ข้ามไปเนื้อหา

จักรพรรดิเซเน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จักรพรรดิเซเน
清寧天皇
จักรพรรดิญี่ปุ่น
ครองราชย์11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 480 – 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 484 (ตามธรรมเนียม)[1]
ก่อนหน้ายูเรียกุ
ถัดไปเค็นโซ
(หรืออาจเป็นเจ้าหญิงอิอิโตโยะ)
พระราชสมภพค.ศ. 444
ชิรากะ (白髪)
สวรรคต27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 484(484-02-27) (39–40 ปี)
พระราชวังอิวาเระ โนะ มิกากูริ
ฝังพระศพคาวาจิ โนะ ซากาโดะ โนะ ฮาระ โนะ มิซาซางิ (ญี่ปุ่น: 河内坂門原陵โรมาจิKawachi no Sakado no hara no misasagi; โอซากะ)
พระสมัญญานาม
ชิโงแบบจีน:
จักรพรรดิเซเน (清寧天皇)

ชิโงแบบญี่ปุ่น:
ชิรากะ-โนะ-ทาเกฮิโระ-คูนิโอชิวากะ-ยามาโตะ-เนโกะ โนะ ซูเมรามิโกโตะ (白髪武広国押稚日本根子天皇)
ราชสกุลราชวงศ์ญี่ปุ่น
พระราชบิดาจักรพรรดิยูเรียกุ
พระราชมารดาคัตสึรางิ โนะ คาราฮิเมะ

จักรพรรดิเซเน (ญี่ปุ่น: 清寧天皇โรมาจิSeinei-tennō; ค.ศ. 444 – 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 484) เป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 22[2] ตามลำดับการสืบราชบัลลังก์แบบดั้งเดิม[3]

แม้ว่าไม่สามารถระบุวันที่แน่นอนเกี่ยวกับพระชนม์ชีพหรือรัชสมัยของจักรพรรดิพระองค์นี้ได้ แต่โดยทั่วไปถือว่าพระองค์ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 480 ถึง 484[4]

เรื่องราวตามตำนาน

[แก้]

รายงานจากโคจิกิและนิฮงโชกิ พระองค์เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิยูเรียกุกับคัตสึรางิ โนะ คาราฮิเมะ พระมเหสี พระกนิษฐภคินีของพระองค์มีพระนามว่า เจ้าหญิงทากูฮาตาฮิเมะ พระนามตอนพระราชสมภพคือ ชิรากะ (ญี่ปุ่น: 白髪皇子โรมาจิShiraka) กล่าวกันว่าพระเกศาของพระองค์เป็นสีขาวมาตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพ[5] หลังพระราชบิดาสวรรคต เซเนชนะการต่อสู้กับเจ้าชายโฮชิกาวะ พระเชษฐาต่างพระราชมารดา เพื่อขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระราชบิดา

จักรพรรดิเซเนไม่มีพระราชโอรสธิดา อย่างไรก็ตาม ได้มีการค้นพบพระราชนัดดาสองพระองค์ของจักรพรรดิริจู จักรพรรดิองค์ที่ 17—ภายหลังขึ้นครองราชย์เป็นเจ้าชายโวเกะและเจ้าชายโอเกะ เซเนทรงรับเลี้ยงทั้งสองเป็นรัชทายาท[6]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Genealogy of the Emperors of Japan" at Kunaicho.go.jp; retrieved 2013-8-28.
  2. Imperial Household Agency (Kunaichō): 清寧天皇 (22); retrieved 2013-8-28.
  3. Titsingh, Isaac. (1834). Annales des empereurs du japon, pp. 28–29; Brown, Delmer M. (1979). Gukanshō, pp. 258–259; Varley, H. Paul. (1980). Jinnō Shōtōki, pp. 115–116.
  4. Ponsonby-Fane, Richard. (1959). The Imperial House of Japan, p. 41.
  5. Titsingh, p. 29; n.b., there is speculation that this unusual hair color suggests albinism.
  6. Aston, William. (1998). Nihongi, Vol. 1, pp. 373–377.

ข้อมูล

[แก้]
  • Aston, William George. (1896). Nihongi: Chronicles of Japan from the Earliest Times to A.D. 697. London: Kegan Paul, Trench, Trubner. OCLC 448337491
  • Brown, Delmer M. and Ichirō Ishida, eds. (1979). Gukanshō: The Future and the Past. Berkeley: University of California Press. ISBN 978-0-520-03460-0; OCLC 251325323
  • Nippon Gakujutsu Shinkokai (1969). The Manyōshū: The Nippon Gakujutsu Shinkokai Translation of One Thousand Poems. New York: Columbia University Press. ISBN 0-231-08620-2
  • Ponsonby-Fane, Richard Arthur Brabazon. (1959). The Imperial House of Japan. Kyoto: Ponsonby Memorial Society. OCLC 194887
  • Titsingh, Isaac. (1834). Nihon Ōdai Ichiran; ou, Annales des empereurs du Japon. Paris: Royal Asiatic Society, Oriental Translation Fund of Great Britain and Ireland. OCLC 5850691
  • Varley, H. Paul. (1980). Jinnō Shōtōki: A Chronicle of Gods and Sovereigns. New York: Columbia University Press. ISBN 978-0-231-04940-5; OCLC 59145842

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]