ตงปีน
ตงปีน (ถาง ปิน) | |
---|---|
唐彬 | |
ข้าหลวงมณฑลยงจิ๋ว (雍州刺史 ยงโจวชื่อฉื่อ) | |
ดำรงตำแหน่ง ? – ค.ศ. 294 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ |
นายการพันชนเผ่าหรงตะวันตก (西戎校尉 ซีหรงเซี่ยวเว่ย์) | |
ดำรงตำแหน่ง ? – ค.ศ. 294 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ |
ขุนพลหน้า (前將軍 เฉียนเจียงจฺวิน) | |
ดำรงตำแหน่ง ? – ค.ศ. 294 | |
กษัตริย์ | จักรพรรดิจิ้นฮุ่ยตี้ |
นายกองพันพิทักษ์ชนเผ่าออหวน (護烏丸校尉 ฮู่อูหฺวานเซี่ยวเว่ย์ฺ) | |
ดำรงตำแหน่ง ?–? | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
นายกองพันสนับสนุนทัพ (翊軍校尉 อี้จฺวินเซี่ยวเว่ย์) | |
ดำรงตำแหน่ง ?–? | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
ขุนพลขวา (右將軍 โย่วเจียงจฺวิน) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 280 – ? | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
ขุนพลแผ่ยุทธ์ (廣武將軍 กว๋างอู่เจียงจฺวิน) | |
ดำรงตำแหน่ง ? – ค.ศ. 280 | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
ผู้ควบคุมทัพของเมืองปาตง (巴東監軍 ปาตงเจียนจวิน) | |
ดำรงตำแหน่ง ? – ค.ศ. 280 | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
เจ้าเมืองอี้หยาง (弋陽太守 อี้หยางไท่โฉ่ว) | |
ดำรงตำแหน่ง ?–? | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
นายอำเภอเงียบกุ๋น (鄴令 เย่ลิ่ง) | |
ดำรงตำแหน่ง ?–? | |
กษัตริย์ | สุมาเอี๋ยน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ค.ศ. 235 นครโจวเฉิง มณฑลชานตง |
เสียชีวิต | ค.ศ. 294 (59 ปี) |
บุตร |
|
บุพการี |
|
อาชีพ | ขุนพล, ขุนนาง |
ชื่อรอง | หรูจง (儒宗) |
สมัญญานาม | เซียง (襄) |
บรรดาศักดิ์ | เฮาแห่งอำเภอเซียงหยง (上庸縣侯 ช่างยงเซี่ยนโหว) |
ตงปีน[1] (ค.ศ. 235 - 294) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า ถาง ปิน (จีน: 唐彬; พินอิน: Táng Bīn) ชื่อรอง หรูจง (จีน: 儒宗; พินอิน: Rúzōng) เป็นขุนพลและขุนนางชาวจีนของรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊ก และของราชวงศ์จิ้นตะวันตก มีชื่อเสียงจากบทบาทในการพิชิตง่อก๊กระหว่าง ค.ศ. 279 และ ค.ศ. 280
ประวัติ
[แก้]ตงปีนเป็นชาวอำเภอโจว (鄒縣 โจวเซี่ยน) ราชรัฐโลก๊ก (魯國 หลู่กั๋ว) ซึ่งปัจจุบันคือนครโจวเฉิง (邹城市 โจวเฉิงชื่อ) มณฑลชานตง[2] บิดาของตงปีนคือถาง ไถ (唐台) รับราชการกับรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กในตำแหน่งเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองไทสัน (泰山郡 ไท่ชานจฺวิ้น)[3]
ตงปีนในวัยเยาว์มีความสามารถในการขี่ม้าและยิงเกาทัณฑ์ ภายหลังเริ่มศึกษาคัมภีร์โบราณและตำราประวัติศาสตร์[4] ตงปีนเริ่มรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ใต้ประตูเมือง (郡門下掾 จฺวิ้นเหมิงเซี่ยเยฺวี่ยน) ต่อมาได้เป็นนายทะเบียน (主簿 จู่ปู้) และเจ้าหน้าที่ปกครอง (功曹 กงเฉา) แล้วได้รับการเรียกตัวจากที่ว่าการมณฑลให้มาเป็นนายทะเบียนประจำมณฑล แล้วได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยข้าหลวงมณฑล (別駕 เปี๋ยเจี้ย)[5] ต่อมาได้รับการเรียกตัวจากสุมาเจียวผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ของรัฐวุยก๊กให้มาเป็นข้าราชการในสังกัด[6] และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงานกรมชลประทานและสำนักราชเลขาธิการ (尚書水部郎 ช่างชูฉุ่ยปู้หลาง)[7]
หลังราชวงศ์จิ้นตะวันตกก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 266 ตงปีนได้รับการแต่งตั้งให้มีบรรดาศักดิ์ระดับกวนไล่เหา (關內侯 กวานเน่ย์โหว)[8] แล้วได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายอำเภอ (令 ลิ่ง) ของอำเภอเงียบกุ๋น (鄴縣 เย่เซี่ยน), เจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองอี้หยาง (弋陽郡 อี้หยางจฺวิ้น), ผู้ควบคุมทัพ (監軍 เจียนจวิน) ของเมืองปาตง (巴東郡 ปาตงจฺวิ้น) และได้ยศเป็นขุนพลแผ่ยุทธ์ (廣武將軍 กว๋างอู่เจียงจฺวิน)[9]
เมื่อ ค.ศ. 279 ตงปีนติดตามขุนพลองโยย (王濬 หวาง จฺวิ้น) เข้าร่วมในการศีกพิชิตรัฐง่อก๊กที่เป็นรัฐอริของราชวงศ์จิ้น ตงปีนมีผลงานโดดเด่นในการศึก หลังเสร็จศึก ตงปีนได้รับการตั้งแต่เป็นขุนพลขวา (右將軍 โย่วเจียงจฺวิน) รับผิดชอบกำกับดูแลราชการทหารทั้งหมดของเมืองปาตง[10] ภายหลังตงปีนถูกเรียกตัวมารับตำแหน่งเป็นนายกองพันสนับสนุนทัพ (翊軍校尉 อี้จฺวินเซี่ยวเว่ย์) ได้รับการตั้งให้มีบรรดาศักดิ์เฮาแห่งอำเภอเซียงหยง (上庸縣侯 ช่างยงเซี่ยนโหว) และได้รับศักดินา 6,000 ครัวเรือน[11]
ต่อมาตงปีนได้รับพระราชทานอาญาสิทธิ์ รับผิดชอบดูแลราชการทหารในมณฑลอิวจิ๋ว (幽州 โยวโจว) ได้รับตำแหน่งเป็นนายกองพันพิทักษ์ชนเผ่าออหวน (護烏丸校尉 ฮู่อูหฺวานเซี่ยวเว่ย์ฺ) และขุนพลขวา (右將軍 โย่วเจียงจฺวิน)[12] ระหว่างดำรงตำแหน่งได้ทำศึกต้านการรุกรานของชนเผ่าทางเหนือ
ตงปีนถูกปลดออกจากตำแหน่งและถูกดำเนินคดีด้วยสาเหตุบางประการ ภายหลังได้รับการปล่อยตัวกลับมารับราชการ[13] ตงปีนได้รับอาญาสิทธิ์อีกครั้ง ได้รับตำรงตำแหน่งเป็นขุนพลหน้า (前將軍 เฉียนเจียงจฺวิน), นายกองพันชนเผ่าหรงตะวันตก (西戎校尉 ซีหรงเซี่ยวเว่ย์) และข้าหลวงมณฑล (刺史 ชื่อฉื่อ) ของมณฑลยงจิ๋ว (雍州 ยงโจว)[14]
เมื่อ ค.ศ. 294 ตงปีนเสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง เวลานั้นตงปีนมีอายุ 60 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) ได้รับสมัญญานามว่า "เซียง" (襄)[15]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ ("พระเจ้าสุมาเอี๋ยนแจ้งในหนังสือดังนั้น ก็ตั้งให้เตาอี้เปนที่ไตโต๋ก๊กคุมทหารสิบหมื่น เปนแม่ทัพยกออกมาเมืองกังเหลงแลให้ตีเอาเมืองกังตั๋ง แล้วให้สุมาเตี้ยมเจ้าเมืองหลงเสียคุมทหารห้าหมื่นยกไปทางอิต๋ง ให้อองหุยคุมทหารห้าหมื่นยกไปทางอัวกั๋ง ให้อ๋องหยงคุมทหารห้าหมื่นยกไปทางบูเฉียง ให้ห่อหุนถือพลทหารห้าหมื่นยกไปทางแฮเค้ากำหนดให้อยู่ในบังคับบัญชาเตาอี้สิ้นทุกหมวดทุกกอง จึงเกณฑ์ให้องโยยกับตงปีนคุมเรือสำหรับจะข้ามส่งทแกล้วทหารทั้งปวง") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๗". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ June 6, 2025.
- ↑ (唐彬,字儒宗,魯國鄒人也。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (父台,太山太守。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (少便弓馬,好遊獵,身長八尺,走及奔鹿,強力兼人。晚乃敦悅經史,尤明《易經》,隨師受業,還家教授,恆數百人。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (初為郡門下掾,轉主簿。刺史王沈集諸參佐,盛論距吳之策,以問九郡吏。彬與譙郡主張惲俱陳吳有可兼之勢,沈善其對。又使彬難言吳未可伐者,而辭理皆屈。還遷功曹,舉孝廉,州辟主簿,累遷別駕。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (彬忠肅公亮,盡規匡救,不顯諫以自彰,又奉使詣相府計事,于時僚佐皆當世英彥,見彬莫不欽悅,稱之于文帝,薦為掾屬。帝以問其參軍孔顥,顥忌其能,良久不答。陳騫在坐,斂板而稱曰:「彬之為人,勝騫甚遠。」帝笑曰:「但能如卿,固未易得,何論於勝。」因辟彬為鎧曹屬。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (俄除尚書水部郎) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (泰始初,賜爵關內侯。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (出補鄴令,彬道德齊禮,期月化成。遷弋陽太守,明設禁防,百姓安之。以母喪去官。益州東接吳寇,監軍位缺,朝議用武陵太守楊宗及彬。武帝以問散騎常侍文立,立曰:「宗、彬俱不可失。然彬多財欲,而宗好酒,惟陛下裁之。」帝曰:「財欲可足,酒者難改。」遂用彬。尋又詔彬監巴東諸軍事,加廣武將軍。上征吳之策,甚合帝意。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (吳平,詔曰:「廣武將軍唐彬受任方隅,東禦吳寇,南監蠻越,撫寧疆埸,有綏禦之績。又每慷慨,志在立功。頃者征討,扶疾奉命,首啟戎行,獻俘授馘,勳效顯著。其以彬為右將軍、都督巴東諸軍事。」) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (徵拜翊軍校尉,改封上庸縣侯,食邑六千戶,賜絹六千匹。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (北虜侵掠北平,以彬為使持節、監幽州諸軍事、領護烏丸校尉、右將軍。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (詔遣御史檻車征彬付廷尉,以事直見釋。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (元康初,拜使持節、前將軍、領西戎校尉、雍州刺史。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
- ↑ (元康四年卒官,時年六十,諡曰襄,賜絹二百匹,錢二十萬。) จิ้นชู เล่มที่ 42.
บรรณานุกรม
[แก้]- ฝาง เสฺวียนหลิง (บก.) (648). จิ้นชู.