ซีกสมองใหญ่
ซีกสมองใหญ่ (Cerebral hemisphere) | |
---|---|
![]() สมองมนุษย์ มองจากข้างบน แสดงซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้าง สมองด้านหน้า (anterior) อยู่ทางขวามือ | |
![]() ซีกสมองใหญ่ของมนุษย์ด้านข้าง | |
รายละเอียด | |
ตัวระบุ | |
ภาษาละติน | Hemispherium cerebri |
นิวโรเนมส์ | 241 |
นิวโรเล็กซ์ ID | birnlex_1796 |
TA98 | A14.1.09.002 |
TA2 | 5418 |
FMA | 61817 |
ศัพท์ทางกายวิภาคของประสาทกายวิภาคศาสตร์ |
ซีกสมองใหญ่[a] (อังกฤษ: cerebral hemisphere) เป็นคู่ของสมองใหญ่ในสัตว์มีกระดูกสันหลังที่แยกออกจากกันโดยร่องที่เรียกว่าร่องตามยาว (longitudinal fissure) ดังนั้นสมองใหญ่จึงแบ่งออกได้เป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ สมองใหญ่ซีกซ้าย (left cerebral hemisphere) และสมองใหญ่ซีกขวา (right cerebral hemisphere)
สมองใหญ่แต่ละซีกมีชั้นด้านนอกเป็นเนื้อเทาที่เรียกว่าส่วนนอกของสมองใหญ่ (cerebral cortex) และมีชั้นด้านในเป็นเนื้อขาวที่พยุงรับชั้นด้านนอก ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภท eutheria[b] (ซึ่งที่ยังไม่สูญพันธ์เหลือเพียงแต่ประเภทมีรก (placental) เท่านั้น) ไม่รวมสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่นเช่นสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง หรือสัตว์มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ ซีกสมองใหญ่ทั้งสองซีกมีการเชื่อมด้วยคอร์ปัส คาโลซัม ซึ่งเป็นกลุ่มใยประสาทแถบใหญ่
แนวเชื่อม (commissures) ย่อยๆ ก็เชื่อมซีกทั้งสองของสมองเช่นกัน ทั้งในสัตว์ประเภท eutheria และในสัตว์มีกระดูกสันหลังอื่นๆ รวมทั้งแนวเชื่อมหน้า (anterior commissure) ซึ่งมีอยู่แม้ในสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง, แนวเชื่อมหลัง (posterior commissure), และแนวเชื่อมฮิปโปแคมปัส (hippocampal commissure) แนวเชื่อมเหล่านี้ส่งข้อมูลไปในระหว่างซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้างเพื่อประสานงานที่จำกัดอยู่ในซีกสมองใหญ่แต่ละข้าง
ในระดับที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซีกสมองใหญ่หมือนกันทั้งสองข้าง โดยมีความแตกต่างบ้างที่มองเห็นได้ยาก เช่น Yakovlevian torque ซึ่งเป็นความที่สมองใหญ่ซีกขวามีแนวโน้มที่จะยื่นไปข้างหน้าเมื่อเทียบกับซีกซ้าย. ในระดับที่ต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ การจัดระเบียบเซลล์ประสาท (cytoarchitectonics), ประเภทของเซลล์, ประเภทของสารสื่อประสาท, และประเภทของหน่วยรับความรู้สึก มีความต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้าง[ต้องการอ้างอิง]
อย่างไรก็ดี แม้ว่าความแตกต่างเหล่านั้นในระหว่างสมองทั้งสองซีกบางอย่างเหมือนกันในระหว่างมนุษย์ด้วยกัน หรือแม้ในระหว่างสปีชีส์ ความแตกต่างบางอย่างที่สังเกตได้กลับไม่เหมือนกันในระหว่างสัตว์เป็นรายตัวแม้ในสปีชีส์เดียวกัน
การพัฒนาในตัวอ่อน
[แก้]สมองทั้งสองซีกมีกำเนิดมาจากซีรีบรัม เกิดขึ้นภายใน 5 สัปดาห์หลังจากปฏิสนธิ เป็นการม้วนเข้า (invagination) ของผนังสมองในซีกทั้งสอง สมองทั้งสองซีกเจริญขึ้นเป็นรูปกลมเหมือนตัวอักษร C และหลังจากนั้นก็ม้วนตัวกลับเข้าไปอีก ดึงเอาโครงสร้างภายในซีกสมองใหญ่ (เช่นโพรงสมอง) เข้าไปด้วย interventricular foramina เป็นช่องเชื่อมต่อกับโพรงสมองด้านข้าง ส่วนข่ายหลอดเลือดสมอง (choroid plexus) เกิดขึ้นจากเซลล์ ependyma และ mesenchyme ของหลอดเลือด
การจำกัดกิจโดยด้านของซีกสมองใหญ่ (lateralization)
[แก้]จิตวิทยานิยมมักกล่าวสรุปโดยรวมๆ ถึงกิจหน้าที่ของสมอง (เช่นการตัดสินด้วยเหตุผล หรือความคิดสร้างสรรค์) ว่าจำกัดอยู่ทางด้านซ้ายหรือด้านขวาของสมอง (lateralization[c]) คำพูดเหล่านี้บ่อยครั้งไม่ตรงกับความจริง เพราะว่า กิจโดยมากของสมองมักกระจายไปในด้านทั้งสองของซีกสมองใหญ่
หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ถึงกิจรับรู้ระดับต่ำ (เช่นระบบการประมวลไวยากรณ์) ไม่ใช่กิจรับรู้ระดับสูงที่มักจะกล่าวถึงในจิตวิทยานิยม (เช่นความคิดประกอบด้วยเหตุผล) ว่าจำกัด (คือเกิดการ laterization) อยู่ในสมองใหญ่ซีกใดซีกหนึ่ง[1][2]
หลักฐานที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการจำกัดกิจโดยด้าน (lateralization) ของซีกสมองใหญ่ สำหรับกิจเฉพาะอย่างหนึ่งก็คือความสามารถในด้านภาษา เพราะว่า เขตสำคัญทั้งสองที่เกี่ยวข้องกับทักษะภาษา คือเขตโบรคาและเขตเวอร์นิเก อยู่ในสมองใหญ่ซีกซ้าย
สมองทั้งสองซีกทำการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับการรับรู้ แต่ว่ามีการจำกัดกิจโดยด้าน คือ สมองแต่ละซีกรับข้อมูลความรู้สึกมาจากด้านตรงข้ามของร่างกาย (มีการจำกัดกิจโดยด้านเกี่ยวกับข้อมูลทางตาที่แตกต่างจากประสาททางอื่นๆ แต่ก็ยังมีการจำกัดกิจโดยด้าน) โดยนัยเดียวกัน สัญญาณควบคุมการเคลื่อนไหวที่สมองส่งไปยังร่างกายก็มาจากซีกสมองใหญ่ด้านตรงข้ามเช่นกัน ดังนั้น ความถนัดซ้ายขวา (คือมือข้างที่ถนัด) จึงมีความเกี่ยวข้องกับการจำกัดกิจโดยด้านเช่นกัน
นักประสาทจิตวิทยาได้ทำการศึกษาคนไข้ภาวะสมองแยก[d] เพื่อที่จะเข้าใจการจำกัดกิจโดยด้าน โรเจอร์ สเปอร์รี ได้เป็นบุคคลแรกที่เริ่มใช้ tachistoscope[e] แบบจำกัดด้าน เพื่อที่จะแสดงข้อมูลทางตาแก่สมองใหญ่ซีกหนึ่งๆ นอกจากนั้นแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังศึกษาบุคคลที่เกิดโดยไม่มีคอร์ปัส คาโลซัม เพื่อกำหนดความชำนาญเฉพาะกิจของซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้าง
วิถีประสาท magnocellular ของระบบการเห็น ส่งข้อมูลไปยังสมองใหญ่ซีกขวามากกว่าไปยังสมองใหญ่ซีกซ้าย ในขณะที่วิถีประสาท parvocellular ส่งข้อมูลไปยังสมองใหญ่ซีกซ้ายมากกว่าไปยังสมองใหญ่ซีกขวา
ลักษณะบางอย่างของซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้างไม่เหมือนกัน ซีกหนึ่งอาจจะใหญ่กว่า มากกว่าอีกซีกหนึ่ง เช่น มีสารสื่อประสาท norepinephrine ในระดับที่สูงกว่าในสมองใหญ่ซีกขวา และมีสารสื่อประสาทโดพามีนในระดับที่สูงกว่าในสมองใหญ่ซีกซ้าย มีเนื้อขาวมากกว่า (คือมีแอกซอนที่ยาวกว่า) ในสมองใหญ่ซีกขวา และมีเนื้อเทา (คือตัวเซลล์ประสาท) มากกว่าในสมองใหญ่ซีกซ้าย[3]
กิจหน้าที่เชิงเส้น (linear) เกี่ยวกับภาษาเช่นไวยากรณ์และการสร้างคำ มักจะจำกัดด้านอยู่ทางซีกซ้ายของสมอง เปรียบเทียบกับกิจหน้าที่เชิงองค์รวม (holistic) เช่นเสียงสูงเสียต่ำและการเน้นเสียง มักจำกัดอยู่ทางซีกขวาของสมอง
กิจหน้าที่ประสาน (integrative) แบบอื่นๆ เป็นต้นว่าการคำนวณเลขคณิต, การชี้ตำแหน่งในปริภูมิของเสียงที่มาถึงหูทั้งสองข้าง, และอารมณ์ความรู้สึก ดูเหมือนจะไม่มีการจำกัดด้าน[4]
กิจของสมองใหญ่ซีกซ้าย | กิจของสมองใหญ่ซีกขวา |
การคิดเลข (คิดแบบตรงตัว การเปรียบเทียบตัวเลข การประมาณค่า) สมองใหญ่ซีกซ้ายเท่านั้น: การระลึกถึงข้อเท็จจริงต่างๆ โดยตรง[4][5] |
การคิดเลข (คิดแบบคร่าวๆ การเปรียบเทียบตัวเลข การประมาณค่า)[4][5] |
ภาษา: ไวยากรณ์/คำศัพท์, ความหมายแบบตรงตัว[6] | ภาษา: เสียงสูงเสียงต่ำ/การเน้นเสียง, สัทสัมพันธ์ (prosody), ความหมายตามความเป็นจริง ตามปริบท[6] |
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ cerebral hemisphere หมายถึงส่วนครึ่งหนึ่งของ "สมองใหญ่" (cerebrum) ดังนั้นควรใช้ว่า "ซีกสมองใหญ่" ทั้งนี้ "สมองใหญ่" ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "สมอง" สองคำนี้มีความหมายที่ไม่เหมือนกันจึงไม่ควรนำมาใช้แทนกัน เพราะจะทำให้เกิดความสับสน
- ↑ eutheria (มาจากคำกรีกโบราณแปลว่า "สัตว์แท้") เป็นการจัดกลุ่มโดย clade ที่ประกอบด้วยไพรเมตและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นทั้งหมดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกว่าอันดับสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้อง
- ↑ การจำกัดกิจโดยด้าน (lateralization) เป็นการจำกัดกิจการงานในด้านในด้านหนึ่งของร่างกาย ไม่ข้ามไปยังอีกข้างหนึ่ง
- ↑ ภาวะสมองแยก (split-brain) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อคอร์ปัส คาโลซัม ซึ่งเชื่อมต่อซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้างถูกทำลายไปในระดับหนึ่ง เป็นอาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากการหยุดยั้งหรือการแทรกแซงการเชื่อมต่อของซีกสมองใหญ่ทั้งสองข้าง
- ↑ tachistoscope เป็นอุปกรณ์ที่แสดงรูปภาพเป็นระยะเวลาหนึ่ง สามารถใช้เพื่อเพิ่มความเร็วในการรู้จำ (recognition) เพื่อแสดงภาพที่ปรากฏสั้นเกินไปที่จะรู้จำ หรือว่าเพื่อทดสอบว่าส่วนไหนในภาพเป็นส่วนที่จำได้ง่าย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Westen D, Burton LJ, Kowalski R (2006). Psychology (Australian and New Zealand ed.). John Wiley & Sons Australia, Ltd. p. 107. ISBN 978-0-470-80552-7.
- ↑ "Neuromyth 6: The left brain/ right brain myth". Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD). สืบค้นเมื่อ 15 October 2011.
- ↑ Carter R (1999). Mapping the mind. Berkeley, CA.: University of California Press. ISBN 978-0-520-22461-2.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 Dehaene S, Spelke E, Pinel P, Stanescu R, Tsivkin S (May 1999). "Sources of mathematical thinking: behavioral and brain-imaging evidence". Science. 284 (5416): 970–974. Bibcode:1999Sci...284..970D. doi:10.1126/science.284.5416.970. PMID 10320379.
- ↑ 5.0 5.1 Dehaene, Stanislas; Piazza, Manuela; Pinel, Philippe; Cohen, Laurent (2003). "Three parietal circuits for number processing". Cognitive Neuropsychology. 20 (3): 487–506. doi:10.1080/02643290244000239. PMID 20957581.
- ↑ 6.0 6.1 Taylor, Insup; Taylor, M. Martin (1990). Psycholinguistics: learning and using language. Englewood Cliffs, N.J: Prentice Hall. p. 367. ISBN 0-13-733817-1.