จัตตาแห่งเดนมาร์ก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จัตตาแห่งเดนมาร์ก
เจ้าหญิงแห่งเดนมาร์ก
อธิการิณีอารามนักบุญอักเนทา
ประสูติค.ศ. 1246
สวรรคตค.ศ. 1286/95
(พระชนมายุราว 40-49 พรรษา)
พระราชบุตรอีริคแห่งสวีเดน (บุตรนอกสมรส)
พระนามเต็ม
จัตตา อีริคสแด็ทเทอร์ แอสตริดเซน
ราชวงศ์แอสตริดเซน
พระราชบิดาพระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
พระราชมารดาจัตตาแห่งแซกโซนี
ศาสนาโรมันคาทอลิก

จัตตาแห่งเดนมาร์ก หรือเป็นที่รู้จักในพระนามว่า จูดิธ (Judith) (ค.ศ. 1246 - 1286/95) ทรงเป็นเจ้าหญิงเดนมาร์ก เป็นหนึ่งในพระราชธิดาของพระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์กกับจัตตาแห่งแซกโซนี เจ้าหญิงจัตตาเป็นพระขนิษฐาในสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสวีเดนและสมเด็จพระราชินีอิงเงอบอร์กแห่งนอร์เวย์ และเป็นพระเชษฐภคินีในเจ้าหญิงอักเนสแห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงจัตตาได้กลายเป็นพระสนมในพระเชษฐภาดา (พี่เขย) คือ พระเจ้าวัลเดมาร์แห่งสวีเดน ในช่วงเวลาสั้นๆ เจ้าหญิงจัตตาทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์แอสตริดเซน

พระชนม์ชีพ[แก้]

ในค.ศ. 1250 ขณะที่เจ้าหญิงจัตตาทรงมีพระชนมายุเพียง 4 พรรษา พระราชบิดาได้ถูกลอบปลงพระชนม์ พระราชมารดาของพระนางได้เสกสมรสใหม่กับบูร์ชาดที่ 8 เคานท์แห่งเคอร์ฟูร์ต-โรเซินบูร์ก พระเชษฐภคินีของเจ้าหญิงจัตตาทั้งสองพระองค์ได้แก่ เจ้าหญิงโซเฟียและเจ้าหญิงอิงเงอบอร์กได้อภิเษกสมรสออกจากราชสำนักไป ในขณะที่เจ้าหญิงจัตตาและเจ้าหญิงอักเนส พระขนิษฐา ประทับอยู่ในอารามนักบุญอักเนส, รอสคิลด์ ทั้งเจ้าหญิงจัตตาและเจ้าหญิงอักเนสไม่ทรงมีความสุขกับพระชนม์ชีพในฐานะนางชีที่ยากลำบากและโดดเดี่ยวได้[1]

ใคนค.ศ. 1269 พระเชษฐภคินีองค์ใหญ่คือ สมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสวีเดน ได้เสด็จเยี่ยมสถานฝังพระบรมศพของพระราชบิดาและเสด็จเยี่ยมเยือนพระขนิษฐาทั้งสองในรอสคิลด์ ในค.ศ. 1272 เจ้าหญิงจัตตาได้รับพระบรมราชานุญาตให้เสด็จไปประทับที่สวีเดน แต่ที่นั่นทรงกลายเป็นพระสนมในพระเจ้าวัลเดมาร์แห่งสวีเดน ผู้เป็นพระเชษฐภาดา เรื่องอื้อฉาวนี้ทำให้เจ้าหญิงจัตตาทรงพระครรภ์และมีบุตรนอกสมรสใน ค.ศ. 1273 บุตรชายได้รับการตั้งชื่อว่า อีริค[2] แม้ว่าจะมีการถกเถียงในกรณีนี้อยู่[3] ในปีถัดมา เจ้าหญิงจัตตาทรงถูกส่งกลับไปยังอารามนักบุญอักเนทา และกษัตริย์วัลเดมาร์ทรงต้องจาริกแสวงบุญไปยังกรุงโรมเพื่อขอการอภัยโทษจากสมเด็จพระสันตะปาปา ตามพงศาวดารบันทึกว่า สมเด็จพระราชินีโซเฟียทรงมีพระราชดำรัสว่า "ข้าฯ จะไม่มีวันหมดสิ้นซึ่งความเศร้าโศก ขอสาปแช่งในวันนั้น วันที่น้องสาวของข้าฯ ได้เดินทางมาเหยียบแผ่นดินสวีเดน"[4] กษัตริย์วัลเดมาร์และสมเด็จพระราชินีโซเฟียทรงแยกกันประทับ

เจ้าหญิงจัตตาทรงประทับในคอนแวนต์จวบจนสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระเจ้าอีริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก พระญาติของเจ้าหญิงจัตตา ทรงปฏิเสธสิทธิในมรดกของเจ้าหญิงจัตตาและเจ้าหญิงอักเนสที่ควรได้รับจากพระราชบิดาของเหล่าพระนาง อย่างไรก็ตามเรื่องอื้อฉาวนี้ก็ได้รับการปรองดองกันใน ค.ศ. 1284 เมื่อเหล่าภคินีทั้งสองได้รับมรดก[5] เจ้าหญิงจัตตา หรือ จูดิธ น่าจะสิ้นพระชนม์ราวช่วงค.ศ. 1286 ถึง ค.ศ. 1295[6] ในช่วงเวลานั้น เจ้าหญิงอักเนสอาจจะได้เสกสมรสกับอีริค ลอร์ดแห่งลังก์เอลันด์ พระญาติ ส่วนพระนางโซเฟียสิ้นพระชนม์ใน ค.ศ. 1286

พงศาวลี[7][8][9][แก้]

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
16. คนุต ลาวาร์ด
 
 
 
 
 
 
 
8. พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 1 แห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
17. อิงเงอบอร์กแห่งเคียฟ
 
 
 
 
 
 
 
4. พระเจ้าวัลเดมาร์ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
18. โวโลดาร์ เกล็บโบวิช เจ้าชายแห่งมินสก์
 
 
 
 
 
 
 
9. โซเฟียแห่งมินสก์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
19. ริเชซาแห่งโปแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
2. พระเจ้าอีริคที่ 4 แห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
20. พระเจ้าอาฟงซูที่ 1 แห่งโปรตุเกส
 
 
 
 
 
 
 
10. พระเจ้าซังชูที่ 1 แห่งโปรตุเกส
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
21. มาทิลดาแห่งซาวอย
 
 
 
 
 
 
 
5. บึเร็งการียาแห่งโปรตุเกส
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
22. ราโมน บารังเกที่ 4 เคานต์แห่งบาร์เซโลนา
 
 
 
 
 
 
 
11. ด็อลซาแห่งอารากอน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
23. เปโตรนิยาแห่งอารากอน
 
 
 
 
 
 
 
1. จัตตาแห่งเดนมาร์ก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
24. อัลเบร็ชท์ เดอะ แบร์
 
 
 
 
 
 
 
12. แบร์นฮาร์ทที่ 3 ดยุกแห่งแซกโซนี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
25. โซฟีแห่งวินเซนบวร์ค
 
 
 
 
 
 
 
6. อัลเบร็ชท์ที่ 1 ดยุกแห่งแซกโซนี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
26. ดยุกมิเอสโกที่ 3 แห่งโปแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
13. ยูดิธตาแห่งโปแลนด์
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
27. แอร์เฌแบ็ตแห่งฮังการี
 
 
 
 
 
 
 
3. จัตตาแห่งแซกโซนี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
28. เลโอพ็อลท์ที่ 5 ดยุกแห่งออสเตรีย
 
 
 
 
 
 
 
14. เลโอพ็อลท์ที่ 6 ดยุกแห่งออสเตรีย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
29. อิโลนาแห่งฮังการี
 
 
 
 
 
 
 
7. อักเนสแห่งออสเตรีย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
30. ไอแซค โคมเนนอส วาตัทเซส
 
 
 
 
 
 
 
15. เธโอโดรา แองเจลินา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
31. แอนนา โคมเนเน แองเจลินา
 
 
 
 
 
 

อ้างอิง[แก้]

  1. Translation from Swedish Wikipedia
  2. แม่แบบ:MLCC
  3. Brenner, p. 270
  4. Christer Öhman (Swedish): Helgon, bönder och krigare. Berättelser ur den svenska historien (Saints, farmers and warriors. Stories from the history of Sweden)
  5. Regesta Diplomatica Danica 1348, p. 166
  6. แม่แบบ:MLCC
  7. Line, Philip. (2007). Kingship and state formation in Sweden, 1130-1290. Brill. pp. 580–81. ISBN 978-90-04-15578-7. OCLC 1170448743.
  8. Brenner, S. Otto. (1978). Nachkommen Gorms des Alten : (König von Dänemark - 936- ) : I.-XVI. Generation. Lyngby: Dansk Historisk Haandbogsforlag. ISBN 87-85207-20-9. OCLC 4882817.
  9. Kønigsfeldt, J. P. F. (1856). Genealogisk-historiske Tabeller over de nordiske Rigers Kongeslægter. OCLC 473918866.