จอมมฤตยู 007

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จอมมฤตยู 007
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับกาย แฮมิลตัน
บทภาพยนตร์
สร้างจากโกลด์ฟิงเกอร์
โดย เอียน เฟลมมิง
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพเท็ด มัวร์
ตัดต่อปีเตอร์ อาร์. ฮันต์
ดนตรีประกอบจอห์น แบร์รี
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายยูไนเต็ดอาร์ตติสต์
วันฉาย17 กันยายน ค.ศ. 1964 (1964-09-17)(ลอนดอน, รอบปฐมทัศน์)
18 กันยายน ค.ศ. 1964 (1964-09-18)(สหราชอาณาจักร)
22 ธันวาคม ค.ศ. 1964 (1964-12-22)(สหรัฐ)
ความยาว110 นาที
ประเทศสหราชอาณาจักร
สหรัฐ
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทำเงิน125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จอมมฤตยู 007 (อังกฤษ: Goldfinger) เป็นภาพยนตร์แนวสายลับฉายเมื่อปี ค.ศ. 1964 เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามใน ภาพยนตร์ชุด เจมส์ บอนด์ ที่สร้างโดย อีออนโปรดักชันส์ กำกับโดย กาย แฮมิลตัน อำนวยการสร้างโดย แฮรรี ซอลท์ซ์แมนและอัลเบิร์ต อาร์. บรอคโคลี และเขียนบทโดย ริชาร์ด เมบอมและพอล เดห์น ดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของเอียน เฟลมมิง เมื่อปี ค.ศ. 1959 แสดงนำโดย ฌอน คอนเนอรี เป็น เจมส์ บอนด์ สายลับเอ็มไอ6, ออเนอร์ แบลกแมน เป็น พุซซี กาลอร์ สาวบอนด์, เกิร์ต เฟรอเบอ เป็น ออริก โกลด์ฟิงเกอร์ ตัวละครตามชื่อภาพยนตร์ และ เชอร์ลีย์ อีตัน เป็น จิล มาสเตอร์สัน สาวบอนด์ผู้โดดเด่น

ในภาพยนตร์ บอนด์สืบสวนการลักลอบขนทองโดยพ่อค้าทองคำแท่ง ออริก โกลด์ฟิงเกอร์ จนในที่สุดก็รู้แผนของโกลด์ฟิงเกอร์ที่ต้องการจะทำการปนเปื้อนฟอร์ต นอกซ์ ที่ฝากทองคำแท่งของสหรัฐ จอมมฤตยู 007 เป็นภาพยนตร์บอนด์เรื่องแรกที่เป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ ด้วยทุนสร้างเท่ากับสองเรื่องที่แล้วรวมกัน การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1964 ใน สหราชอาณาจักร, สวิสเซอร์แลนด์และสหรัฐ

การฉายของภาพยนตร์นำไปสู่การวางจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์จากภาพยนตร์ เช่น รถของเล่น แอสตันมาร์ติน ดีบี5 จาก คอร์กีทอยส์ ซึ่งกลายเป็นของเล่นที่ขายดีที่สุดในปี ค.ศ. 1964 การส่งเสริมการขายยังรวมไปถึงภาพของเชอร์ลีย์ อีตันทาตัวสีทองบกปกนิตยสาร ไลฟ์

มีองค์ประกอบหลายอย่างซึ่งมีการเริ่มต้นในภาพยนตร์เรื่องนี้และจะปรากฏอีกครั้งในภาพยนตร์บอนด์เรื่องต่อ ๆ ไป เช่น การใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์โดยบอนด์, ฉากก่อนแสดงเครติตที่มีเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก, สถานที่ต่างประเทศหลายแห่งและเรื่องตลกขบขัน จอมมฤตยู 007 เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ชนะเลิศรางวัลออสการ์และได้รับคำชมอย่างมากจากนักจารณ์ และยังประสบความสำเร็จในด้านรายได้ สามารถคืนทุนสร้างภายในสองสัปดาห์หลังการฉาย

เมื่อปี ค.ศ. 1999 ภาพยนตร์ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 70 ในรายชื่อ 100 ภาพยนตร์อังกฤษที่ดีที่สุดของสถาบันภาพยนตร์อังกฤษ

โครงเรื่อง[แก้]

มุมมองทางอากาศของที่เก็บทองคำแท่งของสหรัฐที่ฟอร์ตนอกซ์

หลังทำลายห้องปฏิบัติการยาเสพติดในลาตินอเมริกา เจมส์ บอนด์ สายลับเอ็มไอ6 เดินทางไปชายหาดไมอามีเพื่อพักผ่อน เขาได้รับคำสั่งจาก เอ็ม หัวหน้าของเขา ผ่านสายลับซีไอเอ ฟีลิกซ์ ไลเทอร์ ให้บอนด์สังเกตการณ์ ออริก โกลด์ฟิงเกอร์ พ่อค้าทองคำแท่ง ที่โรงแรมที่เขาอยู่ บอนด์จับได้ว่าโกลด์ฟิงเกอร์โกงไพ่จินรัมมี ด้วยความช่วยเหลือจาก จิล มาสเตอร์สัน ลูกจ้างของเขา บอนด์หยุดเขาโดยกวนใจจิลและขู่กรรโชกโกลด์ฟิงเกอร์จนทำให้เขาแพ้ หลังบอนด์กับจิลกำลังมีความสุขกับความสัมพันธ์ใหม่ ออดจ็อบ คนรับใช้ชาวเกาหลีของโกลด์ฟิงเกอร์ แอบเข้ามาในห้องและทำให้บอนด์หมดสติ เมื่อบอนด์ตื่นขึ้น เขาพบว่าจิลเสียชีวิตแล้ว โดยเธอถูกทาด้วยสีทองทั้งตัวและเสียชีวิตจาก "ผิวหนังขาดอากาศหายใจ"

ในลอนดอน ผู้ว่าการธนาคารแห่งอังกฤษและเอ็มอธิบายกับบอนด์ว่า ราคาทองคำแตกต่างกันไปทั่วโลก ทำให้สามารถทำกำไรได้จากการขายทองคำแท่งในต่างประเทศ และให้บอนด์สืบว่าโกลด์ฟิงเกอร์ลักลอบนำทองคำข้ามพรมแดนได้อย่างไร คิว ได้มอบอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือบอนด์ ได้แก่ รถยนต์ดัดแปลง แอสตันมาร์ติน ดีบี5 และอุปกรณ์ติดตามสองเครื่อง บอนด์พบกับโกลด์ฟิงเกอร์ที่คันทรีคลับของเขาใน เคนต์ บอนด์ชนะโกลด์ฟิงเกอร์ในเกมกอล์ฟ หลังใช้ทองคำแท่งนาซี (เอ็มไอ6 ให้บอนด์ยืมเพื่อปฏิบัติภารกิจ) เป็นเดิมพัน โกลด์ฟิงเกอร์ตระหนักถึงแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นของบอนด์ ก่อนออกเดินทาง โกลด์ฟิงเกอร์ให้ออดจ็อบสาธิตด้วยการร่อนหมวกขอบเหล็กของเขา ว่าเป็นอาวุธอันตราย เตือนบอนด์ว่าอย่าเข้าไปยุ่งในกิจการของเขา บอนด์ติดตามโกลด์ฟิงเกอร์ไปสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างทาง ทิลลี พี่สาวของจิล พยายามล้างแค้นให้น้องสาวของเธอด้วยการลอบสังหารโกลด์ฟิงเกอร์ด้วยปืนไรเฟิล แต่ล้มเหลว

บอนด์แอบเข้าไปในโรงงานของโกลด์ฟิงเกอร์ เขาพบวิธีการของโกลด์ฟิงเกอร์ในการลักลอบขนทองคำ ขณะที่กำลังอธิบายให้กับนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ชาวจีน มิสเตอร์หลิง โดยเขาซ่อนทองคำบางส่วนไว้ในช่องลับและหลอมละลายส่วนที่เหลือเพื่อรวมเข้ากับตัวถังรถ โรลส์-รอยซ์ แพนทอม III ของเขา ที่ติดตัวเขาทุกครั้งที่เดินทาง บอนด์ได้ยินทั้งสองคนพูดถึง "ปฏิบัติการแกรนด์สแลม" ขณะที่บอนด์กำลังกลับ เขาพบกับทิลลีและเธอพยายามจะฆ่าโกลด์ฟิงเกอร์อีกครั้ง แต่โดนสัญญาณเตือนภัย บอนด์พยายามปกป้องทิลลีแต่เธอถูกออดจ็อบฆ่าด้วยหมวกของเขา บอนด์ถูกจับและถูกมัดกับโต๊ะทองทำโดยเลเซอร์อุตสาหกรรมอยู่ด้านบน เลเซอร์เริ่มหั่นผ่านโต๊ะเข้าหาบอนด์ บอนด์จึงโกหกโกลด์ฟิงเกอร์ว่า เอ็มไอ6 รู้เรื่องปฏิบัติการแกรนด์สแลมแล้ว โกลด์ฟิงเกอร์จึงไว้ชีวิตบอนด์ เพื่อให้ เอ็มไอ6 เข้าใจผิดว่าบอนด์ยังสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อยู่

บอนด์เดินทางโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของโกลด์ฟิงเกอร์ซึ่งขับโดย พุสซี กาลอร์ ไปยัง ฟาร์มเพาะพันธุ์ม้า ของเขาใกล้กับ ลุยส์วิลล์, รัฐเคนทักกี บอนด์หลบหนีจากห้องขังของเขาและได้ยินการประชุมของโกลด์ฟิงเกอร์กับมาเฟียชาวอเมริกา ซึ่งเป็นผู้จัดหาวัสดุที่เขาต้องการในปฏิบัติการแกรนด์สแลม บอนด์พบว่าแผนดังกล่าวของโกลด์ฟิงเกอร์คือ การปล้นที่เก็บทองทำแท่งของสหรัฐที่ฟอร์ตน็อกซ์ ด้วยการปล่อย ก๊าซประสาท เดลตา 9 เข้าไปในชั้นบรรยากาศ บอนด์ถูกจับโดยพุสซีอีกครั้ง โกลด์ฟิงเกอร์ใช้ก๊าซฆ่าเหล่ามาเฟีย ยกเว้นมิสเตอร์โซโล ซึ่งถูกฆ่าโดยออดจ็อบระหว่างเดินทางไปส่งที่สนามบิน จากนั้นออดจ็อบก็นำรถที่มีศพของมิสเตอร์โซโลไปที่เก็บขยะ และบดรถเป็นก้อนโลหะขนาดยักษ์และนำกลับไปที่ฟาร์ม

บอนด์บอกโกลด์ฟิงเกอร์ว่าแผนของเขาจะไม่สำเร็จ เพราะเขาไม่มีเวลามากพอที่จะขนทองคำแท่งออกจากที่เก็บ ก่อนที่กองกำลังอเมริกาจะเข้ามาขัดขวาง โกลด์ฟิงเกอร์บอกว่าเขาไม่ได้ต้องการจะขโมยทองคำแท่ง แต่เขาจะทำให้มันปนเปื้อนด้วยรังสี จากระเบิดที่ได้รับการจัดหาโดยหลิง ทำให้ทองคำแท่งไร้ประโยชน์เป็นเวลา 58 ปี ทำให้ทองคำแท่งของโกลด์ฟิงเกอร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและทำให้จีนได้เปรียบจากความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น โกลด์ฟิงเกอร์ขู่ว่าถ้าพวกอเมริกันพยายามตามหาระเบิดหรือยุ่งกับแผนการของเขา เขาจะจุดระเบิดในสถานที่อื่นที่สำคัญในสหรัฐ

ปฏิบัติการแกรนด์สแลมเริ่มต้นโดยฝูงบินของพุสซี กาลอร์บินผ่านและพ่นแก๊สลงไปฟอร์ต น็อกซ์ ดูเหมือนจะฆ่าทหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงฟีลิกซ์ กองทัพส่วนตัวของโกลด์ฟิงเกอร์บุกเข้าไปในฟอร์ต น็อกซ์และเข้าถึงห้องนิรภัยเมื่อ โกลด์ฟิงเกอร์มาถึงเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับระเบิด ก่อนหน้านี้บอนด์โน้มน้าวให้กาลอร์เตือนพวกอเมริกันและแทนที่ก๊าซด้วยสารที่ไม่เป็นอันตราย กองทหารลุกขึ้นโจมตีและฆ่าคนโกลด์ฟิงเกอร์จำนวนมาก โกลด์ฟิงเกอร์ล็อกห้องนิรภัยและถอดเสื้อคลุมออก กลายเป็นเครื่องแบบของผู้พันกองทัพสหรัฐ เขาฆ่าหลิงและทหารหลายคนก่อนที่จะหลบหนีไป

บอนด์, ออดจ็อบและคิช ถูกขังอยู่ในห้องนิรภัย คิชพยายามจะหยุดระเบิด แต่เขาถูกฆ่าโดยออดจ็อบ บอนด์ปลดปล่อยตัวเองด้วยกุญแจไขกุญแจมือของคิช บอนด์กับออดจ็อบต่อสู้กัน จนกระทั่งบอนด์ฆ่าออดจ็อบด้วยกระแสไฟฟ้า เมื่อห้องนิรภัยเปิด บอนด์พยายามจะปลดระเบิดที่มีกลไกซับซ้อน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านปรมาณูได้เข้ามาปลดระเบิดอย่างง่ายดาย

บอนด์ได้รับเชิญให้ไปรับประทานอาหารกลางวันกับประธานาธิบดีที่ ทำเนียบขาว แต่โกลด์ฟิงเกอร์ได้ปล้นเครื่องบินที่พาบอนด์ไป ทั้งสองคนต่อสู้กันจนยิงปืนใส่หน้าต่าง ทำให้เกิดความกดอากาศในเครื่องบินลดลง โกลด์ฟิงเกอร์ถูกดูดออกไปผ่านหน้าต่างที่แตก เมื่อเครื่องบินไม่สามารถควบคุมได้ บอนด์และกาลอร์กระโดดร่มออกจากเครื่องบินก่อนที่จะตกลงไปในมหาสมุทร ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ค้นหากำลังผ่านไป บอนด์ดึงกาลอร์ลงมาจูบแล้วดึงร่มชูชีพมาคลุมตัวพวกเขา

นักแสดง[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Production Notes—Goldfinger". MI6.co.uk. สืบค้นเมื่อ 15 March 2008.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]