ข้ามไปเนื้อหา

ฉบับร่าง:การถอดถอนยุน ซ็อก-ย็อล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การถอดถอนยุน ซ็อก-ย็อล
อู ว็อน-ชิก ประธานสมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ ลงนามในคำฟ้องถอดถอนยุน ซ็อก-ย็อล ออกจากตำแหน่ง ต่อหน้าสื่อมวลชน หลังจากที่ญัตติให้ฟ้องถอดถอนนั้นได้รับความเห็นชอบในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567
ผู้ถูกกล่าวหายุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนที่ 13
วันที่14 ธันวาคม พ.ศ. 2567
ข้อกล่าวหาการกบฏ[1]
สาเหตุการประกาศกฎอัยการศึก
การลงมติให้ฟ้องถอดถอนครั้งแรก (7 ธันวาคม พ.ศ. 2567)
งดออกเสียง
105 / 300
ผลการลงมติไม่สำเร็จเนื่องจากขาดองค์ประชุม
การลงมติให้ฟ้องถอดถอนครั้งที่สอง (14 ธันวาคม พ.ศ. 2567)
คะแนนเห็นด้วย
204 / 300
คะแนนไม่เห็นด้วย
85 / 300
ผลการลงมติสำเร็จ ประธานาธิบดีหยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างถูกฟ้อง และนายกรัฐมนตรีรักษาการแทน

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2024 ยุน ซ็อก-ย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกสมัชชาแห่งชาติลงมติให้ฟ้องถอดถอนออกจากตำแหน่งหลังมีญัตติให้ฟ้องถอดถอนเป็นครั้งที่สองสืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกของยุน ซ็อก-ย็อล เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ซึ่งถูกสมัชชาแห่งชาติปฏิเสธและมีประกาศยกเลิกอีกหกชั่วโมงถัดมาในวันที่ 4 ธันวาคม

สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ 204 คน จากทั้งหมด 300 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เกิน 2 ใน 3 ตามที่กำหนด ได้ลงคะแนนเสียงให้ฟ้องถอดถอนยุน ซ็อก-ย็อล ทำให้เขาหยุดปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีเป็นการชั่วคราว ขั้นตอนต่อไปคือศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาและวินิจฉัยว่าจะถอดถอนตามคำฟ้องหรือไม่ โดยระหว่างนั้น ฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรี จะรักษาการแทนประธานาธิบดี

ก่อนหน้านี้มีความพยายามเสนอญัตติอย่างเดียวกันเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2024 แต่ถูกพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาลคว่ำบาตร ทำให้ขาดองค์ประชุมที่จะลงมติ การฟ้องถอดถอนประธานาธิบดีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ โดยก่อนหน้านี้มีประธานาธิบดีที่ถูกฟ้องถอดถอนเช่นเดียวกับยุนอีก 2 คน คือ โน มู-ฮย็อน ซึ่งถูกฟ้องในปี 2004 แต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ถอดถอน และพัก กึน-ฮเย ซึ่งถูกฟ้องในปี 2017 และถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน

ภูมิหลัง

[แก้]

กระบวนการ

[แก้]

กระบวนการที่ระบุไว้ในมาตรา 65 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ฉบับที่ 10 ซึ่งเริ่มใช้เมื่อปี 1987 คือ สมัชชาแห่งชาติจะฟ้องศาลรัฐธรรมนุญให้ถอดถอนประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าของรัฐอื่นใด ออกจากตำแหน่งก็ได้ ถ้าบุคคลนั้นฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นในขณะปฏิบัติหน้าที่ทางการ[2][3]

ญัตติให้ฟ้องถอดถอนประธานาธิบดีจะต้องได้รับคะแนนเสียงจาก 2 ใน 3 ของสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ คือ อย่างน้อย 200 เสียงจากทั้งหมด 300 เสียง[4] เมื่อสมัชชาแห่งชาติเห็นชอบกับญัตติแล้ว ผู้ถูกฟ้องจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป แต่การฟ้องนี้มีขอบเขตจำกัด คือ เป็นไปเพื่อถอดถอดจากตำแหน่งสาธารณะเท่านั้น ไม่ส่งผลเป็นการลงโทษใด ๆ เพิ่มเติม[5]

ตามความในรัฐบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญที่เริ่มใช้ในปี 1988 ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมึคำวินิจฉัยภายใน 180 วันหลังจากได้รับคดี แต่ถ้าผู้ถูกฟ้องพ้นจากตำแหน่งก่อนวินิจฉัยแล้ว ก็จะถูกยกฟ้องแทน[5] คำวินิจฉัยให้ถอดถอนประธานาธิบดีต้องได้คะแนนเสียงจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 6 คนจากทั้งหมด 9 คน แต่ปัจจุบันมีตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่างลง 3 ตำแหน่ง คำวินิจฉัยให้ถอดถอนประธานาธิบดีจึงต้องได้คะแนนเสียงจากตุลาการทั้ง 6 คน ที่เหลือ อย่างไรก็ดี ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าศาลจะรับพิจารณาคดีในระหว่างที่มีตำแหน่งว่างดังกล่าวนี้หรือไม่[4]

เมื่อสมัชชาแห่งชาติเห็นชอบให้ฟ้องถอดถอนประธานาธิบดี ประธานาธิบดีจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ และนายกรัฐมนตรีจะรักษาการแทนประธานาธิบดี ถ้าประธานาธิบดีลาออกหรือถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนดปรกติภายใน 60 วัน ในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ นายกรัฐมนตรีจะยังรักษาการแทนประธานาธิบดีต่อไปจนกว่าจะได้ประธานาธิบดีคนใหม่[4]

ส่วนต่อไปนี้ยังไม่ได้ตรวจ

[แก้]

ข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ให้ถอดถอนยุน

[แก้]

ในเดือนกรกฎาคม 2024 เริ่มมีการยื่นคำร้องออนไลน์บนเว็บไซต์ของสภาแห่งชาติเพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนยุน โดยคำร้องดังกล่าวมีผู้ลงชื่อสนับสนุนกว่า 1 ล้านคน โดยตามกฎหมายของเกาหลีใต้ คำร้องที่มีผู้ลงชื่อเกิน 50,000 คนจะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการรัฐสภา เว็บไซต์ดังกล่าวประสบปัญหาล่ม มีผู้เข้าใช้งานพร้อมกันกว่า 22,000 คน ทำให้ต้องรอการเข้าถึงเว็บไซต์ประมาณ 30 นาที[6][7]

ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ศาสตราจารย์และนักวิจัยกว่า 3,000 คนจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งลงนามในจดหมายเรียกร้องให้ยุนลาออก[8][9] ผู้ให้สัมภาษณ์รายหนึ่งคาดการณ์ว่าจดหมายฉบับดังกล่าวมีลายเซ็นจากนักวิชาการมากที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงในยุคการประท้วงต่อต้านรัฐบาลพัก กึน-ฮเย[8]

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน มีนักบวชคาทอลิกในเกาหลีใต้จำนวน 1,466 คนออกแถลงการณ์หัวข้อ "คนเราจะเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ" (어째서 사람이 이 모양인가) เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนยุนเช่นกัน พร้อมกล่าวหาว่ายุนเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกชักใยโดยผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีความเข้าใจในบทบาทของตนเอง และมอบอำนาจซึ่งประชาชนไว้วางใจให้กับภรรยาของเขาแทน[10]

การประกาศกฎอัยการศึก

[แก้]

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องประกาศเพื่อปกป้องประเทศจาก “กลุ่มต่อต้านรัฐ” กองทัพและตำรวจพยายามสกัดกั้นไม่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าสู่ห้องประชุมสมัชชาแห่งชาติ ส่งผลให้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและกองทัพ กลุ่มผู้ประท้วง และเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยฝ่ายนิติบัญญัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 190 คนที่อยู่ในห้องประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึก โดยบังคับให้ยุนยุติกฎอัยการศึกภายในเวลาประมาณ 04:00 KST (UTC+9) ของวันที่ 4 ธันวาคม[11]

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คิม ยง-ฮย็อน (ซ้าย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อี ซัง-มิน (ขวา)

ญัตติถอดถอนที่เกี่ยวข้อง

[แก้]

นอกเหนือจากยุนแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนยังถูกยื่นข้อเสนอและญัตติถอดถอนเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คิม ยง-ฮย็อน[12] ซึ่งลาออกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม[13] และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อี ซัง-มิน ซึ่งถูกยื่นญัตติถอดถอนโดยพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม[14] โดยอีลาออกในวันถัดมาคือวันที่ 8 ธันวาคม[15][16]

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม รัฐสภามีมติผ่านญัตติถอดถอนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พัก ซ็อง-แจ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โช จี-โฮ[17]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Smith, Sheila; Kim, Duyeon (2024-12-09). "President Yoon's Impeachment? The View From Seoul | Council on Foreign Relations". Council on Foreign Relations (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-12-14.
  2. Article 65, Clause 1 of the Constitution of South Korea (1987)
  3. Mosler, Hannes B. (2017). "The Institution of Presidential Impeachment in South Korea, 1992–2017". Verfassung und Recht in Übersee / Law and Politics in Africa, Asia and Latin America. 50 (2): 119–120. doi:10.5771/0506-7286-2017-2-111. ISSN 0506-7286. JSTOR 26429313.
  4. 4.0 4.1 4.2 Rashid, Raphael (5 December 2024). "How South Korea's impeachment process works after Yoon Suk Yeol's martial law bid". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 6 December 2024.
  5. 5.0 5.1 Butts, Dylan (4 December 2024). "South Korean President Yoon faces impeachment: How did we get here?". CNBC. สืบค้นเมื่อ 5 December 2024.
  6. "'Public anger': Hundreds of thousands sign online petition demanding impeachment of President Yoon". ABC News (ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย). 2 July 2024. สืบค้นเมื่อ 9 December 2024.
  7. "[Minute to Read] Over 1 m citizens demand President Yoon's impeachment in online petition". The Chosun Daily (ภาษาอังกฤษ). 3 July 2024. สืบค้นเมื่อ 9 December 2024.
  8. 8.0 8.1 Lee, Hae-rin (23 November 2024). "Over 3,000 university professors demand President Yoon Suk Yeol's resignation". The Korea Times (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 24 November 2024.
  9. 김, 휘란 (14 November 2024). ""권력 사유화 윤석열 퇴진" 고려대·국민대 교수들도 시국선언". JTBC (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 28 November 2024.
  10. ""윤석열, 사람이 어째서 그 모양인가"..천주교 사제 1466명 시국선언". MBC (ภาษาเกาหลี). 28 November 2024. สืบค้นเมื่อ 28 November 2024.
  11. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Reuters c
  12. "Defense minister faces treason charges for proposing declaration of martial law". The Korea Times. 4 December 2024. สืบค้นเมื่อ 4 December 2024.
  13. Kim, Eun-jung (5 December 2024). "(LEAD) Yoon accepts defense minister's resignation amid martial law chaos". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 5 December 2024.
  14. Ahn, Sung-mi (7 December 2024). "Main opposition files impeachment motion against Interior Minister Lee Sang-min". The Korea Herald (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 7 December 2024.
  15. "Interior Minister Lee Sang-min steps down amid martial law turmoil". The Korea Times (ภาษาอังกฤษ). 8 December 2024. สืบค้นเมื่อ 9 December 2024.
  16. Park, Jin-seong; Park, Su-hyeon (8 December 2024). "Interior minister linked to martial law allegations resigns; Yoon approves". The Chosun Ilbo (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 December 2024.
  17. "Ruling party chief supports impeaching president". The Korea Times. 12 December 2024. สืบค้นเมื่อ 12 December 2024.