ตาตะนาไบง์
ตาตะนาไบง์ (พม่า: သာသနာပိုင်; อักษรโรมัน: Thathanabaing/Thathanapaing) เป็นชื่อตำแหน่งประมุขของคณะสงฆ์พม่าจนรัฐบาลบริติชที่เข้ายึดพม่าเป็นอาณานิคมยกเลิกเสียใน ค.ศ. 1938 ตาตะนาไบง์มีหน้าที่บริหารลำดับการบังคับบัญชาในคณะสงฆ์และการศึกษาเล่าเรียน ณ ศาสนสถาน ตาตะนาไบง์มีที่พำนักอยู่ ณ อารามหลวงใกล้กับราชธานีของประเทศ[1] ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นตาตะนาไบง์มักเป็นสามัญชนจากหมู่บ้านต่าง ๆ ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับราชวงศ์[1] การแต่งตั้งเป็นไปตามความรู้ความสามารถทางพุทธศาสนาและวรรณกรรม[1]
ศัพทมูล
[แก้]เดิมประมุขคณะสงฆ์เรียกว่า "มะฮาตังคะยาซา" (မဟာသံဃရာဇာ มหาสังฆราชา) คำนี้นิยมใช้มากในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1300–1400 แต่หลังจากนั้นก็เสื่อมความนิยมลง[1] หันไปใช้คำว่า "ตาตะนาไบง์" ซึ่งมีความหมายตรงตัวว่า "ผู้รักษาศาสนา" และเป็นที่นิยมขึ้นในช่วงราชวงศ์โกนบอง[1]
ตำแหน่งประมุขคณะสงฆ์นี้แปลเป็นภาษาอังกฤษหลายอย่าง เช่น primate, archbishop, หรือ supreme patriarch[2]
ประวัติ
[แก้]บันทึกเหตุการณ์พม่าระบุว่า ตำแหน่งตาตะนาไบง์นี้ย้อนหลังไปได้ถึงสมัยพระเจ้าฝรั่งมังศรีชวา (ค.ศ. 1367–1400)[3] นักประวัติศาสตร์ชาวบริติชหลายคนจัดลำดับตาตะนาไบง์ในช่วงอาณาจักรพุกามเอาไว้ โดยระบุว่า ตาตะนาไบง์คนแรกคือชีน อะระฮัน (ရှင်အရဟံ; Shin Arahan)[4]
ราชวงศ์โกนบอง
[แก้]รูปแบบสุดท้ายของตำแหน่งตาตะนาไบง์ปรากฏในสมัยพระเจ้าปดุงเมื่อ ค.ศ. 1784 หลังจากที่มีการจัดตั้งสุธรรมสภา (Sudhamma Council) ซึ่งประกอบด้วยพระเถระผู้ใหญ่ 4 รูป มีตาตะนาไบง์เป็นประธาน[5] พระมหากษัตริย์รัชกาลถัด ๆ มาขยายองค์ประกอบของสุธรรมสภาขึ้นเป็นมีสมาชิก 8 รูปและ 12 รูปตามลำดับ[5][6] สมาชิกสภาดังกล่าวเรียกว่า "ตะเซะยะซะยาดอ" (တံဆိပ်ရဆရာတော်) และมาจากการแต่งตั้งของพระมหากษัตริย์[6] เช่นเดียวกับตาตะนาไบง์ที่มีผู้แต่งตั้งคือพระมหากษัตริย์ แต่ตาตะนาไบง์มีอำนาจสูงสุดในการปกครองคณะสงฆ์ และรับผิดชอบกิจการศาสนาในประเทศ[6] รวมถึงอำนาจแต่งตั้งภิกษุในภาคส่วนต่าง ๆ ตามพระวินัย จัดการกับการละเมิดพระวินัย เตรียมรายงานประจำปีเกี่ยวกับคณะสงฆ์ และบริหารการสอบภาษาบาลี[5] ตาตะนาไบง์ยังมีอำนาจบริหารกิจการของข้าราชการสองฝ่าย คือ มะฮาดานวาน (မဟာဒါန်ဝန်) ซึ่งควบคุมการกุศลของพระมหากษัตริย์ กำกับดูแลให้พระสงฆ์ปฏิบัติตามพระวินัย และขึ้นทะเบียนนักบวชทุกรูปในศาสนาพุทธ กับวะเมียวาน (ဝတ်မြေဝန်) ซึ่งดูแลศาสนสมบัติ เช่น ที่ดินที่ได้รับบริจาค และพระธาตุเจดีย์ต่าง ๆ[7][8]
ราชอาณาจักรพม่ายังแบ่งการปกครองคณะสงฆ์ออกเป็นเขตสงฆ์ต่าง ๆ แต่ละเขตมีผู้ดูแลเรียกว่า gaing-gyok ซึ่งควบคุมผู้ปกครองชั้นรองอีกกลุ่มหนึ่ง เรียก gaing-ok และ gaing-ok นี้มีผู้ช่วยอีกกลุ่ม เรียก gaing-dauk[7] gaing-gyok มีอำนาจระงับข้อพิพาททางสงฆ์ แต่คำวินิจฉัยของ gaing-gyok สามารถอุทธรณ์ต่อไปยังสุธรรมสภา[7]
สมัยอาณานิคม
[แก้]ใน ค.ศ. 1895 หลังจากที่พระเจ้าธีบอ พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของประเทศ พ้นจากราชสมบัติได้ไม่นาน ตองดอซะยาดอ (Taungdaw Sayadaw) ซึ่งดำรงตำแหน่งตาตะนาไบง์อยู่ก็ถึงแก่มรณภาพ[9] มีการเลือกตาตะนาไบง์รูปใหม่ ผู้ได้รับเลือก คือ Pakhan Sayadaw แต่เจ้าหน้าที่บริติชที่ปกครองพม่าไม่รับรองตำแหน่ง[9]
ต่อมาใน ค.ศ. 1903 ฮิว เชกสเปียร์ บานส์ (Hugh Shakespear Barnes) ข้าหลวงผู้ปกครองอาณานิคมพม่า นำตำแหน่งตาตะนาไบง์กลับคืนมาใหม่ โดยตราธรรมนูญให้ตาตะนาไบง์มีอำนาจแต่ในนามในการปกครองคณะสงฆ์แห่งพม่าตอนบนและในกิจการที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายศาสนาพุทธ[9] ส่วนพม่าตอนล่างที่ผนวกเข้ามาใน ค.ศ. 1852 นั้นยังคงไร้ผู้ปกครองคณะสงฆ์ต่อไป[10] ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นตาตะนาไบง์คือตองควีนซะยาดอ (တောင်ခွင်ဆရာတော်; Taunggwin Sayadaw) แต่เมื่อตองควีนซะยาดอมรณภาพแล้ว ก็ไม่มีการแต่งตั้งผู้สืบตำแหน่งต่อมาอีกเลย[11]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Kyaw, Aye (1984). "The Sangha Organization in Nineteenth Century Burma and Thailand" (PDF). Journal of the Siam Society.
- ↑ Twomey 1904.
- ↑ Mendelson, E. Michael (1975). Sangha and State in Burma: A Study of Monastic Sectarianism and Leadership (ภาษาอังกฤษ). Cornell University Press. ISBN 9780801408755.
- ↑ James 2005, p. 81.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 James 2005, p. 81-84.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 Scott 1900, p. 3.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 Scott 1900, p. 4.
- ↑ Scott 1900, p. 6.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 Long 1906.
- ↑ Aung San Suu Kyi 2010.
- ↑ Ghosh 2000, p. 38-39.
บรรณานุกรม
[แก้]- Bennett, Charles Henry Allan (พฤศจิกายน 1904). "The Thathanabaing". Buddhism: A Quarterly Illustrated Review. Rangoon: International Buddhist Society. 1 (4): 177–208.
- Aung San Suu Kyi (2010). Freedom from Fear. Penguin. ISBN 978-1-101-56400-4.
- Ghosh, Parimal (2000). Brave Men of the Hills. University of Hawaii Press. ISBN 978-0-8248-2207-1.
- James, Helen (2005). Governance and Civil Society in Myanmar. Psychology Press. pp. 81–84. ISBN 978-0-415-54591-4.
- Long, Edward E. (January 1906). "Order of the Yellow Robe". Broad views. Gay & Bird. 5 (25).
- Scott, J. George (1900). Gazetteer of Upper Burma and the Shan states (PDF). Vol. 2. Superintendent, Government Printing.
- Twomey, D.H.R. (January 1904). "The Thathanabaing, Head of the Buddhist Monks of Burma". The Imperial and Asiatic Quarterly Review. Oriental Institute. XVII (33/34): 326–335.