ์อินฮอลลีวูด ณ ฮอลลีวูดพาลลาเดียม ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินเอเชียไม่กี่คนที่ได้จัดคอนเสิร์ตโดยมีผู้ชมเป็นชาวอเมริกัน และเธอก็ได้รับเลือกจากรัฐบาลจีนให้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแสดงในคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองการส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2540[14] โดยแสดงร่วมกับศิลปินนานาชาติ อาทิ เวตเวตเวต ไมเคิลเลิร์นทูร็อก ลิซา สแตนส์ฟิลด์ ออลโฟร์วัน และแบรนด์นิวเฮฟวี่ส์
ในปี พ.ศ. 2540 ทาทากลายเป็นศิลปินที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล "พระพิฆเนตรทองคำ" จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์[1] จากการที่เธอได้รับรางวัลดังกล่าว ทำให้เธอมีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตเฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ และในปีเดียวกันนี้ได้มีการจัดตั้งกลุ่มแฟนคลับทาทา ยังขึ้น ในการดูแลของบริษัททาทาเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพื่อรวมกลุ่มแฟนเพลงของเธอและช่วยเหลือมูลนิธิเด็กในประเทศไทยและมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล
สู่วงการละครและภาพยนตร์ (2540–2542)[แก้]
ทาทาได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์โดยมีผลงานในเรื่อง จักรยานสีแดง ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ. 2540 เป็นเรื่องแรก จากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ทำให้เธอได้รับรางวัล "นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม" จากงานประกาศรางวัลบล็อกบัสเตอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ประจำปี พ.ศ. 2540 หลังจากนั้นเธอได้แสดงในภาพยนตร์ในอีก 2 เรื่องคือ รัก-ออกแบบไม่ได้ และ ปลายเทียน ซึ่งประสบความสำเร็จเช่นกัน ในปีเดียวกันนี้เธอได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทยจากนิตยสารแอล
ในปี พ.ศ. 2541 ทาทา ยังได้รับเลือกให้ขับร้องเพลงประจำการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยขับร้องเพลง "รีชฟอร์เดอะสตาร์" ในพิธีเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2541[14] ในปีเดียวกันนี้ ทาทาได้รับเลือกเป็น 1 ใน 25 บุคคลที่เป็นที่บอมรับในเอเชียจากนิตยสาร เอเชียวีค[16] นอกจากผลงานทางการแสดงและขับร้องเพลงแล้ว ในปี พ.ศ. 2543 ทาทามีผลงานโฆษณาผลิตภัณฑ์ของ Smooth E ร่วมกับ Kipsan Beck นายแบบและนักแสดงชาวยูเรเชียน
ทาทายังได้ออกอัลบั้ม ทาทารีมิกซ์ ในปีเดียวกันโดยนำเพลงฮิตมาเรียบเรียงใหม่ในจังหวะที่เร็วขึ้น ประกอบไปด้วย ไชนิสมิกซ์ ยูโรมิกซ์ เฮาส์มิกซ์ และนำเพลง "ฮัลโล" มารีมิกซ์ใหม่ร่วมกับมอส ปฏิภาณ และนิตยสาร แมนีแคลร์ ได้มีการเขียนบทความเรื่อง "เด็กร่ำรวย" พูดถึงเด็กเก่งทั่วโลกโดยมีทาทาหนึ่งในนั้นโดยสามารถทำเงินได้มากกว่า 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีเดียวกันนี้ทาทายังได้รับเลือกจากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของญี่ปุ่นเพื่อร่วมงาน เอเชียนไลฟ์ ร่วมกับศิลปินชั้นนำของเอเชีย ถ่ายทอดไปกว่า 30 ประเทศ
ทาทาได้รับเชิญจากสถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี ให้ร่วมแสดงกับ 80 ศิลปินในการฉลองเปิดสถานี ซึ่งเผยแพร่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2542 และในเดือนพฤษภาคมทาทาได้เดินทางไปฮ่องกงเพื่อให้สัมภาษณ์ในรายการ คิวแอนด์เอ (Q&A) ของสถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น โดยมี Riz Khan' เป็นผู้สัมภาษณ์ในหัวข้อ 'Asia's Top Entertainers' และในเดือนตุลาคมสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นได้เผยแพร่เรื่องราวของเธอในสารคดีชุด "ทาทายัง - วันออฟเอเชียส์โมสต์เอาต์สแตนดิงทีเนเจอรส์" (Tata Young - One of Asia's Most Outstanding Teenagers)[14] ต่อมาในเดือนมิถุนายนทาทาได้เป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ เอ็มทีวีเอเชียออนไลน์ และเดิอนกรกฎาคมสำนักพิมพ์รอยเตอร์ได้เผยแพร่เรื่องราวของเธอกับ 'Tata Young Feature Story - Thai Teen Sensation Reaches for the Stars' นอกจากนี้ทาทายังได้รับเลือกจากหนังสือพิมพ์ เดอะเนชัน ให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลในรอบศตวรรษ (One of Thailand's 100 Most Influential Artist & Entertainers of the Century)[17]
สู่วงการนางแบบ (2543–2546)[แก้]
ในปี พ.ศ. 2543 ทาทาได้เซ็นสัญญาเป็นนางแบบในสังกัดของชาแนลรวมถึงงานเดินแบบของเธอตลอดปี และเซ็นสัญญากับ บีอีซีเทโรเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เป็นเวลา 4 ปีโดยมีผลงานละคร 2 เรื่อง ผลงานภาพยนตร์ 2 เรื่อง และผลงานเพลง 3 ชุด
เรื่องราวของทาทาเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขน จนนิตยสาร ไทม์ (เอเชีย) ได้เสนอบทความ "The Eurasian Invasion" เรื่องราวของลูกครึ่งที่มีชื่อเสียงในแถบประเทศเอเชีย เพื่อแสดงว่าอิทธิพลของลูกครึ่งในธุรกิจบันเทิงกำลังมาแรง ซึ่งทาทาได้ให้สัมภาษณ์และขึ้นปกพร้อมกับ Maggie Q.และ Asha Gill[18] ในฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2544 และในปีเดียวกันนี้ทาทาได้ออกอัลบั้มใหม่ในชื่อเดียวกับตัวเอง มีเพลงเด่นจากอัลบั้มได้แก่เพลง "อา-โบ-เด-เบ" "หวานใจ" และ "เก็บฉันไว้ยืนข้างเธอทำไม" ซึ่งทุกเพลงได้รับการตอบรับและขึ้นชาร์ตเพลงในประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2545 ทาทามีผลงานละคร ปลายเทียน เป็นเรื่องแรก รับบทเป็นเกาลัด มีบุคลิกมั่นใจในตนเอง และได้ขับร้องเพลงประกอบละคร 2 เพลงคือ "จะเก็บเอาไว้ให้เธอผู้เดียว" และ "จดจำไว้ในลมหายใจ" ด้วย นอกจากนี้เธอยังร่วมในการจัดทำอัลบั้ม 2002 ฟีฟ่าเวิลด์คัพ โดยได้ขับร้องเพลง "เชียร์หยุดโลก" ร่วมกับ อัยย์,ซ่าร่า,โน้ต-ตูน และอัลบั้ม เพร์สเปกชีฟ 1 (อังกฤษ: Perspective I) ที่นำเอาเพลงเก่าของเบิร์ด-ฮาร์ท มาเรียบเรียงใหม่ โดยทาทาได้ร้องเพลง "ห่างไกล"
ภายหลังการแสดงละครและออกอัลบั้มร่วมกับศิลปินอื่นๆแล้ว ในปี พ.ศ. 2546 ทาทาได้ออกอัลบั้มที่ 2 ในการสังกัดค่าบบีอีซีเทโรคือ เรียลทีที (อังกฤษ: Real TT) ในอัลบั้มนี้เธอมีส่วนร่วมกับผลงานในการสร้าง การประพันธ์เพลง และการกำหนดแนวคิดหลักของอัลบั้ม เพลงเด่นจากอัลบั้มนี้ได้แก่ "ซูเปอร์แฟน" และ "อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน"
นักร้องแห่งเอเชีย (2547–2550)[แก้]
หลังจากความสำเร็จในวงการดนตรีของทาทา เธอจึงเป็นศิลปินไทยคนแรกที่มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายโคลัมเบียในสังกัดของโซนีมิวสิกเมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้ออกอัลบั้ม ไอบีลีฟ (อังกฤษ: I Believe) ซึ่งเป็นอัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มแรกของเธอ[19] โดยมีซิงเกิลแรกคือ "เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี" (อังกฤษ: Sexy, Naughty, Bitchy) แต่เพลงนี้ในมาเลเซียต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เซ็กซี, นอร์ตี, ชีกกี" นอกจากนี้อัลบั้มดังกล่าวยังมีซิงเกิลอีก 2 ซิงเกิลคือ "ไอบีลีฟ" และ "ซินเดอเรลลา"
นอกจากนี้ทาทายังได้รับการเลือกเป็น 1 ใน 50 สตรีที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกจากนิตยสารในมาเลเซีย และได้รับเชิญเป็นกรรมการตัดสินการประกวดมิสสิงคโปร์ประจำปี 2004 เธอขยายตลาดเพลงของเธอสู่ประเทศอินเดียด้วยการออกซิงเกิล "ดูมดูม" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ดูม (อังกฤษ: Dhoom) ภาพยนตร์อินเดีย คนอินเดียจึงเรียกขานเธอว่า "ดูมเกิร์ล" และมีการจัดคอนเสิรร์ตทัวร์ ดูม จัดขึ้นในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในปี พ.ศ. 2549 ทาทาได้ขับร้องเพลง "ไอติงค์ออฟยู" (อังกฤษ: I Think of You) ร่วมกับ "เอช" นักร้องชาวเกาหลี และเพลง "ไอบีลีฟ" ได้รับการขับร้องใหม่จากวงเบบี้วอกซ์รีฟในปี พ.ศ. 2551[20]
ในประเทศไต้หวัน ทาทาได้เกียรติให้แสดงในงานประกาศรางวัล โกลเดนเมโลดี และได้ทำงานร่วมกับศิลปินชั้นนำของไต้หวันอย่างแวนเนส วู (จากวงเอฟโฟร์), เจย์ โจว, หวัง ลี่หง จากความสำเร็จในงานดนตรีของเธอ เธอจึงขยายฐานแฟนเพลงสู่ประเทศญี่ปุ่น ในเพลง "เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี" เป็นเพลงแรกที่ขึ้นชาร์ตออริกอนของญี่ปุ่น มิวสิกวิดีโอของเธอได้ฉายทุกๆ 10 นาทีในจอยักษ์เขตชิบูยาของญี่ปุ่น ยอดขายอัลบั้มในญี่ปุ่นในอัลบั้มนี้มากกว่า 3 แสนชุด และจัดคอนเสิร์ตทัวร์ในญี่ปุ่นไปยังเมืองสำคัญ 6 เมืองได้แก่ ฟูกุโอกะ โอซากา โยโกฮามา นาโกยา เซ็นได และโตเกียว และระหว่างการจัดคอนเสิร์ตในประเทศเนปาล เธอได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตของมารดาของเธอ จึงทำให้เธอยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตและกลับประเทศไทยทันที
อัลบั้ม ไอบีลีฟ ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย ได้คว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) และรางวัลแผ่นเสียงทองคำ (Gold) ด้วยยอดขายทั่วเชียกว่า 1.2 ล้านชุด จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ทาทาได้ออกอัลบั้มพิเศษในชื่อ ดูมดูม โดยนำเพลง "ไอบีลีฟ" "เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี" และ "ไอติงค์อฟยู" มาขับร้องใหม่ในภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอได้รับรางวัล "ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี" ในงานประกาศรางวัลแผ่นเสียงทองคำของญี่ปุ่นของที่ 19
ภายหลังการประชาสัมพันธ์อัลบั้ม ไอบีลีฟ ทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อว่า แดนเจอรัสทาทา (อังกฤษ: Dangerous Tata)) โดยมีเพลง "แดนเจอรัส" เป็นซิงเกิลแรก เพลงดังกล่าวได้ขับร้องร่วมกับไทยเทเนี่ยม นอกจากนี้อัลบั้มดังกล่าวยังได้ร่วมงานกับศิลปินอื่นๆ อาทิ นภ พรชำนิ, ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร, ตรัย ภูมิรัตน์ และบีไฟฟ์ (B5) มียอดจำหน่ายในวันแรกกว่า 1 แสนชุดทำให้ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) ในวันแรกที่ออกจำหน่าย

ในปี พ.ศ. 2549 เธอได้เข้าร่วมงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดสและได้ขับร้องเพลง "เอ็นเลสส์เลิฟ" (อังกฤษ: Endless Love) ร่วมกับลี ไรอัน และได้รับรางวัล "นักร้องโปรดประเทศไทย" นอกจากนี้ ในปีเดียวกัน เธอได้ออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 2 คือ เทมเพอเรเจอร์ไรซิง (อังกฤษ: Temperature Rising) ในเดือนสิงหาคม เปิดตัวด้วยซิงเกิล "เอลนิน-โญ!" ในอัลบั้มนี้มีนักแต่งเพลงชื่อดังมากมายร่วมประพันธ์เพลงให้เธอ อาทิ ไดแอน วาเรน, พอล แม็กคาร์ตนีย์ และนาตาชา เบดิงฟิลด์ หลังจากความสำเร็จที่ได้รับ จึงได้มีการนำอัลบั้ม เทมเพอเรเจอร์ไรซิง มาจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีคาราโอเกะ โดยเลือกมิวสิกวิดีโอเด่น 7 เพลงจากอัลบั้ม และมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี ในเดือนธันวาคม ในชื่อว่า ทาทายังเทมเพอเรเจอร์ไรซิงไลฟ์อินบางกอก ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2549 และได้เปิดตัวซิงเกิลที่ 3 มาฉายในคอนเสิร์ตคือเพลง "คัมเรนคัมไชน์" (Come Rain Come Shine)
ในปี พ.ศ. 2550 ทาทาได้รับเลือกเป็นอิมเมจเกิร์ลคนแรกและได้เป็นตัวแทนช่อง สตาร์เวิลด์ (อังกฤษ: Star World) ในการประชาสัมพันธ์งานต่างๆของสถานี[21] และได้ถ่ายทำโฆษณาของสถานีดังกล่าวที่ประเทศฮ่องกง โดยใช้เพลง "คัมเรนคัมไชน์" มาประกอบภาพยนตร์โฆษณา นอกจานี้เธอยังได้รับเลือกเป็นตัวแทนรณรงค์เรื่องการค้ามนุษย์ ในโครงการ EXIT : End Exploitation & Trafficking ซึ่งแพร่ภาพทั่วโลกโดยเริ่มออกอากาศที่ประเทศไทยเป็นที่แรก โดยจะร่วมมือกับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (USAID) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดนจุง จี-ฮุน หรือเรน จะช่วยเหลือ เอ็มทีวีในการประชาสัมพันธ์รณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ด้วยเช่นกัน[22]
ในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ทาทาเข้าพิธีหมั้นกับเปรม บุษราคัมวงษ์ ทายาทค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ ณ โรงแรมเพนนินซูล่า[23] และในปีถัดมาทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อ วันเลิฟ (อังกฤษ: One Love) เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดยเริ่มบันทึกเสียงตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยมีเพลง "วันเลิฟ" เป็นซิงเกิลแรก โดยเผยแพร่วันแรกในวันวาเลนไทน์ในปี พ.ศ. 2551 และยังมีเพลงเด่นจากอัลบั้มนี้ได้แก่ "ต้นเหตุแห่งความเศร้า" และ "ไอบียัวร์เฟิส, ยัวร์ลาสต์, ยัวร์เอฟรีติง" อีกด้วย[24]
อัลบั้มดังกล่าวได้ประชาสัมพันธ์ร่วมกับโครงการต่างๆ อาทิ วันเลิฟวันลีฟ, วันเลิฟวันบุก, วันเลิฟวันเมมโมรี, วันเลิฟวันวอยซ์ และวันเลิฟวันบาท โดยแต่ละโครงการจะมุ่งทางสิ่งแวดล้อม และสาธารณกุศล นอกจานี้ยังมีการจัด คอนเสิร์ตทัวร์วันเลิฟ ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ อุดรธานี กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต เพื่อนำโครงการ วันเลิฟ รักเดียวเพื่อเมืองไทย ไปร่วมกับคอนเสิร์ตแต่ละที่[25]
นักร้องระดับสากล (2551–ปัจจุบัน)[แก้]
ในช่วงกลางเดือนเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 ทาทาจะเดินทางยังประเทศเยอรมันเพื่อจัดทำอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 3 มีการคัดเลือกเพลงเพื่อสร้างอัลบั้มนี้จากกว่าหนึ่งพันเพลง และได้ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ในชื่อ เรดีฟอร์เลิฟ (อังกฤษ: Ready For Love) โดยใช้เพลง "เรดีฟอร์เลิฟ" เป็นซิงเกิลแรกซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 และได้จัดงานเปิดอัลบั้มในชื่อว่า ทาทาเทกยูทูเดอะเวิลด์ เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และมีการปฐมทัศน์มิวสิกวิดีโอที่ 2 จากอัลบั้มคือ "มายบลัดดีวาเลนไทน์" และเธอได้ตัด Video Mission is you เพื่อเป็นการโปรโมท งานแถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้มของเธออย่างเป็นทางการในงาน "ทาทา ยัง เทกยูทูเดอะเวิลด์" และต่อมาหลังจากนั้นเธอได้เดินทางไปที่ประเทศ ออสเตรเลีย ในงานเทศกาลดนตรี One Movement Music Festival ,The Esplanade Perth Australia 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552 และจะมีแผนกลับไปโปรโมทที่ประเทศออสเตรเลียในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2553 นี้[26]
ชีวิตส่วนตัว[แก้]
ส่วนตัวทาทาบูชาพระพิฆเนศวรตามมารดาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยให้เหตุผลว่าเธอเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองนัก[27][28] นอกจากนี้เธอยังเป็นแฟนคลับคิม อู-บิน ศิลปินชาวเกาหลีใต้[29]
เธอเคยคบหากับโอลิเวอร์ พูพาร์ต, ภราดร ศรีชาพันธุ์, เปรม บุษราคัมวงษ์[30] และวิคเตอร์ ชายชาวโรมาเนีย[31] เป็นอาทิ ซึ่งความสัมพันธ์ทั้งหมดก็ลงท้ายด้วยการเลิกรา ด้วยไม่สมหวังในความรัก เธอเคยคิดที่จะหาสเปิร์มเพื่อจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว[32][33]
ทาทาสมรสกับฉัตรอดุลล์ สีณพงศ์ภิภิธ (ชื่อเดิม ฉัตรอดุลย์ สีนะพงษ์พิพิธ) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 โดยจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต[34][35] ทั้งนี้ฉัตรอดุลย์เป็นคนรักเก่าที่เคยคบหาและเลิกราไปเมื่อสี่ปีก่อน[36] มีบุตรด้วยกันหนึ่งคนชื่อเร สีณพงศ์ภิภิธ (เกิด 12 มกราคม พ.ศ. 2559)[37]
ผลงานเพลง[แก้]
ทาทายังมีผลงานอัลบั้มและซิงเกิลมากมาย ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้านล่างนี้จะแสดงเพียงสตูดิโออัลบั้ม สามารถดูผลงานอัลบั้มทั้งหมดของทาทาที่ ผลงานเพลงของทาทา ยัง
สตูดิโออัลบั้มภาษาไทยและสากล[แก้]
ซิงเกิล[แก้]
สตูดิโออัลบั้มคอนเสิร์ต[แก้]
สตูดิโออัลบั้มรีมิกซ์[แก้]
- สองคน หนึ่งคืน : ทาทา ยัง
อัลบั้มรวมเพลงฮิต[แก้]
|
ผลงานการแสดง[แก้]
ภาพยนตร์[แก้]
|
ละคร[แก้]
|
ซิตคอม[แก้]
- 2538 : สามหนุ่มสามมุม รับเชิญ
- 2539 : หกตกไม่แตก - ตอน ขอได้ไหม (รับบท ติ๊ดตี่)
- 2554 : นางฟ้ามาลี - ตอน ขอสักครั้ง (รับบท มีน)
- 2554 : ระเบิดเถิดเทิง - ตอน ลั่นทุ่ง (รับบท ริน) - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
คอนเสิร์ตเดี่ยว[แก้]
- 2538 : คอนเสิร์ต นานาทาทา @ MCC Hall
- 2539 : คอนเสิร์ต ไอเลิฟยู
- 2539 : Tata Young Live In Hollywood
- 2545 : คอนเสิร์ต "หวานใจ. . . ไม่มีง.งู"
- 2548 : Tata Young I Believe Japan Tour 2005
- 2548 : Tata Young Dhoom Dhoom Tour Live In Bangkok @ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ศิลปินรับเชิญ Thaitanium, B5
- 2549 : Tata Young Temperature Rising Live In Bangkok @ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
- 2551 : Tata Young One Love Thailand Tour
- 2552 : Tata Young In Concert @ Venetian Ballroom MACAO
- 2552 : Tata Young Take You To The World @ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
- 2557 : Turn Back Time With Tata @ Royal Paragon Hall (22-23 มีนาคม) ศิลปินรับเชิญ เจ เจตริน, ฮั่น เดอะสตาร์
- 2562 : Tata Young My Perfection Concert @ Royal Paragon Hall (11-12 ตุลาคม) ศิลปินรับเชิญ กานต์ เดอะพาร์กินสัน
คอนเสิร์ตคู่[แก้]
- 2540 : มอสทาทา แอนดฺเฟรนส์ คอนเสิร์ต จัดคู่กับ มอส ปฏิภาณ @ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ศิลปินรับเชิญ โบ สุนิตา, เกริกพล มัสยวาณิช, NaNaCha, เจสัน ยัง
- 2560 : NEXT BEYOND CONCERT MOS-TATA FACE TO FACE จัดคู่กับ มอส ปฏิภาณ @ CDC Crystal Grand Ballroom (26 สิงหาคม)
- 2561 : ICHITAN และ TrueID PRESENT 20th MOS-TATA CONCERT จัดคู่กับ มอส ปฏิภาณ @ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี (21 เมษายน)
คอนเสิร์ตกลุ่ม[แก้]
- 2539 : คอนเสิร์ต 6.2.12 จัดร่วมกับ คริสติน่า อากีล่าร์, มอส ปฏิภาณ, นัท มีเรีย, ยูเอชที, เจ เจตริน @ สนามกีฬากองทัพบก
- 2556 : คอนเสิร์ต 6.2.13 จัดร่วมกับ คริสติน่า อากีล่าร์, มอส ปฏิภาณ, นัท มีเรีย, ยูเอชที, เจ เจตริน @ Royal Paragon Hall
- 2556 : คอนเสิร์ต 6.2.13 Dance Fever จัดร่วมกับ คริสติน่า อากีล่าร์, มอส ปฏิภาณ, นัท มีเรีย, ยูเอชที, เจ เจตริน @ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
- 2559 : คอนเสิร์ต ล้านตลับ จัดร่วมกับ คริสติน่า อากีล่าร์, ใหม่ เจริญปุระ, นิโคล เทริโอ, นัท มีเรีย, โบ สุนิตา @ Royal Paragon Hall (7–8–9 ตุลาคม)
- 2561 : คอนเสิร์ต 90's Nonstop จัดร่วมกับ มอส ปฏิภาณ, เต๋า สมชาย, นิโคล เทริโอ, โจอี้ บอย, ไทรอัม คิงส์ดอม, เจมส์ เรืองศักดิ์, ลิฟท์ ออย, ที-สเกิร์ต, MR.Z @ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี (25 สิงหาคม)
รางวัลที่ได้รับ[แก้]
ปี (พ.ศ.) | รางวัล |
---|---|
2535 |
|
2538 |
|
2539 |
|
2540 |
|
2541 |
|
2542 |
|
2543 |
|
2547 |
|
2548 |
|
2549 |
|
2550 |
|
2552 |
|
2553 |
|
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 หนังดี อมิตา ยัง เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ http://music.sanook.com/2379333
- ↑ http://music.sanook.com/2379333
- ↑ เว็บบอร์ดพันธ์ทิพย์ TATA YOUNG หญิงไทยผู้โกยเงินเข้าประเทศกว่า 800 ล้านบาท กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย !!!!!! เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ ""ทาทา ยัง" นำร่างไร้วิญญาณ คุณพ่อ มาตั้งสวดอภิธรรม ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์" (Press release). มติชนออนไลน์. 6 สิงหาคม 2556. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2556.
- ↑ "'ทาทา' ไม่เสียดายกลับมาดูใจพ่อไม่ทัน มั่นใจที่ผ่านมาทำเต็มที่แล้ว" (Press release). ไทยรัฐ. 6 สิงหาคม 2556. สืบค้นเมื่อ 19 สิงหาคม 2556.
- ↑ Biography on tatayoung.com
- ↑ Announcement of the death of Tata's Mother
- ↑ "'ทาทา'ส่งพ่อครั้งสุดท้ายด้วยน้ำตา" (Press release). ข่าวสด. 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556. สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2557.
- ↑ "รักให้เป็น รักอย่าง ทาทา ยัง" (Press release). กระปุกดอตคอม. สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2557.
- ↑ "ทาทา ยัง เมื่อตอนชนะประกวดร้องเพลง" (Press release). จับฉ่ายดอตคอม. สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2557.
- ↑ http://music.sanook.com/2379333 ประวัติทาทา ยัง เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ http://music.sanook.com/2379333
- ↑ 14.0 14.1 14.2 14.3 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อtata2you
- ↑ 6.2.12 - 6.2.12 (หกสองสิบสอง) เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ เบรฟโฮสต์ ทาทา ยัง เรยกข้อมูลวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ ทาทายังเวิลด์ รางวัลแห่งความสำเร็จ : ความมหัศจรรย์ของสาวน้อย เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ นิตยสารไทม์ Eurasian Invasion เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ โซนีมิวสิกประเทศไทย Tata Young - I Believe เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ กระปุกดอตคอม คลิป ฟังเพลง mv เพลง I Believe - BABYVOX Re.v เวอร์ชันทำใหม่ของเกาหลี เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ บล็อก สตาร์เวิลด์ ดึงตัว ทาทา ยัง เป็นอิมเมจ เกิร์ล คนล่าสุด พร้อมเปิดตัวรายการสุดฮิตจากอเมริกา เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ ทาทา ยัง จับมือ เรน เป็นพรีเซ็นเตอร์ MTV รณรงค์ต้านการค้ามนุษย์ สำนักข่าวเนชั่น
- ↑ http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=67870
- ↑ โซนีมิวสิกประเทศไทย Tata Young – One Love เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ โซนีมิวสิกประเทศไทย โครงการ Tata Young OneLove รักเดียว...เพื่อเมืองไทย เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ คมชัดลึก ทาทา ยังยึดสนามบินดอนเมืองเปิดตัวอัลบั้ม เรียกข้อมูลวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2552
- ↑ "ทาทา ยัง เซียนบูชาพระพิฆเนศอ้ำอึ้ง !!! เจ้าเข้าองค์ลงอาภัพคู่ การันตีขอพรได้ทุกครั้ง". สยามรัฐ. 9 สิงหาคม 2554. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "ทาทา เผย เป็นเซียนบูชาพระพิฆเนศ". กระปุกดอตคอม. 13 สิงหาคม 2554. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "'ทาทา ยัง' สุดฟิน ตามส่ง 'คิมวูบิน' ถึงสนามบิน". ไทยรัฐ. 9 เมษายน 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "สุดทางรัก ทาทา 4 ครั้ง กับผู้ชาย 4 คน". ไทยรัฐ. 25 สิงหาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "'ทาทา'บอกเลิก'วิค'! ลั่นทุ่มชีวิตให้งานเพราะไม่ทรยศ". ไทยรัฐ. 9 กุมภาพันธ์ 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ ""ทาทา" ฟุ้งอยากมีลูก เล็งหา "สเปิร์ม" ไม่ง้อผู้ชาย". โพสต์ทูเดย์. 3 กุมภาพันธ์ 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ ""ทาทา ยัง" อยากมีลูก เล็งหาสเปิร์มมาท้องเอง". ไทยรัฐ. 16 มีนาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "แต่งแล้ว 'ทาทา ยัง' วิวาห์ฟ้าแลบ 'พี่หมอ' ที่ภูเก็ต". ไทยรัฐ. 22 กรกฎาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "ภาพวิวาห์หวาน ปานฟ้าแล่บ! "ทาทา ยัง & พี่หมอ" โรแมนติก ซาบซึ้งน้ำตาริน ริมทะเลภูเก็ต !!". มติชน. 22 กรกฎาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "จับพิรุธ 'ทาทา' รีเทิร์น 'พี่หมอ' ลุ้นอาจมีแต่ง!". ไทยรัฐ. 23 มิถุนายน 2557. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2557.
- ↑ "ทาทา คลอดลูกชาย ตั้งชื่อ น้องเร ด้าน พี่หมอ ให้กำลังใจไม่ห่าง". ไทยรัฐ. 12 มกราคม 2559. สืบค้นเมื่อ 13 มกราคม 2559.
- ↑ http://www.youtube.com/watch?v=qXFQn_TBijg [Official MV] ใครจะรู้ (Ost.ทรายสีเพลิง) - ทาทา ยัง
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทาทายัง
- Tata Young Fan Club
- Tata2You
- Tata Young Fanpage on Facebook : TTFC
- Tata Young Fan Club Latin America
- Tata Young songs lyrics
- อินสตาแกรมทาทา ยัง
|
|
|