จักรวรรดิเม็กซิโกที่ 2
จักรวรรดิเม็กซิโก | |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ค.ศ. 1863–ค.ศ. 1867 | |||||||||
พื้นที่ที่รัฐบาลจักรวรรดิมีอำนาจปกครองจริง (สีเขียวอ่อน) และพื้นที่ที่จักรวรรดิอ้างสิทธิ์ปกครอง (เขียวเข้ม) ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1864 เมื่ออาร์ชดยุกมัคซีมีลีอานทรงตอบรับคำกราบบังคัมทูลเชิญขึ้นเป็นจักรพรรดิ | |||||||||
| สถานะ | รัฐเอกราช[1][2][3] (รัฐบริวารของจักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง) | ||||||||
| เมืองหลวง | เม็กซิโกซิตี | ||||||||
| ภาษาทั่วไป | สเปน | ||||||||
| การปกครอง | ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบสหพันธ | ||||||||
| จักรพรรดิ | |||||||||
• ค.ศ. 1864–1867 | จักรพรรดิมัคซีมีลีอานที่ 1 | ||||||||
| ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ | |||||||||
• ค.ศ. 1863–1864 | ฆวน อัลมอนเต โฆเซ ซาลัส และเพลากิโอ เด ลาบาติสตา | ||||||||
| นายกรัฐมนตรี[4] | |||||||||
• ค.ศ. 1864–1866 | โฆเซ มาเรีย ลากุนซา | ||||||||
• ค.ศ. 1866–1867 | ธีโอดอร์ซิโอ ลาเรซ | ||||||||
• ค.ศ. 1867 | ซาเตียโก วิเดาริ | ||||||||
| ยุคประวัติศาสตร์ | จักรวรรดินิยมใหม่ | ||||||||
| 8 ธันวาคม ค.ศ. 1861 | |||||||||
• ตั้งคณะผู้สำเร็จราชการฯ | 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1863 | ||||||||
• จักรพรรดิมัคซีมีลีอานทรงถูกสำเร็จโทษ | 19 มิถุนายน ค.ศ. 1867 | ||||||||
| ประชากร | |||||||||
• ค.ศ. 1865[5] ประมาณ | 8,259,080 คน | ||||||||
| สกุลเงิน | เปโซ | ||||||||
| |||||||||
| ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ประเทศเม็กซิโก | ||||||||
จักรวรรดิเม็กซิโกที่ 2 (สเปน: Segundo Imperio mexicano; ฝรั่งเศส: Second Empire mexicain) เป็นจักรวรรดิที่ปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญถูกสถาปนาขึ้นในเม็กซิโกโดยกกลุ่มราชาธิปไตยเม็กซิโก โดยได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง โดยช่วงเวลานี้มักถูกเรียกว่า “การแทรกแซงเม็กซิโกโดยฝรั่งเศสครั้งที่สอง” ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอนุรักษนิยม นักบวช และชนชั้นสูงชาวเม็กซิโกกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 มีเป้าหมายที่จะสถาปนาประเทศพันธมิตรที่ปกครองโดยระบอบราชาธิปไตยในทวีปอเมริกา เพื่อถ่วงดุลอำนาจกับสหรัฐอเมริกาซึ่งกำลังขยายอำนาจขึ้นเรื่อยๆ[6]
ราชบัลลังก์เม็กซิโกถูกเสนอโดยกลุ่มราชาธิปไตยเม็กซิกัน ซึ่งเคยพ่ายแพ้ต่อพวกเสรีนิยมในสงครามกลางเมืองเม็กซิโกให้แก่อาร์ชดยุกมัคซีมีลีอานแห่งออสเตรีย จากราชวงศ์ฮับส์บวร์ก-ลอร์แรน ผู้ซึ่งมีเชื้อสายสืบเนื่องถึงอดีตผู้ปกครองเม็กซิโกในยุคอาณานิคม การขึ้นครองราชย์ของมัคซีมีลีอานได้รับการรับรองผ่านการลงประชามติซึ่งเป็นที่ถกเถียงอย่างมาก โดยพระชายาของพระองค์คือเจ้าหญิงชาร์ล็อตแห่งเบลเยียม จากราชวงศ์ซัคเซิน-โคบวร์คและโกทาได้เป็นจักรพรรดินีแห่งเม็กซิโก มีพระนามในภาษาท้องถิ่นว่า “คาร์โลตา”
ขณะที่กองทัพฝรั่งเศสสามารถควบคุมพื้นที่ตอนกลางของเม็กซิโกไว้ได้ ฝ่ายสาธารณรัฐเม็กซิโกยังคงต่อต้านจักรวรรดิอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบสงครามเต็มรูปแบบและการสงครามกองโจร แม้ว่าจะต้องละทิ้งกรุงเม็กซิโกซิตีไป แต่ประธานาธิบดีเบนิโต ฮัวเรซ ก็ไม่เคยละทิ้งแผ่นดินเม็กซิโก และย้ายที่ตั้งรัฐบาลไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกองกำลังจักรวรรดิ
ระบอบของจักรพรรดิมัคซีมีลีอานได้รับการยอมรับจากประเทศในยุโรป เช่น สหราชอาณาจักรและออสเตรีย รวมถึงบราซิลและจีน แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา ในขณะนั้นสหรัฐฯ กำลังทำสงครามกลางเมือง (ค.ศ. 1861–1865) จึงไม่ได้ต่อต้านจักรวรรดิเม็กซิโกอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม หลังจากฝ่ายสหภาพชนะสงครามกลางเมือง สหรัฐฯ ก็หันมารับรองรัฐบาลสาธารณรัฐของฮัวเรซ และกดดันทางการทูตให้ฝรั่งเศสถอนการสนับสนุนออกไป โดยที่สหรัฐฯ ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ฝ่ายสาธารณรัฐ[7]
เมื่อสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ สิ้นสุดใน ค.ศ. 1865 สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ก็เปลี่ยนไป จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ทรงเริ่มถอนทหารฝรั่งเศสออกจากเม็กซิโกใน ค.ศ. 1866 ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ค้ำจุนระบอบของจักรพรรดิมัคซีมีลีอาน และยุติการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติม นอกจากนั้นนโยบายเสรีของจักรพรรดิมัคซีมีลีอานทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมจำนวนมากหันหลังให้กับพระองค์ แต่กลับได้รับการสนับสนุนบางส่วนจากฝ่ายเสรีนิยมสายกลาง เนื่องจากพระองค์ทรงรับรองกฎหมายปฏิรูปเสรีนิยมหลายฉบับ แม้ความพยายามในการปฏิรูปเพิ่มเติมจะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม
ถึงแม้สถานการณ์ทางทหารจะย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ แต่จักรพรรดิมัคซีมีลีอานก็ทรงปฏิเสธที่จะสละราชสมบัติและยังคงอยู่ในเม็กซิโกต่อไปหลังจากกองทัพฝรั่งเศสถอนตัวออก พระองค์ถูกกองทัพสาธารณรัฐจับได้ที่เมืองเกเรตาโร พร้อมด้วยนายพลโตมาส เมฆิยา และมิเกล มิรามอน จักรวรรดิเม็กซิโกที่สองสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1867 เมื่อจักรพรรดิมัคซีมีลีอานทรงถูกสำเร็จโทษพร้อมกับนายพลทั้งสองด้วยการยิงเป็นชุด สาธารณรัฐเม็กซิโกได้รับการฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ยังคงดำรงอยู่ได้ตลอดช่วงการแทรกแซงของฝรั่งเศสและการปกครองโดยระบอบราชาธิปไตย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Kirkpatrick, F.A., Latin America: A brief history (2013), Cambridge University Press, p. 339.
- ↑ Duncan, Robert H., Rodriguez, Jaime E., The Divine Charter Constitutionalism and Liberalism in Nineteenth-Century Mexico, Rowman and Littlefield Publishers. pp. 134–138
- ↑ Bancroft, Hubert Howe (1887). History of Mexico Volume VI 1861–1887. San Francisco: The History Company. p. 136.
- ↑ Covarruvias José, Enciclopedia Política de México, Tpmp IV, Edit. Belisario Domínguez. 2010
- ↑ La división territorial del Segundo Imperio Mexicano, 1865
- ↑ Guedalla, Philip (1923). The Second Empire. Hodder and Stoughton. p. 322.
- ↑ Hamnett, Brian R. A Concise History of Mexico (3rd ed.). Cambridge: Cambridge University Press 2019, 222.