ข้ามไปเนื้อหา

คิม คย็อง-ฮี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พลเอก

คิม คย็อง-ฮี
김경희
เกิด (1946-05-30) 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1946 (79 ปี)
เปียงยาง เกาหลีเหนือ
การศึกษา
สำนักงานเลขาธิการฝ่ายองค์การพรรคแรงงานเกาหลี; นายพลกองทัพประชาชนเกาหลี
พรรคการเมืองพรรคแรงงานเกาหลี
คู่สมรสชัง ซ็อง-แท็ก (สมรส 1972; เสียชีวิต 2013)
บุตร
  • ชัง กึม-ซ็อง (1977–2006)
บุพการี
ชื่อเกาหลี
โชซ็อนกึล
김경희
ฮันจา
金慶喜[1]/金敬姬[2]
อาร์อาร์Gim Gyeonghui
เอ็มอาร์Kim Kyŏnghŭi

คิม คย็อง-ฮี (เกาหลี김경희; เกิด 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1946) เป็นอาของคิม จ็อง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน เธอเป็นบุตรีของคิม อิล-ซ็อง ผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือและเป็นน้องสาวของคิม จ็อง-อิล ผู้นำผู้ล่วงลับ ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งเลขาธิการฝ่ายองค์การของพรรคแรงงานเกาหลี ในฐานะสมาชิกคนสำคัญในกลุ่มคนสนิทและที่ปรึกษาที่ไว้ใจของคิม จ็อง-อิล เธอเคยเป็นผู้อำนวยการกรมอุตสาหกรรมเบาของพรรคแรงงานเกาหลีตั้งแต่ ค.ศ. 1988 ถึง 2012 เธอแต่งงานกับชัง ซ็อง-แท็ก ซึ่งถูกประหารชีวิตเมื่อธันวาคม ค.ศ. 2013 ในเปียงยาง หลังถูกตั้งข้อหากบฏและทุจริต[3]

ชีวิตช่วงต้น

[แก้]
ภาพเหมือนของคิม คย็อง-ฮีกับคิม จ็อง-ซุก มารดา, คิม อิล-ซ็อง บิดา และคิม จ็อง-อิล พี่ชาย

คิมเกิดในเปียงยางเมื่อ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1946 โดยมีคิม อิล-ซ็องและคิม จ็อง-ซุกเป็นบิดามารดา มารดาของเธอเสียชีวิตเมื่อเธออายุได้สี่ขวบ หลังบิดาของเธอแต่งงานใหม่ เธอได้รับการเลี้ยงดูจากผู้ดูแลหลายคนและอยู่ห่างจากครอบครัว[4]

หลังใช้เวลาช่วงสั้น ๆ ในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน เนื่องจากสงครามเกาหลี คิมก็กลับมายังเปียงยางพร้อมกับคิม จ็อง-อิล พี่ชายของเธอ เธอเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยคิม อิล-ซ็องใน ค.ศ. 1963 โดยเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์การเมือง คิมเข้าเรียนที่โรงเรียนพรรคชั้นสูงคิม อิล-ซ็องใน ค.ศ. 1966 และไปศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยมอสโกใน ค.ศ. 1968[5]

การงาน

[แก้]

เส้นทางอาชีพการเมืองของคิมเริ่มต้นขึ้นใน ค.ศ. 1971 ด้วยตำแหน่งในสหภาพสตรีประชาธิปไตยเกาหลี และใน ค.ศ. 1975 เธอถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการกรมประสานงานระหว่างประเทศของพรรคแรงงานเกาหลี ก่อนจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการหมายเลขหนึ่งใน ค.ศ. 1976 เป็นช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือกำลังสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศทุนนิยมหลายแห่ง เช่น ประเทศไทยและสิงคโปร์ รวมถึงองค์การสหประชาชาติ เธอดูแลการจัดวางบุคลากรทางทูตที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในช่วงที่เธอดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการกรมต่างประเทศ[5]

ใน ค.ศ. 1988 คิมได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการกลางพรรคแรงงานเกาหลีและเป็นผู้อำนวยการกรมอุตสาหกรรมเบา ใน ค.ศ. 1999 เธอได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสมัชชาประชาชนสูงสุดเป็นครั้งแรก บทบาทของเธอมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเธอเป็นผู้นำกรมตรวจสอบนโยบายเศรษฐกิจ และจากนั้นก็กลับมาเป็นผู้นำกรมอุตสาหกรรมเบาอีกครั้งในช่วง "การเดินทัพอันแสนลำบาก" หลังอสัญกรรมของคิม อิล-ซ็อง[5]

พงศาวลีตระกูลคิม (เกาหลีเหนือ)
นา ฮย็อน-จิกคิม ซง-รย็อง
คุณนายอีคิม อึง-อู
อี โบ-อิกคิม โบ-ฮย็อน
คัง พัน-ซ็อกคิม ฮย็อง-จิกคิม ฮย็อง-กว็อน
คิม ซ็อง-แอคิม อิล-ซ็องคิม จ็อง-ซุกคิม ย็อง-จู
คิม พย็อง-อิลคิม จ็อง-อิลคิม คย็อง-ฮีคิม มัน-อิล

คิมหายไปจากความสนใจของสาธารณะใน ค.ศ. 2003 ช่วงเวลาเดียวกับที่ชัง ซ็อง-แท็กถูกกวาดล้างอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน[5] อย่างไรก็ตาม ขณะที่สามีเธอกลับมาปรากฏตัวพร้อมตำแหน่งสูงใน ค.ศ. 2007 แต่เธอกลับไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะจนกระทั่ง ค.ศ. 2009 โดยมีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการร่วมเดินทางกับคิม จ็อง-อิลในการตรวจเยี่ยมหลายครั้งและเข้าร่วมกิจกรรมทางการ วันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2010 มีการประกาศว่าเธอได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายพลในกองทัพประชาชนเกาหลี[6] ถือเป็นหญิงคนแรกในเกาหลีเหนือที่ได้รับยศทหารนี้[7] เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเลื่อนตำแหน่งของคิม จ็อง-อึน หลานชายของเธอให้มียศเดียวกัน[8] หนึ่งวันต่อมา การประชุมพรรคแรงงานครั้งที่ 3 เลือกเธอให้เป็นสมาชิกกรมการเมือง ซึ่งเป็นองค์กรกลางของพรรค ต่อมาคิม คย็อง-ฮียังคงแสดงบทบาทเป็นสมาชิกคนสำคัญของผู้นำเกาหลีเหนือภายใต้การนำของคิม จ็อง-อึน คิมได้รับเลือกเป็นสมาชิกสำนักเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลีและเป็นบุคคลสำคัญของกรมองค์การและชี้นำพรรคแรงงานเกาหลี (แผนกพรรคสำคัญที่สุดที่นำโดยคิม ย็อง-จู ลุงของเธอจนถึง ค.ศ. 1974 และโดยคิม จ็อง-อิลเองตั้งแต่ ค.ศ. 1974 จนถึงแก่อสัญกรรม) ในการประชุมพรรคครั้งที่ 4 ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012[ต้องการอ้างอิง]

ตามแหล่งข่าวของเกาหลีใต้ คิมยังเคยทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคิม จ็อง-อิล[9] ตำแหน่งที่มีอิทธิพลของเธอในกลุ่มชนชั้นสูงของเกาหลีเหนือ (ซึ่งได้รับการยืนยันโดยเคนจิ ฟูจิโมโตะ) ทำให้เธอสามารถรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับประธานคิม ย็อง-นัม แห่งคณะผู้บริหารสูงสุดประจำสมัชชาประชาชนสูงสุด ชเว แท-บกและคิม กี-นัม เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี และผู้อำนวยการคิม ยัง-ก็อน แห่งกรมแนวร่วมพรรคแรงงานเกาหลี[5] ตำแหน่งของเธอในฐานะหัวหน้ากรมอุตสาหกรรมเบาทำให้เธอมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือขณะที่นโยบายกำลังเปลี่ยนทิศทางไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมเบา[10]

ใน ค.ศ. 2010 คิมเปิดร้านแฮมเบอร์เกอร์แห่งแรกในเปียงยาง[11]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

คิมพบกับชัง ซ็อง-แท็ก สามีในอนาคตของเธอ ขณะเธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยคิม อิล-ซ็อง เธอกับชังยังคงคบกันหลังเขาย้ายไปอยู่ที่ว็อนซัน ว่ากันว่าเป็นเพราะตระกูลคิมคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเขา ท้ายที่สุดทั้งสองก็แต่งงานกันใน ค.ศ. 1972

คิมและชังมีบุตรีหนึ่งคนชื่อชัง กึม-ซง (1977–2006) ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศในปารีสในฐานะนักศึกษาต่างชาติ เธอปฏิเสธคำสั่งให้กลับเปียงยางและจากนั้นก็มีรายงานว่าเธอฆ่าตัวตายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 เนื่องจากบิดามารดาคัดค้านความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่ม[12]

ในทศวรรษ 2010 มีข่าวลือว่าคิม คย็อง-ฮีเสียชีวิตแล้วหรือไม่ก็ป่วยหนัก[13] ตามรายงานของ เดลีเอ็นเค ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 ระบุว่าเธอมีสุขภาพไม่ดีจากการติดสุรา[14] พอล ฟิชเชอร์กล่าวว่าเธอป่วยด้วยโรคนี้เป็นครั้งคราวมาตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1970 เป็นอย่างน้อย ทำให้เธอต้องเดินทางไปจีนเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างน้อยหนึ่งครั้ง[15] มีข้อเสนอแนะว่าเธออาจเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจวาย[16][17] บางรายงานอ้างว่าเธอได้ฆ่าตัวตาย ตามรายงานอื่น ๆ เธอเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกในสมองใน ค.ศ. 2013 และอยู่ในภาวะสมองตาย[13]

วันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ชังถูกขับออกจากพรรคแรงงานเกาหลีที่ปกครองประเทศอย่างเป็นทางการ ชังถูกกล่าวหาว่าแบ่งพรรคแบ่งพวก (ในพรรค) ทุจริต และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่างรวมถึงการคบชู้กับหญิงคนอื่น[18][19] วันที่ 13 ธันวาคม มีรายงานว่าเขาถูกประหารชีวิตในข้อหากบฏ[20][21]

วันที่ 14 ธันวาคม สำนักข่าวกลางเกาหลีเปิดเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูง 6 คนที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมาธิการระดับชาติรับผิดชอบการจัดรัฐพิธีศพให้แก่คิม กุก-แท อดีตเจ้าหน้าที่พรรคแรงงาน รายชื่อดังกล่าวรวมถึงชื่อของคิม คย็อง-ฮี บ่งชี้ว่าเธอรอดพ้นจากการกวาดล้างและยังคงได้รับความโปรดปราน[22][23][24][25] สถานะความสัมพันธ์ของคิม คย็อง-ฮีกับชัง ซ็อง-แท็กเป็นเรื่องที่ถูกคาดการณ์บ่อยครั้ง นักวิเคราะห์เชื่อว่าชังและคิม คย็อง-ฮีได้เหินห่างกันแล้ว[22] ยุน ซัง-ฮย็อน รองหัวหน้าพรรคแซนูรี พรรครัฐบาลในสมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ กล่าวว่าคิม "แยกตัว" จากชังและไม่ได้ต่อต้านการกวาดล้างเขา[22]

ใน ค.ศ. 2015 แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้แปรพักตร์ระดับสูง อ้างว่าคิม จ็อง-อึนได้สั่งให้วางยาพิษคิม คย็อง-ฮี[16] ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นไอเอส) ระบุว่าเธอยังมีชีวิตอยู่[26] ใน ค.ศ. 2016 ภาพในอดีตของเธอถูกนำมาออกอากาศทางโทรทัศน์ของเกาหลีเหนือ บ่งชี้ว่าเธอไม่ได้ถูกลบออกจากประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการ[27] ใน ค.ศ. 2017 สำนักข่าวย็อนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่าเธอยังมีชีวิตอยู่แต่กำลังได้รับการรักษาพยาบาล[28]

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 คิมปรากฏตัวในสื่อของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหกปี โดยเข้าร่วมคอนเสิร์ตวันตรุษจีนกับคิม จ็อง-อึน[29]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "金日成回忆录 与世纪同行 4" [Kim Il Sung's Memoir: With the Century 4] (ภาษาจีน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2015. สืบค้นเมื่อ 17 November 2024.
  2. 김경희(여성). 북한정보포털 (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 May 2021. สืบค้นเมื่อ 25 May 2021.
  3. "North Korean Leader's Uncle 'Executed Over Corruption'". BBC News. 12 December 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 November 2019. สืบค้นเมื่อ 12 December 2013.
  4. Koike, Yuriko (16 September 2010). "A Ruthless Sister Risks Becoming North Korea's Next Ruler". The Daily Star. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2010. สืบค้นเมื่อ 19 September 2010.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 "Kim Kyong Hui". North Korea Leadership Watch. 17 August 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 August 2011. สืบค้นเมื่อ 2 September 2011.
  6. McDonald, Mark (27 September 2010). "Kim's Son Elevated Before Meeting". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 August 2017. สืบค้นเมื่อ 27 September 2010.
  7. "North Korea's Secretive 'First Family'". BBC News. 13 December 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 December 2013. สืบค้นเมื่อ 29 August 2017.
  8. "Kim Jong-il's Son Promoted to Rank of General". France 24. AFP. 27 September 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 September 2019. สืบค้นเมื่อ 22 September 2019.
  9. Chosun Ilbo, dated 11 February 2010.
  10. 2010, 2011 New Year editorials by Rodong Sinmun, Joson Inmingun, and Chongnyon Jonwi.
  11. "Happy Meals in Pyongyang?". Radio Free Asia. 15 October 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 May 2011. สืบค้นเมื่อ 15 January 2011.
  12. Yi, Yeong-jong 이영종 (18 September 2006). 파리의 김정일 조카 장금송 비운의 러브스토리 [Unlucky Love Story of Kim Jong-Il's Niece in Paris]. JoongAng Ilbo (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2022. สืบค้นเมื่อ 23 March 2022.
  13. 13.0 13.1 Ryall, Julian (9 January 2014). "Kim Jong-un's Aunt 'in Vegetative State After Brain Surgery'". The Telegraph. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 May 2015. สืบค้นเมื่อ 12 May 2015.
  14. "Alcohol a Threat to Kim Guardianship Role". Daily NK. 24 August 2012.
  15. Fischer, Paul (2015). A Kim Jong-Il Production: The Extraordinary True Story of a Kidnapped Filmmaker, His Star Actress, and a Young Dictator's Rise to Power. New York: Flatiron Books. p. 214.
  16. 16.0 16.1 Hancocks, Paula (11 May 2015). "Kim Ordered Aunt Poisoned: N. Korean Defector". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2015. สืบค้นเมื่อ 12 May 2015.
  17. Karimi, Faith; Kim, Jung-eun; Kwon, Judy (28 November 2014). "N Korea Source: Leader's Aunt Died After Husband Killed". CNN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 June 2015. สืบค้นเมื่อ 12 May 2015.
  18. O'Carroll, Chad (9 December 2013). "Jang Song Thaek Purge Confirmed Amid Rumors of His Execution". NK News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 December 2013. สืบค้นเมื่อ 9 December 2013.
  19. "Jang Arrested on State Television". Daily NK. 9 December 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 December 2013. สืบค้นเมื่อ 9 December 2013.
  20. Mansourov, Alexandre (13 December 2013). "North Korea: What Jang's Execution Means for the Future". 38 North. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 March 2022. สืบค้นเมื่อ 22 March 2022.
  21. Gale, Alastair (13 December 2013). "What North Korea Said About Jang Song Thaek". The Wall Street Journal Korea Realtime. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 February 2014. สืบค้นเมื่อ 14 October 2014.
  22. 22.0 22.1 22.2 Choe, Sang-hun (15 December 2013). "North Korean Leader's Aunt Appears Unscathed". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 April 2022. สืบค้นเมื่อ 22 March 2022.
  23. "Kim Jong-un's Aunt Retains Position of Influence After Husband's Downfall". The Guardian. Reuters. 15 December 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2017. สืบค้นเมื่อ 15 December 2016.
  24. "North Korean Execution 'Will Not Alter Trade Goals'". BBC News. 15 December 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2022. สืบค้นเมื่อ 23 March 2022.
  25. Chung, Jane (15 December 2013). Perry, Michael (บ.ก.). "North Korean Leader's Influential Aunt Remains in Power After Uncle Jang's Execution". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2022. สืบค้นเมื่อ 23 March 2022.
  26. "Kim Jong-un Aunt Is Still Alive, Says South Korean Intelligence". The Telegraph. AFP. 24 February 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2015. สืบค้นเมื่อ 24 February 2015.
  27. Kim, Myong-song (19 April 2016). "Kim Jong-un's Aunt Reappears in Propaganda". The Chosun Ilbo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 June 2016. สืบค้นเมื่อ 21 June 2016.
  28. "N. Korean Leader's Aunt Being Treated on Outskirts of Pyongyang: Sources". Yonhap News Agency (ภาษาอังกฤษ). 31 August 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 February 2023. สืบค้นเมื่อ 22 March 2022.
  29. Hotham, Oliver (25 January 2020). "Kim Jong Un's aunt, once reported killed, makes first appearance in six years". NK News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.

บรรณานุกรม

[แก้]
ก่อนหน้า คิม คย็อง-ฮี ถัดไป
วาระในพรรคการเมือง
สมัยก่อนหน้า
คิม จ็อง-อิล
ผู้อำนวยการกรมองค์การและชี้นำ
2011–2012
สมัยต่อมา
คิม จ็อง-อึน


แม่แบบ:นายพลเกาหลีเหนือ แม่แบบ:สตรีในการเมืองเกาหลีเหนือ