ข้ามไปเนื้อหา

คูนาร์ด-ไวต์สตาร์ไลน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บจ.คูนาร์ด-ไวต์สตาร์ไลน์
อุตสาหกรรมการขนส่ง
ก่อนหน้าไวต์สตาร์ไลน์
คูนาร์ดไลน์
ก่อตั้ง10 เมษายน 1934; 91 ปีก่อน (1934-04-10)
เลิกกิจการ31 ธันวาคม 1949; 75 ปีก่อน (1949-12-31)
ถัดไปคูนาร์ดไลน์
สำนักงานใหญ่ลิเวอร์พูล สหราชอาณาจักร
พื้นที่ให้บริการข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
บุคลากรหลักเพอร์ซี เบตส์ (ประธาน)
เจ้าของคูนาร์ดไลน์ (62%) และไวต์สตาร์ไลน์ (38%)
เชิงอรรถ / อ้างอิง

ธงเดินเรือ

บจ.คูนาร์ด-ไวต์สตาร์ไลน์ (อังกฤษ: Cunard-White Star Line, Ltd,) เป็นสายการเดินเรือสัญชาติบริติชซึ่งมีอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1934 ถึง 1949[1]

ประวัติ

[แก้]

บริษัทนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อควบคุมสินทรัพย์การขนส่งทางเรือร่วมกันของสายการเดินเรือคูนาร์ดและไวต์สตาร์ไลน์หลังจากที่ทั้งสองบริษัทประสบปัญหาทางการเงินในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ คูนาร์ด-ไวต์สตาร์ควบคุมเรือเดินสมุทรทั้งหมด 25 ลำ (คูนาร์ด 15 ลำ และไวต์สตาร์ 10 ลำ) ทั้งคูนาร์ดและไวต์สตาร์ต่างก็ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และกำลังหาทางสร้างเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาให้เสร็จสมบูรณ์ ไวต์สตาร์มีตัวเรือ 844 (โอเชียนิก) และคูนาร์ดมีตัวเรือ 534 ซึ่งต่อกลายเป็นอาร์เอ็มเอส ควีนแมรี ใน ค.ศ. 1933 รัฐบาลอังกฤษตกลงให้ความช่วยเหลือแก่คู่แข่งทั้งสองโดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาต้องรวมกิจการเดินเรือในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเข้าด้วยกัน[2] ข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1933 การรวมกิจการเกิดขึ้นในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1934 ก่อตั้งเป็น บจ.คูนาร์ด-ไวต์สตาร์ ไวต์สตาร์นำเรือ 10 ลำมาร่วมกับบริษัทใหม่ ขณะที่คูนาร์ดนำเรือ 15 ลำมาร่วม ด้วยการจัดสรรนี้ และเนื่องจากตัวเรือ 534 เป็นเรือของคูนาร์ด ผู้ถือหุ้นของคูนาร์ดจึงเป็นเจ้าของบริษัทใหม่ร้อยละ 62 โดยอีกร้อยละ 38 เป็นของเจ้าหนี้ของไวต์สตาร์ เรือของไวต์สตาร์จะชักธงของไวต์สตาร์ขึ้นเหนือธงของคูนาร์ด ส่วนเรือของคูนาร์ดจะชักธงของคูนาร์ดขึ้นเหนือธงของไวต์สตาร์

เนื่องจากอยู่ในสถานะทางการเงินและการดำเนินงานที่ดีกว่าไวต;สตาร์ คูนาร์ดจึงเริ่มดูดซับทรัพย์สินของไวต์สตาร์และผลที่ตามมาคือ เรือส่วนใหญ่ของไวต์สตาร์ถูกกำจัดหรือส่งไปอู่ตัดเรืออย่างรวดเร็ว เรือที่ให้บริการเส้นทางออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของไวต์สตาร์ถูกโอนย้ายไปยังสายการเดินเรือชอว์ ซาวิลล์ และอัลเบียน (Shaw, Savill & Albion Line) ใน ค.ศ. 1934 และอาร์เอ็มเอส โอลิมปิกของไวต์สตาร์ถูกปลดระวางและขายเป็นเศษเหล็กในปีถัดมา พร้อมกับอาร์เอ็มเอส มอริเทเนียของคูนาร์ด อาร์เอ็มเอส มาเจสติก เรือธงของไวต์สตาร์ ซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึง ค.ศ. 1935 ถูกขายใน ค.ศ. 1936

ป้ายติดกระเป๋า "ควีนแมรี" ของคูนาร์ด-ไวต์สตาร์

ใน ค.ศ. 1947 คูนาร์ดเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 38 ของไวต์สตาร์ในบริษัท และในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1949 บริษัทได้ตัดชื่อไวต์สตาร์ออกและเปลี่ยนชื่อเป็นคูนาร์ดไลน์[3] ทั้งธงประจำบริษัทของคูนาร์ดและไวต์สตาร์ถูกชักขึ้นบนเรือของบริษัทในขณะที่มีการควบรวมกิจการและหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม ธงของคูนาร์ดถูกชักขึ้นเหนือธงของไวต์สตาร์บนเรือของไวต์สตาร์สองลำสุดท้าย คือ เอ็มวี จอร์จิก และเอ็มวี บริแทนนิก จอร์จิกถูกแยกชิ้นส่วนใน ค.ศ. 1956 ส่วนบริแทนนิกทำการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกครั้งสุดท้ายจากลิเวอร์พูลไปยังนิวยอร์กในนามเรือสังกัดไวต์สตาร์ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1961 และกลับมายังลิเวอร์พูลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแล่นด้วยกำลังของมันเองไปยังอู่ตัดเรือ เธอเป็นเรือไวต์สตาร์ลำสุดท้ายที่ยังคงมีอยู่ โดยเหลือเพียงเอสเอส โนแมดิก เรือพี่เลี้ยงโดยสาร ซึ่งก็เป็นของบริษัทเดียวกันจนถึง ค.ศ. 1934 เป็นเรือของไวต์สตาร์ลำสุดท้ายที่ยังลอยลำอยู่

แม้จะเป็นเช่นนั้นเรือทุกลำของคูนาร์ดก็ยังคงชักธงของคูนาร์ดและไวต์สตาร์ไว้บนเสาเรือจนถึงปลาย ค.ศ. 1968 สิ่งนี้เป็นไปได้มากที่สุดเพราะโนแมดิกยังคงให้บริการกับคูนาร์ดจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1968 และถูกส่งไปยังอู่ตัดเรือ ก่อนจะถูกซื้อไปเพื่อใช้เป็นร้านอาหารลอยน้ำ หลังจากนั้น ธงไวต์สตาร์ก็ไม่ได้ถูกชักขึ้นอีก ชื่อไวต์สตาร์ถูกลบออกจากการดำเนินงานของคูนาร์ด และร่องรอยทั้งหมดของทั้งไวต์สตาร์ไลน์และคูนาร์ด-ไวต์สตาร์ไลน์ก็ถูกปลดระวาง[4][5] คูนาร์ดดำเนินกิจการอย่างอิสระจนกระทั่ง ค.ศ. 1999 เมื่อถูกคาร์นิวัลคอร์ปอเรชันเข้าซื้อกิจการทั้งหมด

กองเรือ

[แก้]
ชื่อ (ภาษาไทย) ชื่อ (ภาษาอังกฤษ) สร้างเมื่อ (ค.ศ.) ให้บริการสำหรับคูนาร์ด-ไวต์สตาร์ไลน์ ขนาด (ตันกนอส) ภาพ
สเกอร์ไมเชอร์ Skirmisher 1884 1934–1945 612
มอริเทเนีย (1) Mauretania (1) 1907 1934–35 31,950
เอเดรียติก Adriatic 1907 1934–35 24,541
โอลิมปิก Olympic 1911 1934–35 46,439
โนแมดิก Nomadic 1911 1934 1,273
แทรฟฟิก Traffic 1911 1934 640
เซรามิก Ceramic 1913 1934–42 18,400
เบเรนกาเรีย Berengaria 1913 1934–38 51,950
โฮเมริก Homeric 1913 1934–35 35,000
อาควิเทเนีย Aquitania 1914 1934–49 45,650
มาเจสติก Majestic 1914 1934–36 56,551
ไซเทีย Scythia 1921 1934–49 19,700
เซมาเรีย Samaria 1922 1934–49 19,700
ลาโคเนีย Laconia 1922 1934–42 19,700
แอนโทเนีย Antonia 1922 1934–42 13,900
ออโซเนีย Ausonia 1922 1934–42 13,900
แลงคาสเตรีย Lancastria 1922 1934–40 16,250
แฟรงโคเนีย Franconia 1922 1934–49 20,200
ดอริก Doric 1923 1934–35 16,484
ออเรเนีย Aurania 1924 1934–42 14,000
คารินเทีย Carinthia 1925 1934–40 20,200
อัสคาเนีย Ascania 1925 1934–49 14,000
อาลอเนีย Alaunia 1925 1934–42 14,000
แคลแกริก Calgaric 1927 ไม่เคยเข้าประจำการ (เป็นเจ้าของ ค.ศ. 1934) 16,063
ลอเรนติก Laurentic 1927 1934–36 18,724
บริแทนนิก Britannic 1929 1934–49 26,943
จอร์จิก Georgic 1932 1934–49 27,759
ควีนแมรี Queen Mary 1936 1936–49 80,750
มอริเทเนีย (2) Mauretania (2) 1938 1938–49 35,738
ควีนเอลิซาเบธ Queen Elizabeth 1940 1940–49 83,650
วาเลเชีย Valacia 1943 1946–1950 7,052
วาสโกเนีย Vasconia 1944 1946–1950 7,058
มีเดีย Media 1947 1947–49 13,350
เอเชีย Asia 1947 1947–1963 8,723
เบรสเชีย Brescia 1945 1947–1966 3,834
พาร์เทีย Parthia 1947 1947–49 13,350
วาร์ดูเลีย Vardulia 1944 1947–1968 7,176
คาโรเนีย Caronia 1949 1949 34,200

อ้างอิง

[แก้]
  1. McKenna, Robert (2001). The Dictionary of Nautical Literacy. Camden, Me.: International Marine/McGraw-Hill. ISBN 0-07-136211-8. OCLC 46449032. สืบค้นเมื่อ 2012-01-14.
  2. Chirnside 2004, p. 123
  3. Hyde, Francis Edwin (1975). Cunard and the North Atlantic, 1840-1973 : a history of shipping and financial management. London: Macmillan. ISBN 978-1-349-02390-5. OCLC 643663453.
  4. Anderson 1964, p. 183
  5. de Kerbrech 2009, p. 229

บรรณานุกรม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]