คิม มิน-ฮี (นักแสดงเกิด พ.ศ. 2525)
คิม มิน-ฮี 김민희 | |
---|---|
![]() คิมในปี ค.ศ. 2022 | |
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | เกาหลีใต้ | 1 มีนาคม ค.ศ. 1982
ตัวแทน |
|
การศึกษา | มหาวิทยาลัยทันกุก (B.A. และ M.A. ในสาขาการละครและภาพยนตร์)[1] |
คู่รัก | ฮง ซัง-ซู (2015–ปัจจุบัน) |
อาชีพ |
|
ปีที่แสดง | 1999–ปัจจุบัน |
ชื่อเกาหลี | |
ฮันกึล | 김민희 |
ฮันจา | 金珉禧 |
อาร์อาร์ | Gim Minhui |
เอ็มอาร์ | Kim Minhŭi |
ลายมือชื่อ | ![]() |
คิม มิน-ฮี (เกาหลี: 김민희 เกิด 1 มีนาคม ค.ศ. 1982) เป็นนักแสดงและนางแบบชาวเกาหลีใต้ เธอมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง โซฮี รักใสใส หัวใจ 3 ฤดู (2008), ช่วยด้วย ช่วยฉันที (2012) และ รัก สุด ฟิน (2013) คิมมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากบทบาทเลดี้ฮิเดโกะในภาพยนตร์เรื่อง เล่ห์รักนักล้วง ในปี 2016 ของ พัก ชาน-อุก นับจากนั้นมาเธอได้แสดงเฉพาะในภาพยนตร์ของ ฮง ซัง-ซู คนรักของเธอเท่านั้น เธอคว้ารางวัลซิลเวอร์แบร์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง คืนเหงาที่ริมหาด ของฮงในปี 2017 ในปี ค.ศ. 2024 เธอคว้ารางวัลสาขาการแสดงยอดเยี่ยม จาก เทศกาลภาพยนตร์ Locarno ครั้งที่ 77 จากบทบาทของเธอใน By the Stream
ในปี ค.ศ. 2020 เดอะนิวยอร์กไทมส์ จัดอันดับคิมเป็นอันดับที่ 16 ในรายชื่อ "25 นักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21"[2]
อาชีพ
[แก้]1999:เริ่มต้นอาชีพ
[แก้]คิม มิน-ฮีเริ่มเป็นนางแบบตั้งแต่เธอยังอยู่ชั้นมัธยมต้น และไม่นานเธอก็ได้ปรากฏตัวบนปกนิตยสารวัยรุ่น ในปี ค.ศ. 1999 เมื่อเธออายุได้ 17 ปี เธอได้แสดงในละครเรื่อง School 2 (1999–2000) ทางช่องเคบีเอส ในบทบาทเด็กสาวมัธยมปลายที่มีนิสัยต่อต้านสังคม ซึ่งทำให้เธอโด่งดัง เธอกลายเป็นดาราสาวยอดนิยมตั้งแต่อายุเพียง 20 ปี โดยปรากฏตัวทั้งในละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม การแสดงที่ย่ำแย่หลายครั้งทำให้เธอได้รับคำวิจารณ์ในเชิงลบ นักวิจารณ์และผู้ชมต่างดูถูกเธอว่าเป็น "นักแสดงที่มีเสน่ห์แต่ว่างเปล่า" ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะแฟชั่นไอคอนและแฟนสาวของนักแสดงอี จ็อง-แจในขณะนั้น[3]
2006–ปัจจุบัน
[แก้]ในปี ค.ศ. 2006 หลังจากอ่านเรื่องย่อของละครเรื่อง Goodbye Solo คิมรู้ว่าเธออยากรับบทเป็น ชเว มี-รี มากกว่าสิ่งอื่นใด โดยเธอกล่าวว่า "ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เล่นเป็นเธอ" เธอขอร้องให้ โนห์ ฮี-กย็องนักเขียนบทชื่อดังและผู้เขียนบทละครเรื่องนี้เลือกเธอ และแม้ว่าโนห์จะปฏิเสธเธอถึง 5 ครั้ง คิมก็ไม่ยอมแพ้ และในที่สุด ความมุ่งมั่นของเธอก็ทำให้โนห์มองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเธอ คิมได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น โดยเธอได้เข้ารับการฝึกการแสดงอย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงฝึกการใช้เสียงและการหายใจขั้นพื้นฐาน เธอได้บทก่อนใครและนำมาวิเคราะห์บทและฝึกซ้อมทุกวัน คิมกล่าวว่าหลังจาก Goodbye Solo เธอไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรกับชีวิตที่เหลือของเธอ แต่ละครทำให้เธอรู้สึกว่าการแสดงคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝัน เหมือนกับว่าเธอได้ "เปิดหน้าแรกของหนังสือเรียน" เธอได้รับคำวิจารณ์ที่ดีเกี่ยวกับการแสดงของเธอ และแม้ว่าละครจะได้รับเรตติ้งต่ำ แต่บทดังกล่าวก็เปลี่ยนเส้นทางอาชีพของเธอไป[3]
บทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่องถัดมาช่วยทำให้เธอมีอาชีพการงานที่มั่นคง ในภาพยนตร์เรื่อง โซฮี รักใสใส หัวใจ 3 ฤดู ในปี ค.ศ. 2008 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ตลกเบาสมองที่เล่าถึงชีวิตและความรักของผู้หญิงสามคนในช่วงวัยที่แตกต่างกัน คิมรับบทเป็นนักเขียนบทสาววัย 20 ที่กำลังทุกข์ใจกับอาชีพการงานที่ไม่มั่นคงและความรักที่ไม่แน่นอนกับแฟนหนุ่มนักดนตรีที่ไม่เอาไหน บทวิจารณ์ต่างกล่าวชื่นชม "การแสดงอันน่าทึ่ง" ของเธอ[4][5] และต่อมาเธอก็ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงาน Baeksang Arts Awards และ Busan Film Critics Awards[6]
จากนั้น คิมได้ร่วมแสดงกับนักแสดงหญิงระดับซูเปอร์สตาร์ในภาพยนตร์เรื่อง Actresses (2009) ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดีล้อเลียนแบบกึ่งด้นสดที่กำกับโดย E J-yong (ซึ่งเธอเคยร่วมงานด้วยมาก่อนใน Asako in Ruby Shoes) เรื่องราวเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายแบบให้กับ Vogue Korea ซึ่งคิมรู้สึกไม่พอใจเมื่อพนักงานคนหนึ่งพูดว่าผู้ชายไม่มองผู้หญิงผอม ๆ อย่างเธอว่ามีเสน่ห์ เมื่อเปรียบเทียบกับคิม อ๊ก-บิน ที่มีหุ่นอวบอั๋นกว่า[7][8][9] ต่อมาในปี ค.ศ. 2011 เธอก็หันมารับบทสมทบเป็นนักข่าวในภาพยนตร์แนวสมคบคิดเรื่อง Moby Dick[10][11]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "김민희" เก็บถาวร กุมภาพันธ์ 25, 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Epg (in Korean). Retrieved September 30, 2012.
- ↑ Dargis, Manohla; Scott, A. O. (November 25, 2020). "The 25 Greatest Actors of the 21st Century (So Far)". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 25, 2020. สืบค้นเมื่อ November 26, 2020.
- ↑ 3.0 3.1 Shin, Hae-in (March 16, 2006). "Actress Kim Min-hee enjoys limelight again" เก็บถาวร พฤศจิกายน 17, 2019 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. The Korea Herald via Hancinema. Retrieved November 18, 2012.
- ↑ Lee, Hyo-won (January 27, 2008). "Hellcats Is Charmingly Off-Tune". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 1, 2014. สืบค้นเมื่อ November 18, 2012.
- ↑ Yang, Sung-jin (January 8, 2008). "Hellcats rejects men, holds girl-only party". The Korea Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 27, 2022. สืบค้นเมื่อ December 19, 2012.
- ↑ "The 44th PaekSang Arts Awards Sparkles with Stars". KBS World. April 24, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 2, 2017. สืบค้นเมื่อ June 30, 2013.
- ↑ Lee, Hyo-won (November 17, 2009). "Actresses to Present Off-Screen Personas Onscreen". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 1, 2012. สืบค้นเมื่อ May 28, 2013.
- ↑ Lee, Ji-hye (November 23, 2009). "Actresses is a miracle achieved, says Koh (Part 1)". 10Asia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2016. สืบค้นเมื่อ May 28, 2013.
- ↑ Lee, Ji-hye (November 23, 2009). "Actresses is a miracle achieved, says Koh (Part 2)". 10Asia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2016. สืบค้นเมื่อ May 28, 2013.
- ↑ Lee, Hyo-won (June 2, 2011). "Conspiracy flick is painstakingly real". The Korea Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2016. สืบค้นเมื่อ May 28, 2013.
- ↑ Hong, Lucia (May 24, 2011). "Kim Min-hee cast as female lead in new thriller". 10Asia. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 3, 2016. สืบค้นเมื่อ May 28, 2013.