ลอร์ดโวลเดอมอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล)
ตัวละครในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์
ลอร์ด โวลเดอมอร์
ลอร์ดโวลเดอมอร์ในภาพยนตร์
ลอร์ดโวลเดอมอร์

Lord Voldemort
เพศ ชาย
สีผม ดำ (ในตอนเป็นมนุษย์)
สีนัยน์ตา น้ำตาล
ภายหลังเปลี่ยนเป็นสีแดง (ในภาพยนตร์เป็นสีฟ้า)
บ้าน สลิธีริน
เชื้อสาย เลือดผสม
ผู้แสดงในภาพยนตร์ เอียน ฮาร์ต
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 1

ริชาร์ด เบรมเมอร์
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 1 (ให้เสียง)
เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 1 (ให้เสียงไทย)
คริสเตียน โคลสัน
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 2
ราล์ฟ ไฟนส์
ภาค 4-7
ดิลก ทองวัฒนา
ให้เสียงไทย ภาค 4-7
ฮีโร่ ไฟนส์-ทิฟฟิน
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 6 (อายุ 11 ปี)
แฟรงค์ ดิลเลน
แฮร์รี่ พอตเตอร์ 6 (อายุ 16 ปี)

ปรากฏตัวครั้งแรกใน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์

ลอร์ดโวลเดอมอร์ (ฝรั่งเศส: Lord Voldemort; เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈvoʊldəmɔrt, ˈvoʊldəmɔr/[1][2]) เป็นตัวร้ายในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ มีชื่อเดิมว่า ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล และเป็นผู้สืบสกุลของซัลลาซาร์ สลิธีริน คนสุดท้าย โวลเดอมอร์เป็นตัวละครที่ได้รับการโหวตให้เป็นตัวร้ายอันดับหนึ่งทั้งในวรรณกรรมและในภาพยนตร์[3][4]

โวลเดอมอร์เป็นบุคคลที่ผู้คนจำนวนมากในโลกเวทมนตร์หวาดกลัว ถึงขนาดที่ว่าคนจำนวนมากไม่กล้าที่จะเอ่ยชื่อของเขาโดยตรง แต่เลี่ยงไปใช้คำเรียกว่า "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" หรือ "คนที่ไม่ควรเอ่ยนาม" แทน บุคคลที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่หวาดกลัวในการที่จะเอ่ยชื่อโวลเดอมอร์ได้แก่ อัลบัส ดัมเบิลดอร์, รีมัส ลูปิน, ซิเรียส แบล็ก, มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล , แฮร์รี่ พอตเตอร์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ส่วนกลุ่มผู้เสพความตาย ที่เป็นสาวกของโวลเดอมอร์ จะไม่เรียกชื่อออกมา แต่มักจะเรียกเวลากล่าวถึงว่า "จอมมาร" และเรียกโวลเดอมอร์ว่า "นายท่าน" ยกเว้นไอกอร์ คาร์คารอฟ

ในภาษาฝรั่งเศส "Vol de mort" อาจจะมีความหมายได้ทั้ง "ปีกมรณะ" "การบินของความตาย" "การบินจากความตาย" หรือ "การขโมยความตาย" ในการพิมพ์ครั้งต้น ๆ ของฉบับแปลภาษาไทย ผู้แปลได้ถอดชื่อของออกมาเป็น 'โวลเดอมอร์ต ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น โวลเดอมอร์ ตามการออกเสียงของผู้แต่งตามแบบภาษาฝรั่งเศส[ต้องการอ้างอิง] ทว่าในภาพยนตร์ทุกภาคนักแสดงจะออกเสียงเป็น "โวลเดอมอร์ต" ซึ่งมีตัวสะกดที่พยางค์สุดท้ายอย่างชัดเจน เป็นเหตุให้นิยายเสียงที่ออกมาภายหลังภาพยนตร์ภาคแรกจำต้องปรับเปลี่ยนการออกเสียงเป็น "โวลเดอมอร์ต" ตามภาพยนตร์ไปด้วย ทั้งนี้แฟน ๆ ชาวไทยยังคงนิยมออกเสียง "โวลเดอมอร์" ตามเดิม รวมถึงภาพยนตร์ฉบับพากย์ไทยด้วย

การปรากฏตัว[แก้]

การถือกำเนิด[แก้]

ทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล มีครอบครัวทางฝ่ายแม่ คือ ตระกูลก๊อนท์ ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย ตาเฒ่ามาร์โวโล่, มอร์ฟิน (ลูกชาย) และเมโรเพ (ลูกสาว) เมโรเพ ก๊อนท์ตกหลุมรักทอม ริดเดิ้ล มักเกิ้ลหนุ่มลูกของเศรษฐีประจำหมู่บ้านลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน ที่มักขี่ม้าผ่านบ้านของเธอมาพร้อมกับคู่หมั้น ชื่อ เซซิเลีย เมโรเพหวังที่จะให้ทอม ริดเดิ้ลตกหลุมรักตน แต่ริดเดิ้ลไม่ได้รักเมโรเพสักนิด จนกระทั่งมาร์โวโล่และมอร์ฟีน ก๊อนท์ ต้องโทษจำคุกอัซคาบันข้อหาทำร้ายมักเกิ้ล เมโรเพจึงได้โอกาสที่จะวางยาเสน่ห์ทอม ริดเดิ้ล และเมื่อในวันหนึ่งที่ทอมเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากขี่ม้ามาไกลเพียงลำพัง เมโรเพจึงเรียกให้เขาหยุดพักแล้วแอบใส่ยาเสน่ห์ลงในน้ำให้ทอมดื่ม เขาจึงตกหลุมรักเมโรเพ แล้วทั้งคู่ก็หนีตามกันไปอยู่ในลอนดอน เมโรเพใช้ยาเสน่ห์ประคองความรักทั้งคู่ไว้ จนกระทั่งเธอตั้งครรภ์ จึงหยุดใช้ยาเสน่ห์เพราะคิดว่าทอมจะเห็นแก่ลูกที่กำลังจะเกิด แต่ปรากฏว่าเขาทอดทิ้งเธอและกลับบ้านเดิมไป เมโรเพจึงขายล็อกเก็ตสลิธีรินที่ได้รับจากพ่อ แล้วไปคลอดลูกที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในวันสิ้นปี 1926 และเสียชีวิตหลังคลอดเป็นเวลาไม่นาน ก่อนสิ้นใจได้ตั้งชื่อลูกชายไว้ว่า ทอม ตามชื่อพ่อของเด็ก และ มาร์โวโล่ ตามชื่อพ่อของเธอ

ทอม ริดเดิ้ลอาศัยอยู่ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นเวลานาน เขาเติบโตมามีหน้าตาหล่อเหลาและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้เป็นพ่อ เป็นเด็กที่เปี่ยมด้วยความสามารถมากมาย เขาพูดกับงูได้ เขามีเวทมนตร์ และนิสัยชอบเก็บตัวและชอบสะสมของต่าง ๆ มาจนวันหนึ่ง อัลบัส ดัมเบิลดอร์มาชวนริดเดิ้ลไปเรียนที่โรงเรียนฮอกวอตส์ และริดเดิ้ลตกลงใจที่จะไปศึกษาต่อที่นั่น

การศึกษาที่ฮอกวอตส์[แก้]

ริดเดิ้ลเข้าเรียนที่โรงเรียนฮอกวอตส์ด้วยวัย 11 ปีและได้รับการคัดสรรให้ไปอยู่บ้านสลิธิริน เขาเป็นเด็กที่ชาญฉลาด เก่งกาจ เป็นพรีเฟ็ค ประธานนักเรียน และยังเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในโรงเรียน แต่ในระหว่างที่ริดเดิ้ลเข้าศึกษาอยู่ในฮอกวอตส์นั้น ได้เกิดเหตุร้ายกาจขึ้นมากมาย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งที่ร้ายแรงที่สุด คือ การเปิดห้องแห่งความลับ และวันหนึ่ง ในขณะที่เขาศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 6 ที่ฮอกวอตส์ เขาได้ถามเรื่องฮอร์ครักซ์กับศาสตราจารย์ซลักฮอร์น และเป็นการปูทางไปสู่อำนาจมืดในเวลาต่อมา

ในช่วงระหว่างการศึกษาในฮอกวอตส์นี้เองที่เขาได้ฆาตกรรมตระกูลริดเดิ้ล ตระกูลทางฝ่ายพ่อของตนเอง และได้ฮอร์ครักซ์ภายในบ้านของตระกูลก๊อนท์ทางฝ่ายแม่ มอร์ฟีนถูกจับกุมโดยมีหลักฐานผิด ๆ ว่าเขาเป็นผู้สังหารตระกูลริดเดิ้ล และถูกขังที่เรือนจำอัซคาบันจนกระทั่งเสียชีวิต

ริดเดิ้ลในตอนถามเรื่องฮอร์ครักซ์กับศาสตราจารย์ซลักฮอร์น

สำเร็จการศึกษา อำนาจมืดและการสูญเสียอำนาจครั้งแรก[แก้]

หลังจากสำเร็จการศึกษาที่ฮอกวอตส์ ทอมขอทำงานสอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดในฮอกวอตส์ แต่ถูกดัมเบิลดอร์ปฏิเสธเพราะขาดประสบการณ์ ได้ออกค้นหาฮอร์ครักซ์เพิ่มเติม สองปีหลังจากสำเร็จการศึกษา ขณะกำลังทำงานอยู่ที่ร้านบอร์เจ็นและเบิรกส์ ร้านขายอุปกรณ์ศาสตร์มืดในตรอกน็อกเทิร์น ซึ่งสร้างความตกใจและความผิดหวังให้กับอาจารย์ที่เคยสอนที่ฮอกวอตส์ทั้งสิ้น และขณะทำงานอยู่ที่นี่เอง โวลเดอมอร์พบฮอร์ครักซ์อีกสองชิ้นจาก เฮปซิบาห์ สมิท และสังหารเธอเสีย จนกระทั่งอีกหลายปีต่อมา โวลเดอมอร์มาเข้าขอทำงานสอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดในฮอกวอตส์ แต่ก็ถูกปฏิเสธจากดัมเบิลดอร์ ตำแหน่งครูสอนวิชานี้จึงถูกสาป ไม่มีใครสามารถสอนได้เกินหนึ่งปีอีกเลย

หลังจากนั้น โวลเดอมอร์จึงได้เปิดเผยความชั่วร้ายออกมา เขามีจุดประสงค์ที่จะปฏิวัติ สร้างโลกที่ปราศจากมักเกิ้ล และให้ผู้วิเศษสามารถเปิดเผยตัวตนได้อย่างอิสระ โวลเดอมอร์สมัครพรรคพวกรวบรวมทั้งพ่อมด แม่มด และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในความพยายามเพื่อครอบครองโลกผู้วิเศษ ในขณะเดียวกัน ดัมเบิลดอร์เองก็ได้ตั้งกองทัพพ่อมดต่อต้านโวลเดอมอร์ในนามของ ภาคีนกฟีนิกซ์

จนกระทั่งเกิดคำทำนายเรื่องผู้มีอำนาจที่จะปราบโวลเดอมอร์ เขาหวาดกลัวมากและพยายามที่จะกำจัดคนผู้นั้น โดยตามเนื้อหาของคำทำนายนั้นหมายถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเนวิลล์ ลองบัตท่อม โวลเดอมอร์คิดว่าหมายถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์คนเดียว จึงมาสังหารครอบครัวพอตเตอร์ทั้งหมด แต่โวลเดอมอร์สังหารแฮร์รี่ไม่สำเร็จเพราะความรักของลิลี่ พอตเตอร์ได้ปกป้องแฮร์รี่เอาไว้ และทำให้ร่างกายของโวลเดอมอร์ทนทานไม่ไหวจึงสลายไปในคืนนั้น จนเหลือแต่เพียงวิญญาณ

การฟื้นคืนชีพ[แก้]

หลังจากโวลเดอมอร์สูญเสียอำนาจมืดมาเป็นเวลากว่า 11 ปี โวลเดอมอร์ที่สูญเสียอำนาจ จนร่างกายแทบไม่เหลือจิตวิญญาณถูกเก็บได้และโวลเดอมอร์รวมร่างเป็นส่วนหนึ่งกับควีเรลล์ ระหว่างที่เขาเข้ามาทำงานที่ฮอกวอตส์ โวลเดอมอร์หวังว่าตนจะสามารถคืนร่างกายของตนได้จากการยึดครองศิลาอาถรรพ์ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะถูกแฮร์รี่ขัดขวาง ทำให้วิญญาณของโวลเดอมอร์ต้องเร่ร่อนไปอีกครั้งหนึ่ง

อีกหนึ่งปีต่อมา ลูเซียส มัลฟอย ได้แกล้งหยิบหนังสือเรียนมือสองของจินนี่ วีสลีย์ แล้วทำเป็นติเตียนอาเธอร์ วีสลีย์ แล้วแอบใส่สมุดอีกเล่มซึ่งสมุดเล่มนั้นมีวิญาณส่วนหนึ่งของ ลอร์ดโวลเดอมอร์ หรือชื่อเดิมคือ ทอม มาร์โวโล ริดเดิล ผู้เคยเป็นนักเรียนของฮอกวอตส์ แฮร์รี่เคยสื่อสารผ่านเขาในสมุดเล่มเดียวกับที่จินนี่ได้มา (เจอมาจากห้องน้ำหญิง ภายหลังจากที่จินนี่พยายามทำลายสมุดทิ้งแต่ไม่สำเร็จ) ทอม ริดเดิลแสดงให้แฮร์รี่ดูเกี่ยวกับเรื่องห้าสิบปีก่อน ที่เกี่ยวกับห้องแห่งความลับที่ซัลลาซาร์ สลิธีรินเป็นคนสร้างขึ้นและมีแต่ทายาทสลิธีรินเท่านั้นที่จะสามารถเปิดห้องนี้ได้ แต่ทอม ริดเดิ้ลได้จงใจให้แฮร์รี่ดูความทรงจำที่จับได้ว่า รูเบอัส แฮกริด (คนดูแลเลี้ยงสัตว์) เป็นคนเปิดห้องแห่งความลับและมีสัตว์ร้ายคือแมงมุมยักษ์ ชื่อ อาราก๊อก ทำให้แฮกริดถูกไล่ออกและถูกหักไม้กายสิทธิ์ทิ้ง

แฮร์รี่ไม่เชื่อว่าแฮกริดจะฆ่าใคร ๆ ได้เขาจึงเสาะหาความจริงเรื่อยมาจนได้รับรู้จาก เมอเทิลจอมคร่ำครวญ (Moaning Myrtle) (เด็กนักเรียนสาวที่ตายในห้องน้ำ) เธอบอกว่าเธอตายเพราะเธอมาร้องไห้อยู่ในห้องน้ำเพียงคนเดียวและได้ยินเสียงเด็กผู้ชายพูดอะไรแปลก ๆ เลยเปิดประตูจะไล่ไปเพราะเป็นห้องน้ำหญิง ทันใดนั้นเธอก็จ้องไปที่ดวงตาสีเหลืองน่ากลัวทำให้เธอตายตรงก๊อกน้ำ แฮร์รี่จึงมั่นใจนั่นคือทางเข้าของห้องแห่งความลับ เขาได้พูดภาษาพาร์เซลเปิดประตูออกและเสาะเข้าไปเจอห้องแห่งนั้น ได้พบจินนี่ที่ถูกลักพาตัวมา และได้เจอทอม ริดเดิ้ลที่เขาเคยได้เห็นในสมุดบันทึกแปลกประหลาด ทอม ริดเดิ้ลปฏิเสธที่จะช่วยจินนี่ วีสลีย์ ที่ชีพจรอ่อนลงเรื่อย ๆ และเผยว่าเขาคือ ลอร์ด โวลเดอมอร์ และบอกว่าการที่จินนี่อ่อนแอลงเขาจะแข็งแรงขึ้นและสามารถจะกลับมาเป็นโวลเดอมอร์ และปล่อยสัตว์ร้ายงูยักษ์ที่เรียกว่าบาสิลิสก์ออกมาทำร้ายแฮร์รี่ เมื่อแฮร์รี่จัดการกับบาสิลิสก์เสร็จเขาก็ได้เขี้ยวของบาสิลิสก์เจาะเข้าลงไปในแขนเขาซึ่งมีพิษร้ายแรงเขาตัดสินใจใช้เขี้ยวนั้นแทงลงไปบนสมุดของทอมริดเดิ้ลนั้นได้ทำให้ทอมริดเดิ้ลหายไป

ทำให้โวลเดอมอร์สูญเสียวิญญาณไปหนึ่งส่วนนั่นเองทำให้เขาไม่สามารถกลับมามีอำนาจได้ในปีนี้

หลังจากนั้น 2 ปี แฮร์รี่จับถ้วยไตรภาคีซึ่งเป็นกุญแจนำทางมาโผล่ที่หลุมศพในลิตเติ้ลแฮงเกิลตัน และพบกับโวลเดอมอร์และหางหนอน หางหนอนทำพิธีเพื่อให้โวลเดอมอร์กลับมาอีกครั้งโดยใช้กระดูกของพ่อ เนื้อของทาสรับใช้ และเลือดของศัตรู หลังจากรอดชีวิตกลับมาได้ แฮร์รี่พยายามบอกทุกคนว่าโวลเดอมอร์คืนชีพกลับมาแล้ว แต่กระทรวงไม่เชื่อและส่งผู้ตรวจสอบมาที่ฮอกวอร์ต เพื่อสอดส่องการกระทำของดัมเบิ้ลดอร์ ยกเลิกภาคปฏิบัติของวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ทำให้แฮร์รี่และเพื่อน ๆ จัดตั้งกองทัพดัมเบิลดอร์ต่อฝึกฝนการต่อสู้ เพื่อต่อกรกับโวลเดอมอร์อีกครั้งหนึ่ง

อีกสองปีถัดมา โวลเดอมอร์จึงเริ่มดำเนินการอย่างรุนแรง และเริ่มต้นการก้าวขึ้นสู่อำนาจของตนอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผู้คนพากันหวาดกลัว และมีคนหายตัวไปและยังมีคนถูกฆ่าด้วยฝีมือของผู้เสพความตาย โวลเดอมอร์วางแผนที่จะโจมตีฮอกวอตส์ และที่โหดร้ายที่สุด คือ ออกคำสั่งให้เดรโก มัลฟอย นักเรียนฮอกวอตส์รุ่นเดียวกันกับแฮร์รี่ไปสังหาร อัลบัส ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ ในระหว่างการศึกษาในชั้นปีที่ 6 แฮร์รี่และดัมเบิลดอร์รู้ถึงเรื่องฮอร์ครักซ์ และพยายามกำจัดทิ้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม และดัมเบิลดอร์ยังถูกสังหารด้วยน้ำมือของ เซเวอร์รัส สเนป อาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดในขณะนั้น

บั้นปลายและจุดจบ[แก้]

และในปีที่แฮร์รี่อายุครบ 17 ปี โวลเดอมอร์ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่เขาสามารถยึดครองกระทรวงเวทมนตร์ได้อย่างเด็ดขาด เขาวางแผนจะฆ่าแฮร์รี่เพื่อให้ตนดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ โวลเดอมอร์จึงพยายามค้นหาและครอบครองไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของเครื่องรางยมทูต กระนั้นเอง โวลเดอมอร์ก็ไม่เคยรู้ว่าไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์เป็นเครื่องรางยมทูตที่มีพลังอำนาจร้ายกาจ

จนกระทั่งโวลเดอมอร์ทราบว่าพวกแฮร์รี่กำลังทำลายฮอร์ครักซ์ของตน เขาจึงนำกองทัพโจมตีปราสาทฮอกวอตส์เพื่อป้องกันฮอร์ครักซ์สุดท้ายของตน แฮร์รี่ตามไปในป่าต้องห้ามเพื่อไปสู้กับโวลเดอมอร์และถูกยิงด้วยคำสาปพิฆาต แต่คำสาปนั้นได้ทำลายชิ้นส่วนวิญญาณของโวลเดอมอร์ที่อยู่ในตัวแฮร์รี่แทนเพราะเป็นผลมาจากไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ซึ่งตอนนั้นโวลเดอร์มอร์ยังไม่รู้ตัว แฮร์รี่ฟื้นกลับมาและต่อสู้กับโวลเดอมอร์และนากินีถูกตัดหัวโดยเนวิลล์ ลองบัตทอม ด้วยดาบกริฟฟินดอร์ การต่อสู้ย้ายเข้าไปในห้องโถงกลางของปราสาท โวลเดอมอร์ยิงคำสาปพิฆาตใส่แฮร์รี่ แต่ด้วยอำนาจของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งแฮร์รี่เป็นเจ้าของเนื่องจากแฮร์รี่สามารถปลดไม้กายสิทธิ์ของเดรโก มัลฟอยที่เป็นคนปลดไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์มาจากดัมเบิลดอร์ได้ คำสาปพิฆาตจึงสะท้อนกลับมายังตัวของโวลเดอมอร์ และถูกสังหารอย่างถาวรจากคำสาปของตัวเองในที่สุด

ลักษณะประจำตัว[แก้]

ตามที่เห็นในภาพยนตร์ ลอร์ดโวลเดอมอร์จะมีลักษณะไม่มีผม ไม่มีคิ้วเหมือนนักบวช ไม่มีจมูก I (แต่ยังมีรูจมูกอยู่) ผิวสีซีด สวมชุดดำ และรูม่านตาเป็นขีดตั้งสีแดง

แตกต่างกับเมื่ออดีต ทอม ริดเดิ้ลเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แฝงความเฉลียวฉลาดเจ้าเล่ห์ และมีบุคลิกเย่อหยิ่งทะนงตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ แต่เพราะศาสตร์มืดที่เขาเรียนรู้ ทำให้ต่อมารูปร่างหน้าตาผิดไปโดยสิ้นเชิง

โวลเดอมอร์ในกับไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์

ในวัฒนธรรมอื่น[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Harry Potter: Pronunciation Guide". Scholastic. สืบค้นเมื่อ 2007-08-22.
  2. "Enchanted with Potter Literature: Fans line up for hours to get their books signed". The Orange County Register, Santa Ana, CA. 1999-10-26. สืบค้นเมื่อ 2006-12-28.
  3. "Lord Voldemort Is Favourite Literary Villain". LifeStyleExtra. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-02. สืบค้นเมื่อ 2008-01-21.
  4. Lord Voldemort Number One Movie Villain According to Moviefone