ข้ามไปเนื้อหา

ฉบับร่าง:วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
  • ความคิดเห็น: ใช้อ้างอิงจากสถาบันเอง ควรใช้อ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออื่น Sry85 (คุย) 13:02, 8 พฤษภาคม 2568 (+07)
  • ความคิดเห็น: อ้างอิงราชกิจจานุเบกษายังมากเกินไปครับ Jeabbabe (คุย) 23:53, 2 เมษายน 2568 (+07)
  • ความคิดเห็น: หาแหล่งอ้างอิงทุติยภูมิมาใส่ก่อนครับ Jeabbabe (คุย) 21:04, 29 มีนาคม 2568 (+07)

วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี
Lopburi Collage of Dramatic Arts
พระพิฆเนศ
สัญลักษณ์ประจำวิทยาลัย
ชื่ออื่นวนศ. ลบ.
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ
สถาปนา1 พฤษภาคม 2524
สังกัดการศึกษาสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายกสภาฯศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
อธิการบดีดร.นิภา โสภาสัมฤทธิ์
ผู้อำนวยการดร.นันทวัน สังขะวร
ที่ตั้ง
121/9 ถนนรามเดโช ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
สี  สีเขียว   สีขาว
เว็บไซต์เว็บไซต์ของวิทยาลัย

วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (อังกฤษ: Lopburi College of Dramatic Arts) เป็นสถาบันการศึกษาในสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทวงวัฒนธรรม ทำการเรียนการสอนด้านดนตรีไทย ดนตรีสากล และนาฏศิลป์ไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับปริญญาตรี

ประวัติ

[แก้]

วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี ได้ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2524 ตามโครงการพัฒนาและจัดตั้งวิทยาลัยนาฏศิลปส่วนภูมิภาค สังกัดกองศิลปศึกษา กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม เผยแพร่ และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์และดุริยางค์ไทย แต่การปฏิบัติงานได้เริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2525 โดยกรมศิลปากรได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งผู้อำนวยการ ทั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์สถานที่ทำการชั่วคราวที่บริเวณอาคารของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และที่ทำการหน่วยศิลปากรที่ 1 ลพบุรี จากนั้นได้เริ่มทำการประชาสัมพันธ์แนะแนวการศึกษาและประกาศรับสมัครนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาในปีการศึกษา 2526 เปิดรับสมัครนักเรียน 2 ระดับคือ ระดับนาฏศิลปชั้นต้นปีที่ 1 รับผู้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับนาฏศิลป์ชั้นกลางปีที่ 1 รับผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เริ่มเปิดทำการเรียนการสอนภาคเรียนแรกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2526 มีนักเรียนจำนวน 138 คน บุคลากรจำนวน 15 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์อาคารเรียนของโรงเรียนช่างไม้ (วัดราชา) ถนนพระยากำจัด ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เป็นอาคารเรียนชั่วคราว (ปัจจุบันคืออาคารสำนักงาน สำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี) ในปีเดียวกันวิทยาลัยฯ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนหลังที่ 1 อาคารโรงอาหาร และบ้านพักคนงาน ที่ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี จึงย้ายมาทำการเรียนการสอนที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2527 จนถึงปัจจุบัน [1] [2]

วันที่ 14 สิงหาคม 2538 ได้มีประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ พุทธศักราช 2538 วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีซึ่งสังกัดกองศิลปศึกษาได้ย้ายมาสังกัดสถาบันนาฏดุริยางคศิลป์ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2538 [3]

วันที่ 30 ตุลาคม 2541 ได้มีประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2541 โดยมีสาระสำคัญคือ สถาบันนาฏดุริยางคศิลป์มีอำนาจหน้าที่ตาม (1) จัดการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรีด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ และคีตศิลป์ ฯลฯ และได้มีการจัดตั้งสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ มีอำนาจหน้าที่ตาม (1) จัดการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านช่างศิลป์ นาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ และคีตศิลป์ ทั้งไทยและสากล และศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ [4]

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2541 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พุทธศักราช 2541 ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 [5]

วันที่ 2 ตุลาคม 2545 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พุทธศักราช 2545 กรมศิลปากรได้ย้ายจากกระทรวงศึกษาธิการมาสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดสถาบันนาฏดุริยางคศิลป์ กรมศิลปากร จึงย้ายมาสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2545 [6]

วันที่ 9 กรกฎาคม 2550 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พุทธศักราช 2550 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พุทธศักราช 2541 และวิทยาลัยนาฏศิลปทุกแห่งซึ่งสังกัดสถาบันนาฏดุริยางคศิลป์ กรมศิลปากร ถูกมารวมจัดตั้งเป็นสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ตามพระราชบัญญัตินี้ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2550 โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มีฐานะเทียบเท่ากรม ดังนั้นในปัจจุบัน วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีจึงเป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม [7]

เหตุการณ์สำคัญ

[แก้]

ระหว่างที่ สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยือนเป็นการส่วนพระองค์ ต่อเนื่อง 3 ปี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2529 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2530 และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2532 โดยทรงสนพระทัยเกี่ยวกับระบบการศึกษาของวิทยาลัยฯ ทั้งการเรียนการสอนและหลักสูตร ได้พระราชทานแนวพระราชดำริว่าควรมุ่งเน้นให้ศึกษาอย่างจริงจัง จนสามารถประกอบอาชีพได้[8]

การศึกษา

[แก้]

การเรียนการสอนในระยะแรกแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับนาฏศิลปชั้นต้น (มัธยมต้น) ระดับนาฏศิลปชั้นกลาง (มัธยมปลาย) และระดับนาฏศิลปชั้นสูง (อนุปริญญา) หากจะศึกษาต่อให้จบระดับปริญญาตรีต้องศึกษาต่อที่วิทยาลัยนาฏศิลป ซึ่งได้เข้าสมทบกับสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี

ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พุทธศักราช 2541 และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลมีมติให้วิทยาลัยนาฏศิลปพ้นจากการสมทบกับสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตั้งแต่ปีการศึกษา 2543 ผู้ที่จบการศึกษาระดับอนุปริญญาจากวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีหลังปีการศึกษา 2543 จึงมักเข้าศึกษาต่อที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

จนเมื่อ พ.ศ. 2547 วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีได้เปิดการเรียนการสอนจนจบถึงระดับปริญญาตรี ปัจจุบันมีการเรียนการสอน 3 ระดับ ดังนี้

ระดับมัธยมตอนต้น หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ มี 2 กลุ่มวิชาหลัก ได้แก่

  • กลุ่มวิชาพื้นฐาน ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพละศึกษา ศิลปะ และภาษาต่างประเทศ
  • กลุ่มวิชาชีพ (วิชาเอก) เลือกเรียนตามความถนัด ได้แก่ โขน ละคร ปี่พาทย์ เครื่องสายไทย คีตศิลป์ไทย และดนตรีสากล[9]

ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ มี 4 หมวดวิชา ได้แก่

  • หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาต่างประเทศ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา และสุขศึกษาและพลศึกษา
  • หมวดสมรรถนะวิชาชีพ (วิชาเอก) ได้แก่ วิชาชีพขั้นพื้นฐาน วิชาเฉพาะ (วิชาเอก ได้แก่ โขน ละคร ปี่พาทย์ เครื่องสายไทย คีตศิลป์ไทย และดนตรีสากล) วิชาเลือก ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ และโครงงานพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ
  • หมวดวิชาเลือกเสรี
  • กิจกรรมเสริมหลักสูตร[10]

ระดับปริญญาตรี มี 2 หลักสูตร ได้แก่

  • หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีศึกษา (ดนตรีไทยและดนตรีสากล)[11]
  • หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา (นาฏศิลป์ไทย)[12]

สัญลักษณ์

[แก้]

ตราประจำวิทยาลัย

[แก้]

วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีใช้ตราสัญลักษณ์เดียวกับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เป็นรูปพระพิฆเนศ แตกต่างที่ระบุชื่อวิทยาลัยใต้ตราสัญลักษณ์ ทั้งนี้ตราสัญลักษณ์มีลักษณะและความหมายตามประกาศราชกิจจานุเบกษาดังนี้

ลักษณะ เป็นรูปวงกลมซ้อนกันสองวง มีลวดลายคล้ายกลีบบัวเรียงกันโดยรอบ วงกลมชั้นในมีลายคล้ายหน้าขบซ้อนอยู่ด้านบน มีแถบริบบิ้นซ้อนอยู่ด้านล่าง ภายในแถบริบบิ้นมีตัวอักษรไทย คำว่า “สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์” หรือภาษาอังกฤษคำว่า “Bunditpatanasilpa Institute of Fine Arts” ภายในวงกลมมีรูปพระพิฆเนศสี่กร ประทับนั่ง พระวรกายเอียงเล็กน้อย หันพระพักตร์เฉียงไปทางซ้าย พระหัตถ์ขวาบนทรงตรีศูล พระหัตถ์ขวาล่างทรงงาช้าง พระหัตถ์ซ้ายบนทรงบ่วงบาศ พระหัตถ์ซ้ายล่างทรงหม้อขนมโมทกะ

ความหมาย พระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปวิทยาการ เทพเจ้าแห่งความสเร็จำ ตรีศูล หมายถึงการททำลายสิ่งชั่วร้ายและขับไล่อุปสรรค งาหัก หมายถึงปัญญาความรู้ บ่วงบาศ หมายถึงการขจัดอวิชชา ความมืดบอด ขนมโมทกะ หมายถึงความอุดมสมบูรณ์หรือโชคลาภ

ทั้งนี้การใช้รูปพระพิฆเนศเป็นตราสัญลักษณ์ใช้สืบมาตั้งแต่วิทยาลัยนาฏศิลปทุกแห่งสังกัดกรมศิลปากร ซึ่งกรมศิลปากรเริ่มใช้รูปพระพิฆเนศเป็นตราสัญลักษณ์ตั้งแต่ปี 2480 อย่างไรก็ตามลักษณะพระพิฆเนศที่ใช้ในตราสัญลักษณ์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์มีความแตกต่างกับกรมศิลปากร [13]

ตราสัญลักษณ์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
ตราสัญลักษณ์กรมศิลปากร

พระพุทธรูปประจำวิทยาลัย

[แก้]

เมื่อปลายปี 2534 พระครูปริตรโกศล รองเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มอบพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 20 เมตร สำหรับเป็นพระพุทธรูปประจำวิทยาลัย ส่วนฐานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พลโทมงคล บุญเสริม และ วัชรี บุญเสริม พร้อมด้วยครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยฯ ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์จำนวน 566,749 บาท เพื่อจัดสร้างซุ้มประดิษฐาน โดยวางศิลาฤกษ์จัดสร้างเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2536 และได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นประดิษฐานเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2535 พระพุทธรูปองค์นี้มีนามว่า “พระพุทธวิภาดาสถิตลพบุรี”

พระพิฆเนศประจำวิทยาลัย

[แก้]

มงคล บุญวงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร ได้สั่งให้กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร ดำเนินการหล่อพระพิฆเนศไว้เป็นที่สักการะบูชาแก่วิทยาลัยฯ ได้วางศิลาฤกษ์หล่อวันที่ 27 มีนาคม 2536 องค์พระพิฆเนศมีขนาดความกว้างหน้าตักประมาณ 64 นิ้ว สูง 70 นิ้ว หล่อด้วยสำริดรมดำ ได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วิทยาลัยฯ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2536 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 10 ปีของการก่อตั้งวิทยาลัยฯ ส่วนฐานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศ พลโทมงคล บุญเสริม และ วัชรี บุญเสริม พร้อมด้วยครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาวิทยาลัยฯ ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์จำนวน 529,748 บาท เพื่อสร้างฐานประดิษฐาน ขนาดของฐานส่วนพื้นมีขนาด 7x5.95 เมตร สูง 4.95 เมตร ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดิบหินอ่อนและลวดลายปูนปั้น

สีประจำวิทยาลัย

[แก้]

สีเขียว-ขาว สีเขียวหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ร่มเย็น สีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ ความซื่อสัตย์ ความหมายรวมคือ มีความสุขสมบูรณ์ ร่มเย็นเป็นสุข และซื่อสัตย์สุจริต

คติประจำวิทยาลัย

[แก้]

สัจจะ เมตตา สามัคคี

ปรัชญาประจำวิทยาลัย

[แก้]

สาธุ โข สิปฺปกํ นาม อปิ ยาทิสกีทิสํ

ขึ้นชื่อว่าศิลปะแม้เช่นใดเช่นหนึ่ง ก็ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานในโอกาสครบรอบ 60 ปี วิทยาลัยนาฏศิลป เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ซึ่งวิทยาลัยนาฏศิลปทุกแห่งใช้เป็นปรัชญาประจำวิทยาลัยฯ

เอกลักษณ์สถานศึกษา

[แก้]

เป็นผู้นำด้านนาฏศิลป์-ดนตรี

อัตลักษณ์นักเรียน นักศึกษา

[แก้]

มืออาชีพด้านนาฏศิลป์-ดนตรี

เพลงประจำวิทยาลัย

[แก้]

เพลงมาร์ชวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี ประพันธ์บทร้องโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประทีป พฤกษากิจ ประพันธ์ทำนองโดยครูอาจารย์กลุ่มสาระการเรียนดนตรีสากล วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี มีบทร้องดังนี้

เพียงหนึ่งแดนที่แสนภูมิใจ

เพียงหนึ่งในแผ่นดินถิ่นสยาม

สีเขียวภูมิปัญญางอกงาม

สีขาวคือความบริสุทธิ์ดุจมณี

พระพิฆเนศเทวัญขวัญฤทัย

ตระหนักในเอกลักษณ์ศักดิ์ศรี

ทุกคนมั่นในรักสามัคคี

ปลูกฝังความดีพลีเพื่อสถาบัน

นาฏศิลป์ คีตศิลป์ ดุริยางค์

สืบทอดเสริมทางสร้างสรรค์

ทุกถิ่นนาฏศิลปสัมพันธ์

แบ่งปันศิลปวัฒนธรรมไทย

โขนละครฟ้อนรำบรรเลง

ขับขานเพลงกังวาลแว่วไหว

ชื่อเสียงเกียรติยศปรากฏไกล

วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี

ผลงานสร้างสรรค์

[แก้]
  • ระบำดินสอพอง ผลงานสร้างสรรค์ปี 2530 ได้แรงบันดาลใจจากการทำดินสอพองซึ่งเป็นอุตสาหกรรมท้องถิ่นของจังหวัดลพบุรี[14]
  • ระบำนวดข้าว ผลงานสร้างสรรค์ปี 2533 ได้แรงบันดาลใจจากวิถีการใช้ชีวิตของคนลพบุรีดั้งเดิมที่ทำนาเป็นอาชีพหลัก [15]
  • ระบำนบนารายณ์ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2534 ได้แรงบันดาลใจจากจดหมายเหตุลาลูแบร์ที่เห็นการประดับประทีปโคมเรียงรายในพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจำนวนมาก[15]
  • ระบำลวปุระ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2535 ได้แรงบันดาลใจจากรัฐลวปุระซึ่งเป็นรัฐสมัยทวารวดี มีพื้นที่อยู่ในจังหวัดลพบุรีปัจจุบัน[15]
  • ระบำปรีดิ์เปรมวานร ผลงานสร้างสรรค์ปี 2536 ได้แรงบันดาลใจจากลิงที่อาศัยอยู่ที่ศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอดจำนวนมาก[15]
  • รำโทน ผลงานสร้างสรรค์ปี 2537 ได้แรงบันดาลใจจากรำโทนซึ่งเป็นการละเล่นที่ชาวลพบุรีนิยมเล่นในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม
  • ฟ้อนพวน ผลงานสร้างสรรค์ปี 2541 ได้แรงบันดาลใจจากชาวไทยพวนในจังหวัดลพบุรี[15]
  • ระบำลงข่วงเข็นฝ้าย ผลงานสร้างสรรค์ปี 2545 เป็นการแสดงของชาวไทยพวนที่บ้านหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี โดยวิทยาลัยฯ ได้นำมาปรับปรุงท่ารำ การแต่งกาย บทร้อง และทำนองดนตรีเพื่อให้เหมาะสมกับเป็นการแสดง
  • ระบำทานตะวัน ผลงานสร้างสรรค์ปี 2545 ได้แรงบันดาลใจจากดอกทานตะวัน ซึ่งจังหวัดลพบุรีมีนโยบายให้ปลูกทานตะวันเป็นพืชเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว[15]
  • ระบำดอกไม้พระราชทาน ผลงานสร้างสรรค์ปี 2547 ได้แรงบันดาลใจจากชื่อดอกไม้ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานนาม
  • รำกลองยาวประยุกต์ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2553 ได้แรงบันดาลใจจากการรำกลองยาว
  • ระบำดอกพิกุล ผลงานสร้างสรรค์ปี 2553 ได้แรงบันดาลใจจากดอกพิกุล ซึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดลพบุรี
  • ระบำนารายณ์ราชสดุดี ผลงานสร้างสรรค์ปี 2554 เพื่อต้องการสื่อถึงการสดุดีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
  • ระบำนาฏสุรางค์พระปรางค์สามยอด ผลงานสร้างสรรค์ปี 2555 เพื่อต้องการสื่อถึงการร่ายรำถวายบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระปรางค์สามยอด
  • ระบำขวัญเกล้าเมาลีศรีเด็กไทย ผลงานสร้างสรรค์ปี 2557 ได้แรงบันดาลใจจากทรงผมของเด็กไทยในสมัยโบราณ
  • ระบำบุบผามาลัยประดิษฐ์ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2558 ได้แรงบันดาลใจจากพวงมาลัยประเภทต่าง ๆ
  • ราชเสนีพระนารายณ์ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2559 เพื่อต้องการสื่อถึงกลุ่มขุนนางในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชซึ่งมีส่วนในการบริหารกิจการบ้านเมือง
  • รื่นเริงสราญนำไทยสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผลงานสร้างสรรค์ปี 2560 ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรม ค่านิยม และการดำรงชีวิตของผู้คนในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
  • ศรรามาวตาร ผลงานสร้างสรรค์ปี 2561 ได้แรงบันดาลใจจากตำนานการสร้างเมืองลพบุรี
  • เทวพระกาฬ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2562 ได้แรงบันดาลใจจากเทวรูปประจำศาลพระกาฬ จังหวัดลพบุรี
  • ร่องรอยลว ละวะ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2563 เพื่อต้องการสื่อถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ในจังหวัดลพบุรี
  • ทวารปาล ผลงานสร้างสรรค์ปี 2564 ได้แรงบันดาลใจจากภาพจิตรกรรมที่บานประตูที่พระวิหารวัดตองปุ จังหวัดลพบุรี[16]
  • ระบำลพบุรีศรีชเยศ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2565 เพื่อต้องการสื่อถึงเหล่าเทวดานางฟ้ามารำอวยพร เฉลิมฉลอง แซ่ซ้อง ความยิ่งใหญ่ของเมืองลพบุรี[17]
  • สำรับหวานสราญรมย์ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2566 ได้แรงบันดาลใจจากขนมหวานที่ได้รับอิทธิพลจากขนมโปตุเกส
  • ริ้วฝ้ายลายหลุยส์ ผลงานสร้างสรรค์ปี 2567 ได้แรงบันดาลใจจากผ้าฝ้ายลายหลุยส์

[18] [19]

บุคคลสำคัญ

[แก้]

ดร.สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ เป็นผู้อำนวยการคนแรกของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี เริ่มต้นก่อตั้งวิทยาลัยฯ ตั้งแต่ยังไม่มีสถานที่ อาคารเรียน และบุคลากร จนวิทยาลัยฯ เจริญรุ่งเรือง ภายหลังได้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญหลายตำแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมศิลปากร และอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ในทางส่วนตัวเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านดนตรีไทยคนสำคัญของวงการ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) ประจำปี 2557 ที่สำคัญเป็นพระอาจารย์ถวายการสอนดนตรีไทยแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนถึงปัจจุบัน[20]

วัฒนา โกศินานนท์ เป็นผู้อำนวยการคนที่สองของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี ในทางส่วนตัวเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านคีตศิลป์ไทยคนสำคัญของวงการในยุคปัจจุบัน สืบทอดความรู้จากท้วม ประสิทธิกุล (ศิลปินแห่งชาติ) [21] ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคีตศิลป์ไทยของสถบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

น้ำว้า ร่มโพธิ์ทอง เป็นผู้ชำนาญการด้านดนตรีไทยของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี ในทางส่วนตัวเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านดนตรีไทย (ปี่พาทย์) สืบทอดความรู้จากหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ท่านมีส่วนสำคัญในการผลิตสร้างนักเรียน นักศึกษาของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรีที่มีความรู้ความสามารถหลายรุ่น[22] และได้ประพันธ์เพลงสำหรับใช้ประกอบผลงานสร้างสรรค์ของวิทยาลัยฯ จำนวนหลายชุด ได้แก่ ระบำนวดข้าว ระบำนบนารายณ์ ระบำลวปุระ ระบำปรีดิ์เปรมวานร รำฟ้อนพวน และระบำทานตะวัน ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว[15]

รายชื่อผู้อำนวยการ

[แก้]
รายชื่อผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี
ลำดับ ชื่อ-สกุล ระยะเวลา
1. ดร.สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ 1 กันยายน 2525 - 30 ตุลาคม 2532
2. วัฒนา โกศินานนท์ 1 พฤศจิกายน 2532 - 30 กันยายน 2543
3. เพ็ญทิพย์ จันทุดม 2 ตุลาคม 2543 - 15 มีนาคม 2547
4. ดิษฐ์ โพธิยารมย์ 16 มีนาคม 2547 - 31 ตุลาคม 2547
5. รศ.ดร.วาสนา บุญญาพิทักษ์ 1 พฤศจิกายน 2547 - 30 มิถุนายน 2548
6. สมบัติ กุลางกูร 1 กรกฎาคม 2548 - 31 สิงหาคม 2552
7. ลิขิต สุนทรสุข 29 กรกฎาคม 2553 - 28 กรกฎาคม 2557
8. ดร.สมชาย ฟ้อนรำดี 29 กรกฎาคม 2557 - 24 มีนาคม 2559
9. ผศ.เชาวนาท เพ็งสุข 29 พฤษภาคม 2559 - 29 พฤษภาคม 2563
10. ลิขิต สุนทรสุข 30 พฤษภาคม 2563 - 30 กันยายน 2565
11. สุระชัย สีบุบผา 24 พฤศจิกายน 2565 - 6 ธันวาคม 2566
12. ดร.นันทวัน สังขะวร 1 มีนาคม 2567 - ปัจจุบัน

อ้างอิง

[แก้]
  1. สำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี (1 พฤษภาคม 2568). "องค์ความรู้ เรื่อง อาคารโรงเรียนช่างไม้ลพบุรี".
  2. บุหลง ศรีกนก. (2544). ศิลปิน...ศิลปากร ; รองฯ สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ. ศิลปากร, 44(1), 108-115.
  3. ราชกิจจานุเบกษา (14 พฤษภาคม 2568). "หพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ พุทธศักราช 2538" (PDF).
  4. ราชกิจจานุเบกษา (14 พฤษภาคม 2568). "พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2541" (PDF).
  5. ราชกิจจานุเบกษา (14 พฤษภาคม 2568). "พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พุทธศักราช 2541" (PDF).
  6. ราชกิจจานุเบกษา (14 พฤษภาคม 2568). "พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พุทธศักราช 2545" (PDF).
  7. ราชกิจจานุเบกษา (14 พฤษภาคม 2568). "พระราชบัญญัติสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พุทธศักราช 2550" (PDF).
  8. กรมศิลปากร (2546). รัตนูปถัมภิกา ศิลปากร 92 ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: กรมศิลปากร (ตีพิมพ์ 27 มีนาคม 2546).
  9. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (30 มีนาคม 2568). "หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ปรับปรุงพุทธศักราช 2562)" (PDF). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
  10. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (30 มีนาคม 2568). "หลักสูตรนาฏดุริยางคศิลป์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชาศิลปกรรม" (PDF). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
  11. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (30 มีนาคม 2568). "หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีศึกษา(4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)" (PDF). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
  12. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (30 มีนาคม 2568). "หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา (4 ปี) (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)" (PDF). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
  13. ราชกิจจานุเบกษา (16 พฤษภาคม 2568). "ข้อบังคับสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ว่าด้วยตราและเครื่องหมายของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และเครื่องหมายของส่วนราชการของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พ.ศ. 2565" (PDF).
  14. สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม. สิริมงคล ดนตรีกาล. นครปฐม. p. 95.
  15. 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 15.5 15.6 อนุสรณ์งานศพ ชีวประวัติและผลงาน ครูน้ำว้า ร่มโพธิ์ทอง (2563). "อนุสรณ์งานศพ ชีวประวัติและผลงาน ครูน้ำว้า ร่มโพธิ์ทอง".
  16. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (2564). "ทวารปาล" (PDF). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
  17. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (2565). "ระบำลพบุรีชเยศ" (PDF). สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์.
  18. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (2561). รวมผลงานการประดิษฐ์และสร้างสรรค์การแสดงของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี เล่มที่ 1. ลพบุรี: วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี.
  19. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (2562). รวมผลงานการประดิษฐ์และสร้างสรรค์การแสดงของวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี เล่มที่ 2. ลพบุรี: วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี.
  20. ปราณี เพียรชนะ (2560). กระบวนการถ่ายทอดการบรรเลงและการปรับวงดนตรีไทยของ ดร.สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ ศิลปินแห่งชาติ. ปริญญาดุริยางคศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
  21. เรือจ้างท่าพระอาทิตย์. (2543). pp. 69-75.
  22. วิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี (2557). กระบวนการสืบทอดและถ่ายทอดดนตรีไทยของครูน้ำว้า ร่มโพธิ์ทอง. การจัดการความรู้ด้านการเรียนการสอน ประจำปีงบประมาณ 2567.{{cite book}}: CS1 maint: location (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

เรือจ้างท่าพระอาทิตย์. (2543). pp. 69-75.