ค็อกเทล (วงดนตรี)
ค็อกเทล (COCKTAIL) | |
|---|---|
สมาชิกวงค็อกเทลใน พ.ศ. 2562 | |
| ข้อมูลพื้นฐาน | |
| รู้จักในชื่อ | COCKTAIL |
| ที่เกิด | |
| แนวเพลง | ออลเทอร์นาทิฟร็อก ร็อก ออร์เคสตรา คลาสสิคอินดีร็อก ป็อป เฮฟวีเมทัล แจ๊ส ร็อกแอนด์โรล |
| ช่วงปี | พ.ศ. 2545 - พ.ศ. 2568 |
| ค่ายเพลง | อิสระ (พ.ศ. 2545 - พ.ศ. 2553) จีนี่ เรคคอร์ด (พ.ศ. 2553 - พ.ศ. 2564) ยีนแล็บ (พ.ศ. 2564 - พ.ศ. 2568) |
| สมาชิก | ปัณฑพล ประสารราชกิจ ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์ ชรัณ ตัณฑนันทน์ |
| อดีตสมาชิก | ดู อดีตสมาชิก |
| เว็บไซต์ | facebook |
ค็อกเทล (อังกฤษ: COCKTAIL) เป็นวงดนตรีแนวคลาสสิกป็อปร็อกสัญชาติไทย จากกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นจากการรวมวงดนตรีของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลาย ๆ วงในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นำโดยปัณฑพล ประสารราชกิจ มาทำเพลงรวมไว้ในอัลบั้มชื่อ "COCKTAIL" วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2545 ซึ่งวงค็อกเทลถือเป็นวันก่อตั้งวง และใช้ชื่ออัลบั้มนี้ในการแสดงดนตรีเรื่อยมา
วงค็อกเทลมีผลงานอัลบั้มเพลงวางจำหน่ายทั้งสิ้น 9 อัลบั้ม 3 อีพี รวมมากกว่า 100 บทเพลง โดยแบ่งเป็นยุคศิลปินอิสระ ในช่วงปี พ.ศ. 2545–2553, ยุคภายใต้จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ แบ่งเป็นภายใต้สังกัดจีนี่ เรคคอร์ด ในช่วงปี พ.ศ. 2563–2563 และภายใต้สังกัดยีนแล็บ ในช่วงปี พ.ศ. 2564–2567 จนกระทั่งยุบวงในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568 รวมระยะเวลาทั้งหมด 23 ปี
ประวัติ
[แก้]ยุคแรก (พ.ศ. 2545–2553)
[แก้]วงค็อกเทลในยุคแรกทำผลงานเพลงในฐานะศิลปินอิสระ มีอัลบั้มทั้งหมด 3 ชุด ดังนี้
อัลบั้มแรก ค็อกเทล (พ.ศ. 2545–2546)
[แก้]
ค็อกเทล เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2545 ขณะที่ โอม - ปัณฑพล ประสารราชกิจ ศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา[1] โดยโอมเริ่มแต่งเพลงแรก คือ "ยิ้มให้ฉันหน่อย" จากนั้นจึงร่วมมือกันในการเริ่มทำอัลบั้มกับ วิศรุต เตชะวรงค์ (บู๊ Sky Kick Ranger) โดยโอมยืมเงินของบิดาและมารดาทั้งหมด 85,000 บาท เพื่อทำอัลบั้ม และเริ่มเชิญชวนเพื่อนในโรงเรียนคนอื่น ๆ มาร่วมทำอัลบั้มกับเขา หลังจากนั้นโอมได้แต่งเพลง "ซ้ำซ้อน" ขึ้นมาเพิ่ม ขณะที่บู๊ได้แต่งเพลง "หลบหน้า" "อยาก" และ "รักไม่ลงตัว" ขึ้นมาเพิ่ม เริ่มบันทึกเสียงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 โดยแบ่งเป็น 2 วง ได้แก่ วงฟอร์เต ซึ่งได้ชื่อมาจากคำว่า เสียงดัง ในภาษาอิตาลี ซึ่งมีสมาชิกคือโอม รวมกับสมาชิกวงดนตรีของบู๊ที่มีอยู่แล้ว โดยมีสัดส่วนการออกเพลง 6 เพลง ขณะที่อีก 4 เพลง เป็นของวงฟรีฟา ซึ่งได้ชื่อมาจากการผสมกันของชื่อวงฟรายเดย์ และโซฟาที่สมาชิกของวงชื่นชอบ แรกเริ่มคำว่า ค็อกเทล นั้นไม่ใช่ชื่อวง แต่เป็นชื่ออัลบั้มที่เสนอขึ้นโดยบู๊ เนื่องจากเป็นชื่อที่มีความหมายของการผสมกันของเครื่องดื่ม เปรียบเหมือนกับงานดนตรีของวงที่เป็นการรวมตัวของนักเรียน และด้วยอีกเหตุหนึ่ง คือ ข้อสอบการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading Comprehension) ที่โรงเรียนออกในช่วงนั้น ออกเกี่ยวกับเรื่องค็อกเทลด้วย[2]
อัลบั้มชุดแรกของพวกเขาวางจำหน่ายได้สำเร็จในงานกีฬาสีของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2545 ซึ่งวงค็อกเทลถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันก่อตั้งวง ต่อมาได้วางจำหน่ายในร้านดีเจสยาม และ น้องท่าพระจันทร์ เป็นอัลบั้มที่เริ่มทำให้วงเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปลาย และสร้างกลุ่มแฟนเพลงที่สนใจผลงานขึ้นมาได้บ้างในเวลานั้น อัลบั้มนี้มีเพลงที่เป็นที่รู้จักอย่าง "ซ้ำซ้อน" "หลบหน้า" และ "เศษซากความฝัน" ลักษณะของอัลบั้มใกล้เคียงความเป็นอัลบั้มรวบรวมมากกว่างานของค็อกเทลวงเดียว กล่าวคือ เป็นการรวมตัวกันของนักดนตรีระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายภายในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาหลาย ๆ วง โดยเพลง "หลบหน้า" และ "Nobody" เป็นเสียงร้องของบู๊
อัลบั้ม 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ (พ.ศ. 2546–2549)
[แก้]หลังจากนั้นค็อกเทลก็ได้ออกอีพี อินไซด์ (Inside) ในปี พ.ศ. 2546 เพื่อรองรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากอัลบั้มแรก สมาชิกหลายคนในช่วงอัลบั้มแรกได้แยกย้ายกันไปศึกษาต่อกันในระดับอุดมศึกษา แต่สมาชิกที่ยังเหลืออยู่ 4 คน ได้แก่ โอม - ปัณฑพล ประสารราชกิจ (ร้องนำ), บู๊ - วิศรุต เตชะวรงค์ (กลอง), หลง - วิทวัศ หลงชมบุญ (เบส) และ ธิป - ธิปรัชต์ โชติบุตร (กีตาร์) ได้ตัดสินใจรวมตัวกันเป็นวง โดยตั้งใจจะใช้ชื่อว่า ค็อกเทล ต่อไป อย่างไรก็ตามแนวเพลงในอัลบั้มนี้ก็ไม่มีกำหนดการที่ตายตัวแต่อย่างใด พวกเขาเริ่มต้นทำงานเพลงอัลบั้มที่ 2 ต่อไป โดยเริ่มแต่งเพลงในช่วงปลายปี พ.ศ. 2545 จนถึงกลางปี พ.ศ. 2547 และเริ่มบันทึกเสียงตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2547 ช่วงนั้น ธิป มือกีตาร์ ได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงต้องหามือกีตาร์คนใหม่ ซึ่งได้ เอกซ์ - ปาริวัฒน์ สุวรรณชัย เข้ามาแทน[3] ต่อมาค็อกเทลได้ออกจำหน่ายอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในชื่อ 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ ในปี พ.ศ. 2547 เป็นอัลบั้มที่แนวทางของวงเปลี่ยนแปลงมาเป็นร็อกอย่างเต็มตัว แต่เนื่องจากเพลงในอัลบั้มนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแต่ไม่มีการโปรโมตวงดนตรีเท่าที่ควร ทำให้เกิดลักษณะของการที่เพลงเป็นที่รู้จักมากกว่าวง
อัลบั้ม อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (พ.ศ. 2549–2553)
[แก้]หลังจากอัลบั้มชุด 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ ค็อกเทลได้มีสมาชิกใหม่อีก 2 คน คือ อายุ จารุบูรณะ อดีตมือกลองจาก Saliva Bastard และ เชา - ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย พร้อมกับทำผลงานอีพี Final Light ในปี พ.ศ. 2550 และสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ในชื่อ อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (In the Memory of Summer Romance) โดยได้ใช้เวลาถึง 3 ปี อัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551 มีแนวเพลงที่แตกต่างจากร็อกในอัลบั้มของค็อกเทลชุดก่อน มีเพลง "พันธนาการ" ที่เป็นดนตรีสังเคราะห์ที่ผสมผสานกับดนตรีร็อก นอกจากนี้อัลบั้มนี้ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ ประจำปี พ.ศ. 2551 สาขาเพลงบรรเลงยอดเยี่ยม จากบทเพลง "ดาราดับแสง" เวอร์ชันบรรเลง
ในปี พ.ศ. 2553 ค็อกเทลได้ออกอีพีในชื่อ วัย ในอัลบั้มประกอบด้วยเพลง "วัย" ในเวอร์ชันต่าง ๆ ซึ่งอัลบั้มนี้ผลิตจำกัด 1,000 แผ่นเท่านั้น วางจำหน่ายวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ทุกแผ่นหักค่าใช้จ่ายเป็นค่าทำบุญหนังสือเรียนให้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดโพธิ์ศรี จังหวัดสิงห์บุรี ในตอนนั้นโอมได้บอกกับผู้จัดการของวงว่าหลังจากอีพีอัลบั้มนี้ ดนตรีจะเหลือเพียงงานอดิเรกสำหรับโอม แต่ผู้จัดการวงกลับเชื่อมั่นว่าโอมและวงค็อกเทลจะมีอนาคตมากกว่าเดิม จึงแอบเอาผลงานเพลง "วัย" เวอร์ชั่นปกติไปนำเสนอที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ทำให้ดนัย ธงสินธุศักดิ์ โปรดิวเซอร์เพลงของศิลปินในเครือ เรียกทั้งวงเข้าพบ จากนั้นสัปดาห์ถัดมาวงได้พบกับวิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลงจีนี่ เรคคอร์ด และอีกสัปดาห์ถัดมาจึงเซ็นสัญญาในทันที[4]
ยุคที่ 2 (พ.ศ. 2554–2562)
[แก้]วงค็อกเทลในยุคที่ 2 ได้เซ็นสัญญาทำผลงานเพลงในฐานะศิลปินภายใต้สังกัดจีนี่ เรคคอร์ด ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีอัลบั้มอีกทั้งหมด 3 ชุด ดังนี้
อัลบั้ม เท็นเทาซันด์เทียส์ (พ.ศ. 2554–2555)
[แก้]ในปี พ.ศ. 2554 หนึ่งเดือนหลังจากเซ็นสัญญา ค็อกเทลได้ออกสตูดิโออัลบั้มที่มีชื่อว่า เท็นเทาซันด์เทียส์ ชื่อของอัลบั้มมีที่มาจากชื่อเพลง "ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้งเพื่อมาเจอเธอ" และงานในอัลบั้มนี้ ถึงแม้ว่าค็อกเทลจะมีสมาชิกเพียง 3 คน แต่ในอัลบั้มมีนักดนตรีเข้าร่วมบันทึกเสียงด้วยถึงกว่า 40 ชีวิต เพื่อสร้างสีสันผสมผสานแนวดนตรีให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทำการบันทึกเสียงเครื่องดนตรีสดทุกชิ้น และเพลง "วัย" ก็ได้บรรจุอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย ทั้งนี้ ในตอนนั้นโอมมีแผนที่จะไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน จึงตั้งใจว่าจะออกผลงานอัลบั้มนี้เพียงอัลบั้มเดียว จึงบอกกับวิเชียรไปโดยตรง แต่วิเชียรก็ยังคงให้วงเซ็นสัญญาอยู่ดี เพราะมองว่าเป็นเหมือนกับการเซ็นสัญญากับวงพาราด็อกซ์อีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าวงจะเป็นสีสันที่แปลกใหม่จากศิลปินที่ค่ายมีอยู่ และถึงแม้จะไม่ได้ผลกำไร แต่ก็ยังได้สร้างภาพลักษณ์ที่มีสีสันให้กับค่าย[4]
อัลบั้ม เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี และคอนเสิร์ต ค็อกเทล เดอะฮาร์ตเลสไลฟ์ (พ.ศ. 2555–2558)
[แก้]ในอัลบั้มนี้ เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี เป็นการกลับมาของมือเบส ปาร์ค - เกริกเกียรติ สว่างวงศ์ ส่วนอายุ จารุบูรณะ ได้ขอลาออกไปทำตามคำสัญญากับเพื่อนมัธยมที่จะสร้างวงดนตรีด้วยกัน จึงได้ ฟิลิปส์ เปรมสิริกรณ์ เข้ามาทำหน้าที่มือกลองแทน เปิดตัวด้วยเพลง "คุกเข่า" มีเพลง "โปรดเถิดรัก" เป็นเพลงแรกที่ได้ร่วมงานกับวงออเคสตราเต็มวง และเป็นเพลงที่ตัดออกมาจากประโยคเล็ก ๆ ในเพลง "เธอทำให้ฉันเสียใจ" ในสตูดิโออัลบั้มชุดที่แล้วของวง และนำมาขยายความ และเป็นเพลงแรกที่ทำมิวสิกวิดีโอเนื้อเรื่อง และเพลง "เธอ" เป็นการกลับมากำกับมิวสิกวิดีโอครั้งแรกในรอบ 20 ปีของ นิค - วิเชียร ฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการของค่าย โดยได้ภรรยาของโอมมาร่วมแต่งเพลงนี้อีกด้วย[5]
นอกจากนี้ ยังมีการทำผลงานเพลงกับศิลปินอื่น โดยในปี พ.ศ. 2556 โอมได้ทำผลงานเพลง "ทางที่เลือก" ร่วมกับ ต้า พาราด็อกซ์ และแอร์ เดอะมูสส์ รวมถึงในปี พ.ศ. 2557 ค็อกเทลได้ทำผลงานเพลงคัฟเวอร์ "ข้าน้อยสมควรตาย" ของบิ๊กแอส เพื่อนำไปประกอบภาพยนตร์ ตีสาม คืนสาม 3D และเพลง "หนังสือรุ่น" นำไปประกอบละครซีรีส์ เพื่อนเฮี้ยน..โรงเรียนหลอน ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 วงได้ออกซิงเกิลที่ห้าของอัลบั้มด้วยเพลง "คู่ชีวิต" และจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชื่อ เดอะฮาร์ตเลสไลฟ์ ขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558[6] จัดที่เมืองไทย จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์
อัลบั้ม ค็อกเทล (ชุดที่ 6) และคอนเสิร์ต ค็อกเทล ไลฟ์ #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา (พ.ศ. 2559–2563)
[แก้]ต่อมาวงค็อกเทลได้ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 ในชื่อ ค็อกเทล ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้มแรกสุดของวง และเป็นอัลบั้มแรกที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในการออกอัลบั้มใหม่ แต่มีการเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ของวงเป็นสัญลักษณ์ตัวซี ที่ทับอยู่บนไม้กางเขน โดยปรากฏครั้งแรกในเพลง "ทำดีไม่เคยจำ" เมื่อปี พ.ศ. 2560 ภายหลังจากโอมถอดหน้ากากหอยนางรมออกใน The Mask Singer หน้ากากนักร้อง (ฤดูกาลที่ 2) โดยอัลบั้มนี้ซิงเกิลโปรโมทเพลงแรกคือเพลง "ช่างมัน" ซึ่งออกจำหน่ายในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559[7] ประกอบไปด้วย 11 บทเพลงซึ่งก่อนหน้าการออกจำหน่ายได้มีเพลงที่ได้เผยแพร่ทางออนไลน์แล้ว 7 เพลง และเพลงที่เหลือได้ถูกเผยแพร่บนช่องทางออนไลน์หลังจากจำหน่ายอัลบั้มแล้วในเวลาต่อมา ระหว่างนี้วงค็อกเทลได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 2 ในชื่อ ค็อกเทล ไลฟ์ #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา ขึ้นเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี[8] ซึ่งหลังจากจบคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้ เอกซ์ - ชรัณ ตัณฑนันทน์ หนึ่งในสมาชิกที่เล่นแบ็กอัพคีย์บอร์ดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ได้ขอแยกตัวออกจากวงชั่วคราว ส่วนอัลบั้ม ค็อกเทล วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2562 และวงได้จัดคอนเสิร์ตฟรีเปิดอัลบั้มในวันเดียวกัน ณ ลานหน้าฮาร์ดร็อกคาเฟ่ สยามสแควร์ ก่อนจะเผยแพร่เพลง "พบพาน" ซึ่งเป็นอีกเพลงที่อยู่ในอัลบั้มนี้ตามมาในอีก 4 วันถัดมา[9]
ในปี พ.ศ. 2563 วงค็อกเทลได้พักการทัวร์คอนเสิร์ตชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย โดยวงได้ทำเพลงพิเศษ "ใกล้ใจ" ขึ้นเพื่อแสดงความห่วงใยจากวงถึงแฟนเพลง และเข้าร่วมจัดรายการเล่นดนตรีรูปแบบถ่ายทอดสดทางออนไลน์เช่นเดียวกับศิลปินในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อีกจำนวนหนึ่ง[10] ก่อนจะเผยแพร่เพลง "รักจริง (ให้ดิ้นตาย)" ในช่วงเดือนกันยายน โดยมี ติ๊ก ชิโร่ และฟักกลิ้งฮีโร่ ร่วมร้องด้วย และมีการผสมผสานแนวเพลงทั้งร็อก ไทยป็อป ฮิปฮอปไทยเข้าด้วยกัน[11] เดือนถัดมาวงได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้ม จูกซ์ 100x100 ฤดูกาลที่ 2 และเผยแพร่เพลง "ดึงดัน" ซึ่งมี ตั๊ก - ศิริพร อยู่ยอด ร่วมร้องด้วย โดยโอมวางอารมณ์เพลงให้คล้ายกับเพลง "หมดห่วง" ของตั๊ก ที่โอมเคยนำไปร้องขณะใส่หน้ากากหอยนางรมใน The Mask Singer หน้ากากนักร้อง (ฤดูกาลที่ 2)[12] และในเดือนธันวาคม โอมได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอัลบั้ม "ซัน แอนด์ มูน" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่นำศิลปินในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และสังกัดช่องวัน 31 มาร้องเพลงร่วมกันจำนวน 5 เพลง โดยส่วนของโอมนั้นเผยแพร่เพลง "How Are You" ซึ่งมี หนูนา - หนึ่งธิดา โสภณ ร่วมร้องด้วย[13] และเพลงนี้ถือเป็นเพลงสุดท้ายที่วงค็อกเทลผลิตในค่ายเพลงจีนี่ เรคคอร์ด ก่อนที่วงจะย้ายสังกัดในปีถัดมา (พ.ศ. 2564)
ยุคสุดท้าย (พ.ศ. 2563–2568)
[แก้]ในยุคสุดท้ายของวงค็อกเทลนี้ วงค็อกเทลทำเพลงภายใต้สังกัดยีนแล็บที่โอมเป็นผู้บริหารค่าย แต่ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ตามเดิม และเป็นการเริ่มต้นของแผนการยุบวงค็อกเทล โดยมีอัลบั้มอีกทั้งหมด 3 ชุด และคอนเสิร์ตอีก 4 รูปแบบ ดังนี้
อัลบั้ม เฟต (พ.ศ. 2564–2565)
[แก้]
ในอัลบั้ม เฟต (Fate) วงค็อกเทลได้กลับไปใช้ตราสัญลักษณ์ของวงเป็นรูปแบบเดียวกับในอัลบั้ม เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี ดังนั้น วงจึงจัดกิจกรรม ค็อกเทล เมมโมเรียล เซอร์วิส (COCKTAIL Memorial Service) เพื่ออำลาตราสัญลักษณ์เดิมของวงที่เคยใช้ในช่วงปี พ.ศ. 2560–2564 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ โดยยังเป็นการแสดงเพลง "เรื่องธรรมดา" เป็นครั้งแรกอีกด้วย[14] ส่วนรูปแบบของเพลงในอัลบั้มนั้น จัดทำขึ้นจากแนวคิด "จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของโชคชะตาที่ตัวเราเป็นคนกำหนดเอง" โดยมีการนำแรงบันดาลใจและความชอบส่วนตัวในหลากหลายด้านของสมาชิกวงมารวมไว้ ผ่านการตีความไพ่เมเจอร์อาร์คานาสำรับใหญ่ จำนวน 22 ใบ ประกอบด้วยไพ่แทนวง 1 ใบ, ไพ่แทนสมาชิกวงหลัก 4 ใบ และไพ่อีก 17 ใบแทนแต่ละเพลงในอัลบั้ม และมีทีมอิลลูชั่น นำโดย สุรชัย พุฒิกุลางกูร และศุภชัย อุไรรัตน์ นักออกแบบที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ ในด้านการออกแบบ มาร่วมออกแบบปกให้ ทำให้อัลบั้มนี้ได้รับรางวัล Best Cover Art of The Year จากโทตี้มิวสิกอวอร์ดส์ 2021[15] ซึ่งเนื่องจากอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มจำนวนเพลงมากที่สุดของวง คือทั้งหมด 17 เพลง ดังนั้น จึงแบ่งการเผยแพร่ออกเป็น 2 ตอน คือ แอลฟา (จุดเริ่มต้น) และ โอเมกา (จุดจบ) ดังนี้[16]
ตอนที่ 1: เฟตแอลฟา (พ.ศ. 2564)
[แก้]อัลบั้ม เฟตแอลฟา (Fate αlpha) มีเนื้อหาเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของโชคชะตา มีเพลงทั้งหมด 9 เพลง ประกอบด้วยเพลงที่ทำไว้ขณะอยู่สังกัดเดิม 2 เพลง คือ "รักจริง (ให้ดิ้นตาย)" และ "ดึงดัน", เพลงที่เผยแพร่เบื้องต้นก่อนวางจำหน่าย 3 เพลง คือ "ชั่วชีวิต", "อภิสิทธิ์ชน" จากอัลบั้ม จูกซ์ 100x100 ฤดูกาลที่ 3[17], "เรื่องธรรมดา" และเพลงใหม่ 4 เพลง ซึ่งเผยแพร่มิวสิกวิดีโอพร้อมกันในวันวางจำหน่ายอัลบั้มเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564 คือ "พอดี", "ค้างคา", "แม้ฉันไม่มีอะไรให้เธอ" และ "หัวใจเหล็ก"[18]
ตอนที่ 2: เฟตโอเมกา (พ.ศ. 2565)
[แก้]อัลบั้ม เฟตโอเมกา (Fate Ωmega) มีเนื้อหาเกี่ยวกับจุดจบหรือจุดสิ้นสุดของโชคชะตา มีเพลงทั้งหมด 8 เพลง เช่น "ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร", "ส่งเธอออกไป", "คนจริงใจ", "ฉันเดินทางเพื่อมาพบเธอ", "นักดนตรี" เป็นต้น โดยวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2565 และมีกิจกรรมเปิดอัลบั้มเป็นนิทรรศการ COCKTAIL FATE EXHIBITION ในช่วงวันดังกล่าวจนถึง 1 พฤษภาคม รวม 4 วัน ที่ลานดิสคัฟเวอรีพลาซา สยามดิสคัฟเวอรี[19] ตามด้วยคอนเสิร์ตออนไลน์ โอเมกา พรีเซนต์ส ค็อกเทล คัมมิง ออฟ เฟต ในวันที่ 7 พฤษภาคม[20]
ต่อมาในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565 วงค็อกเทลเผยแพร่เพลง "ไม่เป็นรอง" โดยเดิมเป็นเพลงที่เผยแพร่เพื่อโปรโมทเกม Nine Songs of Fantasy ตำนานเพลงรักเก้าสวรรค์[21] แต่ได้รับความนิยมในปีถัดมา (พ.ศ. 2566) เนื่องจากในช่วงระหว่างหาเสียงของการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 มีแฟนคลับของพรรคก้าวไกล นำเพลงนี้ไปประกอบคลิปที่เกี่ยวข้องกับพรรคในสื่อสังคมต่าง ๆ[22]
คอนเสิร์ต ค็อกเทล คลาสสิกส์ (พ.ศ. 2566)
[แก้]
ในปี พ.ศ. 2566 นี้ วงค็อกเทลเริ่มต้นด้วยกาารทำเพลงฉบับคัฟเวอร์จาก 3 เพลงของโลโซ ได้แก่ "ไม่ต้องห่วงฉัน", "คุณเธอ" และ "ฉันหรือเธอ (ที่เปลี่ยนไป)" ในรูปแบบเมดเลย์ ในชื่อ "LOSOtrilogy" เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 เมษายน เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้มพิเศษ ซนซน 40 ปี จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นานที 40 ปีหน เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่[23] ต่อมาเมื่อวันที่ 4–6 สิงหาคม วงค็อกเทลได้จัดคอนเสิร์ตพิเศษเป็นคอนเสิร์ตซิมโฟนีออร์เคสตราเต็มรูปแบบ ในชื่อ ค็อกเทล คลาสสิกส์ ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยวงแสดงร่วมกับวงออร์เคสตราและคายกคณะรวมทั้งหมด 118 คน และเพลงทั้งหมดในคอนเสิร์ตนี้ถูกเรียบเรียงใหม่ให้วงออร์เคสตราโดดเด่นเทียบเท่ากับวง[24] ในเดือนเดียวกัน วงเผยแพร่เพลงประกอบภาพยนตร์และละครอีก 2 เพลง คือ "เร้น" ประกอบภาพยนตร์แมนสรวง[25] และ "ลั่นทม" ประกอบละครหอมกลิ่นความรัก[26]
การยุบวง (พ.ศ. 2567–2568)
[แก้]เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567 โอมได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า วงค็อกเทลจะยุบวงภายในปี พ.ศ. 2568 และโอมจะยุติอาชีพนักร้องไปด้วยในคราวเดียวกัน โดยได้มีการเตรียมตัวในการยุบวงมาก่อนหน้านั้นแล้ว เช่น การจัดเตรียมกองทุนของวง การจัดสรรผลประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และการแถลงยุบวงนี้ได้แถลงล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 2 ปี เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการอำลาแฟนเพลงและประกาศถึงผู้ว่าจ้างทั้งหมด
ในแถลงการณ์ฉบับเดียวกัน วงค็อกเทลการประกาศเส้นเวลากิจกรรมก่อนยุบวงเบื้องต้นว่า ในปี พ.ศ. 2567 จะมีการจัดคอนเสิร์ตพิเศษในเดือนพฤษภาคม และจะขึ้นแสดงในงานจ้างภายในประเทศไทยที่รับไว้ รวมถึงเทศกาลดนตรีต่าง ๆ เป็นปีสุดท้าย จากนั้นในปี พ.ศ. 2568 วงค็อกเทลจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายและทัวร์คอนเสิร์ตอำลาแฟนเพลงทั่วประเทศ[27] ก่อนที่ต่อมาจะประกาศรายละเอียดเส้นเวลาของกิจกรรมทั้งหมดที่วงและต้นสังกัดเป็นผู้จัดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567[28] โดยกำหนดการทั้งหมด เป็นดังนี้
ค็อกเทล ข้อสอบ และอัลบั้ม ยัวส์เอเวอร์ (พ.ศ. 2567)
[แก้]ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 วงค็อกเทลได้จัดคอนเสิร์ตประจำที่รูปแบบพบปะทักทายและโต้ตอบ ในชื่อ ค็อกเทล ข้อสอบ โดยให้แฟนเพลงที่เข้ารับชมในแต่ละรอบร่วมกันทำข้อสอบเพื่อออกแบบรายชื่อเพลงให้วงเล่นโดยไม่ซ้ำกันในแต่ละรอบ พร้อมทั้งมีศิลปินรับเชิญหลายรายสลับขึ้นมาร่วมร้องเพลงตามรายชื่อในแต่ละรอบ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4, 5, 9–12, 16–19, 23–26, 30 และ 31 พฤษภาคม รวม 16 รอบ ที่ลิโด้ คอนเน็คท์[29]


สตูดิโออัลบั้ม ยัวส์เอเวอร์ อัลบั้มชุดที่ 9 และชุดสุดท้ายของวง โดยเป็นอัลบั้มเดียวที่วงผลิตภายใต้บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) ที่แยกออกมาจากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยอยู่ในค่ายเพลงยีนแล็บตามเดิม และเป็นอัลบั้มที่วงมีจำนวนสมาชิกอย่างเป็นทางการมากที่สุดคือ 6 คน โดยสมาชิกที่เพิ่มเข้ามาคือ วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์ ในตำแหน่งกีตาร์ริทึ่ม และชรัณ ตัณฑนันทน์ ในตำแหน่งเปียโน ซึ่งเล่นแบ็กอัปให้กับวงอยู่แต่เดิม อัลบั้มนี้มีเพลงทั้งหมด 11 เพลง แบ่งเป็นเพลงใหม่ 7 เพลง เช่น "แรงเสียดทาน", "ดีซะกว่า", "ความคาดหวัง" และ "Yours Ever" เป็นต้น และเพลงเดิมที่ยังมิได้บรรจุในอัลบั้มใด ๆ อีก 4 เพลง โดยเผยแพร่อัลบั้มเต็มเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม[30] และมีกิจกรรมเปิดอัลบั้มเป็นนิทรรศการ COCKTAIL, YOURS EVER, LIFETIME EXHIBITION จัดขึ้นในช่วงวันที่ 1–21 กันยายน ที่ RCB Galleria 1 และ 2 ชั้น 2 ริเวอร์ซิตี[31]
ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์, ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์ และการยุบวง (พ.ศ. 2568)
[แก้]ในปี พ.ศ. 2568 วงค็อกเทลจะรับแสดงงานจ้างเฉพาะต่างประเทศ ส่วนภายในประเทศจะเป็นงานที่วง, บริษัท ครึ่งเก้า จำกัด และ/หรือ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จัดขึ้นเอง ประกอบด้วยคอนเสิร์ตใหญ่และคอนเสิร์ตทัวร์
โดยคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบซึ่งวงจัดขึ้นครั้งสุดท้ายนี้ มีชื่อว่า ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์ จัดแสดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ตามความตั้งใจของวงที่จะจัดแสดงในสนามกีฬากลางแจ้ง สร้างสรรค์โดยทีมเกย์เรย์ ภายใต้จีเอ็มเอ็ม โชว์ ของจีเอ็มเอ็ม มิวสิค โดยวงแสดงร่วมกับวงออร์เคสตราและคายกคณะรวมทั้งหมด 186 คน เดิมกำหนดจัดแสดงในวันที่ 30 มีนาคม เพียง 1 รอบ[32] แต่เนื่องจากบัตรถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว จึงเพิ่มรอบการแสดงอีก 1 รอบในวันที่ 31 มีนาคม[33] มีแขกรับเชิญประกอบด้วย โบกี้ไลอ้อน, ตูน บอดี้สแลม, ปั๊บ โปเตโต้, เจ๋ง บิ๊กแอส, โน่ ดนัย, ต้น/โยเย เอเชียเซเว่น, แม็ก เดอะดาร์เกสต์โรแมนซ์, ฟักกลิ้งฮีโร่, คิว ฟลัวร์ และ 22บุลเล็ตส์[34]
หลังเสร็จสิ้นคอนเสิร์ตใหญ่แล้ว วงค็อกเทลได้จัดคอนเสิร์ตทัวร์อำลาแฟนเพลงในจังหวัดของประเทศไทยทั้ง 76 จังหวัด และ 1 เขตปกครองพิเศษ ในชื่อว่า ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์[35] โดยแบ่งรูปแบบการจัดคอนเสิร์ตเป็น 5 รูปแบบ ตามขนาดพื้นที่ละจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด มีทั้งรูปแบบที่วงจัดเอง และรูปแบบที่มีเจ้าของผับบาร์ซื้อสัมปทานจากวงไปจัดต่อ การทัวร์คอนเสิร์ตเริ่มต้นที่จังหวัดสงขลาในวันที่ 26 เมษายน และจะใช้เวลาทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมด 8 เดือน โดยจะสิ้นสุดที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 24 ธันวาคม จึงถือว่าวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เป็นวันยุบวงค็อกเทลไปโดยปริยาย รวมระยะเวลาดำเนินกิจกรรมในนามวงค็อกเทลทั้งหมด 23 ปีถ้วน[36]
สมาชิก
[แก้]ปีที่สมาชิกเข้าหรือออกจากวงประมาณการจากปีที่มีการจำหน่ายอัลบั้ม
|
|
- เส้นเวลา

ผลงาน
[แก้]อัลบั้ม
[แก้]- พ.ศ. 2545: ค็อกเทล (Cocktail)
- พ.ศ. 2547: 36,000 ไมลส์อะเวย์ฟรอมเฮียร์ (36,000 Miles Away from Here)
- พ.ศ. 2551: อินเดอะเมโมรีออฟซัมเมอร์โรมานซ์ (In the Memory of Summer Romance)
- พ.ศ. 2554: เท็นเทาซันด์เทียส์ (Ten Thousand Tears)
- พ.ศ. 2557: เดอะลอดส์ออฟมิสเซอรี (The Lords of Misery)
- พ.ศ. 2562: ค็อกเทล (Cocktail)
- พ.ศ. 2564: เฟตแอลฟา (Fate αlpha)
- พ.ศ. 2565: เฟตโอเมกา (Fate Ωmega)
- พ.ศ. 2567: ยัวส์เอเวอร์ (Yours Ever)
คอนเสิร์ต
[แก้]- Chang Music Connection presents Cocktail The Heartless Live ที่ เมืองไทย จีเอ็มเอ็มไลฟ์เฮาส์ (13 มิถุนายน พ.ศ. 2558)[37]
- Chang Music Connection presents Cocktail Live #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี (14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561)
- Cocktail Classics A Symphony Orchestra ที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (4–6 สิงหาคม พ.ศ. 2566)
- LEO presents “COCKTAILข้อสอบ” An Interactive Meet and Greet Concert ที่ ลิโด้ คอนเน็คท์ (4, 5, 9–12, 16–19, 23–26, 30 และ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567)
- ไทยประกันชีวิต presents COCKTAIL EVER LIVE ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน (30 และ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568)
- COCKTAIL 77 EVER TOUR ที่ 77 จังหวัดของประเทศไทย (26 เมษายน – 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568)
ค็อกเทล คลาสสิกส์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ (กันยายน 2025) |
ค็อกเทล ข้อสอบ
[แก้]| คอนเสิร์ตทัวร์ประจำที่โดยวงค็อกเทล | |
ด้านหน้าทางเข้าคอนเสิร์ต COCKTAILข้อสอบ พ.ศ. 2567 | |
| สถานที่จัด | ลิโด้ คอนเน็กท์ |
|---|---|
| วันเริ่มต้นการแสดง | 4 พฤษภาคม 2567 |
| วันสิ้นสุดการแสดง | 31 พฤษภาคม 2567 |
| จำนวนรอบแสดง | 16 |
| ผู้เข้าร่วม | ไม่เกิน 8,000 คน |
| ลำดับคอนเสิร์ตของวงค็อกเทล | |
ลีโอ พรีเซนทส์ "ค็อกเทล ข้อสอบ" แอน อินเตอร์แอคทีฟ มีทแอนด์กรีด คอนเสิร์ต (อังกฤษ: LEO presents "COCKTAILข้อสอบ" an Interactive Meet and Greet Concert) เป็นคอนเสิร์ตลำดับที่ 4 ของวงค็อกเทล จัดแสดงในรูปแบบคอนเสิร์ตประจำที่ (Residency) โดยให้คนดูของแต่ละรอบเลือกเพลงของวงค็อกเทลที่แต่ละคนต้องการฟังทั้งหมด 6 หมวดหมู่ หรือ 6 องก์ โดยใช้รูปแบบเดียวกับการทำข้อสอบ และนำมาประมวลผลเป็นรายชื่อเพลงที่คนดูต้องการฟังมากที่สุดในแต่ละรอบ ทำให้ในแต่ละรอบจะมีรายชื่อเพลงที่ไม่ซ้ำกัน จัดขึ้นทั้งหมด 16 รอบ ในวันที่ 4, 5, 9–12, 16–19, 23–26, 30 และ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ที่ฮอลล์ 2 ลิโด้ คอนเน็คท์ เปิดรอบละ 500 คน เริ่มเปิดจำหน่ายบัตรทั่วประเทศในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2567 โดยบัตรการแสดงถูกจำหน่ายหมดทุกที่นั่งทุกรอบการแสดง[38][29]
แขกรับเชิญ
[แก้]
|
|
|
ค็อกเทล เอเวอร์ ไลฟ์
[แก้]ค็อกเทล 77 เอเวอร์ ทัวร์
[แก้]รางวัล
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
| ปี | รางวัล | สาขาที่เข้าชิง | จากผลงาน | ผลการตัดสิน |
|---|---|---|---|---|
| 2558 | รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 8 | เพลงแห่งปี | เธอ | ชนะ |
| 2565 | โทตี้มิวสิกอวอร์ดส์ 2021[39] | ภาพหน้าปกแห่งปี | "Fate αlpha" | ชนะ |
| 2566 | โทตี้มิวสิกอวอร์ดส์ 2022[40] | "Fate Ωmega" | เสนอชื่อเข้าชิง | |
| 2568 | โทตี้มิวสิกอวอร์ดส์ 2024 | เพลงศิลปินกลุ่มยอดนิยมแห่งปี | "Yours Ever" (ร่วมร้องกับ คิว วงฟลัวร์) | ชนะ |
| รางวัลไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 15 | ศิลปินกลุ่มแห่งปี | ไม่ทราบ | ชนะ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "story of cocktail ประวัติที่มาและการก่อตั้งวงค็อกเทล". facebook.com. 12 กันยายน 2553. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ วันนี้เราจะออกอากาศรายการสดที่ pop channal นะครับ
- ↑ "อัลบั้ม 36,000 Miles Away From Here - ค็อกเทล". siamzone. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - 1 2 เสรีสำราญ, ธีรพงศ์ (22 พฤษภาคม 2020). "เส้นทางชีวิตรส 'จืด' ที่แสนกลมกล่อมของ 'โอม ค็อกเทล' (ตอนที่ 1)". แบไต๋. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2025.
- ↑ "The Lords Of Misery อัลบั้มใหม่ Cocktail วางแผงแล้ววันนี้". genie-records.com. September 29, 2014. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2557.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help) - ↑ Cocktail : The Heartless Live thaiticketmajor.com
- ↑ "ช่างมัน ซิงเกิ้ลใหม่จาก COCKTAILเพราะเวลาเปลี่ยน ใจของคนเปลี่ยน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-08. สืบค้นเมื่อ 2020-04-20.
- ↑ ""Cocktail Live #เล่นด้วยหัวใจเสมอมา" การพบพานที่ไม่มีวันลืม กับวงดนตรีที่ไม่เคยหยุดเซอร์ไพรส์". สนุก.คอม. 16 กรกฎาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2025.
- ↑ "'ค็อกเทล'จัดฟรีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม'COCKTAIL' ก่อนปล่อยMV'พบพาน'ให้กำลังใจคนร้าวราน". แนวหน้า. 26 ตุลาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2025.
- ↑ "ตารางไลฟ์ นักร้องแกรมมี่ฯ จัดรายการ เพลงสามัญประจำบ้าน รณรงค์ Social Distancing". ทรูไอดี. 1 เมษายน 2020. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2025.
- ↑ ""รักจริง (ให้ดิ้นตาย)" วง Cocktail คว้า "ติ๊ก ชิโร่-ฟักกลิ้งฮีโร่" ร่วมฟีเจอริง (คลิป)". ไทยรัฐ. 8 กันยายน 2020. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2025.
- ↑ ศิวะพรพันธ์, สุพัฒน์ (23 ตุลาคม 2020). "'ดึงดัน' บทเพลงแห่งความช้ำ ตอกย้ำหัวใจคนไม่เคยจำ งานเพลงล่าสุดและการฟีเจอริงครั้งแรกของ Cocktail และ ตั๊ก ศิริพร". เดอะสแตนดาร์ด. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "ร็อกชนแบ๊ว! โอม x หนูนา จับคู่ฟีเจอริ่งเพลง How are you ในโปรเจกต์ Sun and Moon". ทรูไอดี. 25 ธันวาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2025.
- ↑ "แฟนๆ ร่วมไว้อาลัย! งานอำลาโลโก้วง Cocktail พร้อมฟังเพลงใหม่ "เรื่องธรรมดา" ครั้งแรก". สนุก.คอม. 9 พฤศจิกายน 2021. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2025.
- ↑ "COCKTAIL โพสต์ร่ายยาว! หลังได้รับรางวัลปกอัลบั้มแห่งปีจาก TOTY Music Awards 2021". สนุก.คอม. 3 มีนาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "สมการรอคอย สาวก "cocktail" ส่ง FATE อัลบั้มชุดใหม่กับโชคชะตาที่กำหนดเอง". คมชัดลึก. 18 ธันวาคม 2021. สืบค้นเมื่อ 14 กันยายน 2025.
- ↑ "ทะลุล้านวิว! Cocktail ส่งเพลงใหม่ "อภิสิทธิ์ชน" ประเดิมความปัง "100x100"". สนุก.คอม. 27 มิถุนายน 2021. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ ฉัตรเลิศมงคล, หทัยธาร (19 ธันวาคม 2021). "Cocktail รสเข้ม! ชงอัลบั้มดีกรีหนัก Fate Part 1: αlpha ที่ร่วมงานกับศิลปินมากมาย". เดอะสแตนดาร์ด. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "'COCKTAIL FATE EXHIBITION' นิทรรศการดนตรีและศิลปะ เปิดตัวอัลบั้ม". สำนักข่าวทูเดย์. 29 เมษายน 2022. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "'COCKTAIL' ไลฟ์คอนเสิร์ตกลางทะเล ยกเวทีมาไว้บนเรือบาร์จ". สำนักข่าวทูเดย์. 9 พฤษภาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "เกมมือถือ "Nine Songs of Fantasy" เปิดตัวเพลง "ไม่เป็นรอง" จาก COCKTAIL". ผู้จัดการออนไลน์. 2022-08-24. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""โอม ค็อกเทล" เซอร์ไพรส์เพลง "ไม่เป็นรอง" กลายเป็นไวรัล ด้อมส้มยกให้เป็นเพลงประจำพรรคก้าวไกล". ผู้จัดการออนไลน์. 2023-05-31. สืบค้นเมื่อ 2023-07-19.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ""COCKTAIL"ปล่อยของรวบเพลงวง "LOSO"เข้าด้วยกันโดนใจแฟนๆสุดๆ". เดลินิวส์. 27 เมษายน 2023. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "COCKTAIL CLASSICS คอนเสิร์ตซิมโฟนีออร์เคสตราที่จัดเต็มทุกความประทับใจ!". สนุก.คอม. 9 สิงหาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ ปิยะมังคลา, ชุติกาญจน์ (14 สิงหาคม 2023). "เร้น เพลงประกอบภาพยนตร์ แมนสรวง กับตัวตนที่ถูก 'แอบซ่อน' ภายใต้หน้ากากการแสดง". เดอะสแตนดาร์ด. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "วง COCKTAIL ทำเพลง"ลั่นทม" ประกอบซีรีส์ "หอมกลิ่นความรัก"". ผู้จัดการออนไลน์. 17 สิงหาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2025.
- ↑ "แฟนๆ ใจหาย วงดนตรีร็อค COCKTAIL ประกาศยุบวงในปี 2025". สนุก.คอม. 29 มกราคม 2023. สืบค้นเมื่อ 29 มกราคม 2023.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "COCKTAIL เผยไทม์ไลน์ 2 ปีต่อจากนี้ ก่อนอำลาส่งท้ายในปี 2568". สนุก.คอม. 9 กุมภาพันธ์ 2024. สืบค้นเมื่อ 10 มีนาคม 2025.
- 1 2 "'COCKTAIL ข้อสอบ' ทำถึง! เต็มอิ่มจุใจ 16 รอบ ฉีกกฏคอนเสิร์ต เซอร์ไพรส์ลิสเพลง เปิดตัว Guest ฉ่ำ!". แนวหน้า. 10 มิถุนายน 2024. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Yours Ever ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดสุดท้ายของ COCKTAIL กับการ 'ส่งเธอออกไป' ให้กลายเป็น 'เพลงของทุกคน'". Mix Magazine. 20 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.
- ↑ "วีคสุดท้าย! COCKTAIL, YOURS EVER, LIFETIME EXHIBITION ถึง 21 กันยายนนี้". แนวหน้า. 18 กันยายน 2024. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "คอนเสิร์ต Cocktail วันไหน? ขายบัตรเมื่อไหร่ รีวิว คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้าย". คมชัดลึก. 10 พฤศจิกายน 2024. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "คอนเสิร์ตใหญ่ปิดตำนาน "Cocktail" ประกาศเพิ่มรอบการแสดง จันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568". ดาราเดลี่. 18 มกราคม 2025. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "รีวิวคอนเสิร์ต COCKTAIL EVER LIVE บทอำลาครั้งสุดท้ายของวง COCKTAIL". SPACEBAR. 2 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 6 เมษายน 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "COCKTAIL ใกล้ฉัน! เตรียมพบกับการเดินทางครั้งสุดท้ายของวงร็อกที่จะเป็นตำนานใน COCKTAIL 77 EVER TOUR พาความทรงจำและเสียงเพลงไปหาทุกคนทั่ว 77 จังหวัด ตลอดปี 2568". อีเอฟเอ็ม. เอ-ไทม์ มีเดีย. 3 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ชุติอังกูร, ใยรัก (6 มีนาคม 2025). "COCKTAIL เปิดแผนให้เตรียมปักหมุดคอนเสิร์ต 77 จังหวัดทั่วประเทศ COCKTAIL 77 EVER TOUR". เดอะสแตนดาร์ด. สืบค้นเมื่อ 9 มีนาคม 2025.
{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Cocktail The Heartless Live คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของ ค็อกเทล
- ↑ "COCKTAIL ตอกย้ำวงร็อกขวัญใจคนไทย "COCKTAILข้อสอบ" Sold out ทั้ง 16 รอบการแสดง". สปริงนิวส์. 25 มีนาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2025.
- ↑ สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์ (March 1, 2022). "สรุปผลรางวัล TOTY Music Awards 2021 Tilly Birds คว้า 4 รางวัลใหญ่ 4EVE คว้ารางวัล Best Music of the Year และ Best Female Group". The Standard. สืบค้นเมื่อ March 1, 2022.
- ↑ สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์ (2023-03-14). "สรุปผลรางวัล TOTY Music Awards 2022". THE STANDARD. สืบค้นเมื่อ 2023-03-17.
- บทความที่เนื้อหาบางส่วนรอเพิ่มเติมตั้งแต่กันยายน 2025
- ค็อกเทล (วงดนตรี)
- กลุ่มดนตรีออลเทอร์นาทิฟร็อกสัญชาติไทย
- ศิลปินสังกัดจีนี่เรคอร์ดส
- ศิลปินสังกัดยีนแล็บ
- กลุ่มดนตรีที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545
- ก่อตั้งในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2545
- กลุ่มดนตรีไทยในยุค 2000
- กลุ่มดนตรีที่ยุบเลิกในปี พ.ศ. 2568
- สิ้นสุดในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2568
- วงกลุ่มหกสัญชาติไทย