คิระ ยามาโตะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คิระ ยามาโตะ
ตัวละครใน โมบิลสูทกันดั้มซี้ด
ปรากฏครั้งแรกกันดั้มซี้ด ตอนที่ 1
ปรากฏครั้งสุดท้ายกันดั้มซี้ดเดสทินี ตอน "Final Plus"
ประวัติ
ชื่อเล่นคิระ
เผ่าพันธุ์โคออดิเนเตอร์
เพศชาย
ญาติลัคส์ ไคลน์ (คนรัก)
สัญชาติZAFT

คิระ ยามาโตะ (ญี่ปุ่น: キラ ヤマトโรมาจิKira Yamato) เป็นตัวละครเอกในอนิเมะเรื่องกันดั้มซี้ด และเป็นพระเอกในกันดั้มซี้ดเดสทินี (พากย์เสียงโดย โซอิจิโร่ โฮชิ)

กันดั้มซี้ด[แก้]

คิระเป็นโคออร์ดิเนเตอร์รุ่นแรก (เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นเนเชอรัล) ที่อาศัยอยู่ในโคโลนี่เป็นกลางชื่อ เฮลิโอโพลิส และเข้าได้ไปพัวพันกับสงครามหลังจากการโจมตีของ ZAFTที่เข้าโจมตีเฮลิโอโพลิสเพื่อชิงโมบิลซูทโค้ดเนมG (กันดั้ม) และทำให้เขาได้พบกับเพื่อนรักในอดีตอัสรัน ซาล่าอีกครั้ง

หลังจากเหตุการณ์นั้นพร้อมกับฝีมือในการบังคับโมบิลซูทของเขา ทำให้เขาได้เป็นนักบินของ GAT-X105 Strike และเข้าประจำการในกองทัพพันธมิตรของฝ่ายโลก OMNI กับยานอาร์คแองเจิล ในฐานะร้อยตรี คิระ ยามาโตะ (แต่งตั้งหลังจากที่พบกองยานที่ 8 ของกองทัพโลก) ซึ่งนั้นทำให้เขากับอัสรันกลายเป็นศัตรูโดยปริยาย

การเดินทางและการต่อสู้บ่อยครั้งทำให้ฝีมือของเขาพัฒนาอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ และนั่นทำให้เขาเผลอฆ่าเพื่อนร่วมทีมของอัสรัน บวกกับการตายของทอลล์โดยฝีมือของเพื่อนรัก จนเป็นเหตุให้ทั้งสองเข้าห้ำหั่นแบบไม่เกรงใจกัน ก่อนจะถูกอัสรันใช้กันดั้มเอจิสเข้าประชิดและระเบิดตัวเอง

คิระรอดมาได้ด้วยการช่วยเหลือของ "โลว์ กิล" (ตัวเอกจากซี๊ดแอสเทรย์ (Seed Astray) ที่เป็นภาคเสริมของมังงะ) และบาทหลวงมาร์คิโอ ซึ่งพาคิระไปรักษาที่แพลนท์ และนั่นทำให้เขาได้พบกับลักส์ ไคลน์อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อคิระได้ทราบเรื่องว่า อาร์คแองเจิ้ลที่เดินทางไปอลาสก้านั้นกำลังตกในอันตราย และด้วยความช่วยเหลือของลักส์ในการขโมยกันดั้มรุ่นใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาอย่างลับๆ ZGMF-X10A Freedom Gundamทำให้คิระได้กลับคืนสู่สนามรบอีกครั้ง

เมื่ออาร์คแองเจิ้ลเดินทางมายังออร์บอีกครั้ง อัสรันได้เดินทางมาเพื่อปรับความเข้าใจกับคิระ และร่วมสู้ด้วยกัน ในฐานะเป็นกลาง ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาเป็นเหมือนเก่าอีกครั้ง และร่วมสู้รบกัน เพื่อนำพาสันติภาพมาสู่ทุกฝ่าย

กันดั้มซี้ดเดสทินี[แก้]

หลังจากสงครามเมื่อสองปีก่อน คิระได้มาใช้ชีวิตอย่างสันติร่วมกับลักส์ ไคลน์ที่ออร์บ เขากลายเป็นคนที่แทบจะไม่พูดอะไรเลย (โดยช่วงแรกนั้นไม่ถึง 10 คำต่อตอน) จนเมื่อซากยูเนียส เซเว่นเริ่มร่วงสู่โลกนั้น ทำให้สันติภาพของเขาเริ่มมีรอยร้าวอีกครั้ง อัสรันนั้นปรึกษาเขาเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งคิระก็ยังคงไม่มีคำตอบให้อัสรัน สำหรับคำถามจากเมื่อ 2 ปีก่อนว่า "เราสู้เพื่ออะไร" และพบกับ ชิน ที่อนุสรณ์ของสงครามที่ออร์บ (ซึ่งตอนนั้นทั้งสองยังไม่รู้จักอีกฝ่ายว่าเป็นใคร) ชินนั้นถามว่า เขาเคยมาที่นี่หรือ คิระนั้นบอกว่า เขามาที่นี่ครั้งแรก ทั้งที่ดอกไม้บานสวยงามแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับโดนทำลายหมดแล้ว ชินก็ต่อด้วยประโยคว่า "แม้ว่าดอกไม้จะสวยเพียงไร มันก็โดนทำลายทิ้งอยู่ดี" ก่อนที่จะขอโทษที่พูดจาแปลกๆและเดินจากไป

ปีกที่ฟื้นคืนชีพ[แก้]

หลังจากนั้นไม่นานลักส์ก็ถูกปองชีวิต และมีกองกำลังโจมตีบ้านที่พวกเขาอาศัย ทำให้เขาจำเป็นต้องขึ้นขับ Freedom อีกครั้งเพื่อปกป้องบุคคลที่เขารัก โดยเขาบอกว่า "เขาไม่เป็นไรแล้ว และ มันจะทำให้เขาเศร้ามากกว่า หากต้องสูญเสียเธอไป"

ในตอนที่ 14 นั้น คิระได้ลักพาตัว คางาริ จากงานแต่งงานทางการเมืองที่เธอไม่เต็มใจ ก่อนจะขอโทษที่ไม่ค่อยช่วยเหลือเธอและชักชวนคางาริให้ร่วมหาคำตอบของปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยกัน

ดาบจากฟากฟ้า[แก้]

หลังจากนั้นมาคิระและเพื่อนๆของเขาก็มักจะปรากฏตัวออกมาขัดขวางสงครามอยู่บ่อยครั้ง เช่นในการปรากฏตัวอย่างชัดเจนครั้งแรกคือ ตอนที่ 23 ที่เขาลงมายิงห้ามปืนของยานมิเนอร์ว่าไม่ให้ยิงกองกำลังของออร์บ หลังจากที่คางาริพยายามห้ามกองทัพออร์บแต่ไม่สำเร็จ แม้กระทั่งเธอร้องไห้ออกมา คิระก็ปลอบเธอว่า "มันไม่มีประโยชน์แล้วที่เธอจะพยายามต่อไป แต่เขาจะพยายามห้ามเท่าที่ทำได้" ก่อนจะจัดการปลดอาวุธหุ่นโมบิลซูททุกเครื่องโดยไม่มีการสังหารนักบินที่ขับนั้นแม้แต่คนเดียว (ใช้วิธีการทำลายส่วนสำคัญของหุ่นเช่น แขน ขา หรือ กล้องต่างๆ)

มุมมองที่แตกต่าง[แก้]

อัสรันที่ไม่เข้าใจในพวกคิระนั้นได้นัดพบเขาข้างนอกผ่านทางมิลิอาเรีย อดีตสมาชิกของยานอาร์คแองเจิ้ลที่ตอนนี้มีหน้าที่เป็นช่างภาพอิสระ ซึ่งคิระก็ได้ออกไปพบพร้อมกับพาคางาริไปด้วย แต่ดูเหมือนว่า ทั้งสองคนจะไม่สามารถสื่อความคิดของตัวเองถึงอีกฝ่ายได้ อัสรันนั้นคิดว่า กิลเบิร์ต ดูแรนดัลนั้นเป็นคนที่น่าเชื่อถือ และพยายามหาทางที่ยุติสงครามที่ไร้สาระนี้อยู่ ในขณะที่คิระนั้น สงสัยว่า กิลเบิร์ต ดูแรนดัลนั้นคิดอย่างที่อัสรันว่าจริงหรือไม่ แล้วทำไมถึงต้องมีตัวแทนของ ลักส์ ไคลน์ ขึ้นมาในขณะที่ตัวจริงโดนจ้องสังหาร เขาบอกอัสรันว่า หากเขาไม่สามารถหาคำตอบให้เรื่องนี้ เขาก็จะไม่เชื่อใจแพลนท์เด็ดขาด

คิระบอกอัสรันว่า เขาไม่อยากฆ่าใครอีก แต่อัสรันนั้นกลับตะคอกใส่คิระว่า ตอนนี้มือคิระก็เปื้อนเลือดมามากแล้วเหมือนกัน ทำให้คิระทำหน้าเหมือนจะร้องไห้นิดๆ ก่อนจะบอกอัสรันว่า เขาไม่อยากสู้ เพราะฉะนั้นอย่าบังคับให้เขาทำ ก่อนจะแยกจากกันและกลับที่ซ่อนของตนเอง

ลักส์กลับอวกาศ[แก้]

หลังจากที่กลับไปนั้น เขาก็เริ่มสงสัยว่า ตกลงสิ่งที่เขาเชื่อนั้นถูกแน่หรือไม่ หรือว่า บางที่กิลเบิร์ต ดูแรนดัล อาจจะเป็นอย่างที่อัสรันพูดก็เป็นได้ ทำให้ลักส์ตัดสินใจที่จะไปแพลนท์เพื่อดูด้วยตาตนเอง โดยคิระนั้นพยายามห้ามเต็มที่ แต่เธอก็ใช้คำที่คิระบอกเธอ ก่อนขึ้นขับ กันดั้ม อีกครั้งว่า "ไม่เป็นไร นี่คือเวลาของคุณแล้ว ให้คุณไปเถอะนะ" ทำให้คิระหมดข้อโต้แย้ง ซึ่งคิระนั้นก็ยังพยายามที่จะตามเธอไปด้วย แต่เขานั้นมีหน้าที่ต้องปกป้องอาร์คแองเจิ้ลอยู่ตอนนี้ ทำให้ความคิดนั้นมันเป็นไปไม่ได้

คิระ และ อัสรัน[แก้]

เมื่อเขาออกไปห้ามทัพอีกครั้ง อัสรันก็รีบเข้ามาขวางคิระทันที หลังจากที่คิระเริ่มฟันชิน ก่อนจะสู้กันทั้งสองคน อัสรันนั้นพยายามเกลี้ยกล่อมให้คิระกลับไปที่ออร์บ ในขณะที่คิระนั้นก็บอกว่า เขาเข้าใจในสิ่งที่อัสรันพูด แต่เพราะว่าคางารินั้นกำลังร้องไห้ เพราะไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น และถามอัสรันว่า เขาทำได้หรือที่จะสู้ โดยอ้างว่าทั้งหมดเป็นเพราะความผิดของคางาริ ก่อนจะบอกอัสรันว่า "หากเป็นแบบนั้น เขาก็จะกำจัดอัสรันเสีย" ก่อนจะระเบิดซี้ด แล้วด้วยสมรรถภาพที่เหนือกว่าของฟรีด้อม แถมอัสรันก็กำลังอึ้งนิดๆ เขาจึงจัดการฟันเซเวียร์ของอีกฝ่ายจนแหลก ไม่สามารถซ่อมแซมได้อีก ในขณะที่ตัวนักบินนั้นปลอดภัยดี

ปีกที่หัก และ ปีกที่ฟื้นคืน[แก้]

เมื่อครั้งสู้รบกับ เดสทรอย ที่ เบอร์ลิน เขาก็ได้โชว์ความสามารถของเขาออกมาอย่างเต็มที่ โดยมี อิมพลัส มาร่วมแจมภายหลัง แต่เมื่อชินรู้ว่าในหุ่นนั้นใครเป็นคนขับ ทำให้เขาพยายามใช้วาจาห้ามเธอแทน แต่เพราะสเตล่าหันไปเห็นฟรีด้อมและเกิดกลัวขึ้นมาแล้วเริ่มจะยิงปืนใส่ ทำให้คิระตัดสินใจที่จำทำลายหุ่นนั้นทิ้งโดยแทงไปที่ปืนที่หน้าอก และเพราะหุ่นโดยฟันอย่างยับเยินโดยชินก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้สเตล่าแม้จะรอดออกมาได้ แต่ก็เสียชีวิตภายหลัง ทำให้ชินหาทางล้างแค้นเขา จนในที่สุดก็ทำลายฟรีด้อมลงได้โดยใช้ความสามารถทักษะพิเศษในการเปลี่ยนส่วนต่างๆของอิมพลัส และ จุดออ่นที่เรียนรู้จากเรย์ว่า คิระจะไม่ฟันส่วนที่สำคัญที่เกิดอันตรายต่อนักบินเป็นอันขาด

คิระนั้นได้รับหุ่นกันดั้มตัวใหม่ Strike Freedom ตอนที่ขึ้นอวกาศไปเพื่อช่วยเหลือลักส์ ไคลน์จากกองยานของซาฟท์ และกลับลงมาพร้อมหุ่นใหม่ของอัสรัน และร่วมมือกันต่อสู้อีกครั้ง

สงครามสุดท้าย[แก้]

จนกระทั่งสงครามสุดท้าย คิระนั้นได้รบกับ เรย์ ที่ต่อมารู้ว่า เขาก็เหมือนกับคลูเซ่คือ เป็นโคลนของราอู เลอ ครู เซ่ และอยากกำจัดเขา แต่ก็โดนคิระทำลายหุ่นทิ้ง พร้อมประโยคว่า "แต่ว่าไม่ใช่นะ ชีวิตน่ะมันมีแค่หนึ่งเดียวนะ เพราะงั้นชีวิตนั่นเป็นของนายไม่ใช่ของเขา" และใช้เมทีเออร์ทำลายปราการรบ เมไซอา ของซาฟท์จากภายนอก โดยความร่วมมือของเอเทอนอล โดยมีการตัดฉากไปบางส่วนที่กิลเบิร์ตทำให้เรารู้ว่า เขาคิดว่า ทั้งลักส์และคิระนั้นต่างก็เป็นการคงอยู่ที่มีแต่จะทำให้เกิดปัญหา

หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปในเมไซอา โดยมีอัสรันตามไปทีหลัง และเถียงกับกิลเบิร์ตที่บอกว่า ทำแบบนี้ก็จะเกิดสงครามขึ้นมาอีกครั้ง หรือว่า เรื่องที่เขาเป็นสุดยอดโคออร์ดิเนเตอร์ แต่คิระบอกว่า เขาก็เป็นคนธรรมดาเท่านั้น แถมยังตอบว่า หากเกิดเรื่องแบบนี้อีกครั้ง เขาก็เตรียมใจไว้แล้วและพร้อมที่จะสู้กับมัน ก่อนที่กิลเบิร์ตจะโดนเรย์ยิง เรย์นั้นขอโทษเขาและบอกว่า เขาก็มีวันพรุ่งนี้ ก่อนที่อัสรันและคิระจะกลับไปที่กันดั้ม ก่อนที่เมไซอาจะทลายลง โดยมีเรย์ กิลเบิร์ต และ ทาเรียอยู่ภายในนั้น 3 คน

"มาสู้ด้วยกันเถอะ"[แก้]

หลังจากนั้นเขาก็กลับมาไหว้หลุมศพที่ออร์บพร้อมลักส์ โดยที่อัสรัน เมย์ริน ชิน และ ลูน่ามาเรียได้มาก่อนแล้ว หลังจากที่โดนชินจ้องมอง เขาจึงหันกลับไปหา ก่อนที่อัสรันจะแนะนำเขาให้อีกฝ่ายว่า "นี่คือ คิระ คิระ ยามาโตะ นักบินของฟรีด้อม" ทำให้ชินเกิดกลัวขึ้นมาเมื่อนึกถึงตอนที่ทำลายกันดั้มอีกฝ่ายทิ้งเนื่องจากคิดว่าคิระจะโกรธตนเอง แต่คิระกลับยื่นมือออกไป ซึ่งชินก็จับแต่โดยดี และพูดต่อประโยคที่ชินเหลือไว้นานมาแล้วว่า "ถึงแม้ว่า ดอกไม้จะโดนทำลายไป แต่เขาก็จะปลูกมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง" และบอกชินต่อไปอีกว่า "มาสู้ด้วยกันเถอะ" ซึ่งนั่นทำให้ชินน้ำตาไหลและตอบตกลงที่จะสู้ไปพร้อมพวกคิระ ก่อนที่จะแยกกันไปตามทางของตนเอง โดยคิระนั้นแยกไปทางเดียวกับลักส์อัสรันไปกับเมรินที่เป็นตัวแทนของคางาริและชินก็เดินไปกับลูน่า

กันดั้มซี้ดเดสทินี Special Edition[แก้]

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ ได้มีการพากษ์ใหม่ทั้งหมด มีการวาดฉากใหม่ๆในบางฉากสำคัญ รวมทั้งการดัดแปลงเนื้อเรื่องบางส่วน เช่น

Special I : ตอนที่อัสรันปรึกษากับคิระว่าจะไปแพลนท์ ตอนที่คิระพบกับชิน ที่มีการวาดใหม่ทั้งหมด ทำให้ดูสมจริงสมจังมากขึ้น หรือตอนที่ช่วยลักส์ ไคลน์จากเป้ายิงกระสุนของมือสังหารและบทสนทนาทั้งก่อนขึ้นและตอนกำลังขับ Freedom อีกครั้ง

Special II : ตอนที่อัสรันถูกถามถึงสถานที่อยู่ของพวกคิระและอาร์คแองเจิ้ลจากกิลเบิร์ต ดูรันดาล ซึ่งมีการตัดฉากไปที่อาร์คแองเจิ้ลตอนที่คิระซึ่งถอดเสื้อฟอร์มออร์บสีขาวข้างนอกออกและกำลังนั่งซ่อมฮาโล่สีชมพู หรือพิงค์จัง โดยทีลักส์นั่งมองอยู่ข้างๆ

Special IV : ฉากในเพลง Kimi wa boku ni niteiru ที่วาดฉากที่แสดงว่า สุดท้ายนั้นคิระได้เข้ากับกองกำลังซาฟท์ และมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการ (หน่วยซาฟท์ชุดสีขาว หรือ Commander ในภาษาอังกฤษ) และอาศัยอยู่ที่แพลน์กับลักส์ ไคลน์ ซึ่งฉากนั้นเขาได้วิ่งเข้าไปกอดเธอเอาไว้ โดยมีบรรดาสหายร่วมรบ อดีตศัตรูและคนอื่นๆจ้องมองทั้งสองอยู่

ความลับของชาติกำเนิด[แก้]

คิระ ยามาโตะ หรือชื่อจริง คิระ ฮิบิกิ เกิดจากการทดลองของบิดา (ยูเรน ฮิบิกิ) และ มารดา (วีอา ฮิบิกิ) ซึ่งระหว่างนั้นกำลังตั้งท้องคางาริเช่นกัน สองสามีภรรยานักวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างสุดยอดโคออร์ดิเนเตอร์ขึ้น การเกิดของคิระนั้นไม่เหมือน โคออร์ดิเนเตอร์ทั่วไปที่เกิดจากการตั้งท้องของมารดา แต่เป็นเครื่องจักรที่ถูกสร้างพิเศษเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

คิระนั้นเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ประสบผลสำเร็จจากการเสียสละของพี่น้องจำนวนมหาศาล หลังจากนั้นไม่นานพ่อแม่ของคิระก็ถูกสังหาร วีอา ฮิบิกิ ได้ฝาก คิระกับคางาริให้กับสองสามีภรรยายามาโตะซึ่งได้หลบหนีจากโคโลนี เมนเดล ก่อนถูกกองทัพบลูคอสมอสจัดการ หลังจากนั้นคิระได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยรู้เรื่องราวในอดีตของตนเอง จนกระทั่งการต่อสู้กับราอู เลอ คลูเซ่ที่ L4 ซึ่งก็คือ โคโลนีเมนเดลนั้นเอง ทำให้เขาได้รับทราบความจริงทั้งหมด ทั้งเรื่องที่เขาเป็น สุดยอดโคออร์ดิเนเตอร์ หรือ จากคางาริ เรื่องที่ทั้งสองเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน

เล็กๆน้อยๆ[แก้]

  • คิระเป็นหนึ่งในตัวละครในเรื่องที่เนื้อหอมในหมู่สาวๆ
  • เมื่อคิระอยู่ในซีดโหมดจะมีความสามารถเหนือกว่าปกติหลายเท่า
  • เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว จากที่เคยร้องไห้บ่อยๆ กลายเป็นคนเงียบ ทำอะไรจริงจัง และมักจะมีความคิดที่คนอื่นตามไม่ค่อยทัน
  • แม้จะสงบเงียบเท่าไหร่ แต่เมื่อเอ่ยชื่อคลูเซ่ คิระก็ยังคงจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้อย่างดี (จากตอนที่ 49-50 ในกันดั้มซีด)
  • ชื่อ "คิระ" นั้นมีสองความหมายคือ พระอาทิตย์ (a form of Cyrus) หรือ มาจากคำว่า Killer(นักฆ่า)
  • คิระ ถูกตั้งข้อรังเกียจโดยแฟนกันดั้มยุค U.C.บางคน ด้วยสาเหตุที่ ทีมงานผู้จัดทำซีรีส์นี้ได้ให้ความเห็นว่า เขามีความสามารถเหนือกว่า อามุโร่ เรย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นนักบินที่ถูกยกให้เป็นนักบินที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์การ์ตูนกันดั้ม
  • แฟนกันดั้มชาวตะวันตกบางคนเรียกคิระว่า จีซัส ยามาโตะ เพื่อเป็นการประชดประชัน เช่นเดียวกับที่แฟนกันดั้มชาวไทยเรียกคิระว่า ท่านเทพคิระ หรือ เทพ NTR

ข้อมูลส่วนตัว[แก้]

เผ่าพันธุ์: อัลติเมท โคออดิเนเตอร์
อายุ: 16 (ใน กันดั้มซี้ด) 18 (ใน กันดั้มซี้ดเดสทินี)
วันเกิด: Cosmic Era 18 พฤษภาคม 55
ยศ: Ensign/เรือตรี (กันดั้มซี้ดPHASE-15); 2nd Lieutenant/ร้อยตรี (กันดั้มซี้ดเดสทินี PHASE-14~44) ; พลเรือเอกแห่งออร์บ (กันดั้มซี้ดเดสทินี PHASE-45) ; พลเอก ( ผู้บัญชาการ ) แห่ง ซาร์ฟ (special destiny edition)
ครอบครัว: แม่บุญธรรม (Caridad Yamato); พ่อบุญธรรม (Haruma Yamato); พ่อ (Ulen Hibiki); แม่ (Via Hibiki); พี่สาวฝาแฝด (Cagalli Yula Attha,แผนที่ความสัมพันธ์ของตัวละครอย่างเป็นทางการนั้นเขียนเป็นพี่สาวและน้องชาย); น้องชายทางพันธุกรรม (ไม่แน่ชัด) (Canard Pars)
คนรัก: เฟรย์ ออลสตาร์ (กันดั้มซี้ด) ลักส์ ไคลน์ (กันดั้มซี้ด ช่วงปลายเรื่อง+กันดั้มซีดเดสทินี)
ส่วนสูง: 165 ซม. (ใน กันดั้มซี้ด) 170 ซม. (ใน กันดั้มซี้ดเดสทินี)
น้ำหนัก: 58 กก. (ใน กันดั้มซี้ดเดสทินี)
หมู่เลือด: A
ความสามารถพิเศษ: เชียวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์ สามารถเขียนระบบปฏิบัติการของหุ่นกันดั้มใหม่ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
โมบิลซูท: GAT-X105 Strike, ZGMF-X10A Freedom, ZGMF-X20A Strike Freedom, STTS-909 Rising Freedom Gundam, ZGMF/A-262B Strike Freedom Gundam Type II, ZGMF/A-262PD-P Mighty Strike Freedom Gundam