ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชาลส์ที่ 1
เคานท์แห่งแฟลนเดอส์
เจ้าชายแห่งเดนมาร์ก
Sint-Salvatorskathedraal - Bruges - IMG 4774.JPG
พระบรมรูปชาลส์ที่ 1 ที่บรรจุพระธาตุของพระองค์ในแซ็งต์-ซัลวาตอร์สคาเทอดัล, บรูซ, เบลเยียม
เคานต์แห่งแฟลนเดอส์
ครองราชย์1119 – 1127
ก่อนหน้าบอลด์วินที่ 7
ถัดไปวิลเลียม
คู่อภิเษกมาร์เกอริตแห่งแกลร์มง
พระนามเต็ม
คาร์ล คนุตเซน แอสตริดเซน
ราชวงศ์แอสตริดเซน
พระราชบิดาพระเจ้าคนุตที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
พระราชมารดาอเดลาแห่งแฟลนเดอส์
ประสูติค.ศ. 1084
โอเดนเซ, เดนมาร์ก
สวรรคต2 มีนาคม ค.ศ. 1127(1127-03-02) (43 ปี)
บรูช, เคาน์ตีฟลานเดอส์
ศาสนาโรมันคาทอลิก

ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ หรือ ชาลส์คนดี (Charles the Good; ค.ศ. 1084 - 2 มีนาคม ค.ศ. 1127) ทรงเป็นเจ้าชายคาร์ล (Karl) แห่งเดนมาร์กและเคานท์แห่งแฟลนเดอส์ตั้งแต่ ค.ศ. 1119 ถึง 1127 การสิ้นพระชนม์ของพระองค์และเหตุการณ์หลังจากนั้นได้ถูกบันทึกในพงศาวดารของกัลแบร์แห่งบรูช

ช่วงต้นพระชนม์ชีพ[แก้]

เจ้าชายชาลส์ หรือ คาร์ล ประสูติในเดนมาร์ก เป็นพระราชโอรสองค์เดียวในพระเจ้าคนุตที่ 4 แห่งเดนมาร์ก (นักบุญคนุต) และอเดลาแห่งแฟลนเดอส์[1] พระราชบิดาของพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ในมหาวิหารโอเดนเซ ค.ศ. 1086[2] และพระราชินีอเดลาได้เสด็จกลับไปยังแฟลนเดอส์ พระพันปีหลวงทรงพาเจ้าชายชาลส์กลับมาด้วย แต่ทรงทิ้งพระราชธิดาฝาแฝดสองพระองค์คือ เจ้าหญิงเซซีเลียและเจ้าหญิงอิงเงอเกิร์ด ไว้ในเดนมาร์ก เจ้าชายชาลส์เจริญพระชันษาในสำนักเคานท์ของโรแบร์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ ผู้เป็นตา และโรแบร์ที่ 2 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ ผู้เป็นน้า ในค.ศ. 1092 สมเด็จพระพันปีหลวงอเดลาเสด็จไปยังตอนใต้ของอิตาลีและสมรสใหม่กับโรเจอร์ บอร์ซา ดยุกแห่งปุลยาและคาลาเบรีย โดยทรงทิ้งเจ้าชายชาลส์ไว้ในแฟลนเดอส์

เจ้าชายชาลส์ได้เสด็จไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในค.ศ. 1107 หรือ 1108 ด้วยกองเรืออังกฤษ เดนมาร์กและเฟลมมิช[3] อาจจะเป็นกองเรือของกีย์เนแมร์แห่งบูโลญ ซึ่งคล้ายคลึงกับคำบรรยาย พระองค์ได้รับการเสนอให้รับราชบัลลังก์เยรูซาเลมแต่ทรงปฏิเสธด้วยเหตุอันไม่ทราบแน่ชัด[4]

ปกครองเคาน์ตีแฟลนเดอส์[แก้]

นักบุญชาลส์คนดี
มรณสักขี
เกิดค.ศ. 1084
โอเดนเซ, เดนมาร์ก
เสียชีวิต10 กรกฎาคม ค.ศ. 1086
บรูช, เคาน์ตีฟลานเดอส์, เบลเยียม
นิกายโรมันคาทอลิก
เป็นนักบุญค.ศ. 1884
โดย สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13
วันฉลอง2 มีนาคม

ในค.ศ. 1111 โรแบร์ที่ 2 ผู้เป็นน้าของพระองค์ได้เสียชีวิต และญาติของเจ้าชายชาลส์คือ บอลด์วินที่ 7 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ได้สืบตำแหน่งแทน เจ้าชายชาลส์ทรงสนิทใกล้ชิดกับเคานท์คนใหม่ (ซึ่งอายุน้อยกว่าพระองค์หลายปีมาก) ราวค.ศ. 1118 เจ้าชายชาลส์ทรงเสกสมรสกับมาร์เกอริตแห่งแกลร์มง ทายาทในเคานท์แห่งอาเมียง และธิดาในเรโนด์ที่ 2 เคานท์แห่งแกลร์มง-อ็อง-โบเวร์[5] เคานท์บอลด์วินที่ 7 ซึ่งไม่มีทายาท ได้รับบาดเจ็บในยุทธการบูเรส์-อ็อง-เบรย์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1118 และเขาแต่งตั้งเจ้าชายชาลส์เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1119[6]

ในค.ศ. 1125 เคานท์ชาลส์ที่ 1 ทรงขับไล่ชาวยิวออกจากแฟลนเดอส์ เนื่องจากชาวยิวมีส่วนในการทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอันเป็นเหตุซ้ำเติมความอดอยากของประชาชนภายในดินแดนเขาขณะนั้น[7] ในระหว่างประสบภาวะอดอยาก เคานท์ชาลส์ทรงแจกจ่ายขนมปังแก่คนยากจน และดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนเมล็ดพืชและนำมาขายในราคาที่สูงเกินจริง[8] ด้วยคำแนะนำจากที่ปรึกษาของพระองค์ พระองค์ได้ลดอิทธิพลของตระกูลอาเร็มบอลด์ ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องในการกักตุนอาหาร ให้ลดอำนาจพวกเขาให้มีสถานะเป็นทาสติดที่ดิน ส่งผลให้บาทหลวงแบร์ทูร์ฟ ฟิตซ์อาเร็มบอลด์ เจ้าอาวาสโบสถ์นักบุญโดนาเทียน วางแผนลอบปลงพระชนม์เจ้าชาย-เคานท์ชาลส์และเหล่าที่ปรึกษาของพระองค์

สิ้นพระชนม์[แก้]

พิธีฝังพระศพชาลส์ที่ 1 แห่งแฟลนเดอส์ ภาพวาดของยาน ฟัน เบียส์

ในตอนเช้าของวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1127 ขณะที่เคานท์ชาลส์ทรงคุกพระชานุอธิษฐานอยู่ในโบสถ์นักบุญโดนาเทียน อัศวินกลุ่มหนึ่งที่ตอบรับคำขอของตระกูลอาเร็มบอลด์เข้ามาในโบสถ์และรุมแทงพระองค์ด้วยดาบยาวจนสิ้นพระชนม์[9][10] การสังหารที่ป่าเถื่อนและล่วงเกินสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ก่อให้เกิดความโกรธแค้นในหมู่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง และเคานท์ชาลส์ทรงได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะมรณสักขีและนักบุญแทบจะในทันที แม้ว่ายังไม่มีการการประกาศเป็นบุญราศีจนกระทั่ง ค.ศ. 1882[a]ตระกูลอาเร็มบอลด์ที่วางแผนสังหารเคานท์ชาลส์ได้ถูกปิดล้อมอยู่ภายในปราสาทบรูซโดยขุนนางและสามัญชนที่โกรธแค้นจากเมืองบรูซและเกนต์ ฝ่ายอาเร็มบอลด์พ่ายแพ้ ถูกจับกุมและทรมานจนตาย พระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศสซึ่งทรงสนับสนุนให้ลุกฮือต่อต้านตระกูลอาเร็มบอลด์ ทรงใช้อิทธิพลของพระองค์เลือกวิลเลียม คลิโต เป็นเคานต์คนใหม่ของแฟลนเดอส์[11]

เชิงอรรถ[แก้]

  1. ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เปอติต์ ปาเลส์ มีภาพวาดอันเป็นที่น่าจดจำถึงการฝังพระศพของพระองค์ วาดโดยยาน ฟัน เบียส์ (1852–1927)

อ้างอิง[แก้]

  • Aird, William M. (2008). Robert Curthose, Duke of Normandy: C. 1050–1134. The Boydell Press.
  • Davies, Ralph Henry Carless (1997). King Stephen. Routledge.
  • Deutsch, Gotthard; Bloch, Armand (1906). "Ghent". Jewish Encyclopedia.
  • Galbert of Bruges (2013). The Murder, Betrayal, and Slaughter of the Glorious Charles, Count of Flanders. แปลโดย Rider, Jeff. Yale University Press.
  • Hundahl, Kerstin; Kjær, Lars; Lund, Niels, บ.ก. (2016). Denmark and Europe in the Middle Ages, C.1000–1525: Essays in Honour of Professor Michael H. Gelting. Routledge.
  • Nicholas, David (1992). Medieval Flanders. Longman.
  • Paul, Nicholas L. (2012). To Follow in Their Footsteps: The Crusades and Family Memory in the High Middle Ages. Cornell University Press.
  • Riley-Smith, Jonathan (1997). The First Crusaders, 1095–1131. Cambridge University Press.

เว็บไซต์อ้างอิง[แก้]

ก่อนหน้า ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ ถัดไป
บอลด์วินที่ 7 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ 2leftarrow.png Blason Comte-de-Flandre.svg
เคานต์แห่งแฟลนเดอส์
(ค.ศ. 1119 - ค.ศ. 1127)
2rightarrow.png วิลเลียม คลิโต