จอร์จ แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 7 แห่งฮาร์วุด
บทความนี้ต้องการข้อความอธิบายความสำคัญที่กระชับ และสรุปเนื้อหาไว้ย่อหน้าแรกของบทความ |
จอร์จ แลสเซิลส์ เอิร์ลแห่งฮาร์วุด | |
---|---|
จอร์จ เฮนรี ฮิวเบิร์ต แลสเซิลส์ | |
เกิด | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1923 ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร |
เสียชีวิต | 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ยอร์กเชอร์ นอร์เทิร์นอิงแลนด์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร | (88 ปี)
มีชื่อเสียงจาก | พระราชนัดดาใน พระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร |
คู่สมรส | มารีออน สตืน แพทริเซีย แลสเซิลส์ เคาน์เตสแห่งฮาร์วุด |
บุตร | เดวิด แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 8 แห่งฮาร์วุด เจมส์ แลสเซิลส์ เจเรมี แลสเซิลส์ มาร์ค แลสเซิลส์ |
บิดามารดา | เฮนรี แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 6 แห่งฮาร์วุด เจ้าหญิงแมรี พระราชกุมารีและเคาน์เตสแห่งแฮร์วูด |
จอร์จ แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 7 แห่งฮาร์วุด (อังกฤษ: George Lascelles, 7th Earl of Harewood)
ประวัติ
[แก้]จอร์จ แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 7 แห่งฮาร์วุด เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1923 ณ เชอร์เตนเฟรด เฮาส์ เป็นพระโอรสคนใหญ่ใน เจ้าหญิงแมรี พระราชกุมารีและเคาน์เตสแห่งแฮร์วูด และ เฮนรี แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 6 แห่งฮาร์วุด เป็นพระราชนัดดาคนแรกใน พระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร ขณะที่เขาเกิด เขาอยู่ในลำดับที่ 6ในการสืบราชสันตติวงศ์ และเมื่อเขาเติบใหญ่ เขาได้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ พระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร ผู้เป็นพระมาตุลา โดยเมื่อเจริญวัย เขาได้กลายเป็น หทารบังคับบัญชาแห่งอังกฤษใน สงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อสงครามสงบลง เขาได้กลายเป็นที่ปรึกษาของบริษัท แอด-เดอ-แคมป์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945-1946 ต่อมาเขาได้กลายเป็นที่ปรึกษาของรัฐสภาแคนาดาเมื่อปี ค.ศ. 1947-1953 และในปี ค.ศ. 1956 อีกครั้ง และในที่สุดเขาได้กลายเป็นขุนนางเมื่อปี ค.ศ. 1956 ในฐานะที่ปรึกษาของหัวหน้าสภาอังกฤษ
สมรส
[แก้]จอร์จ แลสเซิลส์ เอิร์ลที่ 7 แห่งฮาร์วุด สมรสครั้งแรกกับ มารีออน สตืน ซึ่งเป็นนักเปียโน โดยมีบุตร 3 คนดังนี้
ต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1967 เขาได้หย่าขาดจากภริยาคนแรก ซึ่งขณะนั้นเป็นที่วิจารณ์ของสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ต่อมา ในปีเดียวกัน เขาได้สมรสใหม่กับ แพรทิเซีย ทัคเวลล์ น้องสาวของ แบร์รี ทัคเวลล์ นักไวโอลีนชื่อดัง โดยแพรทิเซียได้รับบรรดาศักดิ์เป็น เคาน์เตสแห่งฮาร์วุด มีบุตร 1 คนคือ
- มาร์ค แลสเซิลส์
หน้าที่การงาน
[แก้]เขาเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่เจ้าชายหากแต่เป็นพระราชวงศ์สหราชอาณาจักร และต่อมาเขาได้รับตำแหน่งนายกสมาคมผู้ปกครองแห่งมหาวิทยาลัยยอร์ก และเมื่อปี ค.ศ. 1986 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขาเป็นอัศวินแห่งสหราชอาณาจักรบริตริช และยังได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นนายกสมาคมศิลปะแห่งออสเตเรีย