จักรพรรดินีเซี่ยวเจ๋ออี้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จักรพรรดินีเซี่ยวเจ๋ออี้
จักรพรรดินีเเห่งราชวงศ์ชิง
ดำรงพระยศ15 ตุลาคม พ.ศ. 2415 – 12 มกราคม พ.ศ. 2418
พระราชสมภพ25 กรกฎาคม พ.ศ. 2397
สวรรคต27 มีนาคม พ.ศ. 2418
(สิริพระชนม์ 20 พรรษา)
พระราชสวามีจักรพรรดิถงจื้อ
ราชวงศ์ชิง
พระราชบิดาพระชนกฉงจี้

จักรพรรดินีเซี่ยวเจ๋ออี้ (จีน: 孝哲毅皇后阿鲁特氏; 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2397 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2418) ทรงเป็นที่รู้จักในพระนาม จักรพรรดินีเจียซุ่น (เจียซุ้นหวงโฮ่ว) เป็นพระอัครมเหสีในจักรพรรดิถงจื้อ พระนางทรงมาจากดินแดนมองโกล ทรงเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกพิจารณาคัดเลือกให้เป็นจักรพรรดินีจีนในราชวงศ์ชิง

พระราชประวัติ[แก้]

ในวัยเยาว์และการอภิเษกสมรสกับจักรพรรดิถงจื้อ[แก้]

พระนางมาจากราชสกุล "อาหลู่เท่อ" เมื่อแรกรุ่นพระนางมีพระอัจฉริยภาพด้านบทกวี, บทประพันธ์, ดนตรีและวาดเขียน พระนางทรงมาจากตระกูลที่มีการปลูกฝังเป็นอย่างดี พระบิดาของพระนางคือ นายฉงจี้ (崇绮) ผู้ที่มีสติปัญญาและมีการปลูกฝังดี ได้รับใช้ราชสำนักราชวงศ์ชิง เขาสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้อาหลู่เท่อเมื่อครั้นนางยังเยาว์ ทำให้อาหลู่เท่อเป็นเด็กที่ฉลาด ได้อ่านออกเขียนได้และมีกิริยามารยาทงดงาม นางกลายเป็นบุคคลสำคัญท่ามกลางเหล่าพระราชวงศ์ชิงชั้นสูง

ในวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2415 จักรพรรดิถงจื้อได้เลือกนางอาหลู่เท่อเป็นพระจักรพรรดินีอัครมเหสีของพระองค์ ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพระพันปีทั้งสองคือพระนางซูอันไทเฮาและพระนางซูสีไทเฮาเรื่องการเลือกพระมเหสีโดยพระนางซูอันไทเฮาทรงสนับสนุนนพระนางอาหลู่เท่อเพราะเห็นว่านางเป็นคนมีความสามารถ อัธยาศัยดี แต่พระนางซูสีสนับสนุนนางเฟิ่งเจียว พระสนมเฟิ่งเจียวแสดงกิริยาไม่สุภาพต่อหน้าพระพักตร์จักรพรรดิ ทำให้พระองค์ทรงเลือกพระนางอาหลู่เท่อ พระนางซูสีได้โต้แย้งและว่านางควรมีความเฉลียวฉลาดมากกว่านี้ พระอัยกาทางฝ่ายมารดาของพระนางอาหลู่เท่อ (พระอนุชาของอดีตจักรพรรดิเต้ากวง) ทรงเป็นปรปักษ์กับพระนางซูสีในอดีต อย่างไรก็ตามจักรพรรดิถงจื้อทรงเลือกพระนางอาหลู่เท่อซึ่งทำให้พระนางซูสีไม่พอใจอย่างยิ่ง

ชีวิตสมรส[แก้]

หลังจากอภิเษกสมรส จักรพรรดิถงจื้อทรงชื่นชอบพระมเหสีอาหลู่เท่อมากจนไม่สนพระทัยพระสนมทั้งสี่ ทั้งคู่ทรงอยู่ร่วมกันทุกคืนในขณะที่พระสนมทั้งสี่ทรงรอวันที่พระจักรพรรดิเรียกตัวพวกนาง ซูสีไทเฮาทรงไม่พอพระทัยกับความไม่เป็นธรรมของจักรพรรดิที่ทรงเสน่หาพระชายาไม่เท่ากัน และทรงเป็นปรปักษ์กับพระมเหสีอาหลู่เท่อเรื่อย ๆ พระนางทรงเตือนพระมเหสีว่าอย่าให้พระจักรพรรดิเสน่หาพระนางเพียงพระองค์เดียวควรให้พระองค์อยู่กับพระสนมบ้าง แต่ทั้งจักรพรรดิและพระอัครมเหสีก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม ทรงสั่งแยกพระจักรพรรดิออกจากพระมเหสี และนำพระจักรพรรดิไปกักขังไว้ที่วังซินหยางเตี้ยน โดยทรงอ้างว่าพระมเหสียังทรงพระครรภ์ไม่สมควรประทับร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิถงจื้อประชวรด้วยโรคซิฟิลิสเป็นชื่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่ง ที่ทรงติดมาจากนางคณิกาที่พระองค์ทรงลอบเสด็จไปนอกวัง พระนางซูสีทรงไม่อยากให้ประชาชนรู้ว่าพระองค์เป็นโรคนี้จึงประกาศว่าพระองค์ทรงเป็นไข้ทรพิษ ซึ่งเป็นโรคที่สวรรค์ประทานมาเป็นคุณยิ่งต่อแผ่นดิน พระนางซูสีทรงต่อว่าพระนางเจียซุ้นว่าเป็นตัวการนำโรคมาติดจักรพรรดิจึงจับพระมเหสีขังไว้ร่วมกับพระสวามี จักรพรรดิถงจื้อเสด็จสวรรคตในเวลาต่อมา

การสวรรคตของจักรพรรดินีเจียซุ่น[แก้]

ภายใน 100 วันของการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิถงจื้อ พระนางซูสีไทเฮาทรงสั่งขันทีลงโทษโบยพระอัครมเหสี แต่พระอัครมเหสีทรงโต้กลับว่า พระองค์เป็นถึงจักรพรรดินีจะมาให้ขี้ข้าโบยไม่ได้ พระนางซูสีทรงกริ้วมากเพราะพระนางไม่เคยได้เป็นจักรพรรดินีแต่เป็นเพียงกุ้ยเฟย์ จึงสั่งตัดข้าวตัดน้ำพระจักรพรรดินีแล้วนำไปขังไว้ จักรพรรดินีจึงลอบส่งลายพระราชหัตถเลขาไปถึงพระราชบิดาขอให้ช่วย ซึ่งพระราชบิดาทรงตอบกลับมาด้วยความจนปัญญาว่า "พระองค์ทรงทราบดีว่าควรทำเช่นไร" (皇后圣) หลังจากนั้นพระนางทรงกระทำอัตวินิบาตกรรม ซูสีไทเฮาได้มีรับสั่งให้จัดพระราชพิธีพระศพถวายอย่างสมพระเกียรติ และให้ประกาศว่าจักรพรรดินีทรงกระทำเช่นนั้นด้วยความ "รักและคิดถึง" พระราชสวามีอย่างยิ่งยวด และทรงสถาปนาพระนางเป็น จักรพรรดินีเสี้ยวเจ๋ออี้ แปลว่า "จักรพรรดินีผู้ทรงธรรม"

สิ้นสุดตระกูลของจักรพรรดินีเจียซุ่น[แก้]

ในพ.ศ. 2443 เมื่อกองทัพพันธมิตรแปดชาติยึดครองกรุงปักกิ่ง ซูสีไทเฮาทรงบัญชาให้รัฐมนตรีฉงจี้ซึ่งเป็นพระบิดาของจักรพรรดินีเจียซุ่นอาศัยอยู่ในปักกิ่ง รั้งตำแหน่งกิจการภายในของรัฐ เมื่อพระนครพ่ายแพ้ต่อชาวต่างชาติ ฉงจี้และครอบครัวได้กระทำอัตวินิบาตกรรม

พระอิสริยยศหลังสวรรคต[แก้]

  • จักรพรรดินีเสี้ยวเจ๋อเจียซุ่นชูเซินเซียนหมิงกงตวนหุยเทียนจางเซิงอี้ (孝哲嘉順恭端憲天彰聖毅皇后)

พระสาทิสลักษณ์ที่ยังคงเหลืออยู่[แก้]


ดูเพิ่ม[แก้]