ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์
ชาลส์ที่ 1 | |||||
---|---|---|---|---|---|
เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ เจ้าชายแห่งเดนมาร์ก | |||||
พระบรมรูปชาลส์ที่ 1 ที่บรรจุพระธาตุของพระองค์ในแซ็งต์-ซัลวาตอร์สคาเทอดัล, บรูซ, เบลเยียม | |||||
เคานต์แห่งแฟลนเดอส์ | |||||
ครองราชย์ | 1119 – 1127 | ||||
ก่อนหน้า | บอลด์วินที่ 7 | ||||
ถัดไป | วิลเลียม | ||||
คู่อภิเษก | มาร์เกอริตแห่งแกลร์มง | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | แอสตริดเซน | ||||
พระราชบิดา | พระเจ้าคนุตที่ 4 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | อเดลาแห่งแฟลนเดอส์ | ||||
ประสูติ | ค.ศ. 1084 โอเดนเซ, เดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 2 มีนาคม ค.ศ. 1127 บรูช, เคาน์ตีฟลานเดอส์ | (43 ปี)||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ หรือ ชาลส์คนดี (Charles the Good; ค.ศ. 1084 - 2 มีนาคม ค.ศ. 1127) ทรงเป็นเจ้าชายคาร์ล (Karl) แห่งเดนมาร์กและเคานท์แห่งแฟลนเดอส์ตั้งแต่ ค.ศ. 1119 ถึง 1127 การสิ้นพระชนม์ของพระองค์และเหตุการณ์หลังจากนั้นได้ถูกบันทึกในพงศาวดารของกัลแบร์แห่งบรูช
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ[แก้]
เจ้าชายชาลส์ หรือ คาร์ล ประสูติในเดนมาร์ก เป็นพระราชโอรสองค์เดียวในพระเจ้าคนุตที่ 4 แห่งเดนมาร์ก (นักบุญคนุต) และอเดลาแห่งแฟลนเดอส์[1] พระราชบิดาของพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ในมหาวิหารโอเดนเซ ค.ศ. 1086[2] และพระราชินีอเดลาได้เสด็จกลับไปยังแฟลนเดอส์ พระพันปีหลวงทรงพาเจ้าชายชาลส์กลับมาด้วย แต่ทรงทิ้งพระราชธิดาฝาแฝดสองพระองค์คือ เจ้าหญิงเซซีเลียและเจ้าหญิงอิงเงอเกิร์ด ไว้ในเดนมาร์ก เจ้าชายชาลส์เจริญพระชันษาในสำนักเคานท์ของโรแบร์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ ผู้เป็นตา และโรแบร์ที่ 2 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ ผู้เป็นน้า ในค.ศ. 1092 สมเด็จพระพันปีหลวงอเดลาเสด็จไปยังตอนใต้ของอิตาลีและสมรสใหม่กับโรเจอร์ บอร์ซา ดยุกแห่งปุลยาและคาลาเบรีย โดยทรงทิ้งเจ้าชายชาลส์ไว้ในแฟลนเดอส์
เจ้าชายชาลส์ได้เสด็จไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในค.ศ. 1107 หรือ 1108 ด้วยกองเรืออังกฤษ เดนมาร์กและเฟลมมิช[3] อาจจะเป็นกองเรือของกีย์เนแมร์แห่งบูโลญ ซึ่งคล้ายคลึงกับคำบรรยาย พระองค์ได้รับการเสนอให้รับราชบัลลังก์เยรูซาเลมแต่ทรงปฏิเสธด้วยเหตุอันไม่ทราบแน่ชัด[4]
ปกครองเคาน์ตีแฟลนเดอส์[แก้]
นักบุญชาลส์คนดี | |
---|---|
มรณสักขี | |
เกิด | ค.ศ. 1084 โอเดนเซ, เดนมาร์ก |
เสียชีวิต | 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1086 บรูช, เคาน์ตีฟลานเดอส์, เบลเยียม |
นิกาย | โรมันคาทอลิก |
เป็นนักบุญ | ค.ศ. 1884 โดย สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13 |
วันฉลอง | 2 มีนาคม |
ในค.ศ. 1111 โรแบร์ที่ 2 ผู้เป็นน้าของพระองค์ได้เสียชีวิต และญาติของเจ้าชายชาลส์คือ บอลด์วินที่ 7 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ได้สืบตำแหน่งแทน เจ้าชายชาลส์ทรงสนิทใกล้ชิดกับเคานท์คนใหม่ (ซึ่งอายุน้อยกว่าพระองค์หลายปีมาก) ราวค.ศ. 1118 เจ้าชายชาลส์ทรงเสกสมรสกับมาร์เกอริตแห่งแกลร์มง ทายาทในเคานท์แห่งอาเมียง และธิดาในเรโนด์ที่ 2 เคานท์แห่งแกลร์มง-อ็อง-โบเวร์[5] เคานท์บอลด์วินที่ 7 ซึ่งไม่มีทายาท ได้รับบาดเจ็บในยุทธการบูเรส์-อ็อง-เบรย์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1118 และเขาแต่งตั้งเจ้าชายชาลส์เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1119[6]
ในค.ศ. 1125 เคานท์ชาลส์ที่ 1 ทรงขับไล่ชาวยิวออกจากแฟลนเดอส์ เนื่องจากชาวยิวมีส่วนในการทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นอันเป็นเหตุซ้ำเติมความอดอยากของประชาชนภายในดินแดนเขาขณะนั้น[7] ในระหว่างประสบภาวะอดอยาก เคานท์ชาลส์ทรงแจกจ่ายขนมปังแก่คนยากจน และดำเนินการป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนเมล็ดพืชและนำมาขายในราคาที่สูงเกินจริง[8] ด้วยคำแนะนำจากที่ปรึกษาของพระองค์ พระองค์ได้ลดอิทธิพลของตระกูลอาเร็มบอลด์ ซึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องในการกักตุนอาหาร ให้ลดอำนาจพวกเขาให้มีสถานะเป็นทาสติดที่ดิน ส่งผลให้บาทหลวงแบร์ทูร์ฟ ฟิตซ์อาเร็มบอลด์ เจ้าอาวาสโบสถ์นักบุญโดนาเทียน วางแผนลอบปลงพระชนม์เจ้าชาย-เคานท์ชาลส์และเหล่าที่ปรึกษาของพระองค์
สิ้นพระชนม์[แก้]

ในตอนเช้าของวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1127 ขณะที่เคานท์ชาลส์ทรงคุกพระชานุอธิษฐานอยู่ในโบสถ์นักบุญโดนาเทียน อัศวินกลุ่มหนึ่งที่ตอบรับคำขอของตระกูลอาเร็มบอลด์เข้ามาในโบสถ์และรุมแทงพระองค์ด้วยดาบยาวจนสิ้นพระชนม์[9][10] การสังหารที่ป่าเถื่อนและล่วงเกินสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ก่อให้เกิดความโกรธแค้นในหมู่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง และเคานท์ชาลส์ทรงได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะมรณสักขีและนักบุญแทบจะในทันที แม้ว่ายังไม่มีการการประกาศเป็นบุญราศีจนกระทั่ง ค.ศ. 1882[a]ตระกูลอาเร็มบอลด์ที่วางแผนสังหารเคานท์ชาลส์ได้ถูกปิดล้อมอยู่ภายในปราสาทบรูซโดยขุนนางและสามัญชนที่โกรธแค้นจากเมืองบรูซและเกนต์ ฝ่ายอาเร็มบอลด์พ่ายแพ้ ถูกจับกุมและทรมานจนตาย พระเจ้าหลุยส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศสซึ่งทรงสนับสนุนให้ลุกฮือต่อต้านตระกูลอาเร็มบอลด์ ทรงใช้อิทธิพลของพระองค์เลือกวิลเลียม คลิโต เป็นเคานต์คนใหม่ของแฟลนเดอส์[11]
เชิงอรรถ[แก้]
- ↑ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เปอติต์ ปาเลส์ มีภาพวาดอันเป็นที่น่าจดจำถึงการฝังพระศพของพระองค์ วาดโดยยาน ฟัน เบียส์ (1852–1927)
- ↑ Nicholas 1992, p. 56.
- ↑ Hundahl, Kjær & Lund 2016, p. 87.
- ↑ Galbert of Bruges 2013, p. 25.
- ↑ Riley-Smith 1997, p. 176.
- ↑ Galbert of Bruges 2013, p. 42.
- ↑ Paul 2012, p. 43-44.
- ↑ Deutsch & Bloch 1906.
- ↑ Nicholas 1992, p. 62.
- ↑ Davies 1997, p. 10.
- ↑ Nicholas 1992, p. 63.
- ↑ Aird 2008, p. 272.
อ้างอิง[แก้]
- Aird, William M. (2008). Robert Curthose, Duke of Normandy: C. 1050–1134. The Boydell Press.
- Davies, Ralph Henry Carless (1997). King Stephen. Routledge.
- Deutsch, Gotthard; Bloch, Armand (1906). "Ghent". Jewish Encyclopedia.
- Galbert of Bruges (2013). The Murder, Betrayal, and Slaughter of the Glorious Charles, Count of Flanders. แปลโดย Rider, Jeff. Yale University Press.
- Hundahl, Kerstin; Kjær, Lars; Lund, Niels, บ.ก. (2016). Denmark and Europe in the Middle Ages, C.1000–1525: Essays in Honour of Professor Michael H. Gelting. Routledge.
- Nicholas, David (1992). Medieval Flanders. Longman.
- Paul, Nicholas L. (2012). To Follow in Their Footsteps: The Crusades and Family Memory in the High Middle Ages. Cornell University Press.
- Riley-Smith, Jonathan (1997). The First Crusaders, 1095–1131. Cambridge University Press.
เว็บไซต์อ้างอิง[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ |
ก่อนหน้า | ชาลส์ที่ 1 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
บอลด์วินที่ 7 เคานท์แห่งแฟลนเดอส์ | ![]() |
![]() เคานต์แห่งแฟลนเดอส์ (ค.ศ. 1119 - ค.ศ. 1127) |
![]() |
วิลเลียม คลิโต |