คุยกับผู้ใช้:Ufochai

ไม่รองรับเนื้อหาของหน้าในภาษาอื่น
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พลังจิต[แก้]

          การพูดคุยเป็นปฏิปักษ์ ต่อพลังจิต แต่การอ่าน การ เขียน เงียบๆ เป็นวจีสังขาร

คือการปรุงแต่งคำพูดภายในจิตใจ แนวความคิดที่จะใช้พลังจิตให้เป็นประโยชน์ คือการสื่อสาร การส่งผ่านความรู้ โดยตรง ที่ไม่ผ่านอายตนะ ประสาทสัมผัส ที่ใช้กันโดยปกติ พลังจิตในปัจจุปัน อาจขาดหายไปเนื่องจาก ส่วนที่รับรู้โดยตรงไม่ได้รับการพัฒนากล่าวคือ ส่วนที่เป็นสมองได้รับการพัฒนามาแบบผ่าน ทางตา หู จมูก ผิวกาย ลิ้น และความรู้สึกนึกคิดของตนเอง มนุษย์มีการพัฒนาการรับรู้ สื่อสาร ด้วย ภาษาพูด เขียน ฟังเสียง ดูภาพจากที่ห่างไกล โดยใช้เครื่องมืออื่นมาทดแทนดังนั้น การพัฒนาประสาทสัมผัสที่เรียกว่าพลังจิต จึงต้องเริ่มจากการตัดระบบสื่อสารอื่นๆที่ต้องอาศัยตา หู ออกจาก การรับรู้ อันหมายถึงที่สงบระงับ จากภาพ และเสียง นักวิทยาศาสตร์พยายามจะแปลคลื่นสมองในส่วนที่รับรู้ความหมาย จากสมองโดยตรง โดยคาดว่าสิ่งที่รับรู้นั้นมักมีการเปรียบเทียบจากประสบการณ์ ที่ได้รับมาก่อนอยู่ในรูปไฟฟ้าเคมีเซลล์สมอง ส่วนที่รับรู้สภาพแวดล้อม จะอยู่ในรูปที่เรียกว่าความทรงจำ รสชาดอาหาร ความรู้สึกดีใจ เสียใจ โกรธ ผ่านมาทางความทรงจำ และกระตุ้นให้ระลึกความรู้สึกนั้นๆ กับ สิ่งที่สัมผัสได้ในปัจจุปัน

                   เช่นข้อความที่อ่านเป็นภาษาไทย ที่มีเสียงกำกับทุกตัวอักษรเวลาอ่านจึงเกิดเสียงภายในใจ

ที่สามารถเข้าใจความหมายเสียงนั้นจะเป็นหญิงถ้าผู้หญิงอ่าน เสียงนั้นจะเป็นชายเมือผู้ชาบอ่านการสื่อสาร ของมนุษย์จึงขึ้นอยู่กับความทรงจำ พลังจิตเป็นข้ออ้างทางนามธรรมที่อาจให้ผลกับสิ่งที่เป็นนามโดยตรง ถ้าผู้เขียนจะแสดงความเศร้าโศรกเสียใจให้ปรากฏ อาจต้องแสดงถึงข้อความที่จะทำให้ผู้อ่านโศรกเศร้า แล้วผู้อ่านจึงจะเชื่อมบทความ ข้อเขียนเข้ากับความรู้สึกนั้นๆที่มีโอยปกติของมนุษย์ บทความนี้จึงหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์วิชาการ หรือคำแปลที่ดูดี มีปัญญาสูง ด้วยภาษาอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังจิต --ความเห็นที่มิได้ลงชื่อโดย 125.24.22.106 (พูดคุย | ตรวจ) 19:13, 8 กรกฎาคม 2551 (ICT)

                  เคยกินทุเรียน สุกงอม จิ้มน้ำปลาไหม สมองจะคิดรวม ความหวาน รส กลิ่น ของทุเรียน

และ น้ำปลาที่เค็ม พร้อมกลิ่นน้ำปลาที่เคยได้ชิม แต่การ รวมรส ของทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน จะยังไม่มีความเป็นจริงรองรับ จนกว่า

ลิ้นจะสัมผัส และ ได้ชิมสิ่งที่ได้ฟัง แต่การส่งผ่านทางพลังจิต จะสามารถส่งความรู้สึกที่อ้างอิง ของสองสิ่งได้จากการรวม 

สัมผัสในระบบความทรงจำ และ หรือ สามารถ ส่งผ่านการรับรู้รสชาด โดยผู้รับไม่จำเป็นต้องรู้จักทุเรียนและน้ำปลา

การมุ่งเน้นที่จะใช้พลังจิตให้เป็นประโยชน์ ทางการศึกษา มนุษย์ อาจจไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน แต่เราจะสามารถควบตุมการรับรู้ 

การแสดงออก จากพลังจิตได้อย่างไร เพียงคิดว่าอยากจะรู้สิ่งใด สิ่งนั้นปรากฏขึ้นในความรู้สึกทันที ภาษาอ่าน เขียนของโลกทุกภาษา

จะกลายเป๋นตำนาน ที่เป็นเพียงประวัตืศาสตร์ของโลก ที่สำคัญ มนุษย์จะไม่สามารถโกหก กันได้

จึงเป็นไปได้ว่าศาสตร์ทางพลังจิตนั้น ต้องการการวิวัฒนาการ ทางสังคม จริยธรรมของอารยธรรม เข้าประกอบสังคมที่ต้องมีความจริง จากใจ เข้าไปแทรกอยู่ทุกพฤติกรรมของมนุษย์ เราจึงมักพบว่าพลังจิต --ความเห็นที่มิได้ลงชื่อโดย 125.24.22.106 (พูดคุย | ตรวจ) 19:13, 8 กรกฎาคม 2551 (ICT) มักมีอยู่เฉพาะนักพรต นักบวช หรือผู้อยู่ห่างไกลจากอารยธรรมทางวัตถุ

                   แนวคิดเช่นนี้ผู้ศึกษาพลังจิตที่เป็นคนทั่วไปมักหวังผลเลิศจากการใช้พลังที่อยู่เหนือผู้อื่น  

แล้วหาประโยชน์ ใส่ตนเอง มากกว่าจะมาช่วยโลก แม้วิชาการแพทย์ ยังกลายเป็นแหล่งธุรกิจการค้าเอาเปรียบผู้เจ็บไข้ ได้ป่วย ยารักษา เครื่องมือแพทย์ เป็นของราคาแพงศึกษายาก ขาดแคลน และนำไปสู่การเอาเปรียบ ทางการค้า การเมือง

                    พลังจิตจึงไม่ได้มีส่วนดีแต่อย่างเดียว ธรรมชาติจึงเป็นฝ่ายที่ต้องให้พลังงานนี้อยู่ในที่ๆเหมาะสม  มันอาจร้ายแรงกว่ากัมมันตภาพรังสี  ร้ายแรงกว่า อาวุธนิวเคลียร์ ผู้เขียนจึงเข้าใจเอาเองว่า

มนุษย์ จะยังไม่มีพัฒนาการใช้พลังจิตและนับวันพลังนี้ก็จะเสื่อมถอย สาบสูญไป พร้อมกับเทคโนโลยีทางวัตถุ.....ดังคำปรารภของผู้หนึ่ง...... --ความเห็นที่มิได้ลงชื่อโดย 125.24.22.106 (พูดคุย | ตรวจ) 19:13, 8 กรกฎาคม 2551 (ICT)

              แม้ว่าข้าพเจ้ามีอำนาจจิต สามารถควบคุม สั่งการใดๆโดยมีเพียงจิตที่แกร่งกล้า

แล้วไซร้....อำนาจที่เกิดจากการสั่งการโดยสามัญสำนึกของมนุษย์แม้จักรพรรดิ์ หรือกองทหารใดๆ --ความเห็นที่มิได้ลงชื่อโดย 125.24.22.106 (พูดคุย | ตรวจ) 19:13, 8 กรกฎาคม 2551 (ICT) ก็มิอาจต้านทานอำนาจที่จะครอบงำ ในสมองของมนุษย์ทุกคนโดยเฉพาะผู้นำประเทศ....

             ดังนั้นการครอบครองอาณาจักรและพลเมืองย่อมจะอยู่ภายใต้สิ่งที่ข้าพเจ้าคิด

แต่ข้าพเจ้าก็มิอาจครอบครอง อำนาจนั้นได้ด้วยตัวตนของมนุษย์ ที่มีการเสื่อมสิ้นอายุไปตามการ ข้าพเจ้าจึงมิอาจใช้พลังอำนาจนั้นได้โดยเด็ดขาดแต่ผู้เดียว ข้าพเจ้าจึงขอสละพลังอำนาจนั้นไว้แด่ธรรมชาติ ให้ปกป้องดูแล มนุษยชาติ ด้วยความเมตตา คงไว้ซึ่งสันติสุข สันติภาพ พลังอำนาจนั้น จงบังเกิดขึ้น กับผู้ที่ปราศจาก ความอยากที่จะมีอำนาจใดๆ ไม่ว่าลาภ ยศ ชื่อเสียงเกียรติภูมิ แม้แต่การหวงไว้ซึ่งเชื้อสายเผ่าพันธ์ใดๆ....

                            คนๆนั้นคือตัวท่านเอง
                                                    --125.24.22.106 02:13, 9 กรกฎาคม 2551 (ICT){125.24.22.106|18:39, 8 กรกฎาคม 2551 (ICT)}}

กรกฎาคม 2551[แก้]

ยินดีต้อนรับสู่วิกิพีเดีย เราเปิดให้ทุกคนนั้นช่วยพัฒนาวิกิพีเดียไทยในทางที่สร้างสรรค์ แต่การแก้ไขล่าสุดของคุณในหน้า พลังจิต นั้นมีลักษณะที่ไม่เป็นสารานุกรม ไม่เหมาะสม หรืออาจถือว่าเป็นการก่อกวน ซึ่งได้ถูกย้อนกลับหรือลบทิ้งไปแล้ว กรุณาใช้หน้าทดลองเขียน หากต้องการทดสอบการแก้ไขใดๆที่คุณต้องการ และอ่านหน้าเริ่มต้น เพื่อศึกษาการร่วมพัฒนาวิกิพีเดีย --Jutiphan | พูดคุย - 07:56, 9 กรกฎาคม 2551 (ICT)