จังหวัดเชียงราย
จังหวัดเชียงราย | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Chiang Rai |
คำขวัญ: เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดเชียงรายเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | ประจญ ปรัชญ์สกุล (ตั้งแต่ พ.ศ. 2561) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 11,678.369 ตร.กม.[1] ตร.กม. (Formatting error: invalid input when rounding ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 12 |
ประชากร (พ.ศ. 2561) | |
• ทั้งหมด | 1,292,130 คน[2] คน |
• อันดับ | อันดับที่ 14 |
รหัส ISO 3166 | TH-57 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | เวียงไชยนารายณ์ |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | กาซะลองคำ |
• ดอกไม้ | พวงแสด |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย 57100 |
• โทรศัพท์ | 0 5371 9143 |
เว็บไซต์ | http://www.chiangrai.net |
จังหวัดเชียงราย (ไทยถิ่นเหนือ: เจียงฮาย พม่า: ) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของประเทศไทยในเชิงภูมิศาสตร์ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่าและประเทศลาว ทางตอนเหนือและตะวันออก, จังหวัดพะเยา และ จังหวัดลำปาง ทางทิศใต้ และจังหวัดเชียงใหม่ ทางทิศตะวันตก จังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ดั้งเดิมของชาวไทยวน ปัจจุบันพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายประกอบด้วยเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ยุคก่อตั้ง หิรัญนครเงินยางเชียงแสน และ อาณาจักรล้านนา เช่น เมืองเงินยาง เมืองเชียงแสน และ เมืองเชียงราย[3] ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายแบ่งการปกครองออกเป็น 18 อำเภอ มีแม่น้ำกก แม่น้ำอิง แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำสายสำคัญ ทำเลที่ตั้งของจังหวัดเชียงรายอยู่บริเวณรอยต่อระหว่าง 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย ประเทศพม่า และประเทศลาว หรือรู้จักกันในนามของดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ ในอดีตเคยเป็นแหล่งผลิตและขนส่งฝิ่นที่สำคัญของโลก ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมมากเป็นอันดับสองในภาคเหนือ รองจากจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนราว 3,600,000 คน คิดเป็นชาวต่างชาติราว 620,000 คน สร้างรายได้ให้กับจังหวัดราว 28,500 ล้านบาท โดยมีท่าอากาศยานประจำจังหวัดคือท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง[4] เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายมาจากเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยมาจากการเกษตร การป่าไม้ และประมง ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 32,500 ล้านบาท[5]
เมืองเชียงรายมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นที่ตั้งของหิรัญนครเงินยางเชียงแสน ซึ่งเป็นนครหลวงก่อนการกำเนิดอาณาจักรล้านนา มี "คำเมือง" เป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในรูปแบบล้านนา ไทใหญ่ ไทเขิน และไทลื้อจากสิบสองปันนาผสมผสานกัน นอกจากนี้จังหวัดเชียงรายยังขึ้นชื่อว่าเป็น "เมืองศิลปะ"[6]และเป็นที่เกิดของศิลปินที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการศิลปะไทย โดยเฉพาะ ถวัลย์ ดัชนี ผู้สร้างสรรค์บ้านดำ และ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้สร้างสรรค์วัดร่องขุ่นและหอนาฬิกาเมืองเชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเชียงรายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของศิลปิน และเป็นแบบอย่างของวัดร่องเสือเต้นซึ่งเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
ประวัติศาสตร์
สมัยราชวงศ์มังราย
พงศาวดารโยนกว่า พญามังรายสร้างขึ้น ณ ที่ซึ่งเดิมเป็นเวียงไชยนารายณ์ เมื่อ พ.ศ. 1805 และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ. 1839 จึงไปสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในท้องที่ระหว่างดอยสุเทพกับแม่น้ำปิง และครองราชสมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ. 1860 ส่วนตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ระบุว่า พญามังรายทรงเสด็จตามช้างมาทางทิศตะวันออกแล้วเห็นชัยภูมิเหมาะแก่การสร้างเมืองริมฝั่งน้ำแม่กก จึงสร้างเป็นเวียงล้อมรอบดอยจอมทองไว้ในปี พ.ศ. 1805 [7]
สำหรับเมืองเชียงรายนั้น เมื่อพญามังรายย้ายไปครองราชสมบัติที่เมืองเชียงใหม่แล้ว พระราชโอรสคือ ขุนครามหรืออีกชื่อหนึ่งว่าพญาไชยสงครามก็ได้ครองราชสมบัติสืบต่อมา นับแต่นั้นเมืองเชียงรายก็ขึ้นต่อเมืองเชียงใหม่
สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของพม่า
ครั้นต่อมาเมื่อล้านนาตกไปอยู่ในปกครองของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 พม่าได้ตั้งขุนนางปกครองเมืองเชียงรายเรื่อยมา หลังจากนั้น พ.ศ. 2317 เจ้ากาวิละแห่งลำปางได้สวามิภักดิ์ต่อกรุงเทพฯ ทำให้หัวเมืองล้านนาฝ่ายใต้ตกเป็นประเทศราชของสยาม ขณะที่เชียงรายและหัวเมืองล้านนาฝ่านเหนืออื่น ๆ ยังคงอยู่ใต้อำนาจพม่า ล้านนากลายเป็นพื้นที่แย่งชิงอำนาจระหว่างสยามกับพม่า ในช่วงเวลาดังกล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผู้คน ประชาชนอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่เมืองอื่น บ้างก็ถูกกวาดต้อนลงไปทางใต้ พ.ศ. 2247 เมืองเชียงแสนฐานที่มั่นสุดท้ายของพม่า ถูกกองทัพเชียงใหม่ ลำปาง และน่าน ตีแตก เมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็นเมืองร้างตามเมืองเชียงแสน
สมัยล้านนาภายใต้การปกครองของสยาม
ในปี พ.ศ. 2386 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้เจ้าหลวงเชียงใหม่ฟื้นฟูเชียงรายขึ้นใหม่ ภายหลังเมืองเชียงรายได้เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพายัพ กระทั่งปี พ.ศ. 2453 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีประกาศกระทรวงมหาดไทย ยกฐานะเมืองเชียงรายเป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ ในปี พ.ศ. 2453 เมืองเชียงแสน เมืองเชียงราย เมืองฝาง เวียงป่าเป้า เมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอแม่สรวย อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงของ ตั้งเป็นเมืองจัตวาเรียกว่าเมืองเชียงราย อยู่ในมณฑลพายัพ และจัดแบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ คือ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเมืองเชียงแสน อำเภอเมืองฝาง อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอแม่สรวย อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงของ เหมือนอย่างหัวเมืองชั้นในที่ขึ้นกับกรุงเทพมหานครทั้งปวง [8] ภายหลังเมืองเชียงรายได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดเชียงราย[9]
การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด
ตั้งแต่มีการตั้งจังหวัดเชียงราย อาณาเขตของจังหวัดเชียงรายมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นลำดับ โดยมีการโอนพื้นที่บางส่วน ไปขึ้นกับจังหวัดข้างง และโอนพื้นที่จังหวัดข้างเคียง เข้ามารวมกับจังหวัดเชียงราย รวมถึงการแบ่งพื้นที่บางส่วน ตั้งเป็นจังหวัดใหม่ ดังนี้
การโอนอำเภอเมืองฝาง ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่ มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนอำเภอเมืองฝาง จังหวัดเชียงรายไปขึ้นจังหวัดเชียงใหม่[10] ในปี พ.ศ. 2468 เนื่องจากความลำบากในการเดินทางติดต่อราชการ ปัจจุบันคือ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
การโอนหมู่ 7 ตำบลป่าตึง อำเภอเชียงแสน ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่ พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด พุทธศักราช 2479 ได้มีการโอนพื้นที่เหนือลำน้ำแม่งามในเขตตำบลป่าตึง อำเภอเชียงแสนในขณะนั้น (อำเภอแม่จันในปัจจุบัน)ไปขึ้นตำบลแม่อาย อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันอยู่ในเขต ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่[11]
การโอนอำเภอปง จังหวัดน่าน มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย ตามพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ พ.ศ. 2495 ได้มีการโอนอำเภอปง จังหวัดน่าน ยกเว้น ตำบลสวด (อำเภอบ้านหลวง ในปัจจุบัน) มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย (สีเขียว) และโอนตำบลสะเอียบ (สีส้ม) อำเภอปง ไปขึ้นกับอำเภอสอง จังหวัดแพร่[12]
การโอนหมู่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลควน อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และโอนตำบลยอด อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน
ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 137 ซึ่งมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติซึ่งออกตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2495 กำหนดให้เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่าน โดยโอนหมู่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลควน อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และโอนตำบลยอด อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน [13]
การแบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ได้แบ่งแยกพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของจังหวัดจัดตั้งขึ้นเป็นจังหวัดพะเยา[14]
แผนที่ | ปีที่เปลี่ยนแปลง (พ.ศ.) | การเปลี่ยนแปลง |
---|---|---|
2453-2468 | แผนที่จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2453-2468 | |
2468 | การโอนพื้นที่อำเภอเมืองฝาง (สีแดง) จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่ | |
2479 | การโอนพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลป่าตึง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในขณะนั้น (สีแดง) ไปขึ้นกับจังหวัดเชียงใหม่ | |
2495 | การโอนพื้นที่อำเภอปง จังหวัดน่าน ยกเว้น ตำบลสวด(สีเขียว) มาขึ้นกับจังหวัดเชียงราย และโอนตำบลสะเอียบ (สีส้ม) ไปขึ้นกับอำเภอสอง จังหวัดแพร่ | |
2515 | โอนหมู่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลควน อำเภอปง (สีฟ้า) จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และโอนตำบลยอด (สีแดง) อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน | |
2520 | การแบ่งพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอจุน อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน และอำเภอเชียงคำ ไปตั้งเป็นจังหวัดพะเยา |
ภูมิศาสตร์
ที่ตั้งและอาณาเขต
จังหวัดเชียงรายตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของประเทศไทย อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 19 องศาเหนือ ถึง 20 องศา 30 ลิปดาเหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศา 15 ลิปดา ถึง 100 องศา 45 ลิปดาตะวันออก
- ทิศเหนือ ติดต่อกับเมืองสาดและจังหวัดท่าขี้เหล็กของรัฐชาน ประเทศพม่า และแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับแขวงอุดมไซ ประเทศลาว
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอภูซาง อำเภอจุน อำเภอดอกคำใต้ อำเภอภูกามยาว อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา อำเภอเมืองปาน อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง และอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
- ทิศตะวันตก ติดกับอำเภอดอยสะเก็ด อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ อำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และเมืองสาด รัฐชาน ประเทศพม่า
จังหวัดเชียงรายมีชายแดนติดกับประเทศพม่าประมาณ 130 กิโลเมตร และมีชายแดนติดต่อกับประเทศลาวประมาณ 180 กิโลเมตร
ภูมิประเทศ
จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ 11,678.369 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 7,290,000 ไร่ มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงในทวีปตอนเหนือ (North Continental Highland) มีพื้นที่ราบสูงเป็นหย่อม ๆ ในเขตอำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอเชียงของ บริเวณเทือกเขาจะมีความสูงประมาณ 1,500-2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยมีดอยลังกาหลวง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัด มีความสูง 2,031 เมตร[15]บริเวณส่วนที่ราบตามลุ่มแม่น้ำสำคัญในตอนกลางของพื้นที่ ได้แก่ อำเภอพาน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน และอำเภอเชียงของ มีความสูงประมาณ 410-580 เมตร จากระดับน้ำทะเล ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีป่าไม้ปกคลุม บริเวณเทือกเขามีชั้นความสูง 1,500-2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีที่ราบเป็นหย่อม ๆ ในระหว่างหุบเขา และตามลุ่มน้ำสำคัญ จังหวัดเชียงรายมีภูเขาล้อมรอบโดยเฉพาะทางทิศตะวันตกเป็นแนวเทือกเขาผีปันน้ำ ติดต่อกันไปเป็นพืดตลอดเขตจังหวัด
ภูมิอากาศ
จังหวัดเชียงรายมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 24 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน เริ่มจากกลางเดือน(กุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม) มีอุณหภูมิเฉลียประมาณ 32 องศาเซลเซียส ฤดูฝน เริ่มจากกลางเดือน(พฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม) มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 1,768 มิลลิเมตร มากที่สุดในปี 2544 จำนวน 2,287.60 มิลลิเมตรน้อยที่สุดในปี 2546 จำนวน 1,404.10 มิลลิเมตร จำนวนวันที่มีฝนตกเฉลี่ย 143 วันต่อปี ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) จังหวัดเชียงรายมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15.0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 0.9 - 1.0 องศาเซลเซียส 2542 สภาพอากาศของจังหวัดเชียงราย ถือว่าหนาวจัดในพื้นที่ราบ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 7-9 องศาเซลเซียส ส่วนบนยอดดอย อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 0-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิ -1.5 องศาที่ภูชี้ฟ้า ปลายปี 2556 จึงทำให้อากาศที่เชียงรายในช่วงฤดูหนาว เป็นพื้นที่ๆ นักท่องเที่ยวอยากมาเป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดเชียงราย | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 27.6 (81.7) |
30.9 (87.6) |
33.5 (92.3) |
34.9 (94.8) |
33.2 (91.8) |
31.7 (89.1) |
30.9 (87.6) |
30.6 (87.1) |
30.6 (87.1) |
29.8 (85.6) |
28.2 (82.8) |
26.5 (79.7) |
30.7 (87.3) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 18.9 (66) |
21.1 (70) |
24.1 (75.4) |
26.8 (80.2) |
27.0 (80.6) |
26.8 (80.2) |
26.4 (79.5) |
26.1 (79) |
25.8 (78.4) |
24.5 (76.1) |
22.0 (71.6) |
18.8 (65.8) |
24.0 (75.2) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 11.9 (53.4) |
12.9 (55.2) |
15.9 (60.6) |
19.7 (67.5) |
22.0 (71.6) |
22.9 (73.2) |
22.8 (73) |
22.6 (72.7) |
22.0 (71.6) |
20.3 (68.5) |
17.0 (62.6) |
12.8 (55) |
18.6 (65.5) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 12.2 (0.48) |
7.8 (0.307) |
19.1 (0.752) |
89.8 (3.535) |
203.9 (8.028) |
211.2 (8.315) |
308.2 (12.134) |
385.4 (15.173) |
268.4 (10.567) |
142.4 (5.606) |
60.5 (2.382) |
24.6 (0.969) |
1,733.5 (68.248) |
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย | 2 | 1 | 3 | 10 | 17 | 19 | 22 | 24 | 18 | 12 | 6 | 3 | 137 |
แหล่งที่มา 1: Thai Meteorological Department[16] | |||||||||||||
แหล่งที่มา 2: Hong Kong Observatory [17] |
ทรัพยากรป่าไม้
พื้นที่จังหวัดเชียงรายมีทั้งสิ้น 11.678.369 ตารางกิโลเมตร หรือ 7,298,981 ไร่ ในปี 2542 มีพื้นที่ป่าไม้จำนวน 2,365,967 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 32.42 ของพื้นที่ทั้งหมด พื้นที่ป่าไม้แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
อุทยานแห่งชาติ
- อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เนื้อที่ 731,250 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอพาน อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอแม่ใจ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา อำเภอวังเหนือ และอำเภองาว จังหวัดลำปาง
- อุทยานแห่งชาติลำน้ำกก มีเนื้อที่ 467,185 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ลาว อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
- อุทยานแห่งชาติแม่ปืม มีเนื้อที่ 227,312 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอพาน อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย, อำเภอแม่ใจ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา
- อุทยานแห่งชาติภูซาง เนื้อที่ 178,050 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย อำเภอเชียงคำและอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
- อุทยานแห่งชาติขุนแจ มีเนื้อที่ 168,750 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
วนอุทยาน
จังหวัดเชียงราย มีวนอุทยาน (Forest Park) ซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติที่รัฐจัดไว้ ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด จำนวน 27 แห่ง ดังนี้
|
|
|
|
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ป่าไม้รูปแบบอื่นอีก ดังต่อไปนี้
- สวนรุกขชาติ (Arboretum) - มีเพียงแห่งเดียว คือสวนรุกชาติโป่งสลี เทศบาลตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย มีพื้นที่ 668.75 ไร่ พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้สักขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นป่าเดิมที่เหลืออยู่และมีการปลูกต้นไม้อื่น ๆ แทรกบ้าง
- ป่าสงวนแห่งชาติ (National Reserved Forest) - มีทั้งหมด 30 แห่ง มีพื้นที่รวม 4,485,966 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 61.46 ของพื้นที่จังหวัด แบ่งเป็นพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ จำนวน 3,525,896 ไร่ พื้นที่มอบ สปก. จำนวน 960,070 ไร่ แยกออกเป็นพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ 513,683 ไร่ ป่าเพื่อการเกษตร 425,832 ไร่ และพื้นที่กันคืนกรมป่าไม้ 20,555 ไร่
- ป่าชุมชน (Community Forest) - เป็นป่าธรรมชาติ ที่ชาวบ้านช่วยกันป้องกันรักษาเอาไว้ สำหรับเป็นแหล่งซับน้ำและใช้สอย ปัจจุบันมีการสร้างป่าชุมชนขึ้นในพื้นที่สาธารณะ เพื่อใช้ประโยชน์ของชุมชน
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า - มีเพียงแห่งเดียวคือ พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย อำเภอเชียงแสน มีพื้นที่ 2,711 ไร่
ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งแร่
- ทังสเตน หรือ วุลแฟรม แร่ทังสเตนเป็นแร่ที่พบในเทือกเขาด้านตะวันตกของจังหวัด ในเขตอำเภอแม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า ซึ่งอาจเกิดเป็นแหล่งแร่อิสระเช่นซีไลท์และวุลแฟรม หรืออาจเกิดรวมกับแร่อื่น ๆ เช่น ดีบุก และพลวง
- ดีบุกและพลวง แร่ทั้งสองประเภทเป็นแร่ในกลุ่มโลหะพื้นฐาน อาจเกิดร่วมกับแร่ทังสเตนมีอยู่มากในเทือกเขาด้านตะวันตก เช่นกัน แต่มีปริมาณและการผลิตน้อยกว่าทังสเตน
- แมงกานีส เป็นแหล่งแร่ที่มีขนาดเล็ก เคยมีการผลิตในเขตอำเภอเทิง ปัจจุบันมีแปลงประทาน
ในเขตอำเภอพญาเม็งราย แต่ไม่มีการผลิต
- ไพโรฟิลไลต์ และกัลก์ เป็นแร่ที่พบกระจายในเขตอำเภอเทิงและอำเภอเชียงของ แต่ไม่มีการผลิต
- ดินขาว และบอลเคลย์ เป็นแร่ที่พบกระจายในอำเภอเวียงป่าเป้า มีผลผลิตจำนวนน้อย ปัจจุบันยังคงมีการผลิตบอลเคลย์จากเหมือง
- หินปูนอุตสาหกรรม เป็นหินปูนที่ใช้ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ใช้ทำปูนขาวสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง และอุตสาหกรรมน้ำตาล มีการผลิตหินปูนในเขตอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอป่าแดด และอำเภอเวียงชัย
ทรัพยากรน้ำ
แม่น้ำโขง/สามเหลี่ยมทองคำ
- น้ำแม่กก มีต้นกำเนิดในประเทศพม่า ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ไหลผ่านอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงแสน แล้วไหลไปบรรจบแม่น้ำโขงที่หมู่ที่ 7 บ้านสบกก ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน มีความยาวประมาณ 145 กิโลเมตร
- น้ำแม่ลาว ต้นกำเนิดจากภูเขาในเขตอำเภอเวียงป่าเป้า แล้วไหลผ่านอำเภอแม่สรวย อำเภอพาน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย ไปบรรจบกับ น้ำแม่กกที่อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย มีความยาวประมาณ 137 กิโลเมตร
- น้ำแม่อิง ต้นน้ำเกิดจากหนองเล็งทรายก่อนเข้ากว๊านพะเยา ไหลผ่านอำเภอเทิง แล้วไหลไปบรรจบแม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงของ ส่วนที่ไหลผ่าน จังหวัดเชียงราย ยาวประมาณ 136 กิโลเมตร
- น้ำแม่จัน ต้นน้ำเกิดจากภูเขาสามเส้า ทางด้านทิศตะวันตกของอำเภอแม่จันติดกับรัฐชาน (ประเทศพม่า) แล้วไหลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับแม่น้ำคำไหลไปบรรจบแม่น้ำโขง มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร
- แม่น้ำโขง มีต้นกำเนิดจากภูเขาหิมาลัย ไหลเข้าสู่ประเทศไทยที่หมู่ที่ 1 บ้านสบรวก ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย แล้วไหลผ่านอำเภอเชียงของ และอำเภอเวียงแก่น รวมความยาวที่ผ่านจังหวัดเชียงราย ประมาณ 94 กิโลเมตร
- น้ำแม่คำ ต้นน้ำเกิดจากภูเขาในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง แล้วไหลผ่านอำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย แล้วไหลไปบรรจบแม่น้ำโขงที่หมู่ที่ 5 บ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย มีความยาวทั้งสิ้น ประมาณ 85 กิโลเมตร
- แม่น้ำสาย ใช้เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ในเขตจังหวัดเชียงราย เป็นแม่น้ำสายสั้น ๆ ประมาณ 31 กิโลเมตรมีน้ำไหลตลอดปี
- แม่น้ำรวก ต้นน้ำเกิดในประเทศพม่า ไหลเข้าสู่ประเทศไทยที่ อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงแสน แล้วไหลไปบรรจบแม่น้ำโขงที่หมู่ที่ 1 บ้านสบรวก ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ใช้เป็นเส้นแบ่งเขตแดน ระหว่างประเทศไทย และประเทศพม่า
เศรษฐกิจ
โครงสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายมาจากการเกษตร ป่าไม้ และการประมงเป็นหลัก พืชสำคัญทางเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ ข้าวจ้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สัปปะรด มันสัมปะหลัง ส้มโอ ลำไย และลิ้นจี่ ซึ่งทั้งคู่เป็นผลไม้สำคัญที่สามารถปลูกได้ในทุกอำเภอของจังหวัด นอกจากนี้จังหวัดเชียงรายยังขึ้นชื่อสำหรับการเพาะปลูกชา อันเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของจังหวัดเชียงรายในปี พ.ศ. 2561[5] นอกจากนี้จังหวัดเชียงรายยังเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในเชิงการท่องเที่ยว มีจำนวนผู้เยี่ยมเยียนจังหวัดเชียงรายทั้งหมดราว 3,600,000 คนในปี 2561 มากเป็นอันดับที่สองนภาคเหนือ รองจากจังหวัดเชียงใหม่ การท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับจังหวัดมากกว่า 28,500 บาท[4]
การเมืองการปกครอง
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- ตราประจำจังหวัด : รูปช้างสีขาวใต้เมฆ หมายถึง นิมิตของความรุ่งเรืองในอดีต เพราะพญามังรายเคยใช้ช้างเป็นกำลังสำคัญในการทำศึกปราบศัตรูจนได้ชัยชนะ นอกจากนี้ ช้างยังเป็นชนวนให้พญามังรายมาก่อร่างสร้างเมืองนี้ขึ้นอีกด้วย โดยว่ากันว่า หายไปจากหลักที่ผูกไว้ พญามังรายติดตามไปจนถึงภูมิประเทศอันบริบูรณ์ริมน้ำกก จึงโปรดให้ตั้งเมืองเชียงรายขึ้น ณ ที่นั้น[18]
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกพวงแสด (Pyrostegia venusta)
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: กาซะลองคำ (Radermachera ignea) โดยเป็นไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้เป็นไม้ประจำจังหวัดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี[18]
หน่วยการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็นระดับอำเภอ จำนวน 18 อำเภอ ระดับตำบล จำนวน 124 ตำบล และระดับหมู่บ้าน จำนวน 1,751 หมู่บ้าน ได้แก่
ที่ | ชื่ออำเภอ | ตัวเมือง | อักษรโรมัน | จำนวนตำบล | จำนวนประชากร[19] |
---|---|---|---|---|---|
1. | เมืองเชียงราย | Mueang Chiang Rai | 16 | 223,725 | |
2. | เวียงชัย | Wiang Chai | 5 | 44,036 | |
3. | เชียงของ | Chiang Khong | 7 | 62,328 | |
4. | เทิง | Thoeng | 10 | 84,018 | |
5. | พาน | Phan | 15 | 124,364 | |
6. | ป่าแดด | Pa Daet | 5 | 26,362 | |
7. | แม่จัน | Mae Chan | 11 | 99,273 | |
8. | เชียงแสน | Chiang Saen | 6 | 50,323 | |
9. | แม่สาย | Mae Sai | 8 | 85,266 | |
10. | แม่สรวย | Mae Suai | 7 | 79,938 | |
11. | เวียงป่าเป้า | Wiang Pa Pao | 7 | 67,092 | |
12. | พญาเม็งราย | Phaya Mengrai | 5 | 41,952 | |
13. | เวียงแก่น | Wiang Kaen | 4 | 31,254 | |
14. | ขุนตาล | Khun Tan | 3 | 32,341 | |
15. | แม่ฟ้าหลวง | Mae Fa Luang | 4 | 69,567 | |
16. | แม่ลาว | Mae Lao | 5 | 30,631 | |
17. | เวียงเชียงรุ้ง | Wiang Chiang Rung | 3 | 26,740 | |
18. | ดอยหลวง | Doi Luang | 3 | 19,008 |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มี 1 เทศบาลนคร 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลจำแนกตามอำเภอ ดังนี้ [20]
อำเภอ | เทศบาลตำบล | องค์การบริหารส่วนตำบล | รวม |
---|---|---|---|
เมืองเชียงราย | 10 | 5 | 15 |
แม่จัน | 8 | 5 | 13 |
แม่สาย | 4 | 6 | 10 |
เชียงแสน | 5 | 2 | 7 |
เชียงของ | 7 | 1 | 8 |
เทิง | 6 | 6 | 12 |
ป่าแดด | 5 | - | 5 |
พาน | 2 | 14 | 16 |
เวียงชัย | 5 | 1 | 6 |
แม่สรวย | 3 | 6 | 9 |
เวียงป่าเป้า | 4 | 5 | 9 |
พญาเม็งราย | 3 | 3 | 6 |
แม่ลาว | 3 | 4 | 7 |
ขุนตาล | 3 | 1 | 4 |
เวียงเชียงรุ้ง | 1 | 3 | 4 |
เวียงแก่น | 3 | 1 | 4 |
แม่ฟ้าหลวง | - | 4 | 4 |
ดอยหลวง | - | 3 | 3 |
รวมทั้งสิ้น | 50 | 92 | 144 |
รายชื่อเจ้าเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
รายชื่อเจ้าเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รายชื่อ | ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง | |||||||
1 | พระยารัตนาณาเขต (เจ้าหลวงธรรมลังกา ตำแหน่งเจ้าเมือง) | พ.ศ. 2386-2407 | |||||||
2 | พระยารัตนาณาเขต (เจ้าหลวงอุ่นเรือน ตำแหน่งเจ้าเมือง) | พ.ศ. 2407-2419 | |||||||
3 | พระยารัตนาณาเขต (เจ้าหลวงสุริยะ ตำแหน่งเจ้าเมือง) | พ.ศ. 2419-2433 | |||||||
4 | พระยารัตนาณาเขต (เจ้าน้อยมหาไชย ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด) | พ.ศ. 2433-2442 | |||||||
5 | พระพลอาษา | พ.ศ. 2442-2445 | |||||||
6 | หลวงอาษาภูธร | พ.ศ. 2445-2446 | |||||||
7 | พระยารามราชภักดี | พ.ศ. 2447-2450 | |||||||
8 | พระยาอุดรกิจพิจารณ์ | พ.ศ. 2450-2453 | |||||||
9 | พระยารามราชเดช (ศุข ดิษยบุตร) | พ.ศ. 2453-2458 | |||||||
10 | พระราชยา (เจิม ปันยารชุน) | พ.ศ. 2458-2460 | |||||||
11 | พระยาราชดำรง (ผล ศรุตานนท์) | พ.ศ. 2460-2479 | |||||||
12 | พระพนมครานุรักษ์ (ฮกไถ่ พิศาลบุตร) | พ.ศ. 2479-2482 | |||||||
13 | พันตำรวจเอก พระยานรากรบริรักษ์ | พ.ศ. 2482-2485 | |||||||
14 | หลวงรักษ์นราธร (โชค ชมธวัช) | พ.ศ. 2485-2487 | |||||||
15 | ขุนไตรกิตยานุกูล (อัมพร กิตยานุกุล) | พ.ศ. 2487-2489 | |||||||
16 | นายชลอ จารุจินดา | พ.ศ. 2489-2490 | |||||||
17 | ขุนวิสิฐอุดรการ (กรี วิสิฐอุดรการ) | พ.ศ. 2490-2491 | |||||||
18 | ขุนสนิทประชาราษฏร์ | พ.ศ. 2491-2491 | |||||||
19 | นายชลอ จารุจินดา | พ.ศ. 2491-2492 | |||||||
20 | พันตำรวจโทขุนวีรเดชกำแหง (ชม จารุสิทธิ์) | พ.ศ. 2492-2493 | |||||||
21 | พันตรีเล็ก ทองสุนทร | พ.ศ. 2493-2497 | |||||||
22 | พันเอกจำรูญ จำรูญรณสิทธิ์ | พ.ศ. 2497-2498 | |||||||
23 | พันตำรวจเอกเลื่อน กฤษณามระ | พ.ศ. 2498-2500 | |||||||
24 | พันตำรวจเอกเนื่อง รายะนาค | พ.ศ. 2500-2501 | |||||||
25 | นายเครือ สุวรรณสิงห์ | พ.ศ. 2501-2504 | |||||||
26 | นายชูสง่า ไชยพันธุ์ (ฤทธิประศาสน์) | พ.ศ. 2504-2512 | |||||||
27 | นายสิทธิ์ สงวนน้อย | 20 พฤษภาคม 2512-30 เมษายน 2513 | |||||||
28 | นายประหยัด สมานมิตร | 1 พฤษภาคม 2513-20 กันยายน 2513 | |||||||
29 | นายศรศักดิ์ สุวรรณเทศ | 1 ตุลาคม 2513-30 กันยายน 2514 | |||||||
30 | พลตรีวิทย์ นิ่มนวล | 1 ตุลาคม 2514-30 กันยายน 2516 | |||||||
31 | นายชุ่ม บุญเรือง | 1 ตุลาคม 2516-27 สิงหาคม 2522] | |||||||
32 | นายศักดา อ้อพงษ์ | 1 ตุลาคม 2522-30 กรกฎาคม 2525 | |||||||
33 | นายมนตรี ตระหง่าน | 1 ตุลาคม 2525-30 กันยายน 2528 | |||||||
34 | นายอร่าม เอี่ยมอรุณ | 1 ตุลาคม 2528-30 กันยายน 2531 | |||||||
35 | นายบรรณสิทธิ์ สลับแสง | 1 ตุลาคม 2531-30 เมษายน 2534 | |||||||
36 | นายคำรณ บุณเชิด | 1 ตุลาคม 2534-30 กันยายน 2539 | |||||||
37 | นายวิจารณ์ ไชยนันทน์ | 1 ตุลาคม 2539-30 กันยายน 2542 | |||||||
38 | นายสำเริง ปุณโยปกรณ์ | 1 ตุลาคม 2542-30 กันยายน 2544 | |||||||
39 | นายรุ่งฤทธิ์ มกรพงศ์ | 1 ตุลาคม 2544-27 ตุลาคม 2545 | |||||||
40 | นายนรินทร์ พานิชกิจ | 28 ตุลาคม 2545-30 กันยายน 2547 | |||||||
41 | นายวรเกียรติ สมสร้อย | 1 ตุลาคม 2547-28 กุมภาพันธ์ 2549 | |||||||
42 | นายอุดม พัวสกุล | 5 มิถุนายน 2549-30 กันยายน 2549 | |||||||
43 | นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ | 1 ตุลาคม 2549-30 กันยายน 2550 | |||||||
44 | นายปรีชา กมลบุตร | 1 ตุลาคม 2550-30 กันยายน 2551 | |||||||
45 | นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง | 1 พฤษภาคม 2551-31 มีนาคม 2552 | |||||||
46 | นายสุเมธ แสงนิ่มนวล | 1 เม.ย. 2552-30 กันยายน 2553 | |||||||
47 | นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ | 1 ตุลาคม 2553-30 กันยายน 2554 | |||||||
48 | นายธานินทร์ สุภาแสน | 1 ตุลาคม 2554-30 กันยายน 2555 | |||||||
49 | นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ | 1 ตุลาคม 2555-30 กันยายน 2558 | |||||||
50 | นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ | 1 ตุลาคม 2558-4 เมษายน 2560 | |||||||
51 | นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร | 4 เมษายน 2560-4 กรกฎาคม 2561 | |||||||
52 | นายประจญ ปรัชญ์สกุล | 4 กรกฎาคม 2561-ปัจจุบัน |
การเลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดเชียงรายแบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 7 เขต มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 7 คน โดยแต่ละเขตแบ่งออกดังนี้
- เขต 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองเชียงราย
- เขต 2 ประกอบด้วย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอแม่สรวย และอำเภอแม่ลาว
- เขต 3 ประกอบด้วย อำเภอพาน
- เขต 4 ประกอบด้วย อำเภอเทิง อำเภอเวียงชัย และอำเภอป่าแดด
- เขต 5 ประกอบด้วย อำเภอเชียงของ อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย และ อำเภอขุนตาล
- เขต 6 ประกอบด้วย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอดอยหลวง และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง
- เขต 7 ประกอบด้วย อำเภอแม่จัน และอำเภอแม่ฟ้าหลวง
ประชากร
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2522[21] | 922,850 | — |
2525[22] | 946,188 | +2.5% |
2528[23] | 981,124 | +3.7% |
2531[24] | 1,009,608 | +2.9% |
2534[25] | 1,048,299 | +3.8% |
2537[26] | 1,251,581 | +19.4% |
2540 | 1,261,138 | +0.8% |
2543 | 1,259,988 | −0.1% |
2546 | 1,214,981 | −3.6% |
2549 | 1,225,713 | +0.9% |
2552 | 1,194,933 | −2.5% |
2555 | 1,200,423 | +0.5% |
2558 | 1,277,950 | +6.5% |
2561 | 1,292,130 | +1.1% |
ที่มา: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย[2] |
จังหวัดเชียงรายมีประชากรหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา และชาวจีนฮ่อที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่บนดอยสูง แต่ละชนชาติจะมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ เป็นเสน่ห์ห์อีกอย่างที่ทำให้เชียงรายได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ[27] ประชากรในเขตจังหวัดเชียงราย แบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่ม อาทิ
- คนไทยพื้นราบ ประกอบด้วยชาวไทยวน ไทลื้อ ไทเขิน ไทใหญ่ ดังนี้
- ชาวไทยภูเขา ประกอบด้วย อาข่า มูเซอ เย้า กะเหรี่ยง ลีซอ ม้ง
- ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า บุคคลหลายสัญชาติที่อพยพมาจากพม่าเข้าอยู่ในประเทศไทยก่อนวันที่ 9 มีนาคม 2519 การออกนอกเขตจังหวัดที่อยู่อาศัยต้องขออนุญาตจากปลัดกระทรวงมหาดไทย
- ชาวลาวอพยพ คนลาวที่อาศัยอยู่กับญาติพี่น้องตามแนวชายแดนของประเทศไทย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองของลาวในปี พ.ศ. 2517 ขณะนี้ทางการของไทยยังไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกเขตจังหวัดที่อยู่อาศัย
- ชาวจีนชนกลุ่มน้อยซึ่งสืบเชื้อสายจีน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นอดีตทหารพรรคก๊กมินตั๋ง ได้มาตั้งรกรากในพื้นที่ ที่มีความโดดเด่นได้แก่ หมู่บ้านสันติคีรี
วัฒนธรรมและประเพณี
- แห่พระแวดเวียง ประเพณีอัญเชิญพระพุทธรูปแวดเวียงเชียงราย ซึ่งมีพื้นฐานความคิดมาจากตำนานพระเจ้าเลียบโลก ด้วยมีจุดมุ่งหมาย ให้ประชาชนได้มีโอกาสสักการบูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งประดิษฐานอยู่ตามวัดวาอารามต่าง ๆ ในตัวเมืองเชียงราย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวาระของการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยการอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงราย มาประดิษฐานบนบุษบกที่ได้สร้างขึ้นโดยช่างศิลปินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงราย จัดตั้งเป็นขบวนอัญเชิญไปรอบเมืองเชียงราย ให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสกราบไหว้สักการบูชาด้วย ข้าวตอก ดอกไม้ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่เป็นสิริมงคลยิ่งนัก
- ปอยหลวง งานบุญปอยหลวงเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนาซึ่งเป็นผลดีต่อสภาพทางสังคมหลายประการ นับตั้งแต่ชาวบ้านได้มาทำบุญร่วมกัน ร่วมกันจัดงานทำให้เกิดความสามัคคีในการทำงาน งานทำบุญปอยหลวงยังเป็นการรวมญาติพี่น้องที่อยู่ต่างถิ่นได้มีโอกาสทำบุญร่วมกัน และมีการสืบทอดประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมาครั้งแต่บรรพชนไม่ให้สูญหายไปจากสังคม ช่วงเวลา จากเดือน 5 จนถึงเดือน 7 เหนือ (ตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี) ระยะเวลาประมาณ 3-7 วัน
- ป๋าเวณี ปี๋ใหม่เมือง งานประเพณีสงกรานต์ จัดขึ้นประมาณกลางเดือนเมษายน ในงานมีขบวนแห่และสรงน้ำพระเจ้าล้านทอง การแข่งเรือ และการละเล่นพื้นเมืองและมหรสพ จัดบริเวณตัวเมืองเชียงราย และอำเภอเชียงแสน
- งานเทศกาลลิ้นจี่และของดีเมืองเชียงราย เทศกาลที่ชาวเกษตรกรต่างนำผลผลิตทางการเกษตรของตนมาออกร้าน โดยเฉพาะลิ้นจี่ที่มีชื่อเสียงมากของเชียงราย จัดขึ้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ภายในงานมีการประกวดขบวนรถและธิดาลิ้นจี่ และการออกร้าน บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย
- งานไหว้สาพญามังราย จัดให้มีพิธีบวงสรวงพญามังราย มีการออกร้าน จัดนิทรรศการของส่วนราชการและเอกชน และงานรื่นเริงอื่น ๆ จัดวันที่ 23 มกราคม-1 กุมภาพันธ์
- เป็งปุ๊ด หรือ เพ็ญพุธ เป็นประเพณีตักบาตรเที่ยงคืนค่อนรุ่งเข้าสู่วันเพ็ญขึ้น15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ ตามวัฒนธรรมและความเชื่อของบรรพบุรุษล้านนาไทย ที่เชื่อกันว่าพระอุปคุตซึ่งพระอรหันต์องค์หนึ่งแปลงกายเป็นสามเณรน้อยมาบิณฑบาตโปรดสัตว์โลกในยามเที่ยงคืน และชาวล้านนาในอดีตเชื่อว่าการทำบุญตักบาตรถวายพระอุปคุตในวันเป็งปุ๊ดก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบุญ มีโชคลาภและร่ำรวย บังเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยบรรพบุรุษชาวล้านนาเชื่อว่า ทุกคืนที่ย่างเข้าสู่วันพุธขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันเป็งปุ๊ด และจะมีประชาชนชาวล้านนาจำนวนมากมารอเพื่อประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร
- งานอนุรักษ์มรดกไทยล้านนา จัดในเดือนเมษายน มีการจัดนิทรรศการและการแสดงแบบไทยล้านนา มีการสาธิตงานศิลปะ บริเวณหอวัฒนธรรมนิทัศน์ อำเภอเมือง
- งานประเพณีขึ้นพระธาตุดอยตุง จัดขึ้นในวันขึ้น 14-15 ค่ำ เดือนหกเหนือ หรือเดือนมีนาคม เป็นประเพณีของชาว ล้านนา รวมทั้งชาวไทยใหญ่ในพม่าที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยชาวบ้านและพระสงฆ์ จะเดินขึ้นพระธาตุในตอนกลางคืน เมื่อมาถึงก็จะพากันนมัสการองค์พระธาตุก่อน จากนั้นจึงหาพื้นที่ประกอบอาหารเพื่อตักบาตรในตอนเช้า หลังจากตักบาตรแล้วจะ ช่วยกันบูรณะบริเวณองค์พระธาตุ เมื่อถึงยามค่ำคืนก็มารวมกันที่ปะรำพิธีเพื่อฟังเทศน์
- ประเพณีบวงสรวงเจ้าพ่อปลาบึก เป็นประเพณีเกี่ยวกับความเชื่อของผู้คนที่อยู่ริมแม่น้ำโขง โดยเฉพาะชาวประมง ในเขตบ้านหาดไคร้ ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ เกี่ยวกับปลาบึกซึ่งเป็นปลาขนาด ใหญ่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงว่า เป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ มีเทพเจ้าคุ้มครอง ก่อนที่ชาวประมง จะจับปลาบึกต้องมีการบวงสรวงก่อน ฤดูกาลจับปลาบึกระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม
- ประเพณีโล้ชิงช้าของชาวอีก้อ หรือที่เรียกตนเองว่า "อาข่า" มีเชื้อสายจากจีน-ทิเบต เดินทางอพยพมาอยู่บริเวณ ชายแดนไทย-พม่า แถบตอนเหนือของลำน้ำกก โดยเฉพาะอำเภอแม่จัน และแม่สาย การโล้ชิงช้าเป็นการขึ้นไปขอพรและแสดงความรำลึกถึงพระคุณของเทพธิดาแห่ง สรวงสวรรค์ ผู้ประทานความชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหารและ ยังเป็นการเซ่นไหว้บรรพบุรุษอีกด้วย จัดในช่วงเดือนสิงหาคม
ภาษา
- ภาษาพูด ใช้พูดจากันเรียกว่า คำเมือง เนื่องจากเชียงรายเคยเป็นเมืองร้างผู้คนนานเกือบร้อยปี ได้มีการฟื้นฟูบ้านเมืองขึ้นมาใหม่เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2384 โดยได้เกณฑ์ราษฎรจากเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และชนเผ่าไตใหญ่ ไตลื้อ ไตยอง และไตขืน (เขิน) ซึ่งอพยพจากเชียงตุง และสิบสองปันนา รวมทั้งชาวลาวจากประเทศลาว ได้เข้ามาอาศัยอยู่รวมกัน ดังนั้นสำเนียงพูดของชาวเชียงรายจึงมีความหลากหลายทางสำเนียงในพื้นที่ต่างๆ
- ภาษาเขียน เชียงรายก็เช่นเดียวกันกับจังหวัดทางภาคเหนืออื่น ๆ คือมีภาษาเขียนที่เรียกว่าอักขระล้านนา หรือตัวเมือง อักษรล้านนามีวิวัฒนาการมาจากอักษรพราหมีของอินเดีย มีการจัดระบบของหลักภาษาคล้ายกับภาษาบาลี อักษรล้านนามีรูปทรงกลมป้อมคล้ายอักษรพม่าและมอญ แต่หลักการทางภาษาไม่เหมือนกัน
การจัดตั้งอำเภอและจังหวัด
การแบ่งพื้นที่บางอำเภอในอดีต เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอ และอำเภอต่างๆ
แบ่งพื้นที่อำเภอแม่จันตั้งเป็นอำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอดอยหลวง
อำเภอแม่จัน เดิมชื่อว่าอำเภอเชียงแสน[28] มีพื้นที่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเชียงราย (พื้นที่สีเขียวในแผนที่ ในรูป 2) ต่อมาถูกแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอและอำเภอต่างๆ ได้แก่ อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอดอยหลวง ตามลำดับ
- เดิมมีการแยกพื้นที่ตำบลในเวียง ตำบลบ้านแซว และตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน (หมายเลข 1 ในรูป 2) [29] เพื่อตั้งเป็น กิ่งเชียงแสน เนื่องจากการคมนาคมระหว่างพื้นที่ดังกล่าวกับตัวอำเภอยากลำบาก แต่ภายหลัง เมื่อการคมนาคมสะดวกมากขึ้นกิ่งเชียงแสนจึงถูกยุบรวมเข้ากับอำเภอเชียงแสนตามเดิมในปี พ.ศ. 2468 [30] แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 เมื่อประชากรมากขึ้นเพื่อเป็นการสะดวกแก่การติดต่อราชการจึงมีการประกาศตั้งกิ่งอำเภออีกครั้ง โดยชื่อว่า กิ่งอำเภอเชียงแสนหลวง ในปี พ.ศ. 2470 [31] ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อ กิ่งอำเภอเชียงแสนหลวง เป็นกิ่งอำเภอเชียงแสน พร้อมกับเปลี่ยนชื่ออำเภอเชียงแสน เป็นอำเภอแม่จัน เพื่อให้สอดคลองกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2480 [32] และอีก 30 ปีต่อมา กิ่งอำเภอเชียงแสนได้ยกฐานะเป็นอำเภอเชียงแสน ในปี พ.ศ. 2500
- ในปี พ.ศ. 2481 มีการแยกตำบลแม่สายและตำบลโป่งผา เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอแม่สาย (หมายเลข 2 ในรูป 2)[33] เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นและเป็นทำเลค้าขาย ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอแม่สายในปี พ.ศ. 2493[34]
- ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการแยกตำบลเทอดไทย ตำบลแม่สลองนอก และตำบลแม่สลองใน เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอแม่ฟ้าหลวง (หมายเลข 7 ในรูป 2)[35] เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลและเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงตั้งชื่ออำเภอว่า แม่ฟ้าหลวง ตามพระสมัญญานาม ต่อมาได้ยกฐานะเป็นอำเภอแม่ฟ้าหลวง ในปี พ.ศ. 2539[36]
- ในปี พ.ศ. 2539 ได้แยกตำบลปงน้อย ตำบลโชคชัย และตำบลหนองป่าก่อ เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอดอยหลวง (หมายเลข 11 ในรูป 2)[37]และต่อมาได้ยกฐานะเป็นอำเภอดอยหลวงในปี พ.ศ. 2550[38]
แบ่งพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายเพื่อตั้งเป็นอำเภอเวียงชัยและอำเภอแม่ลาว
อำเภอเมืองเชียงรายเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการของจังหวัดเดิมมีพื้นที่ครอบคลุมลุ่มน้ำแม่กกส่วนใหญ่ (พื้นที่สีส้มในแผนที่ ในรูป 2) ต่อมาแยกเป็น อำเภอเวียงชัย และอำเภอแม่ลาว และต่อมาอำเภอเวียงชัยได้แยกพื้นที่บางส่วนเพื่อตั้งเป็นอำเภอเวียงเชียงรุ้งตามลำดับ
- ในปี พ.ศ. 2517 ได้มีการแบ่งพื้นที่ตำบลเวียงชัย ตำบลทุ่งก่อ และตำบลผางาม ออกจากอำเภอเมืองเชียงราย เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอเวียงชัย (หมายเลข 3 และ 10 ในรูป 2)[39] และต่อมายกฐานะเป็นอำเภอเวียงชัยในปี พ.ศ. 2522[40]
- ในปี พ.ศ. 2536 มีการแบ่งพื้นที่ตำบลดงมะดะ ตำบลจอมหมอกแก้ว ตำบลโป่งแพร่ ตำบลป่าก่อดำ และตำบลบัวสลี ออกจากอำเภอเมืองเชียงรายเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอแม่ลาว (หมายเลข 9 ในรูป 2)[41] และยกฐานะเป็นอำเภอแม่ลาวในปี พ.ศ. 2539[42]
แบ่งพื้นที่อำเภอเวียงชัยเพื่อตั้งเป็นอำเภอเวียงเชียงรุ้ง
- ในปี พ.ศ. 2538 มีการแบ่งพื้นที่ตำบลป่าซาง ตำบลดงมหาวัณ และตำบลทุ่งก่อ ออกจากอำเภอเวียงชัยเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอเชียงรุ้ง (หมายเลข 10 ในรูป 2)[43] แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง เพื่อให้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และยกฐานะเป็นอำเภอเวียงเชียงรุ้งในปี พ.ศ. 2550[44]
แบ่งพื้นที่อำเภอพานเพื่อตั้งอำเภอป่าแดด
อำเภอพาน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดเขียงราย (พื้นที่สีฟ้าในแผนที่ ในรูป 2) ต่อมาได้แยกพื้นที่ตำบลป่าแดดเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอป่าแดด (หมายเลข 4 ในรูป 2)ในปี พ.ศ. 2512[45] และยกฐานะเป็นอำเภอป่าแดดในปี พ.ศ. 2518[46]
แบ่งพื้นที่อำเภอเชียงของเพื่อตั้งอำเภอเวียงแก่น
อำเภอเชียงของ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงราย (พื้นที่สีม่วงอ่อนในแผนที่ ในรูป 2) ต่อมาได้แยกตำบลปอ ตำบลหล่ายงาว และตำบลม่วงยายเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอเวียงแก่น(หมายเลข 6) ในปี พ.ศ. 2530[47] และยกฐานะเป็นอำเภอเวียงแก่นในปี พ.ศ. 2538[48]
แบ่งพื้นที่อำเภอเทิงเพื่อตั้งอำเภอพญาเม็งรายและอำเภอขุนตาล
อำเภอเทิงเป็นอำเภอที่มีพื้นที่กว้างขวางตั้งอยู่ทิศตะวัตออกเฉียงใต้ของตัวจังหวัด (สีแดง ในรูป 2) ต่อมาได้แบ่งพื้นที่บางส่วนตั้งเป็นอำเภอพญาเม็งราย และอำเภอขุนตาล ตามลำดับ
- ในปี พ.ศ. 2524 ได้แยกตำบลแม่เปา ตำบลแม่ต๋ำ และตำบลไม้ยา ออกจากอำเภอเทิงเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอพญาเม็งราย (หมายเลข 5 ในรูป 2)[49] และยกฐานะเป็นอำเภอพญาเม็งรายในปี พ.ศ. 2530 [50]
- ในปี พ.ศ. 2524 ได้แยกตำบลป่าตาล ตำบลต้า และตำบลยางฮอม ออกจากอำเภอเทิง เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอขุนตาล (หมายเลข 8 ในรูป 2)[51] และยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอขุนตาลในปี พ.ศ. 2539[52]
การเสนอโครงการจัดตั้งกิ่งอำเภอต่างๆ ในช่วงปี พ.ศ. 2539-ปัจจุบัน
เนื่องจากบางอำเภอของจังหวัดเชียงรายมีพื้นที่กว้างใหญ่ แม้ว่าการคมนาคมจะสะดวกง่ายดายแต่ก็ใช้เวลานานในการเดินทางติดต่อราชการ รวมถึงบางพื้นที่ได้มีมีประชากรหนาแน่นขึ้นและมีความเจริญมากขึ้นเป็นลำดับ จึงมีการเสนอโครงการจัดตั้งกิ่งอำเภอต่างๆในหลายพื้นที่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 (ดังรูป 3) ดังนี้
- เสนอให้แยกตำบลแม่เจดีย์ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ และตำบลเวียงกาหลง ออกจากอำเภอเวียงป่าเป้าในปี พ.ศ. 2539 เพื่อตั้งเป็น กิ่งอำเภอแม่ขะจาน อำเภอเวียงป่าเป้า เนื่องจากแม่ขะจานไกลจากตัวเมืองเวียงป่าเป้าแต่มีความเจริญและประชากรเริ่มหนาแน่นกว่า อย่างไรก็ตาม ชื่อกิ่งอำเภอแม่ขะจานยังปรากฏตามเว็บไซต์ต่างๆอย่างไม่เป็นทางการอาจสร้างความสับสนกับผู้อ่านได้ [53] [54]
- เสนอให้แยกตำบลวาวี ออกจากอำเภอแม่สรวยในปี พ.ศ. 2539 เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอวาวี แต่โครงการได้ถูกระงับเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ได้มีการรื้นฟื้นอีกครั้งหลังจากมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดฝางขึ้นโดยมีการอ้างว่าเป็นความต้องการของประชาชนในตำบลวาวีเนื่องจากเดินทางติดต่อกับตัวอำเภอฝางสะดวกมากกว่าติดต่อกับจังหวัดเชียงราย [55][56]
- เสนอให้แยกตำบลห้วยสักและตำบลดอยลานออกจากอำเภอเมืองเชียงรายเพื่อตั้งกิ่งอำเภอดอยสัก ในปี พ.ศ. 2539 แต่โครงการได้ถูกระงับเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณเช่นกัน แต่เนื่องจากมีการเตรียมสถานที่สำหรับเป็นที่ว่าการกิ่งอำเภอชั่วคราวและมีการขึ้นป้ายแล้ว จึงทำให้เกิดข้อสงสัยสำหรับผู้ที่พบเห็นป้ายในสมัยหลัง[57]
- เสนอให้แยกตำบลปล้อง ตำบลแม่ลอย ตำบลศรีดอนชัย และตำบลเชียงเคี่ยน ออกจากอำเภอเทิง เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอปล้อง
- เสนอให้แยกตำบลแม่อ้อและตำบลสันมะเค็ด ออกจากอำเภอพาน เพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอแม่อ้อ ในปี พ.ศ. 2539 แต่ก็ได้ถูกระงับไปเช่นกัน จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ก็ได้มีข่าวการทำประชาคมเพื่อเสนอโครงการจัดตั้งกิ่งอำเภออีกครั้งโดยใช้ชื่อกิ่งอำเภอพัชรกิติยาภา โดยพบว่าเกิดความขัดแย้งระหว่าง 2 ตำบลในการเสนอพื้นที่ที่เหมาะสมในการตั้งศูนย์ราชการของอำเภอใหม่[58] ทั้งยังก่อให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับความเหมาะสมของชื่ออำเภอว่าจะเป็นชื่อท้องถิ่นหรือเป็นชื่อพระราชทานอีกด้วย [59]
- เสนอให้แยกตำบลครึ่ง ตำบลห้วยซ้อ และตำบลบุญเรือง ออกจากอำเภอเชียงของเพื่อตั้งเป็นกิ่งอำเภอเรืองนคร แต่โครงการนี้ได้ถูกระงับไปเช่นกัน
การเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเทิงนคร
ในช่วงปี พ.ศ. 2540-2545 หลังจากได้มีการจัดตั้งหน่วยงานราชการระดับจังหวัด เช่น เรือนจำจังหวัดเทิง [60] ศาลจังหวัดเทิง[61] สำนักงานอัยการจังหวัดเทิง สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย สาขาเทิง จึงได้มีกระแสการเสนอรณรงค์เพื่อเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเทิงขึ้นโดยนักการเมืองในเขตอำเภอเทิง โดยใช้ชื่อที่ใช้ในการรณรงค์ในขณะนั้นว่า จังหวัดเทิงนคร โดยเสนอที่จะแยก อำเภอเทิง อำเภอเชียงของ อำเภอป่าแดด อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ขึ้นเป็นจังหวัดใหม่ แต่โครงการนี้ได้เงียบไปแและเป็นที่กล่าวถึงใหม่เป็นระยะๆบนกระดานสนทนาต่างๆบนอินเทอร์เน็ต[62]
การเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเชียงของ
หลังจากมีการก่อสร้าง สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ขึ้นที่อำเภอเชียงของ [63] ในปี พ.ศ. 2554 และมีโครงการเชียงของเมืองใหม่ขึ้นมารับการพัฒนาที่จะตามมาตามทางหลวงเอเชียสาย 3 (AH3) หรือเส้นทาง R3A [64] [65] [66] จึงมีแนวคิดที่จะเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเชียงของ โดยแยกอำเภอเชียงแสน อำเภอดอยหลวง อำเภอเทิง อำเภอเชียงของ อำเภอป่าแดด อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ขึ้นเป็นจังหวัดใหม่ [67] และก่อให้เกิดข้อถกเถียงบนกระดานข่าวในอินเทอร์เน็ตอยู่ระยะหนึ่งหลังจากมีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในปี พ.ศ. 2554 อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวได้เงียบไปหลังจากนั้นไม่นาน
แผนที่ | โครงการจัดตั้งจังหวัดใหม่ |
---|---|
แผนที่แสดง 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอป่าแดด อำเภอเทิง อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล อำเภอเวียงแก่น และ อำเภอเชียงของ ที่มีการเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเทิงนคร | |
แผนที่แสดง 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอป่าแดด อำเภอเทิง อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล อำเภอเวียงแก่น อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงแสน และ อำเภอเชียงของที่มีการเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเชียงของแผนที่แสดง 8 อำเภอ ที่มีการเสนอโครงการจัดตั้งจังหวัดเชียงของ |
โครงสร้างพื้นฐาน
การขนส่ง
การศึกษา
- สถาบันอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย
- วิทยาลัยเชียงราย
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติเชียงราย
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย
- มหาวิทยาลัยพะเยา วิทยาเขตเชียงราย
- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาวิทยบริการศูนย์เชียงราย (ห้องเรียนโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม)
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย (หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต)
- วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย (หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต)
- วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย (หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต)
- สถาบันอาชีวศึกษา
อาชีวศึกษารัฐบาล |
อาชีวศึกษาเอกชน
|
- โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
ดูที่ รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดเชียงราย
บ้านพี่เมืองน้อง
- คุนหมิง ประเทศจีน
- เหวย์ฟาง ประเทศจีน
- หลวงพระบาง ประเทศลาว
- ตองจี ประเทศพม่า
- ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า
- ยูเนียนซิตี สหรัฐ
อ้างอิง
- ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ↑ 2.0 2.1 สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "จำนวนประชากรและบ้าน." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [http://stat.bora.dopa.go.th/stat/statnew/statTDD/views/showDistrictData.php?rcode=57&statType=1&year=61 รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2561 - จังหวัดเชียงราย] สืบค้น 4 มกราคม 2562.
- ↑ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ ๗๐๐ ปี.[ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]
- ↑ 4.0 4.1 กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา "สรุปสถานการณ์พักแรม จำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ม.ค.-ธ.ค. 2561" (15 มี.ค. 2562) https://www.mots.go.th/ewt_dl_link.php?nid=11431
- ↑ 5.0 5.1 สำนักงานสถิติจังหวัดเชียงราย "รายงานสถิติจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2561" https://drive.google.com/file/d/1Jxg3adeLJ6cqyQx_5XIvDW7FLzGK1M6Y/view
- ↑ http://www.museumthailand.com/th/1063/storytelling/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%99/
- ↑ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับเชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, หน้า 13.[ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย ประกาศยกเมืองเชียงรายเป็นเมืองจัตวามณฑลพายัพ, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 27 หน้า 426.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2453/D/426_2.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้เปลี่ยนคำว่าเมืองเรียกว่าจังหวัด, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 33 หน้า 51.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2459/A/51.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนอำเภอเมืองฝาง จังหวัดเชียงรายไปขึ้นจังหวัดเชียงใหม่, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 42 หน้า 203. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/D/203.PDF
- ↑ พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด พุทธศักราช ๒๔๗๙, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 45 หน้า 40.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2480/A/40.PDF
- ↑ พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ พ.ศ. ๒๔๙๕, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 96 หน้า 1440.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2495/A/077/1440.PDF
- ↑ ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๓๗ ซึ่งมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติซึ่งออกตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๙๕ กำหนดให้เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดเชียงรายและจังหวัดน่าน โดยโอนหมู่บ้านหมู่ที่ ๑๐ ตำบลควน อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน และโอนตำบลยอด อำเภอปง จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน , ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 89 ตอน70 ก.พิเศษ หน้า 8 .http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2515/A/070/8.PDF
- ↑ พระราชบัญญัติตั้งจังหวัดพะเยา พ.ศ. 2520, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 93 หน้า 1.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2520/A/069/1.PDF
- ↑ “สัมผัสสายหมอกที่ ดอยลังกาหลวง”
- ↑ "30 year Average (1961-1990) - CHIANG RAI". Thai Meteorological Department. สืบค้นเมื่อ 2010-04-20.
- ↑ "Climatological Normals of Chiang Rai". Hong Kong Observatory. สืบค้นเมื่อ 2011-11-13.
- ↑ 18.0 18.1 จังหวัดเชียงราย. (ม.ป.ป.). สัญลักษณ์ประจำจังหวัด. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.chiangrai.net/CPOC/2009/Articles/viewArticle.aspx?A=2. (เข้าถึงเมื่อ: 26 กันยายน 2551).
- ↑ จำนวนประชากรและบ้าน จำแนกเป็นรายอำเภอ และรายตำบล จังหวัดเชียงราย ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2553, สำนักบริหารทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ↑ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง จำนวนราษฎรรายจังหวัดตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2522 ราชกิจจานุเบกษา. 05 กุมภาพันธ์ 2523.
- ↑ ประกาศสำนักงานกลางทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรรายจังหวัดตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2525 ราชกิจจานุเบกษา. 08 กุมภาพันธ์ 2526.
- ↑ ประกาศสำนักงานกลางทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรรายจังหวัดตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2528 ราชกิจจานุเบกษา. 31 มีนาคม 2529.
- ↑ ประกาศสำนักงานกลางทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรรายจังหวัดตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2531 ราชกิจจานุเบกษา. 30 มีนาคม 2532
- ↑ ประกาศสำนักงานกลางทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรรายจังหวัดตามหลักฐานทางทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2534 ราชกิจจานุเบกษา. 02 มกราคม 2535.
- ↑ ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกรายจังหวัด ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2537 ราชกิจจานุเบกษา. 28 กุมภาพันธ์ 2538.
- ↑ http://thai.tourismthailand.org/where-to-go/cities-guide/destination/chiang-rai
- ↑ พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามอำเภอ กิ่งอำเภอ และตำบลบางแห่ง พุทธศักราช ๒๔๘๒", ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56 0ก หน้า 1939.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/A/354.PDF
- ↑ อำเภอเชียงแสน ในที่นี้หมายถึงพื้นที่ อำเภอแม่จัน อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอดอยหลวง จังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน; พื้นที่สีเขียวในแผนที่
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยุบกิ่งเชียงแสนเข้ารวมกับอำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงราย, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 42 0ง หน้า 2159.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2468/D/2159.PDF
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งกิ่งอำเภอเชียงแสนหลวง, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 44 0ง หน้า 1232.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2470/D/1232.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามอำเภอ กิ่งอำเภอ และตำบลบางแห่ง พุทธศักราช ๒๔๘๒", ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56 0ก หน้า 1939.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2482/A/354.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งกิ่งอำเภอแม่สาย ขึ้นอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 55 0ง หน้า 3873.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2481/D/3873.PDF
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกฐานะกิ่งอำเภอแม่สาย อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ขึ้นเป็นอำเภอ, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 67 20ง หน้า 1433.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2493/D/020/1433.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอแม่ฟ้าหลวง, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 53ง ฉบับพิเศษ หน้า 5. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/D/053/5.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอเหนือคลอง อำเภอนายายอาม อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอขุนตาล อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ลาว อำเภอรัษฎา อำเภอพุทธมณฑล อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอชำนิ อำเภอโนนดินแดง อำเภอปางมะผ้า อำเภอสนธิ อำเภอหนองม่วง อำเภอเบญจลักษ์ อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอบุ่งคล้า อำเภอดอนมดแดง และอำเภอลืออำนาจ พ.ศ. ๒๕๓๙, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 62 ก ฉบับพิเศษ หน้า 5.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2539/A/062/5.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอดอยหลวง,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 18ง ฉบับพิเศษ หน้า 26.
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอฆ้องชัย...และอำเภอเหล่าเสือโก้ก พ.ศ. ๒๕๕๐,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 46ก หน้า 14.
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่อำเภอเชียงราย จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอเวียงชัย,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 91 100 หน้า 2589. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2517/D/100/2589.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอหนองกุงศรี อำเภอไทรงาม อำเภอบ้านฝาง อำเภออุบลรัตน์ อำเภอเวียงชัย อำเภอดอยเต่า อำเภอนิคมคำสร้อย อำเภอนาหว้า อำเภอเสิงสาง อำเภอศรีสาคร อำเภอบึงสามพัน อำเภอนาดูน อำเภอค้อวัง อำเภอโพธิ์ชัย อำเภอเมืองสรวง อำเภอปลวกแดง อำเภอยางชุมน้อย อำเภอกาบเชิง อำเภอสุวรรณคูหา และอำเภอกุดข้าวปุ้น พ.ศ. ๒๕๒๒,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 96 42ก ฉบับพิเศษ หน้า 19. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2522/A/042/19.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอแม่ลาว,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 110 74 หน้า 19.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2536/D/074/19.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอเหนือคลอง อำเภอนายายอาม อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอขุนตาล อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ลาว อำเภอรัษฎา อำเภอพุทธมณฑล อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอชำนิ อำเภอโนนดินแดง อำเภอปางมะผ้า อำเภอสนธิ อำเภอหนองม่วง อำเภอเบญจลักษ์ อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอบุ่งคล้า อำเภอดอนมดแดง และอำเภอลืออำนาจ พ.ศ. ๒๕๓๙ว,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 62ก หน้า 5.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2539/A/062/5.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอเชียงรุ้ง,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 9ง ฉบับพิเศษ หน้า 67.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2538/E/009/67.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอฆ้องชัย...และอำเภอเหล่าเสือโก้ก พ.ศ. ๒๕๕๐,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 46ก หน้า 14.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/A/046/14.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่ตั้งเป็นกิ่งอำเภอ,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 86 49 หน้า 1863.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2512/D/049/1863.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอแวงน้อย อำเภอป่าแดด อำเภอเรณูนคร อำเภอคูเมือง อำเภอคุระบุรี อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอเสริมงาม อำเภอไพรบึง และอำเภอหนองโดน พ.ศ. ๒๕๑๘,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 166 ฉบับพิเศษ หน้า 1.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2518/A/166/1.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอเวียงแก่น,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 104 67ง หน้า 2484.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2530/D/067/2484.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอด่านมะขามเตี้ย อำเภอแก่งหางแมว อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเวียงแก่น อำเภอแม่วาง อำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอบ่อเกลือ อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอห้วยราช อำเภอแม่ลาน อำเภอบางแก้ว อำเภอป่าพะยอม อำเภอหนองม่วงไข่ อำเภอยางสีสุราช อำเภอจังหาร อำเภอบ้านธิ อำเภอภูสิงห์ อำเภอบางกล่ำ อำเภอวังม่วง และอำเภอนายูง พ.ศ. ๒๕๓๘,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 32ก หน้า 1.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2538/A/032/1.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งท้องที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอพญาเม็งราย,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 68 หน้า 1283.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2524/D/068/1283.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอพญาเม็งราย อำเภอพบพระ อำเภอทับคล้อ อำเภอบ้านโคก และอำเภอโพธิ์ไทร พ.ศ. ๒๕๓๐,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 104 156 หน้า 26.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2530/A/156/26.PDF
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ตั้งเป็นกิ่งอำเภอขุนตาล,ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 53 ฉบับพิเศษ หน้า 1.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/D/053/6.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอเหนือคลอง อำเภอนายายอาม อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอขุนตาล อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ลาว อำเภอรัษฎา อำเภอพุทธมณฑล อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอชำนิ อำเภอโนนดินแดง อำเภอปางมะผ้า อำเภอสนธิ อำเภอหนองม่วง อำเภอเบญจลักษ์ อำเภอโพนนาแก้ว อำเภอบุ่งคล้า อำเภอดอนมดแดง และอำเภอลืออำนาจ พ.ศ. ๒๕๓๙, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113 62 ก ฉบับพิเศษ หน้า 5.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2539/A/062/5.PDF
- ↑ โป่งน้ำร้อน, http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=12393
- ↑ เจ้าแม่นางแก้ว, http://horoscope.thaiza.com/เจ้าแม่นางแก้ว/196642/
- ↑ ส.ส.เชียงใหม่ พท.หนุนตั้ง "ฝาง" เป็นจังหวัดใหม่ อ้าง ศก.เจ๋ง ทั้งท่องเที่ยว-การค้ากับเพื่อนบ้าน, http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1291029954&grpid=&catid=19&subcatid=1906
- ↑ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดฝาง พ.ศ. .., http://www.parliament.g o.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/download/article/article_20110905142727.pdf
- ↑ กิ่งอำเภอดอยสัก, http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?action=printpage;topic=81368.0
- ↑ ประชาคม อปท. แย่งชิงพื้นที่สร้างอำเภอ, http://www.thaipost.net/x-cite/230713/76767
- ↑ กิ่งอำเภอใหม่, http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=453247.40
- ↑ คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๒๙๗/๒๕๔๐ เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำจังหวัดเทิง, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 11ภ 49 ง ฉบับพิเศษ หน้า 33.http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2540/E/049/33.PDF
- ↑ พระราชกฤษฎีกากำหนดวันเปิดศาลศาลจังหวัดเทิงและศาลจังหวัดเดชอุดม พ.ศ. ๒๕๔๕, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 97 ก หน้า 8 .http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00103045.PDF
- ↑ จังหวัดเทิงนคร จะเป็นไปได้หรือ ? แยกจาก จ.เชียงราย, http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=28180.msg263503;topicseen
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๔ (เชียงของ - ห้วยทราย, ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 128 41 ง หน้า 14, http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/E/041/24.PDF )
- ↑ กลุ่มทุนธุรกิจแห่บุก "เชียงของ" รับสะพานแม่น้ำโขง 4 - อาเซียน, http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1372923087
- ↑ เชียงของ 1 เมือง 2 แบบ, http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20130306/493270/เชียงของ-1-เมือง-2-แบบ.html
- ↑ โครงการศูนย์การค้าชายแดนเชียงของเมืองใหม่ ทีตั้งอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย, http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=410390.0
- ↑ จัดตั้งจังหวัดใหม่ที่ 78 คือ จ.เชียงของ, http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=89508.0
ดูเพิ่ม
- รายชื่อวัดในจังหวัดเชียงราย
- สโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด
- สโมสรฟุตบอลจังหวัดเชียงราย
- อาณาจักรเชียงแสน
- รายชื่อโบราณสถานในจังหวัดเชียงราย
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลจังหวัดเชียงราย จากสำนักงานสถิติจังหวัดเชียงราย
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัดเชียงราย
- เชียงรายโฟกัส สังคมออนไลน์ ของคนเชียงราย
- เที่ยวไทย เที่ยวเชียงราย บล็อกคนเชียงราย
พิกัดภูมิศาสตร์: 19°55′N 99°50′E / 19.91°N 99.83°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดเชียงราย
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย